ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 222 ภารกิจถูกคนไล่สังหาร
ตอนที่ 222 ภารกิจถูกคนไล่สังหาร
ฟังก์ชันรถม้าในเกมทรงพลังมาก ไม่ว่าจะไปไกลขนาดไหน เพียงชั่วหลับตาแล้วลืมตาก็ถึงแล้ว
ถ้าวันไหนหลับตาแล้วตื่นขึ้นมาอยู่ในโลกแห่งความจริง ก็แสดงว่ายานอวกาศที่พวกเขาขึ้นมาถึงที่หมายแล้ว
หลังจากทั้งหกหลับตาและลืมตาแล้ว ก็พบว่าตัวเองออกจากเมืองสวรรค์แห่งอาณาจักรมาถึงทุ่งหญ้านอกแคว้นแล้ว แต่จุดที่พวกเขาไปถึงไม่ใช่ทุ่งหญ้า แต่เป็นเมืองขนาดใหญ่ที่สร้างอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้า…เมืองหลวง
เมืองหลวงในโลกแห่งความจริงไม่ได้อยู่บนทุ่งหญ้านอกแคว้นแน่นอน แต่แผ่นดินภาคกลางในเกมมั่นคงเหมือนถังเหล็ก ราชสำนักที่ถูกตั้งขึ้นโดยชนกลุ่มน้อยในเนื้อเรื่องหลัก ทั้งหมดถูกย้ายไปอยู่นอกแคว้นหมดแล้ว ในจำนวนนั้นแคว้นเหลียว แคว้นจิน แคว้นมองโกลล้วนถูกส่งไปอยู่บนทุ่งหญ้าที่ด่านหนานเหมินทางทิศเหนือ
ตำแหน่งของมองโกลเอียงไปทางทิศตะวันตก อยู่ใกล้กับซีอวี้และเทือกเขาคุนหลุน ดังนั้นจึงตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์กับพรรคจรัสที่ยิ่งใหญ่อยู่ที่นั่นเช่นกัน
ใช่แล้ว ในเกมตั้งค่าไว้อย่างนี้
ส่วนที่ตั้งค่าไว้จะสอดคล้องกับสภาพทางภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ การทหารและวิทยาศาสตร์หรือไม่นั้นไม่สำคัญ ถึงอย่างไรก็เป็นเพียงเกมเกมหนึ่งเท่านั้น ทั้งยังเป็นเกมที่มีฉากหลังเป็นนิยายจอมยุทธ์คุณธรรมด้วย
ในโลกของเกมที่เดิมทีก็มีฉากหลังไม่สอดคล้องกับวิทยาศาสตร์มากเท่าไรอยู่แล้ว การหลับหูหลับตาใช้วิทยาศาสตร์มาพิสูจน์บางอย่างนั้นไม่มีความหมายเลยสักนิด
ยกตัวอย่างเช่นวิชาตัวเบาทะยานบันไดเมฆาของสำนักอู่ตัง เท้าซ้ายเหยียบแล้วเท้าขวาก็เตะเดินขึ้นไป แบบนั้นไอแซก นิวตันจะไม่ว่าอะไรหรอกหรือ
จากสถานที่ที่เฉินโหย่วเหลียงให้มา หกคนนี้ต้องไปหาหลวงจีนวัดเส้าหลินคนหนึ่งนามหยวนเจินที่วัดร้างแห่งหนึ่ง
หลังจากหยวนเจินได้อ่านจดหมายแนะนำที่พวกเขานำมาแล้ว ในที่สุดก็เริ่มแจกภารกิจ เล่าประมาณว่าเดิมทีเขามาที่เมืองหลวงเพื่อสืบดูสถานการณ์ของศัตรู หวังว่าจะช่วยเหลือแคว้นได้ เมื่อครึ่งวันก่อนจู่ๆ ก็ถูกลอบสังหาร ตอนนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัส หวังว่าพวกเขาจะหาตัวคนที่ลอบสังหารตนแล้วก็กำจัดทิ้ง
เพื่อให้สะดวกในการตามหา หยวนเจินยังให้เบาะแสบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาด้วย รวมทั้งเศษผ้าบางส่วนที่ฉีกขาดออกมาตอนสู้กันก่อนหน้านี้
จะว่าไปแล้วฝีปากของเขาก็สุดยอดเช่นกัน เป็นฉากหลังภารกิจที่ธรรมดาเรียบง่ายแท้ๆ แต่เจ้าหมอนี่กลับพูดโยงไปถึงระดับความแค้นของแคว้น จากนั้นก็พูดเรื่องความแตกต่างด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของพื้นที่ ดูจากท่าทางของเขาแล้ว เหมือนอยากจะเริ่มเล่าตั้งแต่ตอนที่โลกถือกำเนิดขึ้นมาเลย
ผ่านไปอย่างนี้ ไต้ซือหยวนเจินพูดกับทั้งหกอยู่ชั่วโมงกว่า ทั้งยังพูดพล่ามต่อไปอีก ไม่แจกภารกิจให้พวกเยี่ยเว่ยหมิงเสียที
เยี่ยเว่ยหมิงกับเพื่อนร่วมทีมอีกห้าคน ตอนแรกก็ยังฟังอย่างตั้งใจ แต่ตอนหลังยิ่งพูดยิ่งออกทะเล แต่ละคนจึงเริ่มง่วงนอนโดยไม่รู้ตัว
จะว่าไปแล้ว หลวงจีนหยวนเจินคนนี้คงไม่ได้ถอดแบบมาจากพระถังซัมจั๋งหรอกใช่ไหม
อย่างไรเสียก่อนที่จะแจกภารกิจก็เป็นฝ่ายขอตัวจากไปก่อนไม่ได้ ทุกคนจึงพูดคุยกันช่องทีมเสียเลย
[เบาะแสพวกนี้ชัดเจนมาก ขอเพียงค้นหาไปเรื่อยๆ ตามเบาะแส ก็จะเจอมือสังหารนั่นที่วัดร้างอีกแห่งในเมืองแล้ว เขาก็คือหลวงจีนไว้ผมที่ข้าเอ่ยถึงก่อนหน้านี้นั่นเอง]
ขณะที่ทุกคนกำลังฟังหยวนเจินพูดพล่าม ฉางซิงอวี่ในฐานะ ‘ผู้ที่อาบน้ำร้อนมาก่อน’ ก็ย่อข้อมูลเป็นเวอร์ชั่นอ่านง่ายให้ทุกคนในทีมอ่าน
หากเทียบคำพูดของเขากับคำบรรยายที่สมจริงของหยวนเจิน ก็ทำให้คนรู้สึกว่าเกมกำลังร้องงิ้ว แต่ของฉางซิงอวี่กลับประหยัดแรงไปเยอะมากเพราะเลือกพูดเฉพาะข้อมูลสำคัญท่ามกลางคำพูดไร้สาระมากมาย [ที่จริงแล้ว ในฐานะที่เป็นภารกิจหมุนเวียน การหาเบาะแสอะไรนั่นไม่ใช่กุญแจสำคัญของภารกิจนี้เลย วิธีการที่สะดวกที่สุดก็คือ ไปซื้อสุนัขล่าสัตว์ตัวหนึ่งที่ตลาดนัดฝั่งตะวันออก แล้วให้มันดมกลิ่นจากเศษผ้าที่ได้มา]
[แต่พวกเราไม่ต้องทำอย่างนั้นแล้ว ข้ารู้ว่าหลวงจีนไว้ผมอยู่ที่ไหน ไปที่นั่นทันทีเลยก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นภารกิจของทีมละกี่คน แต่ที่ซ่อนตัวของเจ้านั่นก็ไม่เคยเปลี่ยนเลย]
หนิวจื้อชุนที่อยู่อีกฝั่งพูดต่อจากเขาทันที [ถึงอย่างไรก็เป็นเกมยอดยุทธ์คุณธรรม จุดที่ยากและจุดที่สำคัญของภารกิจไม่ได้อยู่ที่การไขปริศนาและการตามหาคนแน่นอน การต่อสู้ต่างหากที่เป็นหัวข้อสำคัญที่แท้จริง]
ฉางซิงอวี่พยักหน้า [แม้จะไม่รู้ขั้นตอนของภารกิจโดยละเอียด แต่ข้าก็ได้ยินว่าขั้นตอนภารกิจทางฝั่งหลวงจีนไว้ผมง่ายกว่านิดหน่อย เพียงแต่ในระหว่างนั้นถ้าเป็นช่วงที่เกี่ยวกับการต่อสู้จะค่อนข้างยาก ยกตัวอย่างเช่นภารกิจในช่วงสุดท้าย เขาก็จะบอกผู้เล่นโดยตรงเลยว่าคนที่ต้องการสังหารก็คือหยวนเจิน ทั้งยังให้ตำแหน่งที่อยู่ของหยวนเจินมาด้วย นอกจากการต่อสู้แล้ว ขั้นตอนที่เหลือก็เป็นโหมดคนโง่หมด]
[ติ๊ง! ทีมของคุณได้รับภารกิจ ‘ลงโทษมือสังหาร’ เรียบร้อยแล้ว กรุณาตามหามือสังหารที่มีเจตนาลอบสังหารไต้ซือหยวนเจิน]
เมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนที่ชัดเจนของระบบ ทุกคนก็ดึงความสนใจกลับมาอยู่กับความจริงทันที ต่างคนต่างรีบเปิดหน้าภารกิจของตัวเองเพื่อดูข้อมูลตัวละคร
[ลงโทษมือสังหาร]
ไต้ซือหยวนเจินที่มาสืบข่าวของศัตรูแคว้นที่มองโกลถูกคนชั่วลอบสังหาร ในฐานะวีรบุรุษ ได้เวลาลงโทษคนชั่วกำจัดคนร้ายแล้ว!
กรุณารีบหาเบาะแส เมื่อหาพบแล้วกำจัดมือสังหารที่มีเจตนาสังหารไต้ซือหยวนเจิน
ระดับภารกิจ: 7 ดาว
ระยะเวลาภารกิจ: 1 ชั่วยาม (1:58:21)
รางวัลภารกิจ: ค่าประสบการณ์ 500000 แต้ม ค่าตบะ 100000 แต้ม ทักษะยุทธ์ที่เลเวลต่ำกว่าเจ็ดจะได้เพิ่มเลเวลหนึ่งเลเวล!
(หมายเหตุ: มือสังหารคนนี้ทักษะยุทธ์สูงส่งทรงพลัง ต่อให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ยังอันตรายถึงขีดสุด โปรดทำงานอย่างระมัดระวัง)
เมื่อเห็นคำแนะนำของภารกิจ ทุกคนก็หันไปมองฉางซิงอวี่พร้อมกัน เหมือนกำลังถามว่า นี่น่ะหรือที่เจ้าบอกว่าระดับภารกิจอาจจะสูงถึงห้าดาว หรือ ‘ถึงขั้น’ หกดาว
ฉางซิงอวี่ถูกทุกคนมองจนหน้าแดงเรื่อ อธิบายอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า “ถ้าเองก็วิเคราะห์จากข้อมูลที่รู้มาไม่เยอะ ข้าว่าข้อมูลภารกิจแม่นยำกว่า”
“อมิตตาพุทธ!” ตอนนี้หยวนเจินที่เป็นคนแจกภารกิจประนมมือแล้ว จากนั้นโน้มน้าวพวกเขาอย่างเป็นทางการว่า “การเดินทางครั้งนี้อันตราย หวังว่าจอมยุทธ์น้อยทุกท่านจะระวังตัวเอาไว้ อาตมาร่างกายบาดเจ็บ ทำได้เพียงอวยพรให้จอมยุทธ์น้อยทั้งหกมีโชคในการรบ ความสำเร็จมาเยือนโดยเร็ว!”
ตอนทุกคนออกจากวัดร้าง ถังซานไฉ่กลับยิ้มเจื่อน เตะก้อนหินที่อยู่ข้างเท้าไปไกลแล้วกล่าวอย่างหงุดหงิดว่า “ภารกิจที่คนอื่นได้คือสามดาว สี่ดาว พอมาถึงพวกเราก็กลายเป็นเจ็ดดาวเลย ขอถามหน่อย ในบรรดาพวกเจ้ามีใครเคยทำภารกิจเจ็ดดาวหรือเปล่า รู้หรือเปล่าว่าศัตรูที่พวกเรากำลังจะเผชิญหน้ามีเลเวลอย่างน้อยเท่าไร”
“ภารกิจเจ็ดดาวข้าไม่เคยทำ เคยทำแค่ภารกิจหกดาว” น้องดาบที่ตามอยู่ข้างหลังเดินออกมาแล้วบอกว่า “ภารกิจสั่งให้ข้าท้าสู้ตัวต่อตัวกับบอสโหมดภารกิจเลเวลสามสิบ”
ทุกคนได้ยินแล้วโล่งอกพร้อมกัน แล้วก็ได้ยินน้องดาบพูดต่อว่า “จำได้ว่าตอนนั้นข้าเพิ่งออกจากหมู่บ้านมือใหม่ได้ไม่นาน เลเวลแค่สิบหกเอง ทักษะก็มีนิดเดียว ทั้งยังเลเวลต่ำมากด้วย ตอนเผชิญหน้ากับบอสเลเวลสามสิบ สู้กันขึ้นมาก็เปลืองแรงมาก! สู้กับเจ้าหมอนั่นไปเกือบครึ่งชั่วโมง ถึงได้ดันทุรังทำให้เขาตายได้”
พอพูดถึงตรงนี้ น้องดาบก็ยักไหล่ “เพราะภารกิจนั้นค่อนข้างยากลำบาก ตอนนี้ข้าก็เลยยังจดจำได้เหมือนเพิ่งเกิดขึ้นใหม่ บอสนั่นชื่อว่าเถียนกุยหนง”
เดิมทีถังซานไฉ่ก็แค่บ่นไปอย่างนั้นเอง แต่กลับนึกไม่ถึงว่าในทีมจะมีคนให้คำตอบได้จริงๆ
เพียงแต่คำตอบนี้สู้ไม่ฟังยังดีกว่า เพราะมีแต่จะทำให้เขารู้สึกสิ้นหวังยิ่งกว่าเดิม
ให้ผู้เล่นเลเวลสิบหกไปท้าสู้บอสเลเวลสามสิบ นี่เป็นเรื่องที่มนุษย์ทำไหวหรือ
ถังซานไฉ่หันไปมองเยี่ยเว่ยหมิง หวังว่าจะได้รับคำปลอบโยนจากสหายที่มีความสามารถรอบด้านคนนี้สักหน่อย ทว่าเยี่ยเว่ยหมิงกลับเข้าใจผิด จึงเล่าประวัติการทำภารกิจของตัวเองทันที
“ข้าเองก็ไม่เคยทำภารกิจเจ็ดดาวเช่นกัน แต่ภารกิจหกดาวเคยทำเพียงสองครั้ง หนึ่งในคู่ต่อสู้ก็คืออวี๋ชางไห่โหมดปกติเลเวลเจ็ดสิบกว่า ส่วนอีกภารกิจก็คือเหมยเชาเฟิง ซึ่งข้ามองไม่เห็นเลเวลของนาง”
ถังซานไฉ่ได้ยินแล้วทั้งตัวตกอยู่ในความสิ้นหวัง “ดูท่าแล้ว ระบบคงตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะไม่ให้ข้าเปลี่ยนชื่อ ทุกคนลองบอกมาหน่อยว่าภารกิจนี้ของพวกเรายังจำเป็นต้องทำต่อไหม”
ตอนนี้เยี่ยเว่ยหมิงก็ถอนหายใจเฮือกหนึ่งเช่นกัน แล้วกล่าวขออภัย “จะจำเป็นหรือไม่ ข้าเองก็ไม่สะดวกจะพูดอะไร ทุกคนไปดูก่อนแล้วค่อยตัดสินใจเถอะ”
ขณะที่พูด ก็จับภาพข้อมูลภารกิจส่งไปในช่องทีม
[ต่อต้านการไล่สังหาร]
เนื่องจากคุณได้สุดยอดวิชาอันโด่งดังของเฉิงคุน ‘เคล็ดวิชาจักรวาล’ มาจากราชสีห์ขนทองหวังเซี่ยซุน เฉิงคุนจะส่งผู้เล่นคนหนึ่งมาไล่ฆ่าคุณ กรุณามีชีวิตอยู่ต่อไปขณะที่ถูกไล่ฆ่า หรือไม่ก็ฆ่าอีกฝ่ายให้ตาย ทำให้ภารกิจของอีกฝ่ายล้มเหลว
ระดับภารกิจ: ห้าดาว
ระยะเวลาภารกิจ: 1 วัน (23:59:50)
รางวัลภารกิจ: เพิ่มเลเวล ‘เคล็ดวิชาจักรวาล’ 1 เลเวล
บทลงโทษภารกิจ: ‘เคล็ดวิชาจักรวาล’ จะหายไปจากคอลัมน์สกิลของคุณ กลายเป็นรางวัลตำราลับดรอปให้กับผู้ที่ไล่ฆ่าคุณสำเร็จ
(หมายเหตุ: ในระยะเวลาภารกิจ ผู้ไล่สังหารจะรู้พิกัดของคุณแบบเรียลไทม์ และคุณก็จะไม่ได้รับรองความปลอดภัยใดๆ ในระหว่างภารกิจ โดยสารรถม้าไม่ได้)