ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 437 เหล่านางแบบ
เฉียวเหลียงมองตามสายตาถังซี แล้วตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ผมไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร”
ถังซี “…คุณไม่รู้ว่าคาโรลิน่าคือใครเหรอ เธอเคยเป็นนางแบบแถวหน้าอันดับหนึ่งที่ทุกแบรนด์ต้องการให้เธอมาเดินแบบให้ วิกตอเรียส์ซีเคร็ตยังเคยขอให้เธอมาเป็นตัวแทนภาพลักษณ์ คุณบอกว่าไม่รู้จักเธอได้ยังไง”
“ผมควรรู้หรือว่าเธอเป็นใคร” เฉียวเหลียงหน้านิ่ว แม่สาวจอมยุ่งคนนี้รู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังพูดอะไร เธอคาดหวังให้เขาให้ความสนใจผู้หญิงอื่นงั้นเหรอ เมื่อคิดเช่นนี้เฉียวเหลียงก็รู้สึกไม่พอใจ
ถังซีกะพริบตาปริบๆ เธอเพียงแต่รู้สึกประหลาดใจที่เฉียวเหลียงไม่รู้ว่าคาโรลิน่าเป็นใคร ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคาโรลิน่าคือคนรักในฝันของผู้ชายทุกคน แม้แต่เซียวส่าก็ยังเคยพูดว่าคนรักในอุดมคติของเขาคือคาโรลิน่า ผู้เซ็กซี่เร่าร้อนเป็นที่สุด!
อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นเฉียวเหลียงมีสีหน้าไม่สบอารมณ์ ถังซีก็หัวเราะออกมาเสียงดัง เธอยื่นนิ้วออกไปสั่นไปมาตรงหน้าเขา “แล้วคุณรู้จักนางแบบพวกนี้คนไหนบ้าง”
เฉียวเหลียงอดเหลือบมองค้อนถังซีไม่ได้ “ไม่รู้จักเลย”
ดวงตาถังซีฉายประกายเจ้าเล่ห์ “ดีมาก ฉันดีใจที่ได้ยินแบบนี้”
เฉียวเหลียงชำเลืองมองถังซีแล้วจูงเธอเดินเข้าไปหาฉู่หลิง เมื่อเห็นถังซี ฉู่หลิงก็เลิกคิ้วขึ้น “โอ คุณมาจนได้ในที่สุด พอใจกับนางแบบที่เลือกมาไหม”
“คุณคือไอดอลของฉัน!” ถังซียกนิ้วโป้งให้เขา “จริงๆ นะ คุณคือไอดอลของฉันจริงๆ! คุณเชิญคาโรลิน่ามาเดินให้โชว์ของเราได้ยังไง ฉันพนันได้เลยว่านางแบบชุดที่เดินให้โชว์ของเราคือชุดที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของปารีสแฟชั่นวีกปีนี้”
สีหน้าเฉียวเหลียงบึ้งตึงขึ้นทันทีที่ได้ยินถังซีชื่นชมฉู่หลิง เมื่อเห็นอาการของเฉียวเหลียง ฉู่หลิงถึงกับระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ทันใดนั้นเขาก็นึกอยากจะล้อเฉียวเหลียงเล่น จึงดึงตัวถังซีเข้ามาใกล้ แล้วโอบไหล่ถังซี มองหน้าเฉียวเหลียงแล้วกล่าวอย่างยั่วโมโหว่า “นี่ นายน้อยเฉียว ไม่มีอะไรทำหรือไง ถึงได้มาเดินตามท่านประธานเซียวของเราทั้งวันแบบนี้ หรือกลัวว่าท่านประธานเซียวจะทิ้งคุณ”
เฉียวเหลียงหรี่ตาลง จ้องมองมือที่โอบไหล่ถังซี ตวัดเสียงสั่งว่า “ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้!”
ถังซีอึ้ง “…” นายน้อยของฉัน นี่คุณไม่เห็นหรือว่าฉู่หลิงกำลังล้อคุณเล่น ทำไมถึงเอาจริงเอาจังกับเรื่องล้อเล่นขนาดนี้!
ฉู่หลิงยักไหล่ กล่าวยิ้มๆ ว่า “ทำไมต้องปล่อย ตอนนี้เวลาทำงาน นายไปได้แล้ว เรายังมีงานต้องทำกันอีกมาก”
ถังซีเองพูดไม่ออกบอกไม่ถูกเหมือนกันกับมุกตลกไม่ขำของฉู่หลิง เธอตบหลังมือฉู่หลิงเบาๆ กล่าวยิ้มๆ ว่า “นี่ เลิกแหย่เขาได้แล้ว! คุณก็รู้ว่าเขาขี้หึงมาก ไม่กลัวจะถูกเขาไล่ล่าหรือยังไง”
“ถ้ามาไล่ล่าผม ผมก็จะหนีหายไปเลยตลอดชีวิต แล้วใครจะมาบริหารบริษัทให้คุณล่ะ” ฉู่หลิงชำเลืองมองเฉียวเหลียง เลิกคิ้วถามว่า “เขาน่ะเหรอ ไม่น่านะ บริษัทของตัวเองเขายังไม่มีเวลาไปบริหารเลย นี่เขายังไม่ได้ไปดูสถานที่จัดโชว์ของเฉียวอินเตอร์แนชันนัลกรุปเลยด้วยซ้ำ! เขาย่อมไม่มีเวลามาบริหารบริษัทให้คุณแน่”
“คุณแน่ใจขนาดนั้นเชียวว่าเฉียวเหลียงทำอะไรคุณไม่ได้” ถังซีเลิกคิ้ว มองหน้าฉู่หลิง
ฉู่หลิงยักไหล่ มองตอบถังซี “คุณไม่คิดหรือว่าเฉียวเหลียงช่างน่าเอ็นดู เวลาเขาหึง”
น่าเอ็นดู!
ถังซีพยายามกลั้นหัวเราะอย่างหนัก ใช่แล้ว เธอก็รู้สึกเหมือนกัน! เธอเองก็คิดว่าอาเหลียงช่างน่าเอ็นดู เวลาที่เขาแสดงอาการหึงหวง
“ผมจะนับถึงสาม” เฉียวเหลียงจ้องฉู่หลิงด้วยสายตาเย็นเยียบราวกับจะกินหัวฉู่หลิงทั้งเป็น
ฉู่หลิงยังไม่ยอมปล่อยมือจากถังซี เฉียวเหลียงหรี่ตาลง ก้าวเท้าเข้าไปหา ในเวลานั้นนั่นเองนางแบบคนหนึ่งก็ร้องเรียกฉู่หลิง “เดอร์ริค มานี่หน่อยสิคะ”
ฉู่หลิงมองหน้าเฉียวเหลียง ปล่อยมือจากถังซี แล้วเดินไปหานางแบบคนนั้น
ถังซีมองดูเฉียวเหลียงซึ่งยังคงทำหน้าถมึงทึงอย่างอ่อนใจ “ฉันสงสัยจริงๆ ว่าคุณผูกมิตรกับใครๆ ได้ยังไง ทำไมถึงโหดกับเพื่อนขนาดนี้ เขาแค่ล้อคุณเล่นเท่านั้น ทำไมถึงถือเป็นจริงเป็นจังนักล่ะ”
เฉียวเหลียงเลิกคิ้วมองถังซี “แล้วคุณคิดว่าผมไม่ได้ล้อเขาเล่นเหรอ”
“นายน้อยของฉัน อย่ามาพูดดีเลย คุณเกือบจะชกหน้าเขาอยู่แล้ว ไม่ได้ดูเหมือนคุณกำลังล้อเล่นเลยสักนิด! คิดว่าฉันโง่นักหรือไง” ถังซีอดค้อนเฉียวเหลียงไม่ได้
เฉียวเหลียงมองถังซีแล้วยิ้ม ก่อนจะหันไปมองฉู่หลิงซึ่งกำลังถูกรายล้อมด้วยหญิงสาวกลุ่มหนึ่ง เฉียวเหลียงกล่าวว่า “คุณไม่เข้าใจว่านี่คือวิธีที่พวกเราล้อเล่นกัน”
“ก็ได้ ฉันไม่เข้าใจ”
ถ้งซีและฉู่หลิงช่วยบรรดานางแบบลองเสื้อผ้าจนเป็นที่พอใจด้วยกันทุกฝ่าย ชุดของเดอะควีน ได้รับการออกแบบมาให้มีความโดดเด่นและซับซ้อน ผสมผสานเอกลักษณ์ของเครื่องแต่งกายแบบตะวันออกและตะวันตกเข้าด้วยกันอย่างเหมาะสมกลมกลืน เครื่องแต่งกายเหล่านี้จึงเหมาะกับทั้งหญิงสาวชาวตะวันออกและตะวันตก
ถังซีพึงพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้เป็นอย่างยิ่ง
เวลานี้มีเสื้อผ้าเหลืออยู่เพียงหนึ่งชุดที่ยังไม่ได้ให้ใครลอง เสื้อผ้ามีทั้งหมดห้าเซตในแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ ถังซีวางแผนไว้ว่าจะให้เฮ่อหว่านอีสวมชุดเด่นของเซตหนึ่ง เธอจึงเก็บชุดนั้นไว้สำหรับเฮ่อหว่านอีโดยเฉพาะ
เสื้อผ้าเซตนี้เป็นการออกแบบร่วมกันระหว่างถังซีกับฉู่หลิง และเธอลงมือตัดเย็บด้วยตัวเอง เครื่องแต่งกายเซตนี้เป็นแบบตะวันออก เธอจึงต้องการให้นางแบบที่สวมใส่เสื้อผ้าเซตนี้เป็นชาวเอเชีย หลี่เหวินและไจ๋เสวียได้สวมชุดเด่นจากเซตอื่นๆ ไปแล้ว เธอจึงอยากเก็บชุดนี้ไว้ให้เฮ่อหว่านอี
“คุณอยากให้เฮ่อหว่านอีสวมชุดนี้เหรอ” ฉู่หลิงรู้จักเฮ่อหว่านอีเป็นอย่างดี เขาขมวดคิ้ว “เสื้อผ้าเซตนี้เราสองคนร่วมกันออกแบบ ผมไม่คิดว่าจะเหมาะกับเฮ่อหว่านอี ทำไมคุณไม่สวมเองล่ะ คุณเหมาะกว่านะ ผมได้ดูวิดีโอเปิดตัวแล้ว ผมคิดว่าเสื้อผ้าชุดนี้เหมาะกับคุณมาก ทำไมคุณไม่ใช้ตัวเองเป็นตัวแทนโฆษณาแบรนด์ไปเลย…
…จะได้ประหยัดเงินค่าจ้างตัวแทนภาพลักษณ์ไปด้วย” ฉู่หลิงล้อเลียนเธอ
ถังซีรู้สึกขบขันกับคำพูดของฉู่หลิง “ก็จริง คุณพูดก็มีเหตุผล แต่ฉันไม่มีแฟนคลับนี่ ถึงฉันจะใช้ตัวเองโฆษณาเดอะควีน ก็คงไม่มีใครมาซื้อสินค้าของเราหรอก พี่หว่านอีมีแฟนคลับเยอะมาก แล้วเธอก็มีประสบการณ์บนเวทีมากกว่าฉันด้วย”
“การเดินรันเวย์แฟชั่นแตกต่างจากการถ่ายภาพนิ่ง ผมพนันได้ว่าเฮ่อหว่านอีไม่เหมาะกับชุดนี้ น่าเสียดายที่วันนี้เธอไม่ได้มา ไม่อย่างนั้นคุณจะได้เห็นเอง”
ฉู่หลิงมุ่งมั่นทุ่มเทกับแฟชั่นโชว์ครั้งนี้อย่างเต็มที่ นับตั้งแต่เครื่องประดับไปจนรูปแบบการแต่งหน้าของเหล่านางแบบ เขาเป็นคนดูแลจัดการเองทั้งหมด กระทั่งนอตทุกตัวที่ใช้สร้างเวที เขาก็เป็นคนเลือกเอง เขาไม่มีวันยอมให้เกิดความผิดพลาดใดๆ ขึ้นในการจัดโชว์อย่างเด็ดขาด เขาย่อมไม่ยอมปล่อยให้นางแบบคนไหนสวมชุดที่ไม่เหมาะกับตัวเธออย่างแน่นอน
ถังซีขมวดคิ้วมองหน้าฉู่หลิง “ฉันเอาชุดกลับไปที่โรงแรม ให้พี่หว่านอีลองสวมดูคืนนี้ดีไหม”
พี่หว่านอีคงกำลังวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวลืออื้อฉาวนั่นอยู่แน่ๆ …