ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 343 BOSS โหมดปกติ เหลียงจื่อเวิง
ตอนที่ 343 BOSS โหมดปกติ เหลียงจื่อเวิง
[ติ๊ง! คุณเข้าสู่แผนที่พิเศษ ‘จวนท่านอ๋องจ้าว’ แล้ว กรุณาช่วยกัวจิ้งกับหวงหรงหายามารักษาหวังชู่อี]
[ติ๊ง! กัวจิ้งกับหวงหรงตัดสินใจแยกกันปฏิบัติการ กัวจิ้งไปขโมยยาที่ห้องยา หวงหรงไปแอบฟังแผนลับของชาวแคว้นจิน ปฏิบัติการทั้งสองฝั่งล้วนอันตราย กรุณารีบไปช่วยเหลือ]
เมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนของระบบ น้องดาบก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ “เพิ่งพูดไปไม่กี่คำ NPC สองคนนี้ก็เริ่มลงมือเองโดยไม่ปรึกษาใครแล้วหรือ”
“ข้าว่าก็ไม่แน่หรอก!” ตอนนี้อินปู้คุยส่ายหน้า “ตามที่บรรยายไว้ในต้นฉบับเดิม หลังจากพวกเขารู้ถึงสถานการณ์ในจวนท่านอ๋องดีแล้วถึงเริ่มปฏิบัติการ ใช้เวลาไม่น้อยแน่นอน ข้าเดาว่าระบบอาจจะข้ามฉากก่อนหน้านี้ไป ตัดเข้าสู่ช่วงสู้กับ BOSS โดยตรงเลยกระมัง”
ตอนนี้สะพานสวรรค์น้อยที่อยู่ข้างๆ ก็บอกเช่นกันว่า “จะว่าไปแล้ว แผนที่จวนท่านอ๋องก็เป็นจุดที่สว่างแล้วนะ”
ทุกคนได้ยินแล้วเปิดดูแผนที่ย่อยของตัวเองทันที พบว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ แผนที่ทั้งจวนท่านอ๋องจ้าวถูกทำสัญลักษณ์เอาไว้ชัดเจน ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาสำรวจเส้นทางเลย
เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วขมวดคิ้ว “แย่แล้ว! เลือดงูของข้ากำลังจะหายไปแล้ว!”
เพื่อนในทีมได้ยินแล้วหันไปมองเขาพร้อมกัน กลับเห็นเขาทำสีหน้าเคร่งขรึมที่สุด “ในเนื้อเรื่องต้นฉบับเดิม ฉากกินเลือดงูในจวนท่านอ๋องจ้าวคือจุดเปลี่ยนสำคัญของกัวจิ้ง เลือดงูทำให้เขามีกำลังภายในเพิ่มขึ้นเยอะมากภายในเวลาอันสั้น นี่คือพื้นฐานสำหรับการฝึกสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรต่อไป…
…ระบบต้องป้องกันไม่ให้ผู้เล่นที่บุกด่านครั้งแรกคิดทำลายโอกาสนี้แน่ ดังนั้น…ตอนนี้งูเหลือมของข้าคงอยู่ในท้องกัวจิ้งไปแล้ว!”
น้องดาบได้ยินแล้วคิดว่าที่เยี่ยเว่ยหมิงพูดก็มีเหตุผลเหมือนกัน จึงถามอย่างกังวลว่า “เช่นนั้นพวกเราควรจะทำอย่างไรดี”
“ข้าแนะนำให้แยกกันลงมือ ผู้หญิงไปคอยช่วยหวงหรง ส่วนผู้ชายตามข้าไปช่วยกัวจิ้ง แน่นอนว่าเรื่องราวอาจไม่ได้แย่เหมือนที่ข้าคิดไว้ ไม่แน่ว่าพญางูเหลือมของข้าอาจยังมีชีวิตอยู่ดี กำลังรอให้ข้านำมันกลับบ้านก็ได้” เยี่ยเว่ยหมิงกล่าวเสียงต่ำ
น้องดาบได้ยินแล้วเถียงทันที “ทำไมไม่พาข้าไปหางูด้วยกัน เจ้าจะไปต่อสู้เหรอ”
เยี่ยเว่ยหมิงหันไปมองน้องดาบ แล้วถามกลับด้วยความสงสัย “ถ้าอยากจะให้งูตัวนั้นแสดงประโยชน์ได้มากที่สุด ก็ต้องจับมันมาเป็นๆ แล้วค่อยนำกลับไปปรุง”
“เจ้าจับงูเป็นด้วยหรือ”
น้องดาบเงียบไปสองวินาที จากนั้นจูงมือสะพานสวรรค์น้อยเดินไปทางโถงจัดงานเลี้ยง “พวกเราไปกันเถอะ”
……
ในจวนท่านอ๋องย่อมมีทหารยามลาดตระเวนอยู่ไม่น้อย
เพื่อหลีกเลี่ยงการแหวกหญ้าให้งูตื่น เยี่ยเว่ยหมิงไม่รีบเก็บเกี่ยวค่าประสบการณ์ในการเคลื่อนไหวเช่นกัน เขาวิ่งผ่านหลังคาไปตลอดทางอย่างผ่อนคลาย หลบทหารยามทุกคนได้อย่างแยบยลจนกระทั่งถึงห้องยา
การเคลื่อนไหวของเขาจะเรียกว่าไม่เร็วก็ไม่ได้ แต่สุดท้ายก็ยังช้าไปหนึ่งก้าวอยู่ดี ตอนที่เขา อินปู้คุยและเซียวเหยาถอนใจมาถึงห้องยา ก็เห็นปากกัวจิ้งเต็มไปด้วยเลือดงูแล้ว ตอนนี้กำลังผลักศพของงูใหญ่สีแดงออกจากร่างตัวเอง
เป็นอย่างที่คิดไว้ ระบบป้องกันไม่ให้ผู้เล่นทำลายวาสนาของกัวจิ้ง ไม่น่าเชื่อว่าจะเร่งความเร็วของเนื้อเรื่องอย่างไร้ยางอาย!
เยี่ยเว่ยหมิงเห็นแล้วโมโห โมโหจนดึงศพของพญางูขึ้นมาจากพื้นแล้วโยนเข้ากระเป๋าตัวเองเสียเลย
[พญางูเกล็ดแดง] งูโอสถที่เฒ่าประหลาดเซียนโสมเหลียงจื่อเวิงเลี้ยงมายี่สิบปี หากกินเลือดของมันจะ จะได้ผลเสริมรากฐานและบ่มเพาะจิตใจ พลังเพิ่มขึ้นเยอะมาก ตอนนี้เลือดงูถูกดูดจนแห้ง สรรพคุณลดลงเยอะมาก
สรรพคุณลดลงเยอะมาก ก็แสดงว่ายังมีสรรพคุณหลงเหลืออยู่
เมื่อเห็นข้อมูลแนะนำของพญางูเกล็ดแดง อารมณ์กลัดกลุ้มของเยี่ยเว่ยหมิงถึงได้ผ่อนคลายลงบ้างนิดหน่อย
ตอนนี้เอง กลับได้ยินกัวจิ้งเอ่ยว่า “เมื่อครู่มีคนหนีออกไปจากที่นี่ ร่องรอยของพวกเราคงถูกเปิดโปงแล้ว ตอนนี้ข้าต้องไปช่วยท่านลุงมู่กับแม่นางมู่ที่ถูกชาวแคว้นจินขังไว้อีก เรื่องจัดยาตามใบสั่งต้องรบกวนพวกจอมยุทธ์น้อยน้อย” ขณะที่พูด กัวจิ้งก็นำสูตรยาแผ่นหนึ่งออกมาจากหน้าอกตัวเอง แล้วส่งให้ตรงหน้าผู้เล่นทั้งสาม
[ติ๊ง! ปลดล็อคภารกิจย่อย ‘จัดยา’]
[จัดยา]
จัดยาตามใบสั่ง
ระดับภารกิจ: 1 ดาว
รางวัลภารกิจ: ค่าประสบการณ์ 1000 แต้ม ค่าตบะ 100 แต้ม
หมายเหตุ: ปฏิบัติการของพวกคุณถูกเปิดโปงแล้ว กรุณารีบจัดยา ยิ่งเร็วเท่าไรก็ยิ่งดี!
……
ยังมีภารกิจย่อยแบบนี้อยู่ด้วย?
เยี่ยเว่ยหมิงเกิดความคิดบางอย่าง เขารับสูตรยามาจากมือกัวจิ้ง “ให้ข้าจัดการแล้วกัน” พูดจบก็ถลันตัวไปตรงหน้าชั้นยาทันที
และในหน้าภารกิจของเขาตอนนี้ ก็มีสัญลักษณ์เวลานับถอยหลังแล้ว : 0:05:00
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็รบกวนจอมยุทธ์น้อยเยี่ยด้วยแล้วกัน เรื่องนี้ชักช้าไม่ได้ ข้าจะรีบไปช่วยท่านลุงมู่” กัวจิ้งพูดจบก็พุ่งตัวออกจากห้องยาโดยไม่หันกลับมา
เมื่อเยี่ยเว่ยหมิงเห็นสถานการณ์ดังนั้น ก็ส่งสายตาให้อินปู้คุยและเซียวเหยาถอนใจ “พวกเจ้าไปช่วยจอมยุทธ์น้อยกัวเถอะ”
กัวจิ้งเป็นตัวละครหลักของเนื้อเรื่อง ตรงไหนที่มีเขาอยู่ก็ย่อมมีปัญหาอยู่แล้ว และเมื่อมีปัญหา ก็หมายความว่ามีภารกิจ หมายความว่ามี BOSS หมายความว่ามีโอกาสและวาสนา
ภารกิจทางฝั่งนี้เยี่ยเว่ยหมิงจัดการเองได้ ไม่จำเป็นต้องใช้กำลังคนสามคน
“รับทราบ!” สำหรับการแบ่งงานของเยี่ยเว่ยหมิง ทั้งสองย่อมไม่มีความเห็นต่างอยู่แล้ว แต่ตอนที่พวกเขาเดินไปถึงประตูห้องยา กลับหยุดเดินพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
อินปู้คุยกล่าวอย่างไม่พอใจว่า “ระบบบอกว่าพวกเรายังจัดยาไม่สำเร็จ ออกจากห้องยาไม่ได้”
พอได้ยินอินปู้คุยกล่าวดังนั้น เยี่ยเว่ยหมิงก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้คิดถึงรายละเอียดมากนัก เริ่มจัดยาต่อทันที แต่ใครจะคิดว่าหลังจากเขาเปิดลิ้นชักที่ใส่ยาแล้ว กลับหลุดปากด่าเสียงดัง “บัดซบ! ฉลากยาที่ติดไว้บนชั้นยามันผิดนี่นา หน้าเนื้อใจเสือเกินไปแล้ว!”
พอได้ยินเยี่ยเว่ยหมิงพูดแบบนี้ อินปู้คุยที่อยู่ข้างหลังก็ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “สหายเยี่ยรู้ได้อย่างไรว่าฉลากยาพวกนั้นติดผิด”
เขาจำได้ว่าตามต้นฉบับเดิมไม่ได้เกิดเรื่องวุ่นวายอย่างนี้ขึ้น!
เยี่ยเว่ยหมิงรีบรื้อค้นวัตถุดิบยาบนชั้นยาตามใบสูตรยา พร้อมตอบว่า “ข้าเคยเรียนวิชาแพทย์มาก่อน เจ้าคิดเสียว่าเป็นเรื่องล้อเล่นแล้วกัน เดิมทีการจำแนกยาก็เป็นหนึ่งในวิชาพื้นฐานของทักษะแพทย์อยู่แล้ว”
เซียวเหยาถอนใจที่อยู่อีกด้านถามกลับเพราะไม่เข้าใจ “เช่นนั้นหากพวกเราสามคนจำแนกยาไม่เป็นเลย ภารกิจนี้ก็จะค้างอยู่ตรงนี้อย่างนั้นหรือ”
ตอนนี้เอง เยี่ยเว่ยหมิงเจอน้ำดีหมีซึ่งเป็นหนึ่งในวัตถุดิบยาที่อยู่ในสูตรแล้ว หลังจากเก็บมันเข้ากระเป๋า ก็อธิบายต่อว่า “ตัวอักษรบนฉลากยาบนตู้แม้จะไม่ถูกต้อง แต่หากเจ้านำวัตถุดิบยาห่อไว้แล้ว ก็จะเห็นข้อมูลของยาได้…
…ดังนั้น ต่อให้คนที่ไม่รู้เรื่องยามาจัดยาก็ไม่ใช่ปัญหา เพียงแต่ถ้าคิดจะห่อยาทั้งหมดภายในเวลาห้านาที นั่นคือเรื่องที่ไม่มีทางทำได้”
เซียวเหยาถอนใจได้ยินแล้วงง “ห้านาที”
ฟึ่บ…ปั้ง!
หลังจากดึงลิ้นชักยาออกมาแล้วพบว่าในนั้นไม่ใช่วัตถุดิบยาที่อยู่ในสูตร เยี่ยเว่ยหมิงก็ปิดอย่างไม่ใส่ใจอีกครั้ง จากนั้นเปิดลิ้นชักถัดไป ทำซ้ำแบบนี้หลายรอยราวกับเป็นกลไก พร้อมบอกว่า “หลังจากข้ารับภารกิจจัดยามาแล้ว หน้าภารกิจของข้าก็ขึ้นเวลานับถอยหลัง แม้จะไม่รู้รายละเอียดว่าหมายถึงอะไร แต่ถ้าทำภารกิจให้สำเร็จได้ตามเวลา ก็ต้องเป็นเรื่องดีอยู่แล้ว”
เยี่ยเว่ยหมิงเคลื่อนไหวเร็วมาก จะเป็นวัตถุดิบยาตามที่ต้องการในใบสูตรยาหรือไม่ เขามองปราดเดียวก็แยกออกแล้ว นี่ก็เป็นความสามารถอย่างหนึ่งที่เพิ่มขึ้นตามเลเวลทักษะการแพทย์เช่นกัน พอเปิดเจอลิ้นชักยาผิดก็ปิดทันที จะเสียเวลาห่อยาที่ถูกต้องเท่านั้น ใช้เวลาไปประมาณสองนาที เยี่ยเว่ยหมิงก็จัดวัตถุดิบยาทั้งหมดครบแล้ว
เขานำวัตถุดิบยาที่ห่อแล้วยัดเข้ากระเป๋าอีกครั้ง แล้วเสียงแจ้งเตือนภารกิจสำเร็จก็ดังตามมา
[ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณทำภารกิจย่อย ‘จัดยา’ สำเร็จ ได้รับรางวัล: ค่าประสบการณ์ 1000 แต้ม ค่าตบะ 100 แต้ม กรุณารีบไปรวมตัวกับกัวจิ้ง! 0:02:55]
ไม่น่าเชื่อว่ายังนับเวลาถอยหลังอยู่อีก
เยี่ยเว่ยหมิงไม่คิดว่าช่วงเวลานี้กัวจิ้งจะดำเนินเนื้อเรื่องไปจนถึงตอนช่วยคนสำเร็จ อย่าบอกนะว่าการนับถอยหลังยังมีความหมายแฝงอย่างอื่นอยู่ด้วย
เรื่องราวเปลี่ยนแปลงตามที่เยี่ยเว่ยหมิงคาดเดาไว้จริงๆ
ทั้งสามเพิ่งเดินออกจากห้องยา ก็ได้ยินเสียงต่อสู้ดังมาจากทางเดินตรงหน้าแล้ว พวกเขารีบใช้ท่าร่างตามไปดูทันที แต่กลับเห็นกัวจิ้งกำลังถูกคนจับกดรังแกอยู่บนพื้น
คู่ต่อสู้ของเขารูปร่างสมส่วน ผมขาวราวกับเงิน ใบหน้าเกลี้ยงเกลา ราวกับคนหน้าเด็กที่มีผมขาว ท่าทางกระฉับกระเฉง สวมชุดคลุมยาว การแต่งตัวก้ำกึ่งระหว่างนักพรตกับคนธรรมดา เขาก็คือเฒ่าประหลาดเซียนโสม เหลียงจื่อเวิง ซึ่งเคยเจอกันแล้วในงานประลองยุทธ์เลือกคู่ครั้งนั้น
ทว่าเลเวลที่แสดงอยู่เหนือศีรษะของเขาตอนนี้กลับเป็น
[เหลียงจื่อเวิง]
ฉายาเฒ่าประหลาดเซียนโสม หนึ่งในห้ายอดฝีมือของจวนท่านอ๋องจ้าว
เลเวล: 66
พลังชีวิต: 220000/220000
กำลังภายใน: 70000/70000
……
ถ้าไม่อย่างนั้นจะบอกได้อย่างไรว่าการต่อสู้ระหว่าง NPC มักสูสีกันเสมอ
สู้กันนานขนาดนี้ เหลียงจื่อเวิงไม่เพียงแค่พลังชีวิตไม่ลงลดเลยสักนิด แม้แต่กำลังภายในก็ยังรักษาไว้เต็มเหมือนเดิม
สถานการณ์ทางฝั่งกัวจิ้งก็เช่นกัน ดูเหมือนอันตรายมาก แต่ความจริงค่าพลังชีวิตยังเต็มอยู่ ต้องรอให้ผู้เล่นเข้าไปร่วมต่อสู้ด้วยถึงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น
หากเทียบเฒ่าประหลาดเซียนโสมตอนนี้กับตอนเจอที่งานประลองยุทธ์เลือกคู่ ไม่น่าเชื่อว่าเลเวลจะสูงขึ้นสิบเลเวล ทั้งยังดูโมโหเป็นพิเศษด้วย เขากำลังไล่โจมตีกัวจิ้งพร้อมตะโกนประมาณว่า “เอาเลือดงูของข้าคืนมา”
หลายครั้งที่เขาเป็นฝ่ายได้เปรียบ แต่แทนที่จะรีบลงมือสังหาร กลับทำตัวเหมือนผีดูดเลือด จ้องแต่จะกัดคอกัวจิ้ง ให้โอกาสว่าที่จอมยุทธ์กัวผู้ยิ่งใหญ่ของพวกเราหนีรอดได้หลายครั้ง
เมื่อเห็นเหตุการณ์ดังนั้น อินปู้คุยที่อยู่ข้างๆ ก็หลุดขำ “เขาไม่เห็นศพงูเสียหน่อย ทำไมเอาแต่บอกว่ากัวจิ้งดื่มเลือดงูของเขาอยู่ได้ เหมือนไม่ลงไพ่ตามกติกา จะวางกับดักแฟนนิยายต้นฉบับอย่างพวกเราให้ได้เลย!”
เยี่ยเว่ยหมิงพยักหน้าเล็กน้อย “หน้าภารกิจของข้าไม่มีนับถอยหลังแล้ว เกรงว่าในนั้นคงมีรายละเอียดอีกอย่าง”
ระหว่างที่ทั้งสองถามตอบกัน เสียงแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้นข้างหูทั้งสามพร้อมกัน
[ติ๊ง! กัวจิ้งที่เพิ่งกินเลือดงูเจอเหลียงจื่อเวิงโจมตี ชีวิตตกอยู่ในอันตราย คุณจะเลือก?]
1. ช่วยกัวจิ้งโจมตีเหลียงจื่อเวิงให้ถอยกลับไป
2. สกัดหลังแทนกัวจิ้ง ถ่วงเวลาเหลียงจื่อเวิงไว้
หมายเหตุ: ตอนนี้เหลียงจื่อเวิงเป็น BOSS ร่างแท้โหมดปกติ ความสามารถเหนือกว่า BOSS โหมดภารกิจ กรุณาเลือกด้วยความระมัดระวัง
ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็น BOSS ร่างแท้โหมดปกติ!
หลังจากได้ยินระบบแจ้งเตือน เยี่ยเว่ยหมิงก็ตาเป็นประกายทันที “ในที่สุดข้าก็รู้แล้วว่าระบบนับถอยหลังหมายความว่าอะไรกันแน่! หึหึ เหลียงจื่อเวิงโหมดปกติ ไม่รู้ว่าจะสร้างความประหลาดใจอะไรให้ข้า”
ขณะที่พูด เยี่ยเว่ยหมิงก็เลือก ‘2’ อย่างไม่ลังเล จากนั้นนำกระบี่แสงทองออกมา แล้วกระดกนิ้วมือข้างซ้าย “จอมยุทธ์น้อยกัว ส่งเฒ่าประหลาดเซียนโสมคนนี้ให้พวกเรา เจ้ารีบไปช่วยคนเถอะ”