ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 96 เซียวเหยา ผู้บังคับการกองกำลังพิเศษ
ถังซีหยุดชะงัก พระเจ้า! เธอลืมไปสนิทว่าเซียวส่าเก่งเรื่องคอมพิวเตอร์มาก เมื่อกี้เธอเพิ่งบอกเขาว่าเธอแฮ็คฐานข้อมูลของกองกำลังพิเศษ เขาจะขอให้เธอลงสนามประลองกับเขาอีกไหม
“พี่ส่า ฉันบอกพี่แล้วว่าฉันเป็นนางฟ้าน้อย ฉันแค่ซ่อนพลังของฉันไว้ก่อนหน้านี้…”
“แล้วตอนนี้เธอไม่ต้องซ่อนแล้วหรือ”
ถังซีรู้ว่าเขารู้ความลับเธอหมดแล้ว เธอไม่สามารถปกปิดด้วยการโกหกได้อีกต่อไป เธอจึงโพล่งออกมาเฉยๆ ว่า “พี่เหยาตกอยู่ในอันตรายแล้วตอนนี้ ฉันยังจะซ่อนพลังไว้ได้ยังไงล่ะ”
เซียวส่าระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทันที แล้วกล่าวว่า “โหรวโหรว สิ่งที่เธอพูดฟังดูสมจริงมาก จนพี่เกือบจะเชื่ออยู่แล้ว!”
ถังซีอึ้ง จ้องมองเซียวส่าด้วยความงุนงง ในขณะที่ฝ่ายหลังลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องครัว “เอาล่ะ เลิกฝันกลางวันได้แล้ว เธอก็แค่เด็กผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่ง ตั้งใจเรียนหนังสือให้มากๆ เพราะถึงเธอจะเป็นนางฟ้าจริงๆ พี่ก็ไม่ลืมที่เราเดิมพันกันไว้หรอก ถ้าเธอไม่เรียนให้หนักและแพ้พนันพี่ เธอต้องเอาเงินค่าจ้างของเธอมาจ่ายพี่หนึ่งล้านหยวน”
เซียวจิ่งก็ส่ายศีรษะ ลุกขึ้นเดินเข้าห้องครัว บอกว่าเขาจะไปช่วยเซียวส่า เขาลูบผมถังซีพร้อมกับกล่าวด้วยรอยยิ้ม “โหรวโหรวน้อย ช่างจินตนาการเสียจริง ถ้ามีเวลาว่างเธอก็ลองเขียนนิยายสิ พี่จะอ่านนิยายเธออย่างแน่นอน”
ถังซีจ้องมองตามหลังพี่ชายทั้งสองที่กำลังเดินเข้าห้องครัวด้วยสายตาว่างเปล่า หมายความว่าพวกเขาคิดว่าเธอแค่ล้อเล่น และมาร่วมเล่นละครน้องๆ รักพี่ชายไปกับเธออย่างนั้นหรือ
ทำไมเธอถึงรู้สึกอยากร้องไห้ขึ้นมากะทันหัน!
พี่น้องสองคนนี้ควรเป็นนักแสดงจริงๆ!
ในห้องครัวเซียวส่ายืนพิงโต๊ะทำอาหาร ขณะที่เซียวจิ่งยืนพิงเคาน์เตอร์บาร์ ทั้งคู่ต่างดูท่าทางวิตกกังวล เซียวส่าถามว่า “นายคิดว่าพี่เหยาตกอยู่ในอันตรายจริงไหม”
เซียวจิ่งตอบพร้อมกับพยักหน้า “ผมรู้สึกไม่สบายใจตั้งแต่ได้รับโทรศัพท์จากพี่เหยาแล้ว”
“และคุณแม่ได้รับบาดเธอเจ็บที่มือ เพราะท่านรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ” เซียวส่าเสริม จากนั้นเขาก็มองหน้าเซียวจิ่ง กล่าวต่อไปว่า “แล้ว… นายเชื่อไหมว่าโหรวโหรวของเราเป็นนางฟ้า เป็นไปได้ไหมว่าเธอได้ยินเรื่องที่พี่เหยาพูดในโทรศัพท์”
เซียวจิ่งหันศีรษะชะโงกดูถังซีที่กำลังเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่บนโซฟา แล้วยิ้มออกมา “ถ้าเธอเป็นนางฟ้าจริงๆ ทำไมเธอจะต้องอยู่ในโรงพยาบาลเป็นเดือนเพราะเซียวจิ้นหนิงด้วยล่ะ เธอแค่ขี้โม้เท่านั้นเอง”
เซียวส่าขมวดคิ้ว “ฉันคิดไม่ถึงว่าพี่เหยาจะทำงานที่เสี่ยงอันตรายขนาดนี้ โดยเก็บเป็นความลับไม่ยอมบอกพวกเรา!”
“ทำไมคุณลุงหยางถึงไม่รู้ว่าพี่เหยาทำงานให้กองกำลังพิเศษ” เซียวจิ่งสงสัย ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด “ผมจะโทรหาคุณลุง ถามท่านเกี่ยวกับหน่วยรบพิเศษของกองกำลังพิเศษ”
“อย่าถาม ถ้าเราบอกคุณลุงเรื่องงานของเขา แล้วพี่เหยากลับมาโดยไม่เป็นอะไร คุณพ่อคุณแม่จะรู้ว่างานของเขาคืองานอะไร” เซียวส่ากล่าว “บางทีพี่เหยาอาจไม่ต้องการให้คุณพ่อคุณแม่รู้และเป็นห่วงเขา”
“เขาเป็นพันตรี!” เซียวจิ่งกล่าวเสียงต่ำ “ตอนนี้พี่เหยาอายุเท่าไหร่ เขาเป็นพันตรีแล้ว ทั้งๆ ที่อายุยังแค่ยี่สิบปลายๆ!”
ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าทหารจะได้เลื่อนยศขึ้นเป็นจ่า และเท่าที่พวกเขารู้เซียวเหยาเริ่มทำงานให้กับหน่วยข่าวกรองเมื่อสองหรือสามปีก่อน แสดงว่าเซียวเหยาไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่สืบราชการลับ แต่เป็นผู้บังคับการกองกำลังพิเศษ และเขาได้ยศนายพันเพราะตำแหน่งนี้! พวกเขาตกใจสุดขีด!
คุณตาของพวกเขาเป็นแค่พลโท แม้ท่านจะรับราชการในกองทัพมานานหลายสิบปี แต่เซียวเหยาติดยศพันตรีแล้ว บางทีเขาอาจได้เลื่อนขึ้นเป็นพันโทในไม่ช้า! ลักษณะแบบนี้จินตนาการได้ไม่ยากว่าผู้บังคับการคนนี้ผ่านอะไรมาบ้าง
“อย่าบอกคุณพ่อคุณแม่นะ” เซียวส่ากล่าวอย่างจริงจัง ตายายลุงป้าน้าอาและลูกพี่ลูกน้องทางสายมารดาของพวกเขาล้วนรับใช้ในกองทัพ ส่วนบิดานั้นถึงจะทำงานในหน่วยงานของรัฐก็จริง แต่เขาไม่ต้องการให้ลูกๆ รับราชการในกองทัพ อย่างไรก็ตามท่ามกลางความประหลาดใจของพวกเขา เซียวเหยาทำไปแล้ว และมียศถึงพันตรี!
เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไร
เซียวเหยาไม่ค่อยได้อยู่กับครอบครัวเมื่อตอนพวกเขาเป็นเด็ก ชีวิตพี่ชายใหญ่ในช่วงมัธยมปลายและมหาวิทยาลัยอยู่ในเมืองหลวง เพราะฉะนั้น…
“ฉันเพิ่งรู้สึกขึ้นมาเดี๋ยวนี้ว่าเราควรใส่ใจพี่เหยาให้มากกว่านี้” เซียวส่าหันหลังไปล้างหม้อ “พวกเราอาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกันกับพี่เหยามานานหลายปี แต่เราไม่เคยรู้ความลับของเขา จนกระทั่งโหรวโหรวบอกเราเรื่องนี้”
เซียวจิ่งหยิบผักจากตู้เย็นออกมาล้างพลางบ่นว่า “ผมกลัวจังเลย เมื่อคิดว่าพี่เหยาเป็นผู้บังคับการกองกำลังพิเศษที่เราเคยเห็นแต่ในทีวี… ผมไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่า พี่ชายของผมจะเป็นแบบเดียวกับคนที่ผมเคยเห็นแต่ในหนังเท่านั้น … “
ถังซีแอบย่องมาที่ประตูครัว นั่งยองๆ ลงแอบฟังการสนทนาของพี่ๆ เมื่อได้ยินคำพูดของพวกเขาถังซีก็ทำปากยื่น ดูเหมือนพี่ๆ จะไม่เชื่อคำพูดเธอ เพราะฟังดูน่าตกใจเกินไป อันที่จริงถ้า 008 ไม่ได้ให้ข้อมูลของเซียวเหยาแก่เธอ เธอก็คงไม่เชื่อเช่นกันว่าพี่ชายของเธอเป็นนายทหารของกองทัพ ไม่น่าแปลกใจที่เซียวเหยาประทับใจในภาพยนตร์เรื่องที่ไปชมกันเมื่อคืนวานนี้มาก ดวงตาเขาเปล่งประกายเจิดจ้าเมื่อได้ยินว่าเธออยากเป็นทหารกองกำลังพิเศษ
พี่ชายสองคนพูดคุยกันเรื่องนี้พักหนึ่ง ก่อนจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนา เมื่อถึงตอนนี้ถังซีก็เลิกแอบฟัง กลับไปนั่งที่โซฟา เริ่มค้นหาข้อมูลด้วยแท็บเล็ตของเซียวส่า
เธอต้องหาว่าส่วนไหนของเมือง J ที่เหมาะสมในการหลบซ่อนตัว โดยเฉพาะสำหรับพวกอาชญากร ถ้าพี่เหยาไม่สามารถจัดการกับคนเหล่านั้นได้ เธอจะทำแทน!
เธอเป็นคนที่เคยตายไปแล้วครั้งหนึ่ง การสังหารผู้ก่อการร้ายจะไม่ส่งผลกระทบต่อจิตใจเธอมากนัก
…
เมือง J มณฑล Y
เมื่อเซียวเหยาลงจากเฮลิคอปเตอร์ ทีมทหารในเครื่องแบบก็เข้ามาหาเขา เซียวเหยาเดินไปหาพวกเขา ทั้งหมดทำความเคารพในแบบทหาร ซึ่งเขาก็รับความเคารพแบบทหารเช่นกัน เขาถามว่า “เป็นอย่างไรบ้าง”
“กองกำลังของเรากำลังติดตามคลอสและคนของเขา ร่วมกับนายตำรวจของประเทศอื่นๆ และเราพบสถานที่ที่น่าสงสัยสองแห่งครับผม” ชายคนหนึ่งรายงานแก่เซียวเหยา พร้อมกับส่งแท็บเล็ตในมือให้เขา “นี่คือสถานที่หลบซ่อนตัวที่เป็นไปได้ของคลอสและลูกน้องครับผม ผู้การ!”
เซียวเหยารับมาดูและพยักหน้า “แจ้งทหารทุกคนให้เฝ้าระวัง และเตรียมพร้อมที่จะสนับสนุนกองทัพต่างชาติ”
“ครับผม!”
เซียวเหยาตามทหารเข้าไปนั่งในรถ ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เขามองดูชื่อผู้โทรและรับสาย “ครับ ท่านนายพล เซียวเหยาพูดครับผม!”
“จับตายคลอสที่เมือง J ในทุกกรณี อย่าปล่อยให้เขามีชีวิตรอดออกจากเมือง กองทัพของเราไม่มีเหตุผลที่จะปล่อยให้ผู้ก่อการร้ายที่ลักลอบเข้ามาในดินแดนของเราหลบหนีไปได้!”
“ครับผม! ผมจะลงมือด้วยตัวผมเอง”
ท่านนายพลกล่าวอย่างเคร่งเครียด “ดี แต่ตามที่เราได้รับแจ้ง คลอสมีอาวุธพร้อมมือ คุณต้องระมัดระวังให้มาก เข้าใจไหม”
เซียวเหยาตอบรับด้วยการยืนยัน “เราจะกำจัดคลอสและคนของเขาให้สิ้นซากในเมือง J ให้จงได้ เราจะไม่ยอมให้ผู้ก่อการร้ายเข้ามาสร้างความเดือดร้อนในประเทศของเรา ครับผม!”
ขณะกล่าวเช่นนี้เขาก็คิดถึงสิ่งที่ถังซีพูดเมื่อคืน และยิ้มออกมาเล็กน้อย เขาสงสัยว่าเธอจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ถ้ารู้ว่าพี่ชายของเธอเป็นพันตรีแห่งกองกำลังพิเศษที่เธอชื่นชมมาตลอด