ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 422 ก้าวแรกสู่การเป็นเทพธิดา
เฉียวเหลียงขมวดคิ้ว พิจารณาดูถังซี เวลาผ่านไปครู่ใหญ่กว่าเขาจะถามขึ้น “คุณก็แค่โยน ‘สิ่งนั้น’ ทิ้งไปเสียไม่ได้เหรอ”
เขาไม่รู้หรอกว่า ‘สิ่งนั้น’ คืออะไร แต่ในเมื่อสิ่งนั้นสามารถทำให้เธอกลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง และยังมอบพลังอันยิ่งใหญ่ให้เธอได้ แสดงว่าต้องมีพลังอำนาจมาก ซึ่งสิ่งใดก็ตามยิ่งมีพลังอำนาจมากเท่าไหร่ก็ยิ่งอันตรายมากเท่านั้น เขาไม่ต้องการเห็นถังซีตกอยู่ในอันตราย สิ่งที่เธอต้องแลกคืออะไร เธอจะตกอยู่ในอาการโคม่าทุกครั้งที่ใช้พลังหรือเปล่า หรือบางทีเธออาจถึงแก่ชีวิตเลยใช่ไหม
ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาก็อยากให้ถังซีไม่ต้องมีพลังเช่นนี้ ถ้าไม่มีพลังนี้ก็ไม่มีอันตราย
ถังซีมองหน้าเฉียวเหลียง ดวงตาเธอมีแต่ความสับสน ทำอะไรไม่ถูก เธอรู้ว่าเฉียวเหลียงมีอิทธิพลมากบนโลกใบนี้ แต่ก็ยังมีสิ่งอื่นๆ อีกมากมายที่มนุษย์ไม่รู้จัก อยู่ไกลโพ้นจากโลกที่พวกเรารู้จัก ตัวอย่างเช่น 008 ที่ไม่ได้เป็นของโลกใบนี้…
และเธอไม่สามารถโยน 008 ทิ้งได้ เธอถาม 008 ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเธอยกเลิกภารกิจ 008 ตอบว่าเธอจะสูญเสียระบบ รวมทั้งชีวิตของเธอด้วย เธอจะสละชีวิตเพื่อแลกกับการไม่ยอมรับภารกิจได้อย่างไร เธอไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องทำต่อไป
เธอรู้ดีว่าเฉียวเหลียงเป็นผู้มีอิทธิพลมากมาย และเขาเป็นห่วงเธอ แต่มีปัญหาบางอย่างที่มนุษย์ไม่สามารถจัดการได้ เฉียวเหลียงอาจหาหมอที่ดีที่สุดมารักษาเธอได้ ถ้าเธอมีปัญหาสุขภาพร่างกาย แต่ไม่มีหมอคนไหนในโลกนี้สามารถช่วยเธอได้ ถ้าเธอสูญเสีย 008 ไป แม้แต่พระเจ้าก็ไม่สามารถทำให้เธอกลับมามีชีวิตได้
ถังซีจับมือเฉียวเหลียงไว้ ก้มมองมือเขาอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานาน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองหน้าเฉียวเหลียง แล้วกล่าวด้วยเสียงแผ่วต่ำ “อาเหลียง ฉันบอกคุณไม่ได้ว่าสิ่งนั้นเป็นแบบไหน หรือมีตัวตนเป็นยังไง แต่ขอให้รู้ว่าตราบเท่าที่สิ่งนั้นอยู่ในร่างกายฉัน ฉันจะมีชีวิตอยู่ได้ ถ้าวันหนึ่งสิ่งนั้นทิ้งฉันไป ฉันก็จะตาย เว้นแต่ว่า… ฉันจะได้รับการยอมรับในศักยภาพจนถึงจุดที่สมควรแล้ว เมื่อถึงเวลานั้นเขาจะจากฉันไปเอง แล้วฉันก็จะเป็นอิสระและยังคงมีพลังด้วย”
เมื่อได้ยินคำพูดของเธอเฉียวเหลียงก็ขมวดคิ้ว สีหน้าเขาเข้มขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นเขาก็จ้องหน้าถังซี ถามว่า “คุณหมายความว่า ‘สิ่งนั้น’ คือกุญแจสำคัญของการรอดชีวิตของคุณใช่ไหม”
ถังซีชะงัก กุญแจสำคัญของการรอดชีวิตของเธออย่างนั้นหรือ จริงสิ เธอแค่บอกเขาแบบนี้ก็พอ! ทำไมเธอถึงต้องอธิบายยืดยาวขนาดนั้น… แน่นอนเสียยิ่งกว่าอะไร… อาเหลียงฉลาดกว่าเธอมาก
ถังซีพยักหน้าเบาๆ เฉียวเหลียงถามว่า “ตอนนี้สิ่งนั้นต้องการให้คุณเข้าสู่วงการบันเทิงเหรอ”
ถังซีพยักหน้า “ใช่”
“แล้วเป้าหมายของคุณคืออะไร” เฉียวเหลียงจ้องลึกเข้าไปในดวงตาถังซี หากจำเป็นต้องให้เธอเป็นดารา เขาจะพยายามเต็มที่ในการช่วยให้ซีซีบรรลุเป้าหมายโดยเร็วที่สุด เขาจะช่วยให้เธอบรรลุในสิ่งที่ ‘สิ่งนั้น’ ต้องการให้เธอทำ เพื่อประหยัดเวลา และให้เธอไม่ต้องใช้ความพยายามมากมาย
“เป็นเทพธิดาแห่งชาติ” ถังซีกล่าวด้วยท่าทางลังเล
เฉียวเหลียงขมวดคิ้ว มองหน้าถังซี ซึ่งยักไหล่และกล่าวอย่างจนปัญญา “เขายืนยันว่าฉันต้องบรรลุเป้าหมายนี้ ฉันไม่มีทางเลือก ก็เลยคิดว่าฉันน่าจะแสดงวิดีโอเปิดตัวเดอะควีนเอง เพื่อเป็นโอกาสในการเริ่มต้นอาชีพในแวดวงบันเทิง โชคดีที่ผู้กำกับหนิงมองเห็นศักยภาพฉัน และเสนอให้ฉันร่วมงานกับเขา”
เฉียวเหลียงมองเห็นประกายความสุขในดวงตาเธอ แม้เธอจะดูท่าทางทำอะไรไม่ถูกก็ตาม เขาใช้นิ้วเคาะหน้าผากเธอเบาๆ พร้อมกับกล่าวว่า “ดูเหมือนคุณจะภูมิใจกับข้อเสนอของเขา”
ถังซียิ้ม กอดแขนเฉียวเหลียง แล้วทำหน้ามุ่ยมองหน้าเฉียวเหลียงพลางกล่าวเสียงหวาน “ได้โปรดยอมให้ฉันเข้าวงการบันเทิงเถอะนะ เพื่อให้ฉันมีชีวิตอยู่รอด ได้ไหม ได้โปรด…”
“คุณก็รู้ว่าผมไม่มีทางเลือกอื่น” เฉียวเหลียงมองถังซีอย่างอ่อนใจ ในใจเขาไม่มีอะไรสำคัญมากไปกว่าความปลอดภัยของเธอ หากนี่เป็นหนทางเดียวที่จะทำให้เธออยู่รอดได้เขาจะไม่คัดค้าน เขาจะพยายามเต็มที่เพื่อช่วยให้เธอประสบความสำเร็จในวงการบันเทิง
ถังซีรู้สึกโล่งอกที่ได้ยินคำพูดของเฉียวเหลียง เธอกอดแขนเฉียวเหลียงแน่นขึ้น รู้สึกได้ว่าเธอจะได้รับการสนับสนุนจากเขา
“สถานทูตกับสถานีตำรวจโทรมาหาผม มีคนอยากเจอคุณ ผมคิดว่าต้องเป็น…” เฉียวเหลียงมองหน้าถังซี
ถังซีขยับยิ้มมุมปาก มองเฉียวเหลียงและเลิกคิ้ว “เป็นคนจากตระกูลฉินเหรอ ต้องสืบเนื่องมาจากฉินซินหยิ่งแน่ๆ ให้ฉันเดาไหมว่าคนคนนี้คือใคร…”
ไม่มีใครในตระกูลฉินที่สามารถเสนอเงินให้สถานทูต เพื่อให้มีการโทรศัพท์มาอย่างนี้ได้ ยกเว้นปู่ฉิน
ถังซียิ้ม กล่าวว่า “ปู่ฉินเป็นคนที่ไม่น่ามองข้าม ไปพบเขากัน ถ้าฉันปฏิเสธ เขาจะคิดว่าฉันกลัวพวกเขา แต่…”
เธอหวังว่าปู่ฉินจะเป็นคนมีเหตุผล ไม่เหมือนกับฉินซินหยิ่งและพ่อของเธอ ไม่อย่างนั้นเธอก็ไม่สน หากจะต้องทำให้เขาขุ่นเคือง เพราะอันที่จริงแล้วเธอก็ไม่ได้อยากเป็น ‘คนน่ารัก’ สำหรับพวกเขาอีกต่อไป
เฉียวเหลียงกับถังซีเข้าไปกล่าวลาเฮ่อหว่านโจวและคนอื่นๆ ขณะมองตามคนทั้งสองที่เดินจากไป หนิงเหยี่ยนก็ส่ายศีรษะ บ่นว่าเซียวโหรวเป็นเจ้านายที่ไม่มีความรับผิดชอบ ถังซีบอกเขาว่าเธอจะให้คนอื่นมาจัดการกับงานที่นี่ต่อ เพราะเธอจัดการเรื่องเหล่านี้ไม่เก่ง แล้วก็จากไป
เธอไม่ได้โกหก เมื่อเปรียบเทียบกับเธอแล้วฉู่หลิงมีพรสวรรค์ในการบริหารจัดการอันยอดเยี่ยม เธอเชื่อว่าฉู่หลิงจะจัดการเรื่องวิดีโอเปิดตัวได้ดีกว่าหนิงเหยี่ยนด้วยซ้ำ จะด้วยเหตุใดก็ตามเธอเชื่อว่าไม่มีอะไรที่ฉู่หลิงทำไม่ได้
หากหนิงเหยี่ยนรู้ว่าถังซีกำลังคิดอะไรอยู่ เขาคงกระโดดเข้ามาทุบเธอแน่
เฮ่อหว่านโจวเองก็มองเห็นศักยภาพของเซียวโหรว เขาตั้งใจว่าจะคุยกับถังซี ชักชวนเธอมาเซ็นสัญญากับบริษัทเขา แต่เธอก็จากไปอย่างรวดเร็ว เขาจึงไม่มีเวลาคุยกับเธอเลย…
ถังซีไม่รู้ว่าเฮ่อหว่านโจวคิดอะไรอยู่ แต่ถึงเธอจะรู้ เธอก็ไม่มีทางเซ็นสัญญากับบริษัทของเฮ่อหว่านโจว เพราะเธอมีเอ็มไพร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ที่มีศักยภาพกว่าชิงเฉิงเอ็นเตอร์เทนเมนต์ของเฮ่อหว่านโจวอยู่แล้ว นอกจากนี้… อย่างที่มีคนกล่าวไว้ อย่าปล่อยให้น้ำอันอุดมสมบูรณ์ของคุณไหลไปสู่ทุ่งนาของคนอื่น ตอนนี้เธอต้องการเพิ่มคะแนนความมั่งคั่งให้สูงขึ้น ดังนั้นเธอจะไม่ให้เงินรั่วไหลไปบริษัทอื่นอย่างแน่นอน
เธอจะเซ็นสัญญาร่วมงานกับเอ็มไพร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ เงินทุกบาทที่เธอได้รับจะตกเป็นของเธอ! เธอจะไม่เลือกบริษัทอื่น! นอกจากนี้… ยังมีทีมงานเก่งๆ อีกมากมายในเอ็มไพร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์