ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1456 ผู้พิชิตภูเขาน้ำแข็ง
เมื่อเห็นท่าทางขี่สโนว์โมบิลของฉินสือโอว คอร์กินและพวกก็ตัดสินไปแล้วว่าเขาเป็นพวกมือใหม่ พวกเขาหัวเราะออกมาไม่หยุด มีบางคนผิวปากออกมาแล้วพูดว่า “ไม่น่าแปลกใจเลยที่เมื่อคืนนายขี่มาชนรถลากเลื่อนหิมะของเราแม้ว่าเราจะขับช้าแล้วก็ตาม มือใหม่ นี่ไม่ใช่เรื่องน่าอาย ตอนที่ฉันพึ่งจะเล่นเจ้านี่ใหม่ๆ ฉันก็เคยชนเข้ากับรถลากเลื่อนหิมะ”
“ดอลบี ตอนนั้นนายอายุเท่าไร?” มีคนจงใจถามออกมา
ชายคนนั้นหัวเราะแล้วตอบกลับว่า “แปดขวบล่ะมั้ง? หรือว่าเจ็ดขวบนะ? แต่ตอนนั้นก็โตพอควรเลยนะ”
“น้องชายชาวอินูเปียตคนนี้ล่ะ ตอนนี้นายอายุเท่าไร? ฉันดูจากหน้าตาที่ค่อนข้างแก่ของนายแล้ว น่าจะประมาณสิบกว่าขวบใช่ไหม?”
เมื่อประโยคนั้นหลุดออกมา ทุกคนต่างพากันหัวเราะขึ้นมา แอร์แบ็คก็หัวเราะเสียงดังออกมาตามพวกเขา แบล็คไนฟ์ถลึงตามองเขาไปหนึ่งที ทำให้เขารีบก้มหน้าลง แล้วตั้งใจขับสโนว์โมบิลต่อไป
ฉินสือโอวไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาขี่มันมาจนถึงท่าเรืออย่างมั่นคง ที่นี่มีห้องพักของบริษัทท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งอยู่ การขี่เจ็ทสกีถือว่าเป็นกิจกรรมที่เป็นที่นิยมที่สุดในฤดูร้อนกิจกรรมหนึ่ง ดังนั้นทุกบริษัทจึงมีเจ็ทสกี
อุณหภูมิต่ำกว่าสิบองศา อันที่จริงแล้วตอนนี้ไม่เหมาะแก่การเล่นเจ็ทสกี แต่ฉินสือโอวไม่กลัวหนาว สำหรับเขาแล้วมหาสมุทรเป็นอ้อมกอดอันอบอุ่น การพูดแบบนี้อาจจะเกินไปหน่อย แต่อย่างไรก็ตามเป็นเพราะหัวใจโพไซดอน หลังจากที่เขาลงน้ำไป ความร้อนภายในร่างกายไม่ได้หายไปกับสายน้ำ
ดังนั้น เขาจึงไม่กลัวการกระเด็นของน้ำทะเลที่เย็นเฉียบเลยแม้แต่น้อย กลับกันเขากลัวแพ้ เพราะว่าเขาอยากเล่นตุกติก และไม่อยากโดนคำโง่ๆ พวกนั้นพูดตอกหน้า
บางคนในพวกของคอร์กินกลัวการแข่งขันแบบนี้ ทอโรผู้มากับบรรยากาศอันครึกครื้นพูดขึ้นมา “เพื่อน อากาศวันนี้ไม่ควรลงน้ำนะ พวกนายไม่กลัวป่วยหรือยังไง? หรือไม่ก็อาจจะแข็งตายได้เลยนะ ไม่น่าสมเพชไปหน่อยเหรอ? ไม่อย่างนั้น ฉันจะให้นายยืมแมวอาร์ตติกโปรครอสห้าสิบสุดที่รักของฉันเป็นอย่างไร?”
เขาชี้ไปที่สโนว์โมบิลสีเขียวดำที่ตอนนี้อยู่ใต้ขาของเขา บ่งบอกอย่างชัดเจนว่านี่คือเลขรุ่นของสโนว์โมบิล
สโนว์โมบิลสองลำนี้ดูเท่มาก ฉินสือโอวคาดว่ามันน่าจะเป็นของดีเหมือนกัน ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ทอโรก็มีเจตนาที่ดี อีกอย่างเขาแสดงท่าทีมาตลอดว่าเขาเป็นคนสนุกสนาน ฉินสือโอวไม่ได้รู้สึกคิดร้ายต่อเขา จึงพูดชมออกมาว่า “นี่เป็นรถที่ดีจริงๆ แต่ว่า….”
“แน่นอนอยู่แล้ว แมวอาร์กติกของฉันเป็นรถคนนี้เป็นหนึ่งในรถที่ดีที่สุดในอิลูลิสซัต มันติดตั้งเทคโนโลยีเทอร์โบชาร์จเจอร์เอาไว้ ทำให้การวิ่งบนหิมะนั้นเป็นไปอย่างง่ายดาย ทำให้เวลาทำท่าที่จะทะยานขึ้นง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก ฉันจะบอกนายนะ เพื่อน ที่มันสามารถทำได้ทุกอย่าง ต้องขอบคุณเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์ตหนึ่งพันห้าสิบหกซีซี นายรู้ไหมว่ามันสามารถเพิ่มแรงม้าให้ได้มากเท่าไร?”
ฉินสือโอวส่ายหัว ทอโรตบที่นั่งอย่างภาคภูมิใจพลางพูดออกมาว่า “ร้อยแปดสิบแรงม้า! สุดยอดไหมล่ะ?”
ฉินสือโอวยิ้มออกอย่างชื่นชมแล้วพูดว่า “สุดยอดจริงๆ แต่ว่า…”
ทอโรพูดต่ออีกว่า “นายรู้ว่ามันสุดยอดก็ดีแล้ว เป็นไง ใจเต้นแรงเลยใช่ไหมล่ะ? ฉันจะบอกให้นะ เห็นแก่ว่านายและฉันเป็นคนอินูเปียตเหมือนกัน ฉันถึงให้นายยืมได้ เฮ้ๆ อย่าพึ่งไปสิ นายตกลงแล้วใช่ไหม”
ตกลงก็บ้าแล้ว ทำไมเราต้องอยากถูกตราหน้าด้วยคำพวกนั้นด้วยล่ะ? ฉินสือโอวไม่พูดอะไรออกมา แต่ในใจนั้นไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาเดินตรงเข้าไปหาคนให้เช่าเจ็ทสกี
บริษัทท่องเที่ยวปกติแล้วจะไม่เตรียมเจ็ทสกีอันหรูหราอย่างเทพเจ้าสายฟ้ามืดไว้อยู่แล้ว แต่ว่าที่นี่มีเจ็ทสกีของบอมบาร์เดียร์ ฉินสือโอวจึงเลือกมันมาคันหนึ่ง เพราะอย่างไรเขาก็เป็นผู้ถือหุ้นบอมบาร์เดียร์คนหนึ่ง
คอร์กินและคนอื่นๆ ต่างพากันเลือกเจ็ทสกี เจ้าหน้าที่บริษัทท่องเที่ยวกล่าวต้อนรับเสียงหัวเราะแห้งๆ “ฟัค พวกนายเล่นกับชีวิตตัวเองรึไง อากาศแบบนี้ยังจะออกไปขี่เจ็ทสกีในทะเลอีก ผมจะว่าพวกคุณว่าอะไรดี กล้าหาญ? โง่?”
“หุบปาก ลอเรนซ์ ไม่อย่างนั้นฉันจะโยนนายลงน้ำ” คอร์กินพูดขู่ออกมา
ลอเรนซ์ไม่สนใจในคำขู่ของเขาเลยแม้แต่น้อย เขายังคงหัวเราะหึหึและพูดไร้สาระออกมาว่า “นี่เป็นการเปิดโลกของฉันจริงๆ อุณหภูมิต่ำกว่าสิบองศา ฉันว่าสมองของพวกนายต้องโดนหนอนเรือกินไปแล้วแน่ๆ เอาล่ะๆ รอฉันเอากล้องออกมาก่อน ฉันจะถ่ายรูปไว้สักหน่อย ถ้าหากว่าในอนาคตมีโอกาสเข้าร่วมการประกวดถ่ายภาพโง่ๆ ไม่แน่ว่าฉันอาจจะได้รางวัลก็ได้…”
ฉินสือโอวอดไม่ได้ที่มองไปยังคอร์กินแล้วพูดออกมาว่า “คนอย่างพวกนายที่นี่ชอบพูดมากกันนักเหรอ? บอกให้เขาหุบปากได้ไหม”
คอร์กินพูดออกมาว่า “นายไม่ได้ยินเหรอไง? ฉันบอกเขาไปแล้วว่าให้เขาหุบปาก!”
ฉินสือโอวพูดออกมาด้วยความโกรธว่า “เพราะปากของนายไม่มีประโยชน์น่ะสิ งั้นก็ชูกำปั้นขึ้นมาสิ พระเจ้าให้ปากและกำปั้นทั้งสองแก่นาย พระเจ้าไม่ได้ให้มาเพื่อเป็นของไร้ประโยชน์แบบนี้!”
คอร์กินยิ้มเย็นออกมาว่า จากนั้นก็ชี้ไปที่ชายคนนั้นพลางพูดขึ้นว่า “นายรู้ไหมว่าทำไมที่นี่ถึงมีเจ็ทสกีนับสิบคันและยังมีสโนว์โมบิลอีกหลายคัน แต่มีเขาทำงานอยู่เดียว? เพราะว่าที่ใต้โต๊ะเขามีปืนหลายสิบกระบอกน่ะสิ!”
ทั้งสองคนเถียงกันพลางก้าวขึ้นไปบนเจ็ทสกีไปด้วย คอร์กินสวมเสื้อกันหนาวตัวหนา เขาชี้ไปที่ภูเขาน้ำแข็งที่อยู่ไกลสิบกว่ากิโลเมตรแล้วพูดขึ้นว่า “เห็นภูเขาน้ำแข็งลูกนั้นไหม? ไปกลับหนึ่งรอบเป็นไง…พระเจ้าช่วย นายจะลงน้ำสภาพนี้เหรอ?”
คอร์กินหันกลับมามองแล้วร้องออกมาด้วยความตกใจ ทุกคนต่างกำลังหนาวเย็น ฉินสือโอวสังเกตเห็นว่าริมฝีปากของพวกเขากำลังถูกแช่แข็ง อุณหภูมิที่นี่ต่ำเกินไปแล้ว!
เขาถอดเสื้อคลุมออก เผยให้เห็นเสื้อขนแคลเมียร์รัดรูปสำหรับเพิ่มความอบอุ่น เนื่องจากเสื้อผ้านั้นแนบเนื้อ ทำให้เห็นกล้ามเนื้อและสัดส่วนอย่างชัดเจน ฉินสือโอวดูหล่ออย่างน่าตกตะลึงขึ้นมาทันที
หลังจากนั้นฉินสือโอวก็สวมแว่นกันแดดโบลองเพื่อป้องกันดวงตา ในที่ที่เต็มไปด้วยหิมะปกคลุมแบบนี้จู่ๆ ก็มีคนเหล็กปรากฏตัวออกมา
แต่คอร์กินและคนอื่นๆ ต่างหวาดกลัว อุณหภูมิและการแต่งกายแบบนี้ เหมือนการลงทะเลไปตายชัดๆ พวกเขาเพียงแค่ต้องการให้ฉินสือโอวและพวกเสียหน้าเท่านั้น แต่ไม่อยากให้พวกเขาต้องมาทิ้งชีวิตแบบนี้
แม้ว่ากรีนแลนด์จะเป็นประเทศที่มีกฎหมายผ่อนปรนมากที่สุดในโลก แต่การฆ่าคนก็ยังคงนำมาไปสู่การติดคุกอยู่ดี
“เพื่อน เราเลิกกันเท่านี้ไหม พวกเรามาเล่นไพ่เพื่อตัดสินใจผลแพ้ชนะดีไหม? หรือว่า พวกนายจ่ายเงินดีกว่า รถลากเลื่อนหิมะนั้นไม่ได้มีราคาอะไรเลย” ชายวัยกลางร่างสูงผิวขาวที่อยู่ข้างคอร์กินพูดออกมา
ฉินสือโอวหัวเราะออกมา เขาสตาร์ทเจ็ทสีและตะโกนออกมาว่า “เริ่มกันเถอะ ใครจะเป็นคนส่ง? ฉันอดใจไม่ไหวที่จะไปยังภูเขาน้ำแข็งลูกนั้นแล้ว!”
เขาอดไม่ไหวจริงๆ ถ้าไม่มีน้ำทะเลกระเด็นมาโดนเขาอีกล่ะก็ เขาได้แข็งตายแน่
พนักงานบริษัทท่องเที่ยวลอเรนซ์รับหน้าที่นี้ เขาวิ่งออกมาด้วยท่าทีตื่นเต้น ในมือของเขามีปืนอยู่ เขาเหนี่ยวไกขึ้นฟ้าแล้วตะโกนออกมาว่า “เริ่มได้!”
ฉินสือโอวบิดคันเร่งตลอด เนื่องจากอุณหภูมิค่อนข้างต่ำ ถ้าเครื่องยนต์ไม่ทำงานล่ะก็ เจ็ทสกีก็ไม่สามารถแล่นออกไปได้ เมื่อได้ยินเสียงปืน เขาก็รีบคลายแฮนด์เจ็ทสกีทันที จากนั้นเจ็ทสกีของเขาก็ร้องออกมาราวกับม้าป่า และพุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็ว
“บริ้นๆๆ!” เสียงเครื่องยนต์คำรามไปทั่ว น้ำทะเลกระเด็นขึ้นมาตลอดเวลา เขาเอนตัวราบไปกับเจ็ทสกี ราวกับเขาและมันรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกัน น้ำที่กระเด็นขึ้นมาล้อมรอบตัวเขาไว้ เหมือนกับว่าตอนนี้เขาไม่ได้กำลังขี่เจ็ทสกีอยู่ แต่เป็นการควบคุมคลื่นทะเลอยู่
คอร์กินสวมเสื้อกันหนาวตัวหนาอยู่ ทำให้ร่างกายของเขาดูพองลมเป็นอย่างมาก เมื่อเทียบกันแล้วดูแย่กว่าฉินสือโอวมาก
ในทะเลยังคงมีน้ำแข็งลอยอยู่ ดังนั้นจึงไม่สามารถทำความเร็วได้ แต่ฉินสือโอวได้ปล่อยจิตสำนึกแห่งโพไซดอนออกไปสองสาย เมื่อสำรวจเส้นทางข้างหน้า และเขาก็จะสามารถหาน้ำแข็งลอยน้ำเจอ หลังจากนั้นก็จะหลบหลีกมัน โดยที่ไม่ต้องลดความเร็วเครื่องลง
ภาพเหตุการณ์นี้ทำให้ผู้คนที่มองดูอยู่ที่ท่าเรือมีท่าทีตกตะลึง มีคนคนหนึ่งร้องออกมาด้วยความตกใจว่า “พระเจ้า ชายอินูเปียตคนนี้ร้ายกาจมาก เขามาจากดินแดนแห่งน้ำแข็งอย่างอาร์กติกหรือเปล่า?”
……………………………