ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1381 ที่แท้สิ่งที่สร้างความแข็งแรงก็อยู่ที่นี่
- Home
- ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
- บทที่ 1381 ที่แท้สิ่งที่สร้างความแข็งแรงก็อยู่ที่นี่
หลังจากอุ้มลูกสาวให้แม่แล้ว ฉินสือโอวและวินนี่ก็ทำเรื่องน่าอายกันในห้องตอนกลางดึก วินนี่บอกว่าเธอต้องการมีลูกชายเพิ่มอีกหนึ่งคน ฉินสือโอวเห็นด้วยมาก จากนั้นทั้งสองก็เริ่มกิจกรรมปั๊มลูก
หลังจากเสร็จแล้ว วินนี่ก็พลิกตัวและหลับไป ทางฝั่งฉินสือโอวก็ไม่ไหวแล้วเช่นกัน เขายังมีงานต้องทำอีกมากจึงควบคุมจิตสำนึกแห่งโพไซดอนทั้งแปดกระจายพลังโพไซดอนลงในฟาร์มปลา
ช่วงเวลาที่จะถึงนี้ไม่ใช่ฤดูเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วง สำหรับฟาร์มปลาแล้วนี่เป็นฤดูจับปลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เขาต้องการเพิ่มความอ้วนให้ปลาและกุ้งชั่วคราว โดยเฉพาะฝูงปลาทูน่าครีบน้ำเงินและปลาทูน่าครีบเหลืองจำเป็นต้องทำให้พวกมันอ้วนขึ้น ถึงอย่างไรตอนนี้ฉินสือโอวก็เป็นเศรษฐีคนใหญ่คนโตที่มีกู้เงินถึงหลายร้อยล้าน จึงต้องอาศัยฟาร์มปลาแห่งนี้ในการคืนเงิน
หลังจากมีจิตสำนึกแห่งโพไซดอนทั้งแปดแล้ว ฉินสือโอวจึงทำเรื่องต่างๆ ได้สะดวกขึ้น เขาโจมตีไปทั้งแปดทิศทางได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเขาเจอฝูงปลาแล้วก็กระจายพลังโพไซดอนออกไปเหมือนกับเครื่องบินพ่นยาฆ่าแมลง
นอกจากนี้ เขายังตั้งใจไปดูหอยนางรมลอยโดยเฉพาะอีกด้วย โชคดีที่เป้ยหวังสามารถเอาชีวิตรอดได้ แต่แค่พลังชีวิตของมันต่ำมาก ฉินสือโอวจึงป้อนพลังโพไซดอนให้มันอย่างเจ็บปวดใจและเขาก็แอบอธิษฐานในใจว่า ขอพระเจ้าอวยพร ขอให้มันมีชีวิตรอดต่อไปเถอะ เพราะในตัวมันมีไข่มุกดำขนาดใหญ่มากมาย สิ่งเหล่านี้เป็นสมบัติล้ำค่าที่ไม่มีอะไรเทียบได้!
เป้ยหวัง “…”
ในที่สุดประชากรปลาไส้ตันฟลอริดาก็ขยายตัวใหญ่มากขึ้น ฉินสือโอวเฝ้าดูปลาตัวใหญ่ที่พาฝูงปลาเล็กว่ายน้ำตามมาจากปะการังพร้อมๆ กัน เขารู้สึกพอใจมากจึงรีบป้อนพลังโพไซดอนให้อย่างรวดเร็ว
เพียงแค่ปลาไส้ตันฟลอริดาสามารถไปถึงระดับมาตรฐานที่สามารถนำมาผลิตได้ อาหารทะเลต้าฉินก็จะเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่มีความได้เปรียบทางการแข่งขันในตลาดได้อีก
ก่อนหน้านั้นกุ้งกุลาดำและหอยเม่นเอ็กไคโนคอคคัสที่เพาะเลี้ยงไว้ในบ่อเพาะพันธุ์นั้นเพิ่งจะถูกนำลงไปในฟาร์มปลาเมื่อไม่นานมานี้ พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ใต้ทะเลลึกและชอบกินสาหร่ายไดอะตอมใต้ทะเลลึก ฉินสือโอวตั้งใจที่จะเพิ่มพลังโพไซดอนให้กับสิ่งมีชีวิตที่อยู่ใต้ทะเลลึก เพื่อให้มันการเจริญเติบโตงอกงามให้ได้มากที่สุด
ผลิตภัณฑ์ของฟาร์มปลามีมากขึ้นเรื่อยๆ แต่น่าเสียดายที่การผลิตยังมีระยะห่างอยู่ ไม่ว่าจะเป็นปูดันเจเนสส์ หอยเม่นเอ็กไคโนคอคคัส ปลายอดม่วงขนาดเล็ก กุ้งกุลาดำหรือหอยทุกชนิด การเพาะพันธุ์ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการผสมพันธุ์
หลังจากจัดการดูแลฟาร์มปลาได้สักพักแล้ว ฉินสือโอวก็ต้องการไปค้นหาเรืออับปางในทะเลอีกครั้ง เป็นครั้งแรกที่เขากู้เงินจำนวนมากขนาดนี้ จึงมีความกดดันในใจ เขาต้องการหาเรืออับปางเพื่อหาสมบัติที่ซ่อนไว้ ดังนั้นบางทีเขาอาจจะสามารถคืนเงินกู้ล่วงหน้าได้
จิตสำนึกแห่งโพไซดอนทั้งแปดแผ่กระจายไปรอบๆ ทั่วทุกทิศทาง ตั้งแต่ครั้งก่อนหลังจากที่ดูดซับพลังงานในอำพันทะเลแล้ว หัวใจแห่งโพไซดอนก็ดีขึ้นเป็นอย่างมาก ความเร็วในการถ่ายโอนของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนก็เร็วขึ้นเรื่อยๆ การเปลี่ยนแปลงโดยประมาณคือจากความเร็วของรถเอฟวันเพิ่มขึ้นไปจนถึงความเร็วของเครื่องบินไอพ่นที่บินอยู่ระดับความสูงในอากาศ จึงทำให้ฉินสือโอวไม่สามารถตอบสนองได้
โชคดีที่เขาแค่ต้องการหาซากเรืออับปาง แค่สังเกตดูรอบๆ ว่ามีร่องรอยของเรืออับปางหรือไม่ก็พอแล้ว
นี่เป็นครั้งแรกที่ถือโอกาสใช้ด้วยความเร็วสูงหลังจากอัปเกรดหัวใจแห่งโพไซดอนและก็ยังเป็นครั้งแรกที่ได้สัมผัสกับความเร็วสูงแบบนี้ ซึ่งทำให้เขารู้สึกดีมาก ดังนั้นเขาจึงถือโอกาสกระตุ้นจิตสำนึกแห่งโพไซดอนให้ก้าวหน้าอีกด้วย
โดยปกติแล้ว ประสาทสัมผัสของเขาจะไม่สามารถตามความเร็วนี้ให้ทันได้ แต่ฉินสือโอวสังเกตเห็นได้ว่า บางครั้งประสาทสัมผัสของเขาสามารถตามทันได้และเขาก็สามารถเข้าใจสภาพแวดล้อมของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนได้อย่างชัดเจน
ความรู้สึกนี้ค่อนข้างแปลกเล็กน้อย เหมือนกับตอนนั่งรถไฟใต้ดิน มีช่วงหนึ่งของการเดินทางที่อยู่ในความมืด แต่เมื่อเข้าสู่สถานีแล้วกลับเห็นแสงที่อยู่ภายนอกหน้าต่าง เพียงแต่แค่สำหรับจิตสำนึกแห่งโพไซดอน มันไม่เคยเข้าสู่สถานีและอยู่ในสภาพที่เป็นความเร็วสูง
หลังจากค้นพบความผิดปกติแล้ว ฉินสือโอวจึงชะลอความเร็วลงและใช้ใจสัมผัสสิ่งต่างๆ รอบตัว
แต่หลังจากความเร็วผ่านไประยะหนึ่ง ประสาทสัมผัสก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ด้วยความเร็วนี้ประสาทสัมผัสยังคงคลุมเครือและไม่สามารถมองเห็นสภาพแวดล้อมและเหตุการณ์รอบๆ ได้อย่างชัดเจน
เมื่อเขาเร่งความเร็ว ปลาหัวเมือกฝูงเล็กๆ ก็ปรากฏขึ้นในจิตสำนึกของเขา ดังนั้นเขาจึงเอาจิตสำนึกแห่งโพไซดอนติดตามพวกมันไป เพื่อที่จะป้อนพลังโพไซดอนเข้าไปให้พวกมัน
หลังจากที่จิตสำนึกแห่งโพไซดอนเข้าใกล้แล้ว ฉินสือโอวก็รู้สึกว่าสภาพแวดล้อมรอบๆ ได้กลับมาชัดเจนอีกครั้ง!
จึงทำให้เขานึกขึ้นได้ตามสัญชาตญาณว่าเกิดอะไรขึ้น จะเป็นไปได้ไหมที่ในกระบวนการของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนจะมีความรวดเร็วซ่อนอยู่ เมื่อมันเข้าใกล้สิ่งมีชีวิตในทะเลเหล่านี้แล้ว มันจะสามารถได้รับการมองเห็นหรือความทรงจำ?
เขาจึงคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วนและรู้สึกว่าความทรงจำไม่น่าจะเป็นไปได้ ว่ากันว่าความทรงจำของปลานั้นสั้นมากมีเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น ถ้าอย่างนั้นเขาคงจะได้รับการมองเห็นจากสิ่งมีชีวิตในทะเลเหล่านี้?
ดังนั้นเขาจึงทำการทดลองดู เมื่อผ่านน่านน้ำทะเลที่ไม่มีปลาอยู่ ประสาทสัมผัสของเขากลับไม่ชัดเจนและไม่สามารถตามความเร็วของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนได้ แต่เมื่อเขาผ่านปลาหรือฝูงปลา ก็พบว่าประสาทสัมผัสกลับชัดเจนขึ้นทันทีและยังควบคุมสภาพแวดล้อมโดยรอบได้อย่างชัดเจนอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงมั่นใจแล้วว่าการอัปเกรดของหัวใจโพไซดอน ไม่ได้เพิ่มทักษะให้กับจิตสำนึกแห่งโพไซดอนทั้งสี่ แต่เขาสามารถควบคุมจิตสำนึกแห่งโพไซดอนให้รวดเร็วขึ้นได้และควบคุมยังสภาพแวดล้อมผ่านการมองเห็นของปลาและกุ้งที่อยู่รอบๆ!
หลังจากเข้าใจเรื่องนี้แล้วฉินสือโอวก็ดีใจมากและตอนนี้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนก็มีประโยชน์เป็นอย่างมาก!
ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงในทะเล เขาทำได้เพียงแค่เคลื่อนไหวเท่านั้น ไม่สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมโดยรอบได้ ต่อให้เขาจะเจอกับสัตว์ทะเลล้ำค่าหรือสมบัติจากซากเรือในระหว่างการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว เขาก็ไม่สามารถสังเกตเห็นได้และพลาดโอกาสกับพวกมันไป
หลังจากที่ยืมการมองเห็นของปลาและกุ้งมาใช้ได้แล้ว เขาก็มีความสามารถในการควบคุมสภาพแวดล้อมรอบๆ เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
แต่จากการทดลอง เขาพบว่าความสามารถนี้เหมาะกับจิตสำนึกแห่งโพไซดอนเท่านั้น ในขณะเดียวกันจิตสำนึกแห่งโพไซดอนทั้งแปดก็มีความเร็วสูงขึ้นไปด้วยและสมองของเขาก็สามารถถ่ายทอดข้อมูลได้ทันทีจากจิตสำนึกแห่งโพไซดอน โดยผ่านการมองเห็นของปลาและกุ้ง
พูดง่ายๆ ก็คือถ้าเขาลดความเร็วลง จิตสำนึกแห่งโพไซดอนทั้งแปดก็จะเคลื่อนไปข้างหน้าช้าลง ก็เท่ากับว่าเขามีดวงตาแปดคู่และถ้าเขาเพิ่มความเร็ว เขาจะมีตาเพียงคู่เดียว และยังมีข้อดีอย่างหนึ่งก็คือเขาสามารถเปลี่ยนการมองเห็นของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนทั้งแปดได้ตลอดเวลา
สุดท้ายแล้วเขาก็ยังมีอีกหนึ่งความสามารถ แม้ว่ามันจะดูไม่สำคัญเท่าไร แต่ฉินสือโอวก็พอใจที่มีมันอยู่ เขาควบคุมจิตสำนึกแห่งโพไซดอนให้กระจายไปรอบๆ ทำให้เขาเดินเตร็ดเตร่ไปมาในฟาร์มปลาขนาดใหญ่หนึ่งรอบได้ภายในเวลาไม่กี่นาทีและความสามารถในควบคุมของเขาก็เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
สิ่งนี้มีข้อดีอีกอย่างหนึ่งคือมันคล้ายกับทักษะในเกมชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่าการวางตำแหน่งอัตโนมัติ เขาไม่จำเป็นต้องค้นหาสิ่งมีชีวิตในทะเลด้วยตัวเองอีกต่อไป เพียงแค่ใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนเดินทางออกไปและเมื่อมันพบสิ่งมีชีวิตในทะเลก็จะมองเห็นได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งเทียบเท่ากับการค้นหาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้โดยอัตโนมัติ
ฉินสือโอวออกเดินทางไปตามแนวและวนรอบฟาร์มปลาทีละรอบๆ เมื่อพบกับปลา กุ้งและปู เขาก็จะป้อนพลังโพไซดอนให้พวกมัน ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่เท่าเทียมกัน
สุดท้ายก็เพลิดเพลินจนเกินไป ฉินสือโอวเริ่มฮึกเหิมและไม่สังเกตเห็นอะไร เมื่อเขารู้สึกเหนื่อยล้า พลังทางจิตของเขาก็ถูกถอนออกไป ในขณะที่เขาฟื้นจิตสำนึกแห่งโพไซดอนคืน เขาก็รู้สึกหน้ามืดและร่างกายของเขาก็หมดแรงลงทันที!
ฉินสือโอวเข้าใจว่าครั้งนี้ตัวเองทำเกินขอบเขตมากเกินไป เขาจึงผลักวินนี่และกระซิบว่า “ขอน้ำกลูโคสให้ผมสักแก้วหน่อยสิ”
วินนี่ที่หลับไปแล้ว หลังจากถูกเขาผลักให้ตื่น เธอก็หันหน้ามาอย่างงัวเงียและถามว่า “มีอะไรเหรอที่รัก? ฉันรู้สึกเพลียเล็กน้อย โอ้ ให้ตายเถอะ! เกิดอะไรขึ้น? ทำไมคุณถึงเหงื่อออกมากขนาดนี้?”
ฉินสือโอวยิ้มเจื่อนๆ แล้วพูดว่า “ไม่มีอะไร เมื่อกี้ผมฝันร้ายน่ะ…”
วินนี่เปิดโคมไฟหัวเตียงเพื่อดูสีหน้าของเขา ก็ต้องถึงกับตกใจแล้วพูดว่า “สีหน้าของคุณดูไม่ดีเลย ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ฉันจะโทรศัพท์หาหมอโอดอม!”
………………………………………………………………