ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 104 อานุภาพของไท้ซัวเป็นไฉน!
ตอนที่ 104 อานุภาพของไท้ซัวเป็นไฉน!
ความจริงได้พิสูจน์แล้ว ว่ามนุษย์กลตัวนี้ไม่เพียงแค่ไร้การตอบสนองต่อเคล็ดจิตไท้ซัวเป็นไฉน แม้แต่การคำนวณระดับยากก็ยังเรียกว่ากลายเป็นระดับของคนโง่ได้ เยี่ยเว่ยหมิงใช้เวลาไม่ถึงครึ่งนาทีก็คำนวณเรียบร้อยแล้ว จากนั้นร่างก็พลันพุ่งไปข้างหน้าแล้วทะยานขึ้นกลางอากาศ ใช้ท่า ‘พเนจรสุดขอบฟ้า’ แทงบนเครื่องหมายสีฟ้าขนาดเท่าหมั่นโถวตรงหน้าอกมนุษย์กล
-4430!
ภายใต้การโจมตีนี้ เกิดดาเมจมหาศาลแบบของแท้สมราคา!
ดาเมจสูงมาก แม้แต่เยี่ยเว่ยหมิงเองก็ยังคาดไม่ถึง!
อิงตามที่เขาคำนวณดาเมจของตัวเองก่อนหน้านี้ ต่อให้เป็นคริติคอลดาเมจ แต่โจมตีได้ดาเมจประมาณสองพันก็ถือว่าไม่เลวแล้ว
แต่ในความจริงกลับกลายเป็นวว่า ดาเมจเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเท่าจากที่เขาจินตนาการไว้!
สิ่งนี้กำลังบอกอะไร
สิ่งนี้กำลังบอกว่าหลังจากเขาเปิดใช้เคล็ดจิต ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือดาเมจที่เขาโจมตีจะเพิ่มขึ้นจากฐานเดิมหนึ่งเท่า!
หรือพูดได้อีกอย่างว่า เพียงโจมตีธรรมดาหนึ่งครั้ง ก็จะทำให้เกิดดาเมจสูงเทียบเท่าคริติคอลดาเมจแล้ว ส่วนคริติคอลดาเมจก็จะกลายเป็นดาเมจมหาศาลอันน่าสะพรึงยิ่งกว่าเดิม!
สมกับเป็นสุดยอดวิชา นึกไม่ถึงว่าประสิทธิภาพที่แท้จริงจะน่ากลัวขนาดนี้!
ก่อนหน้านี้เยี่ยเว่ยหมิงมอง ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ เป็นพาสซีฟสกิลที่ใช้เพิ่มพลังโจมตีและคริติคอลดาเมจ นอกจากนี้ยังใช้งานเป็นแอคทีฟสกิลที่มีเอฟเฟ็กต์เย้ยหยันดีมาก
มีเพียงสองครั้งที่เขาใช้งานสำเร็จ ครั้งแรกคือที่เกาะเขาหวังผาน เซี่ยซุนที่ถูกยั่วให้ระเบิดความสามารถทั้งหมดออกมาใช้หมัดเดียวชกกระบี่วิเศษจนแตกละเอียด แต่เขาไม่ได้เห็นว่าประสิทธิภาพที่แท้จริงของมันเป็นอย่างไร
ส่วนอีกครั้งก็คือตอนทำลายเคล็ดวิชาป้องกันตัวของอ๋าวป้าย เพียงแต่ครั้งนั้นมีโบนัสพิเศษจากการโจมตีชุดเหล็ก จึงอธิบายประสิทธิภาพของมันได้ไม่ชัดเจน
จะว่าไปแล้ว ตั้งแต่เยี่ยเว่ยหมิงได้เรียนรู้สุดยอดวิชานี้ นี่เหมือนจะเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นถึงประสิทธิภาพที่แท้จริงของมัน!
ส่วนหนิวจื้อชุนที่หลบอยู่ข้างหลังไม่ไกลและกำลังเตรียมลงมือทุกเมื่อ พอได้เห็นฉากนี้ก็ตกใจจนหุบปากไม่ลง อดอุทานไม่ได้ว่า “โอ้วแม่เจ้า ดาเมจสี่พันกว่า! นี่มันรุนแรงเกินไปแล้ว!”
ตอนนี้เขานึกเสียใจทีหลังแล้ว เสียใจที่ตัวเองเลือกใช้วิธีแบ่งสันตามไอเทมค่าผลงานเพื่อช่วงชิงป้ายอาญาสิทธิ์เข้าประตูกับเยี่ยเว่ยหมิง
ตอนนี้เยี่ยเว่ยหมิงย่อมไม่สนใจความรู้สึกของหนิวจื้อชุนอยู่แล้ว มนุษย์กลทองแดงจัดเป็นมอนสเตอร์รูปแบบพิเศษ บัฟร่างคลั่งไม่ใช่เรื่องล้อเล่น แม้จะถูกโจมตีจุดสำคัญแต่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของมัน หลังจากถูกคริติคอลดาเมจของเยี่ยเว่ยหมิง มันก็ชูสองหมัดขึ้นสูงและทุบลงมาบนศีรษะของเยี่ยเว่ยหมิงทันที
เยี่ยเว่ยหมิงที่เตรียมใจไว้ตั้งแต่แรกก้าวไปทางซ้ายเล็กน้อย ก็หลบการโจมตีครั้งนี้ได้อย่างผ่อนคลาย และตอนนี้หนิวจื้อชุนก็พุ่งเข้ามาแล้วเช่นกัน เขาใช้ท่า ‘พเนจรสุดขอบฟ้า’ โจมตีถูกซี่โครงซ้ายของมนุษย์กลทองแดงอย่างแม่นยำ แต่กลับเกิดดาเมจธรรมดาเพียงห้าร้อยแปดสิบเก้าเท่านั้น ถ้าเทียบกับการโจมตีด้วยกระบี่ของเยี่ยเว่ยหมิงก่อนหน้านี้ ก็ถือว่าห่างกันเกือบสิบเท่า!
เมื่อรู้สึกได้ถึงความหนังหนาของมนุษย์กลทองแดง หนิวจื้อชุนก็อดแขวะไม่ได้ “ข้าสงสัยว่าอาวุธในมือเจ้าเป็นอุปกรณ์ล้ำค่า หรืออาวุธเทพกันแน่ ทำไมดาเมจโหดขนาดนั้น!”
“ก็แค่ของพื้นๆ” เยี่ยเว่ยหมิงถอยกลับมาหนึ่งก้าวขณะพูด เหยียบลงบนหมัดของมนุษย์กลทองแดงที่เพิ่งทุบลงมาบนพื้นพอดี แล้วอาศัยแรงตอนอีกฝ่ายยกแขนขึ้น แทงกระบี่ไปที่ไฝสีชาดตรงหว่างคิ้วของมนุษย์กลทองแดง ทำให้มีตัวเลขคริติคอลดาเมจลอยขึ้นอีกครั้ง
-2260!
ดาเมจจากการโจมตีครั้งที่สองของเยี่ยเว่ยหมิง ไม่ได้น่ากลัวเท่าตอนใช้เคล็ดจิตไท้ซัวเป็นไฉนก่อนหน้านี้ ทว่าถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ ก็ยังน่ากลัวกว่าดาเมจของหนิวจื้อชุนหลายเท่า
เขาแตะเท้าขวาบนหน้าอกมนุษย์กลทองแดงเพื่ออาศัยแรงทะยานไปข้างหลัง ขณะหลบการโจมตีครั้งที่สองของมันได้ ในที่สุดเขาก็บอกว่า “ตรงตำแหน่งหว่างคิ้ว ท้องน้อยและหน้าอกของมนุษย์กลทองแดง จะแบ่งเป็นพื้นที่พิเศษสามสี ได้แก่สีแดง สีเหลือง สีฟ้า ถือเป็นจุดสำคัญของมัน”
และในตอนนี้เอง ในที่สุดมนุษย์กลทองแดงก็ส่งเสียงขลุ่ยสะอื้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มต่อสู้กันมา!
พรึ่บ!…
ความสามารถเฉพาะตัวของหนิวจื้อชุนก็ไม่ได้แย่เช่นกัน ท่ามกลางเสียงขลุ่ยสะอื้นบาดหู เขาพลันพุ่งตัวมาข้างหน้า ฝ่าช่องโหว่การโจมตีของมนุษย์กลทองแดง แล้วใช้กระบี่แทงบนพื้นที่สีเหลืองของท้องน้อย เกิดคริติคอลดาเมจอย่างที่คาดไว้!
-1235!
ในที่สุดก็โจมตีจนเกิดดาเมจตัวเลขสี่หลักแล้ว แต่หนิวจื้อชุนกลับดีใจไม่ออกเลย
เนื่องจากตัวเลขคริติคอลดาเมจสี่หลักของเขาขึ้นต้นด้วยเลขหนึ่ง แต่ของเยี่ยเว่ยหมิงขึ้นต้นด้วยเลขสอง ตัวเลขดาเมจของทั้งสองต่างกันเกือบหนึ่งเท่า!
ที่จริงแล้ว ตอนที่หนิวจื้อชุนกำลังแอบกลุ้มใจ เยี่ยเว่ยหมิงกลับรู้สึกทึ่งกับการโจมตีอันแข็งแกร่งของอีกฝ่ายอยู่บ้าง
ตัวเองย่อมรู้เรื่องตัวเองอยู่แล้ว ดาเมจสูงปรี๊ดของเยี่ยเว่ยหมิงเกิดจากการรวมกันของ ‘เคล็ดชำระปราณ’ เลเวลเก้า วิชา ‘หลอมกระดูกเปลี่ยนเส้นเอ็น’ เลเวลห้า ‘เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน’ เลเวลห้า นอกจากนี้ยังนับรวมโบนัสดาเมจจากสุดยอดวิชา ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ ด้วย สุดท้ายจึงสะสมเป็นค่าสเตตัสที่วิปริตแบบนี้ได้
โดยเฉพาะ ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ แบ่งเป็นเพิ่มดาเมจโจมตี 20% และคริติคอลดาเมจ 20%!
คริติคอลดาเมจที่คนอื่นโจมตีจะเพิ่มจากดาเมจเดิมสองเท่า แต่คริติคอลดาเมจของเยี่ยเว่ยหมิงกลับเพิ่มจากค่าสเตตัสพื้นฐานสองจุดสองเท่า!
ถ้าตัดโบนัสของ ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ ไป พลังโจมตีของหนิวจื้อชุนก็ไม่ได้ด้อยกว่าเขาเท่าไรนัก จะเห็นได้กว่าค่าสเตตัสพื้นฐานของเจ้าตัวเหนือกว่าพวกซานเย่ว์แน่นอน!
ภายใต้การล้อมโจมตีของสองยอดฝีมือที่ระเบิดดาเมจออกมา ค่าพลังชีวิตของมนุษย์กลทองแดงเริ่มลดลงอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาที พวกเขาก็โจมตีคร่าพลังชีวิตมนษย์กลไปแล้วหนึ่งในห้าส่วน
พอโจมตีไปเรื่อยๆ หนิวจื้อชุนก็พลันตระหนักได้ถึงปัญหาบางอย่าง
ฆ่ามอนสเตอร์มานานขนาดนี้ การโจมตีของเยี่ยเว่ยหมิงแทบจะเป็นสองเท่าของเขา แบบนี้ค่าความแค้นหลักของ BOSS ก็ย่อมไปรวมอยู่บนตัวเยี่ยเว่ยหมิงคนเดียวอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ว่าจะดูจากการคำนวณดาเมจโจมตี หรือการถูกโจมตีจากมอนสเตอร์ ค่าผลงานของเยี่ยเว่ยหมิงก็ล้วนเยอะกว่าเขา
เช่นนั้นอิงจากวิธีการแบ่งสันไอเทมตามค่าผลงานมาคำนวณหาเจ้าของป้ายอาญาสิทธิ์เข้าประตู โอกาสที่เขาจะได้ป้ายอาญาสิทธิ์ก็เป็น…
ศูนย์!
เมื่อตระหนักได้ถึงปัญหานี้ หนิวจื้อชุนก็เสนอทันทีว่า “ข้าว่านะสหายเยี่ย เพื่อความยุติธรรม พวกเราเปลี่ยนโหมดแบ่งสันไอเทมให้กลายเป็นโหมดสุ่มดีไหม”
สิ่งที่เรียกว่าโหมดแบ่งสันไอเทมแบบสุ่ม ก็คือชั่วพริบตาที่คลำศพ ของที่ดรอปจากตัวมอนสเตอร์ก็จะเข้ากระเป๋าของสมาชิกในทีมโดยการสุ่มทันที ไม่สนใจเงื่อนไขใดๆ เป็นการสุ่มอย่างแท้จริง
โหมดการแบ่งสันไอเทมประเภทนี้ ต่อให้เป็นซานเย่ว์ที่ยืนเฝ้าอยู่ข้างนอก โอกาสในการได้รับป้ายอาญาสิทธิ์เข้าประตูก็เท่ากับเยี่ยเว่ยหมิงที่ควบตำแหน่งผู้โจมตีคนแรกและผู้โจมตีหลักอยู่ดี
ที่จริงแล้ว เมื่ออยู่ภายใต้โหมดแบ่งสันไอเทมประเภทนี้ โอกาสที่หนิวจื้อชุนจะได้ป้ายอาญาสิทธิ์ก็มีเพียงหนึ่งในสามอยู่ดี แต่นี่คือโหมดแบ่งสรรไอเทมที่มีประโยชน์ต่อตัวเองมากที่สุดเท่าที่เขาจะนึกได้แล้ว
ทว่าสำหรับคำขอกะทันหันของเขานี้ เยี่ยเว่ยหมิงกลับตอบว่า “ไม่ได้!”
“นี่!” เมื่อข้อข้อเสนอถูกปฏิเสธ หนิวจื้อชุนก็หยุดโจมตีทันที “เจ้าอย่าทำเกินไปนักเลย จะดีจะร้ายข้าก็เป็นคนพบมนุษย์กลตัวนี้ เจ้าต้องให้ข้ามีหวังบ้างสักหน่อยสิ”
[ติ๊ง! เยี่ยเว่ยหมิงส่งต่อตำแหน่งหัวหน้าทีมให้คุณ คุณกลายเป็นหัวหน้าทีมแล้ว]
หลังจากโจมตีคริติคอลดาเมจอย่างไม่ตั้งใจไปอีกหนึ่งครั้ง เยี่ยเว่ยหมิงก็หลบการโจมตีกลับของมนุษย์กลทองแดง พร้อมส่งต่อตำแหน่งหัวหน้าทีมให้หนิวจื้อชุน “ถ้าเจ้าไหว เจ้าก็จัดการเลย”
เห็นได้ชัดว่าหนิวจื้อชุนก็เป็นคนที่หน้าด้านมากเช่นกัน รับสิทธิ์ของหัวหน้าทีมมาอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย “หึหึ ถ้าให้ข้าจัดการข้าก็…บัดซบ! เมื่ออยู่ในโหมดต่อสู้ ไม่มีทางเปลี่ยนโหมดการแบ่งสันไอเทมได้”
“ก็แน่นอนอยู่แล้ว…” ขณะที่โจมตีมนุษย์กลทองแดงต่ออย่างเป็นจังหวะ เยี่ยเว่ยหมิงก็กล่าวอย่างใจเย็นว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะอย่างนี้ หัวหน้าทีมจะไม่ปรับโหมดแบ่งสันไอเทมให้เป็นแบ่งโดยหัวหน้าทีมตอนที่ BOSS ใกล้จะตาย จากนั้นก็ครอบครองไอเทมทุกอย่างไว้ที่ตัวเองคนเดียวหรอกหรือ”
หนิวจื้อชุนรู้สึกขื่นขมในใจ แต่เขาก็ดันไม่มีวิธีการอื่นแล้ว
ตอนนี้เอง ในช่องทีมกลับมีเสียงของซานเย่ว์ดังขึ้นกะทันหัน [ท่าไม่ดีแล้ว!]
[คนอื่นตามมาทางนี้แล้ว ดูท่าเหมือนจะมีสิบกว่าคน ในจำนวนนั้นมีจ้างเย่ว์ที่เคยสู้กับพวกเราก่อนหน้านี้ด้วย!]