ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 442 ยอดฝีมือ
ตอนที่ 442 ยอดฝีมือ
เมื่อทุกคนเห็นอย่างชัดเจนว่าสามคนโฉดไม่ได้อยู่สถานการณ์ที่ดีนัก ในบรรดาห้าคนที่อยู่ตรงนั้น ที่จริงแล้วเยี่ยเว่ยหมิงคือคนที่กลุ้มใจที่สุด
ที่จริงแล้ว สหายร่วมรบอีกสามคนในทีมอยู่ในระยะห่างค่อนข้างไกล ไม่ได้มีความเข้าใจโดยตรงต่อพลังต่อสู้ของเชิญร่ำสุรา ส่วนความสามารถต่างๆ ที่อีกฝ่ายแสดงออกมาตอนยังใช้ชื่อชีชี ก็ยิ่งเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น
กล่าวได้ว่าพวกเขาไม่ได้มองเห็นความสำคัญของเชิญร่ำสุราอย่างที่ควรจะเป็นเลย ขนาดเห็นสามคนโฉดเกิดปัญหาแล้ว ก็ยังไม่ตระหนักถึงความร้ายแรงของปัญหาจริงๆ เลยสักนิด
มีเพียงเยี่ยเว่ยหมิง เขาเป็นเพียงคนเดียวในทีมที่เคยสู้กับเชิญร่ำสุราก่อน และไม่ใช่แค่ครั้งเดียว จึงรู้อย่างลึกซึ้งว่าอีกฝ่ายรับมือยากขนาดไหน
พูดถึงการต่อสู้ในภารกิจ ‘ปราบสำนักชิงเฉิง’ ครั้งนั้น แม้เยี่ยเว่ยหมิงเป็นฝ่ายชนะ แต่ที่จริงแล้วครั้งนั้นทั้งสองฝ่ายไม่ได้เท่าเทียมกัน
ตอนนั้นฝั่งเยี่ยเว่ยหมิงมีราชสำนักหนุนหลังอย่างแน่นหนา ประกอบกับวางแผนต่างๆ ล่วงหน้าไว้ก่อน กล่าวได้ว่าได้เปรียบทั้งเรื่องเวลา สถานที่และกำลังคน การระดมกำลังและไพ่ลับที่เป็นประโยชน์มีเยอะมาก แค่คู่ต่อสู้ที่จับอวี๋ชางไห่แขวนโจมตีได้ ก็มีไม่ต่ำกว่าหกคนแลัว!
ได้เปรียบขนาดนี้จะแพ้ได้อย่างไร
ย้อนกลับมาดูทางฝั่งชีชี ในมือเขามีอะไรบ้าง
นอกจากเครือข่ายข่าวสารที่เขาสร้างขึ้นมาเองกับจ้างผู้เล่นบางคนเป็นการส่วนตัว ด้าน NPC ก็มีเพียงอวี๋ชางไห่ที่ไม่รู้จักการรุกการถอย รวมทั้งพวกไม่ได้เรื่องอย่างสี่ปัญญาชนแห่งชิงเฉิง
ผลลัพธ์ที่ได้จากการต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายก็คือ
“หนึ่งต่อสาม”
“ไพ่จรวด[1]ชัดๆ!”
……
แต่ถึงแม้จะมีไพ่เสียอยู่เต็มมือ ชีชีก็ทำได้ดีที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้แล้ว ถึงขั้นเสี่ยงตายแย่งฆ่าอวี๋ชางไห่ได้ ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงได้สุดยอดวิชา ‘เคล็ดกระบี่พิชิตมาร’ ฉบับสมบูรณ์มา กลายเป็นยอดฝีมือเชิญร่ำสุราผู้มีสุดยอดวิชาฉบับสมบูรณ์
วิธีการของอีกฝ่ายเป็นอย่างไร แค่มองจากจุดนี้ก็รู้แล้ว!
ซึ่งครั้งนี้พวกเยี่ยเว่ยหมิงเพิ่งได้รับภารกิจให้ช่วยเหลือต้วนอวี้ทีหลัง แต่ทางฝั่งเชิญร่ำสุรากลับเริ่มวางแผนไว้ตั้งแต่แรกแล้ว เขาทิ้งทางหนีทีไล่อะไรไว้บ้างในหุบเขาว่านเจี๋ย เยี่ยเว่ยหมิงไม่มีทางคาดเดาได้เลย
แต่พอมาดูตอนนี้แล้ว ครั้งนี้้เหมือนเจ้าหมอนั่นเหมือนจะเล่นใหญ่มาก กระทั่งการระดมกำลังพลของเขาก็ทำสำเร็จถึงขั้นแขกแย่งบทบาทเจ้าภาพแล้ว
เมื่อเห็นเยี่ยเอ้อร์เหนียงกับเย่ว์เหล่าซานมีท่าทีระแวดระวังขนาดนี้ เยี่ยเว่ยหมิงก็ก้าวขึ้นมาข้างหน้าก้าวหนึ่งแล้วกล่าวช้าๆ ว่า “ทั้งสองไม่ต้องกังวล ที่จริงพวกเราไม่ได้มีเจตนาร้าย จุดนี้ผู้อาวุโสต้วนน่าจะรู้ดีที่สุด”
ทว่าสำหรับเจตนาดีที่เยี่ยเว่ยหมิงแสดงออกมา สองคนโฉดเหมือนไม่รับน้ำใจ กลับก้าวขึ้นมาข้างหน้าก้าวหนึ่งพร้อมกัน คุ้มครองต้วนเหยียนชิ่งไว้ข้างหลัง
“ไม่ต้องกังวล ตอนนี้พวกเราน่าจะมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ตอนนี้เจ้าเด็กนี่นับเป็นพวกเดียวกับเราได้” ตอนนี้เอง กลับได้ยินเสียงของต้วนเหยียนชิ่งดังขึ้นข้างหลังสองคนโฉด ทั้งสองรีบหันไปมอง แต่กลับไม่รู้ว่าเขาลืมตาขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไร มองข้ามสองคนโฉดที่อยู่ตรงหน้า สายตาหยุดอยู่บนตัวเยี่ยเว่ยหมิง
ส่วนเยี่ยเอ้อร์เหนียงกับเย่ว์เหล่าซาน ตอนนี้ถึงได้ลดอาวุธลงเพื่อแสดงออกว่าตัวเองไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อผู้เล่นกลุ่มนี้ เพียงแต่ยังไม่ได้เก็บอาวุธที่ลดลง ยังคงกำแน่นอยู่ในมือ เห็นได้ว่าแม้พวกเขาจะไม่เป็นฝ่ายโจมตีก่อน แต่ก็ยังเตรียมพร้อมป้องกันอยู่
เยี่ยเว่ยหมิงเห็นแล้วยิ้มน้อยๆ เผชิญหน้ากับสายตาที่ไม่ยอมแพ้ของต้วนเหยียนชิ่งพร้อมบอกว่า “ในเมื่อตอนนี้ทุกคนอยู่ฝ่ายเดียวกันแล้ว ผู้อาวุโสต้วนบอกพวกเราได้หรือไม่ว่าพวกท่านเจอปัญหาอะไรกันแน่”
ต้วนเหยียนชิ่งส่ายหน้าน้อยๆ เสียงแหบพร่าดังออกมาจากท้องของเขาอีกครั้ง “ต้องโทษที่ข้าคิดว่าตัวเองควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดมาตลอด คิดว่าตัวเองเป็นมือมืดหลังม่านตัวจริงของเรื่องทั้งหมด แต่กลับคาดไม่ถึงว่าจงว่านโฉวนั่นจะเชิญยอดฝีมือระดับนี้มาได้ โจมตีจนข้าทำอะไรไม่ถูก”
ต้วนเหยียนชิ่งชะงักไปครู่เดียวแล้วพูดต่อว่า “อาศัยกำลังของข้าคนเดียว ต่อให้ข้าไม่พิการ แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลวงจีนนั่นอยู่ดี เพิ่งท้าสู้เขาก็ถูกเขาโจมตีบาดเจ็บแล้ว แต่โชคดีที่อีกฝ่ายไม่ได้ลงมือสังหาร อาการบาดเจ็บบนตัวข้า คาดว่าต้องใช้เวลาพักผ่อนสามชั่วยามถึงจะหายเป็นปกติ”
ต้วนเหยียนชิ่งกล่าวพลางกวาดสายตามองพวกเยี่ยเว่ยหมิงทีละคน จากนั้นก็พูดต่อ “วิธีแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าตอนนี้ มีเพียงเชิญยอดฝีมือมาช่วยเท่านั้น ถึงจะมีหวังแก้ไขสถานการณ์ได้ ดังนั้นข้าอยากจะเชิญให้จอมยุทธ์น้อยทั้งหลายไปที่ต้าหลี่สักเที่ยว ให้ต้วนเจิ้งหมิงเชิญยอดฝีมือมาสักสองคน มารวมกับกำลังของพวกเราสี่คน บางทีอาจจะมีโอกาสช่วยต้วนอวี้ออกมาจากเงื้อมมือหลวงจีนนั่นได้”
เขาชะงักไปอีกครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวเสริม “เจ้าบอกต้วนเจิ้งหมิงนั่นด้วย ว่าถึงแม้ข้าจะโกรธที่เขาแย่งงานที่เดิมทีควรจะเป็นของข้าไป แต่คนของสกุลต้วนต้าหลี่ข้ารังแกได้ แต่ไม่ยอมให้คนนอกมารังแกง่ายๆ เด็ดขาด!…
…เรื่องนี้ต้องรีบจัดการให้เร็วที่สุด วิธีการลามกที่พวกเจ้าไหว้วานให้จงหลิงมาบอกต้วนอวี้ก่อนหน้านี้ แม้จะระบายความรุ่มร้อนที่เกิดจาก ‘ผงชายหญิงสู่สม’ ได้ชั่วคราว แต่กลับไม่ใช่การรักษาที่ต้นเหตุ อย่างมากก็ทำให้เขากับมู่หว่านชิงไม่ได้ลำบากถึงขั้นนั้น แต่ถ้าหายาแก้มาได้ไม่ทันเวลา อีกสามวันก็จะถูกไฟปรารถนาเผาตัวตายอยู่ดี”
พอพูดจบ ต้วนเหยียนชิ่งก็หลับตาลงอีกครั้งแล้วเริ่มโคจรพลังรักษาอาการบาดเจ็บภายใน
เมื่อได้ยินต้วนเหยียนชิ่งพูดแบบนี้ เยี่ยเว่ยหมิงก็เผยรอยยิ้มปล่อยวางเช่นกัน
ดูจากปฏิกิริยาของต้วนเหยียนชิ่งก็รู้แล้วว่าหลังจากเขารู้ความจริงเรื่องนี้ ก็ตัดสินใจทำเรื่องที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ยากมากอย่างไม่ลังเล แต่ไม่ว่าจะเป็นสำหรับเขา หรือสำหรับคนอื่น นี่ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว
เขาไม่คิดจะไปยืนยันสถานะกับต้วนอวี้!
ที่จริงแล้ว ต้วนเจิ้งหมิง ฮ่องเต้ของแคว้นต้าหลี่คนปัจจุบันไม่มีทายาทสืบสกุล ต้วนเจิ้งฉุนน้องชายของเขาแม้จะมีนิสัยเสเพล แต่คนที่มีเพียงโครโมโซม X ไม่มีโครโมโซม Y อย่างเขาก็มีเพียงลูกสาวเท่านั้น
ตอนนี้ทั้งแคว้นต้าหลี่ คนเดียวที่จะสืบทอดตำแหน่งฮ่องเต้ได้อย่างชอบธรรมก็มีเพียงต้วนอวี้ ลูกชายของต้วนเหยียนชิ่งเท่านั้น!
หากต้วนอวี้ครองบัลลังก์ก็เท่ากับต้วนเหยียนชิ่งแย่งบัลลังก์ฮ่องเต้กลับคืนมาแล้ว ทั้งยังได้ลูกชายมาอีกหนึ่งคนด้วย
อย่างไรเสีย คนที่พิการและมีชื่อเสียงย่ำแย่มาหลายปีอย่างเขาก็รู้ตัวเช่นกันว่าตัวเองไม่เหมาะกับตำแหน่งฮ่องเต้ สาเหตุที่ก่อนหน้านี้เสนอเงื่อนไขเป็นแบบนั้น อย่างมากก็เพื่อหาที่ระบายอารมณ์เท่านั้น ระบายความโกรธที่สะสมอยู่ในใจลึกๆ มาหลายปี
ตัวเขาในตอนนี้ เริ่มพิจารณาในมุมของต้วนอวี้
ถ้าอยากให้ต้วนอวี้ได้ขึ้นสู่ตำแหน่งอย่างราบรื่น เช่นนั้นบนตัวต้วนอวี้ก็ห้ามมีจุดด่างพร้อยร้ายแรงใดๆ เด็ดขาด!
ประการแรก ถ้าเขายืนยันฐานะตัวเองกับต้วนอวี้ นอกจากบีบให้เตาไป๋เฟิ่งตาย ทำให้การสืบทอดบัลลังก์อย่างชอบธรรมของต้วนอวี้เกิดข้อกังขา ก็ไม่มีข้อดีอย่างอื่นแล้ว
แต่ถ้าไม่ยืนยันฐานะกับต้วนอวี้ เช่นนั้นต้วนอวี้กับมู่หว่านชิงจากเดิมทีที่ไม่ได้เป็นพี่น้องกัน ก็จะกลายเป็นพี่น้องร่วมบิดาเดียวกัน อย่างน้อยสายตาที่คนนอกมองมาก็เป็นแบบนี้
ดังนั้นต้องช่วยเหลือต้วนอวี้ให้ได้ ทั้งยังต้องช่วยออกมาก่อนที่เขาจะควบคุมฤทธิ์ของ ‘ผงชายหญิงสู่สม’ ไม่ไหว
ตอนนี้ต้วนเหยียนชิ่งเสียใจจนไส้เขียวไปหมดแล้ว!
มังกรสำนึกเสียใจแล้ว!
เดิมทีลูกชายของเขาก็สืบทอดตำแหน่งฮ่องเต้แคว้นต้าหลี่ได้ยังราบรื่นอยู่แล้ว ผลปรากฏว่าเป็นเพราะอุบายชั่วร้ายของเขา ทำให้เรื่องราวเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
ทว่าตอนที่เขาต้องการจะทำทุกอย่างให้กลับสู่ภาวะปกติ กลับพบว่าในหุบเขาว่านเจี๋ยแห่งนี้ไม่ได้อยู่ในการควบคุมของต้วนเหยียนชิ่งแล้ว
เรื่องราววุ่นวายจน…
นี่คือตัวอย่างของกรรมตามสนองโดยแท้!
เมื่อเห็นต้วนเหยียนชิ่งเข้าสู่โหมดเยียวยาตัวเองอีกครั้ง เยี่ยเว่ยหมิงก็ถอยหลังก้าวหนึ่งทันที แล้วบอกเยี่ยเอ้อร์เหนียงกับเย่ว์เหล่าซานว่า “ทั้งสองต้องคุ้มครองพี่ใหญ่ของพวกท่านให้ดี อย่าให้ใครเข้าใกล้เขาเด็ดขาด โดยเฉพาะผู้เล่นอย่างพวกเรา…
…จำไว้ ข้าหมายถึงผู้เล่นทุกคน”
พอพูดจบก็หันไปพูดกับสหายร่วมทีมสามคนที่อยู่ข้างกาย “ทั้งสาม สนใจจะไปเปิดหูเปิดตากับข้าสักหน่อยไหม อยากรู้ว่ายอดฝีมือที่กำลังคุมหุบเขาว่านเจี๋ยอยู่ตอนนี้ เป็นเทพปราชญ์มาจากแห่งหนใดกันแน่”
[1] รูปแบบการเรียงไพ่ที่แกร่งที่สุดในการเล่นไพ่แลนด์ลอร์ด