ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 471 ซางหยางมาเยือนโลก
ตอนที่ 471 ซางหยางมาเยือนโลก
“หนึ่งไพร สองไพร…”
-91350!
คริติคอลดาเมจ
-92251!
……
หลังจากอัปเกรดเป็นสุดยอดวิชาฉบับไม่สมบูรณ์ เนื่องจากรับโบนัสค่าวีรบุรุษได้อย่างเป็นทางการ ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’ ของเยี่ยเว่ยหมิงจึงเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นเยอะมาก
เมื่อรวมกับโบนัสโจมตีของทักษะ ‘คำนวณ’ โบนัสกำลังภายในของทักษะ ‘วรรณกรรม’ โบนัสคริติคอลและโจมตีหลังจาก ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ เพิ่มถึงเลเวลเจ็ด…
เมื่อสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรโจมตีบนหน้าอก ประสิทธิภาพจึงสูงถึงระดับที่น่ากลัว!
เขาเพิ่งโจมตี ‘มังกรโรมรันกลางไพร’ ถึงไพรที่สอง พลังชีวิตของพระทิเบตตรงหน้าก็หมดเกลี้ยงแล้ว!
“อา!”
หลังจากเสียงกรีดรองดังขึ้น ศพของพระทิเบตก็กระเด็นออกไปไกลหลายจั้ง ส่วนเยี่ยเว่ยหมิงก็ใช้ท่าร่าง ‘ชั่วอึดใจหมื่นลี้’ อีกครั้งเตะศพพระทิเบตที่เพิ่งตกพื้นหนึ่งที เสร็จงานคลำศพแล้ว…
ได้รับ ยาเติมเลือด: 1 ขวด, เงิน: 21 เหรียญทอง 10 เหรียญเงิน…
ไม่มีแล้ว!
เจ้ามองไม่ผิดหรอก BOSS เลเวลหกสิบคนหนึ่งดรอปยาหนึ่งขวดและเงินอีกนิดหน่อย!
ยังไม่ต้องพูดถึงตำรากระบี่ ‘ดรรชนีกระบี่หกชีพจร’ แม้แต่อุปกรณ์อะไรก็ไม่มีดรอปสักชิ้น!
นี่เป็น BOSS จริงเหรอ?
เดี๋ยวก่อนนะ!
เหมือนจะไม่ใช่ BOSS เสมอไป บางทีในภารกิจใหญ่แบบนี้ อาจจะเป็นมอนสเตอร์อีลิทที่ถูกส่งออกมาทำให้เข้าใจผิดเท่านั้น?
ตอนนี้เยี่ยเว่ยหมิงเข้าใจแล้ว!
ไม่อย่างนั้นจะเรียกว่าภารกิจใหญ่เหรอ สิ่งที่ดูเหมือนมอนสเตอร์อีลิทแต่ก็เหมือน BOSS ด้วยพวกนี้ เกรงว่าคงส่งมาให้พวกผู้เล่นโจมตีอัปเลเวลโดยเฉพาะ
บางทีอาจจะบังเอิญเจอ BOSS ระดับสูงที่ดรอปของดีสักคนสองคน แต่ส่วนใหญ่ก็คงเป็นประเภทที่มีรางวัลเป็นแค่ค่าประสบการณ์กับค่าตบะ ยากมากที่จะได้ไอเทมขยะอย่างอื่น
ไม่อย่างนั้นแล้ว มีผู้เล่นมากมายหลั่งไหลเข้ามาต้าหลี่ แต่ผลปรากฏว่าคนเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์กลับไม่เห็นแม้แต่ขนเส้นเดียวของพระทิเบต แบบนี้ไม่ค่อยดีเท่าไร
แบบนี้จะทำให้ผู้เล่นจำนวนมากรู้สึกว่าถูกปั่นหัว
ซึ่งเมื่อส่งมอนสเตอร์ที่ทำให้คนเข้าใจผิดมาเยอะๆ ไม่เพียงแค่เพิ่มระดับความยากในการเจอพระทิเบตที่พกตำรากระบี่ ทั้งยังทำให้ผู้เล่นทั่วไปส่วนใหญ่ไม่ถึงขั้นเดินทางมาเสียเที่ยว กล่าวได้ว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
เพียงแต่ถ้าอยากเจอพระทิเบตที่พกตำรากระบี่ในสถานการณ์แบบนี้ ระดับความยากเหมือนจะเพิ่มสูงขึ้นเยอะมาก
แต่แบบนี้สิถึงจะสนุก
ด้วยท่าทีของผู้ที่เข้าร่วมภารกิจ เยี่ยเว่ยหมิงรู้สึกว่าพระทิเบตพวกนี้แม้จะดรอปแต่ของขยะ แต่รางวัลที่เป็นค่าประสบการณ์กับค่าตบะก็ถือว่าไม่เลว
เขามองเลเวลของตัวเอง ขาดค่าประสบการณ์อีกแค่ครึ่งเดียวก็จะถึงเลเวลห้าสิบแล้ว
ขอเพียงถึงเลเวลห้าสิบ เขาก็จะเพิ่มเลเวล ‘กระบี่เก้าสะท้านฟ้า’ ให้ถึงหกได้ ประสิทธิภาพก็จะเพิ่มถึงระดับใหม่!
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เยี่ยเว่ยหมิงจึงไม่รีบกลับภาคกลางแล้ว ใช้ท่าร่างวิ่งตะบึงไปทางวัดเทียนหลงเสียเลย
ในเมื่อตัดสินใจจะเข้าร่วมภารกิจ ก็ต้องพุ่งเป้าไปที่รางวัลสูงสุด
ตามหลักแล้ว หลังจากพระทิเบตที่พกตำรากระบี่เดินทางออกจากวัดเทียนหลง ถึงได้เริ่มแยกไปตามเส้นทางที่ต่างกัน จุดหมายปลายทางของพวกเขาคือหนีกลับแดนถู่ปัว
ถ้าทิ้งเบาะแสอะไรไว้ ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าจะอยู่แถวๆ วัดเทียนหลง
หาไม่เจอก็ไม่เป็นอะไร ขอเพียงรีเฟรชพระทิเบตเก่งๆ ออกมาก็พอ ต่อให้ฆ่าเพื่ออัปเลเวลก็ไม่เลวเหมือนกัน
ตอนที่ในใจคิดแบบนี้ ร่างของเยี่ยเว่ยหมิงก็ลอยออกไปไกลหลายลี้แล้ว ตรงจุดที่สายตามองถึงมีพระทิเบตรูปหนึ่งเดินอยู่ข้างหน้า
เมื่อดูค่าสเตตัสอีกฝ่ายออก ก็พบว่ายังเป็น BOSS เล็กเลเวลหกสิบ ข้อมูลและค่าสเตตัสไม่ต่างอะไรกับพระทิเบตคนก่อนหน้านี้
เพียงแต่ลักษณะต่างกันนิดหน่อย
พระทิเบตคนนี้ถือดาบอยู่ในมือด้วย
เมื่อมีประสบการณ์มาแล้ว ครั้งนี้เยี่ยเว่ยหมิงจึงไม่ได้หวังอะไรกับพระทิเบตมากนัก โจมตีส่งเดชหนึ่งกระบวนท่าก็พอ กระบี่ชิงชัยที่พลังโจมตีดุดันที่สุดในบรรดากระบี่ล้ำค่าที่เขามีปรากฏอยู่ในมือ จากนั้นตัวก็เดินตามกระบี่ไปข้างหน้า ครั้งนี้ไม่ได้ใช้ ‘ท่าปลุกปั่นกระบี่’ เริ่มใช้ท่าธรรมดาอย่าง ‘พเนจรสุดขอบฟ้า’ ตามด้วยสลับใช้ ‘เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน’ กับ ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’ สู้กับพระทิเบตรูปนี้
ใช้วิธีการปกติต่อสู้ แม้จะช้ากว่าใช้ท่าไม้ตายโดยตรง แต่กลับประหยัดกำลังภายในได้มาก ประกอบกับความเร็วในการฟื้นฟูค่าพลังชีวิตของเขา จึงทำให้ฆ่าศัตรูได้โดยไม่เสียอะไรเลย
หลังจากนั้นประมาณครึ่งนาที พระทิเบตก็กรีดร้องและล้มลงพื้น ดรอปดาบพระคุณภาพสีฟ้าหนึ่งเล่ม แต่เยี่ยเว่ยหมิงก็โยนทิ้งอย่างไม่ใส่ใจ
วัดเซินเจี้ยตั้งอยู่ที่ลู่เหลียงโจว อยู่ตรงจุดเชื่อมต่อระหว่างต้าหลี่และภาคกลาง ซึ่งวัดเทียนหลงกลับตั้งอยู่ห่างออกไปทางใต้ของต้าหลี่ร้อยลี้ ถ้าเดินทางโดยใช้ระยะทางเส้นตรงระหว่างวัดสองแห่ง ก็ต้องผ่านเขตของต้าหลี่เกินครึ่ง แต่ความจริงเมื่อนับสภาพภูมิประเทศกับถนนด้วย ก็จะไกลขึ้นอีกหน่อย
เยี่ยเว่ยหมิงเดินทางลงใต้ อาศัยความเร็วตอนวิ่งของเขา ใช้เวลาไม่กี่นาที่ก็เจอพระทิเบตอีกรูปแล้ว เดินทางไปด้วยต่อสู้ไปด้วย ก็รู้สึกไม่เหงาดีเหมือนกัน
เพราะมีผลประโยชน์ให้แสวงหา!
ในเมื่อเป็นการเดินทางไปพร้อมๆ กับต่อสู้ เช่นนั้นความเร็วก็ย่อมลดลง
เพียงแต่การเข่นฆ่าตลอดทางนี้ กลับทำให้เยี่ยเว่ยหมิงสรุปกฎเกณฑ์บางอย่างของภารกิจนี้ได้
ยกตัวอย่างเช่น พระทิเบตที่เขาเจอตอนแรก เป็นเพียงมอนสเตอร์เล็กๆ ที่ไม่สะดุดตาในภารกิจเท่านั้น ถ้าเทียบกับ BOSS เฝ้าดันเจี้ยนที่เลเวลเท่ากัน พลังโจมตีก็ยังด้อยกว่ามาก
จุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดก็คือกระบวนท่าธรรมดา ไม่มีวิธีการปะทุพลังใดๆ เลย เมื่อเทียบกับ BOSS แล้วดูเหมือนยอดนักรบที่มีค่าสเตตัสเหมือน BOSS มากกว่า รับมือได้ง่ายมากๆ
ขณะเดียวกัน ยิ่งเป็นมอนสเตอร์ที่รับมือได้ง่าย อัตราดรอปของมันก็ยิ่งน่าผิดหวัง
หลังจากเยี่ยเว่ยหมิงพิสูจน์ครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ได้ข้อสรุปว่า การดรอปได้ขวดยาเพียงใบเดียวเหมือนพระทิเบตที่เจอคนแรกไม่ใช่สถานการณ์ที่เป็นข้อยกเว้น แต่พระทิเบตเลเวลหกสิบทั้งหมดก็ดรอปแบบนี้เหมือนกัน
บางครั้งอาจจะดรอปอุปกรณ์สักชิ้น แต่คุณภาพก็ระดับสีฟ้าเท่านั้น แม้จะเป็นอุปกรณ์ที่คุณภาพเดียวกัน แต่ค่าสเตตัสก็ยังถือว่าธรรมดา
เรียกสั้นๆ ว่าขยะก็ได้!
ยังดีที่นอกจากขยะพวกนี้แล้ว บางครั้งก็จะบังเอิญเจอพระทิเบตเลเวลหกสิบห้าสักคนสองคน
พระทิเบตเลเวลหกสิบห้าเหล่านี้ แม้เทียบกับ BOSS เลเวลเดียวกันแล้วคุณภาพแย่กว่านิดหน่อย แต่อัตราดรอปกลับสูงกว่าเล็กน้อย
ไอเทมที่ดรอปได้ส่วนใหญ่เป็นของดีในบรรดาอุปกรณ์คุณภาพสีฟ้า ส่วนชุดเซ็ทคุณภาพสีเขียว จัดเป็นประเภทที่นำมาใช้ประดับหน้าประตูร้านอุปกรณ์ได้
ถือว่าเป็น…ขยะที่รีไซเคิลได้?
พระทิเบตที่เลเวลเจ็ดสิบก็ยิ่งน้อย ตลอดทางที่เยี่ยเว่ยหมิงฆ่า บังเอิญเจอเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น
หลังจากฆ่าแล้ว ก็ดรอปได้อุปกรณ์ทองคำที่คุณภาพดีหนึ่งชิ้น
[ดาบธรรมจักรใหญ่ (ทองคำ)] ดาบของพระวัดธรรมจักรใหญ่แห่งแดนถู่ปัว ตัวดาบบางและน้ำหนักเบา แต่กลับมีพลังทำลายล้างไม่ธรรมดา
โจมตี +400
กำลังภายใน +10%
……
การกระจายตัวของพระทิเบตในภารกิจครั้งนี้ ก็เป็นไปตามที่เยี่ยเว่ยหมิงคาดไว้ตอนแรกเช่นกัน ยิ่งเข้าใกล้วัดเทียนหลงเท่าไร พระทิเบตก็ยิ่งรวมตัวกันหนาแน่นขึ้น เพียงแต่เมื่อยิ่งเข้าใกล้ตัวเมืองต้าหลี่ ผู้เล่นที่มาฆ่ามอนสเตอร์ก็ยิ่งมากขึ้นแล้ว บางจุดก็ถึงขั้นเกิดปรากฏการณ์ที่ผู้เล่นเยอะกว่ามอนสเตอร์
เมื่ออยู่ภายใต้สถานการณ์นี้ อัตราความถี่ในการต่อสู้ของเยี่ยเว่ยหมิงกลับลดลงเยอะมาก ความเร็วในการเดินทางจึงสูงขึ้นเล็กน้อย
หลังจากภารกิจเริ่มได้ประมาณสองชั่วโมง ในที่สุดเยี่ยเว่ยหมิงก็เข้าใกล้ตัวเมืองต้าหลี่แล้ว เดิมทีอยากจะเข้ามืองไปซื้อยาเพิ่มสักหน่อย แต่คาดไม่ถึงว่าตอนที่เห็นเมืองต้าหลี่อยู่ไกลๆ กลับพบคนหน้าคุ้นคนหนึ่งบนเนินเขาเล็กๆ
“เฟยอวี๋?” เห็นศิษย์น้องร่วมสำนักคนนี้แยกตัวออกจากฝูงชน กำลังยืนฟันมอนสเตอร์อยู่บนเนินเขาคนเดียว หลังจากเยี่ยเว่ยหมิงใช้ ‘ดรรชนีศักดิ์สิทธิ์’ ช่วยยิงพระทิเบตตรงหน้าเขาให้ตายแล้ว ก็ถามเหมือนไม่ได้ใส่ใจว่า “เจ้าเองก็เข้ามาประสมโรงด้วยหรือ เป็นอย่างไร เก็บเกี่ยวได้บ้างไหม”
“เก็บเกี่ยวได้กับผีน่ะสิ!” เฟยอวี๋เตะศพบนพื้นพร้อมกล่าวอย่างกลัดกลุ้ม “ภารกิจนี้เตรียมของไว้น่ารังเกียจจริงๆ มอนสเตอร์ทุกตัวในภารกิจ ไม่ว่าจะเลเวลสูงหรือต่ำก็ชื่อว่าพระทิเบตเหมือนกันหมด ก่อนหน้านี้ตั้งใจออกไปหาเบาะแสนอกวัดเทียนหลง แต่หลังจากใช้งานทักษะ ‘สืบเสาะหมื่นลี้’ แล้ว พิกัดที่เด้งออกมามีเยอะมาก ยังต้องรีเฟรชต่อไปไม่หยุด!…
…ทำเอาข้าต้องรีบกำจัดข้อมูลพวกนั้นให้หมด ไม่งั้นคงได้จมข้อมูลขยะพวกนั้นแน่ แม้แต่การเล่นเกมปกติของข้าก็ยังได้รับผลกระทบ!”
พอได้ยินดังนั้น เยี่ยเว่ยหมิงก็หัวเราะลั่น ตอนที่กำลังจะปลอบใจ กลับถูกขัดจังหวะจากประกาศระบบอีกครั้ง
[ประกาศระบบ: พระทิเบตรูปหนึ่งที่พกตำรากระบี่ถูกฆ่าแล้ว ตำรากระบี่เล่มแรกมาเยือนโลกอย่างเป็นทางการ!]
[ยินดีกับด้วย เมฆเคลื่อนเดียวดาย ผู้เล่นเขาอูฐขาว ได้รับตำรากระบี่ ‘กระบี่ซางหยาง’ หนึ่งใน ‘ดรรชนีกระบี่หกชีพจรฉบับไม่สมบูรณ์’]
[ประกาศระบบ: …]