CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1284 เกือบได้ขึ้นโรงพักแล้ว

  1. Home
  2. ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
  3. บทที่ 1284 เกือบได้ขึ้นโรงพักแล้ว
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
Next

เมื่อเห็นพนักงานของกรมสรรพากร เหมาเหว่ยหลงก็รู้สึกกังวลขึ้นมาเล็กน้อยและพูด “แย่แล้ว คู่สามีภรรยาพอลลี่กำลังมีปัญหา แกรออยู่นี่ไม่ต้องพูดอะไร เดี๋ยวฉันไปจัดการเรื่องนี้ก่อน ฉันต้องช่วยครอบครัวพอลลี่”

หลังจากลงจากรถ ตำรวจพวกนี้ก็แบ่งออกเป็นสองกลุ่ม โดยกลุ่มหลักคอยล้อมร้านขายเนื้อนี้ไว้ ส่วนอีกสองคนก็เดินตรงเข้ามาที่รถของเหมาเหว่ยหลง และเคาะกระจกรถเพื่อจะบอกให้คนบนรถลงมา

เหมาเหว่ยหลง ลงมาจากรถและถาม “มีอะไรให้ช่วยเหรอครับ?”

ชายที่สวมเสื้อไออาร์เอสมองเขาและเอ่ยถาม “ฟาร์มเลี้ยงสัตว์นี้ตั้งแผงลอยขายเนื้อมานานแค่ไหนแล้ว?”

เหมาเหว่ยหลงตอบ “แผงลอยขายเนื้อเหรอครับ? ตั้งแผงลอยขายเนื้ออะไร? ไม่ใช่ละ ผมว่าพวกคุณเข้าใจผิดแล้วล่ะ พวกเขาไม่ได้ทำธุรกิจอะไรนะ ไม่ได้ขายเนื้อด้วย”

ชายคนนั้นยิ้มเย็นชาและพูด “โอ้? เพื่อน นี่คุณคิดว่าผมตาบอดเหรอ? ถ้าไม่ได้ขายเนื้ออยู่ งั้นก็จัดปาร์ตี้กันอยู่หรือไง?”

เหมาเหว่ยหลงพยักหน้าและพูด “ใช่แล้วครับ พี่ผมมาจากเมืองเซนส์จอห์นเลยแวะมาเล่นกันน่ะ” เขาชี้ไปที่ฉินสือโอว “ผมกำลังจะเตรียมจัดปาร์ตี้กัน แล้วครอบครัวพอลลี่ก็บอกว่าพวกเขาจะให้เนื้อแพะและวัวกับผม ดังนั้นพวกเราจึงมาที่นี่กัน”

ฉินสือโอยักไหล่และหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและแสดงการจองตั๋วเครื่องบินให้ตำรวจดูเพื่อยืนยันสิ่งที่เหมาเหว่ยหลงพูดเป็นความจริง

ชายคนนั้นมองนิ่งและปัดโทรศัพท์มือถือออก แล้วโวยวายกับเหมาเหว่ยหลง “แม่งอย่ามาพูดไร้สาระกับฉัน! คุณก็รู้ดีนี่ว่าครอบครัวนี้กำลังหนีภาษีอยู่ ซึ่งมันผิดกฎหมาย! คุณแน่ใจไหมว่าคุณจะปกป้องพวกเขาน่ะ?”

เหมาเหว่ยหลงพูดเสียงนิ่งลง “พวกเขาจะหนีภาษีหรือไม่ผมก็ไม่รู้หรอกนะ ผมไม่ใช่กรมสรรพากร แต่ที่ผมพูดทั้งหมดนั้นเป็นความจริง ผมต้องการจัดปาร์ตี้แล้วมาหาเขาที่นี่เพื่อมาเอาเนื้อเท่านั้น”

พูดไปเหมาเหว่ยหลงก็ตะโกนไปหาครอบครัวพอลลี่ว่า “เฮ้ย พวก นายไปก่อเรื่องยุ่งยากอะไรมาหรือเปล่า? เอาเนื้อมาให้ฉันสักทีสิ ฉันต้องกลับไปจัดปาร์ตี้ต่อนะ มีหลายคนรออยู่ ฉันไม่อยากมาเสียเวลาอยู่นี่ทั้งวันหรอกนะ”

เมื่อเหตุการณ์มาถึงตรงนี้ฉินสือโอวก็เข้าใจแจ่มแจ้งว่าเกิดอะไรขึ้น ครอบครัวพอลลี่กำลังขายเนื้อที่หน้าประตูโดยไม่เสียภาษี และกรมสรรพากรคอยจับตามองพวกเขาอยู่ วันนี้ก็เลยเข้ามาจับกุมในตอนที่พวกเขาอยู่ที่นี่พอดี

ที่ยุโรปและอเมริกา การจ่ายภาษีเป็นเรื่องที่สำคัญมาก การหนีภาษีถ้าหากถูกจับได้ ไม่เพียงแค่โดนปรับเงินง่ายๆ แบบนั้น แต่อาจจะมีสิทธิ์ถูกจับเข้าคุกได้ ซึ่งนั่นจะส่งผลต่อการทำธุรกิจในอนาคต และส่งผลต่อการดำเนินการทำบัตรเครดิต

มีคำพูดที่คนอเมริกามักพูดกันว่า “บนโลกใบนี้มีแต่ความตายกับการเสียภาษีเท่านั้นที่จะคงอยู่ตลอดไปชั่วนิรันดร์” และคำพูดนี้ก็ถูกนำมาใช้ที่แคนาดาด้วยเช่นกัน

ที่แคนาดาแทบไม่มีใครเกรงกลัวรัฐบาลหรือตำรวจเลย ประชากรในประเทศนี้มีจำนวนมากเป็นอันดับแรกของทั่วโลก ในตอนที่รัฐบาลและตำรวจปฏิบัติตามหลักกฎหมายจึงต้องคอยระมัดระวังเพราะกลัวว่าจะเป็นการเหยียบกับระเบิดอย่างเช่น การเหยียดสีผิวหรือการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ

แต่ไม่มีผู้ใดไม่เกรงกลัวกรมสรรพากรไออาร์เอส นอกจากพวกคนจนที่ไม่มีอะไรเลย ขอเพียงแค่มีเงินที่พอจ่ายภาษีขั้นต่ำก็จะต้องถูกตรวจสอบโดยไออาร์เอส

และในตอนที่ไออาร์เอสตรวจสอบภาษี พวกเขาจะไม่สนใจว่าคุณจะมาจากที่ไหน นับถืออะไร ถ้าแน่นอนว่าหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษี งั้นก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว เพราะแค่หนึ่งคำก็ผิด!

หากต้องการให้ยกตัวอย่างเปรียบเทียบ ไออาร์เอสก็คือระบบการปกครองของแคนาดา เหมือนการจัดการปัญหาเศรษฐกิจ เหมือนการบังคับให้ปฏิบัติตามหลักกฎหมาย เหมือนกับพนักงานกลุ่มหนึ่งที่มีความสามารถและชาญฉลาด…

อย่าคิดว่าพนักงานของไออาร์เอสนั้นจะอ่อนเรื่องการบัญชี พวกเขาทำงานหลายหน่วยมาก ซึ่งในนั้นมีหน่วยตรวจสอบ ซึ่งจะสามารถตรวจสอบผู้ที่หนีภาษีและจัดการได้อย่างทันที โดยพนักงานทุกคนจะพกอาวุธ พกปืนและกุญแจมือ!

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ของรถคันนั้นก็ยึดมั่นในสิ่งถูกต้องเหมือนกับเหมาเหว่ยหลง และพอยืนยันว่าครอบครัวพอลลี่ไม่ได้ขายเนื้อ แต่สมองคนพวกนี้ไม่ค่อยฉลาดปราดเปรียวนัก คาดไม่ถึงว่าจะพูดว่าครอบครัวพอลลี่กำลังทำการบริจาคเนื้อให้แก่คนในเมือง

คนในหน่วยไออาร์เอสหน้าตาเต็มไปด้วยความรำคาญเบื่อหน่าย ฉินสือโอวยังคงพยักหน้าเออออตาม ไอ้พวกโง่เอ๊ย ได้เจอกับหลุมดำของกลุ่มแบบนี้ นับว่าเป็นโชคร้ายของครอบครัวพอลลี่

แต่ครอบครัวพอลลี่ก็ไม่กล้ายอมรับเรื่องที่พวกเขาขายเนื้ออยู่ เพราะฉินสือโอวคาดว่าพวกเขาก็คงไม่จ่ายภาษี และแน่นอนว่าการขายเนื้อนั้นไม่มีภาษีเนื่องจากราคาของเนื้อที่พวกเขาขายนั้นต่ำกว่าในตลาด คนในเมืองจึงชอบมาซื้อเนื้อที่นี่กัน

แต่ว่าเขาเคยถูกไออาร์เอสจับในข้อหาหนีภาษี ซึ่งมันสร้างความยากลำบากอย่างมากให้เขา อย่าพูดว่าเขาก็มีฟาร์มเป็นของตัวเอง ในความเป็นจริงแล้วเขานั้นไม่ได้ร่ำรวย ถ้าไม่เช่นนั้นเขาคงไม่มาขายเนื้อที่หน้าประตูบ้านแบบนี้หรอก

ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ฟาร์มทำเกษตรกรรม และฟาร์มเลี้ยงปลาของแคนาดานั้นล้วนต้องกู้เงินจากธนาคาร ถ้าครอบครัวพอลลี่ถูกไออาร์เอสกำหนดข้อหาว่าไม่จ่ายภาษีแล้วล่ะก็ หลังจากนี้มีหวังธนาคารคงไม่ยอมให้พวกเขากู้เงินอีกเป็นแน่

เพราะแบบนี้ทั้งสองฝ่ายจึงเริ่มการถกเถียงกัน โดยคนของไออาร์เอสไม่ได้ลงมือ ครั้งนี้พวกเขาได้วางแผนเตรียมรับมือมาก่อน โดยร่วมมือกับตำรวจของเมืองในการจับกุมครอบครัวพอลลี่และเหมาเหว่ยหลงและคนอื่นๆ โดยตรง โดยกะว่าจะกลับไปที่สถานีตำรวจแล้วทำการบุกอย่างช้าๆ

ฉินสือโอไม่อยากจะเสียเวลาอยู่นี่นานนัก เขามาใช้เวลาพักผ่อนกับวินนี่ แต่แทบไม่ได้ใช้เวลาร่วมกัน ถ้าหากเหมาเหว่ยหลงถูกลากเข้าไปพัวพันกับเรื่องนี้ คงกินเวลากว่าสามวันห้าวัน ซึ่งจะทำให้การมาครั้งนี้ของเขาเปล่าประโยชน์

ดังนั้นฉินสือโอวจึงโทรหาเออร์บักเพื่อขอคำแนะนำว่าควรทำอย่างไรกับสถานการณ์ในขณะนี้ดี

เออร์บักจึงให้คำแนะนำกับเขาว่า “ข้อเสนอแรก รับประกันเลยว่านายจะไม่ถูกทำให้เข้าไปพัวพัน เพียงแค่นายเอาหลักฐานใบจ่ายภาษีให้ไออาร์เอสตรวจสอบ ถ้าไม่มีปัญหาอะไร พวกเขาก็จะปล่อยเจ้าของฟาร์มนั้นไป”

ฉินสือโอวตอบรับ พอกำลังจะวางสาย เออร์บักก็พูดขึ้นมาอีก “แต่ต้องจำไว้ว่า ถ้าหากตรวจสอบแล้วคนพวกนี้ยังต้องการจับกุมเจ้าของฟาร์มอยู่ นายกับเหมาเหว่ยหลงก็หนีให้ห่างเลย!”

เขาเข้าใจในสิ่งที่เออร์บักต้องการจะสื่อ ฉินสือโอวลังเลครู่หนึ่ง เขากับเจ้าของฟาร์มก็ไม่ได้สนิทสนมหรือมีความเกี่ยวข้องกัน งั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวก็ได้นี่นา?

แต่เขาเห็นว่าเหมาเหว่ยหลงดูเหมือนจะคอยแก้ต่างให้กับเจ้าของฟาร์มตลอด จึงสะกิดเขาและถามเสียงเบา “นายสนิทกับเขาเหรอ?”

เหมาเหว่ยหลงก็กระซิบตอบ “พอลลี่เป็นคนดี เขาคอยช่วยเหลือฉันหลายครั้ง ครั้งนี้พวกเขาลำบากฉันจะไม่ช่วยได้ยังไงล่ะ”

ได้ยินดังนั้น ฉินสือโอวจึงเดินไปหาหัวหน้าของกรมสรรพากรไออาร์เอส พร้อมกับบอกหมายเลขใบจ่ายภาษีของตัวเองให้เขา “พวก ผมไม่กล้ารับประกันเท่าไร แต่ผมอยากจะบอกว่าทุกครั้งที่ผมมาที่นี่เพื่อมาหาพวกพี่ชาย เขามักจะมาเอาเนื้อที่นี่เสมอ”

“แล้วได้จ่ายเงินไหม?” คนพวกนั้นถามอย่างไม่ใส่ใจนักพลางตรวจสอบหมายเลขไปด้วย

ฉินสือโอวหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “อย่าทำแบบนี้สิพวก คุณก็รู้อยู่แล้วนี่ว่าต้องใช้เงินเท่าไรในการซื้อเนื้อ?”

ชายคนนั้นกรอกหมายเลขลงบนคอมพิวเตอร์และข้อมูลก็ปรากฏ ก่อนมองไปที่ฉินสือโอวอย่างประหลาดใจหลังจากที่ตรวจสอบจนแน่ใจว่าภาพที่ปรากฏบนจอและคนตรงหน้าเป็นคนเดียวกัน และเขาก็ขมวดหัวคิ้วจนแทบเป็นปม

ฉินสือโอวรอดูปฏิกิริยาของเขา หลังจากนั้นประมาณสิบวินาที เขาก็โบกมือเพื่อเรียกลูกน้องให้กลับขึ้นรถ และหันไปพูดกับเจ้าของฟาร์มว่า “คราวนี้มันยังไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ดังนั้นพวกเราจะให้โอกาสอีกครั้ง แต่จำไว้ ครั้งหน้าคุณไม่โชคดีแบบนี้อีกแน่!”

แล้วรถตำรวจสองคันรีบเลี้ยวกลับออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่รู้ว่าจะไปหาเรื่องใครต่อ

……………………………………..

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 1284 เกือบได้ขึ้นโรงพักแล้ว"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์