ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 49 อาหวงสร้างผลงานแล้ว
ตอนที่ 49 อาหวงสร้างผลงานแล้ว!
ตอนที่ไป๋จ่านจีนำโจมตีก่อน ก็เป็นเวลาที่สองฝ่ายเปิดฉากต่อสู้กันอย่างเป็นทางการแล้ว
คำจำกัดความระหว่างความดีและความชั่ว หลายครั้งมักจะเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและคลุมเครือมาก แต่ที่ตรงนี้ ในเวลานี้ กลับกลายเป็นเรียบง่ายชัดเจนที่สุด
สามคนที่อยู่ฝ่ายเยี่ยเว่ยหมิงเป็นฝ่ายธรรมมะแน่นอน ส่วนศัตรูล้วนเป็นตัวร้ายที่โฉดชั่วร้ายกาจ
เพราะเขาคือตัวละครที่มีชื่อเสียงในด้านดี เป็นตัวละครหลัก!
ระบบแจ้งเตือนว่าผู้เล่นฝ่ายธรรมะสองคนเข้าสู่โหมดต่อสู้แล้ว แต่นอกจากหลินจื้อเพ่ยที่กำลังต่อสู้กับไป๋จ่านจี BOSS อีกสองคนที่เหลือก็เพียงจ้องทั้งสองด้วยสายตาไม่เป็นมิตรเท่านั้น ไม่ได้ชิงลงมือก่อนในทันที
จากสิ่งนี้จะเห็นได้เลยว่า เมื่ออยู่ภายใต้สถานการณ์ที่จัด BOSS เลเวลยี่สิบกว่าให้มาเป็นคู่ต่อสู้กับผู้เล่นเลเวลสิบกว่า ต่อให้เป็นเกมที่หน้าด้านใจดำขนาดไหน แต่ผู้ออกแบบเกมก็ยังรู้สึกละอายอยู่บ้าง ไม่ปล่อยให้พวกเขาเล่นอย่างไร้ยางอายโดยไร้ขอบเขต
เรื่องสู้น่ะต้องสู้อยู่แล้ว เพียงแต่ต้องเหลือเวลาให้ทั้งสองเคลื่อนไหวสักหน่อย
ยกตัวอย่างเช่น เลือกคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมกับตัวเอง
ถังซานไฉ่กวาดตามองบนตัว BOSS ทั้งสองแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงน่าครั่นคร้าม “ในชีวิตนี้ของข้าเกลียดโจรราคะที่สุด ส่งจีไหลเหย่ผู้นี้ให้ข้าแล้วกัน”
“บังเอิญแล้ว!” เยี่ยเว่ยหมิงถือกระบี่ชิงจู๋ไว้ในมือ กล่าวอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อนว่า “ทั้งชีวิตนี้ของข้าก็แค้นโจรราคะที่สุดเช่นกัน จีไหลเหย่คนนี้เจ้าอย่าแย่งข้าเลย เจ้าเอาคนที่เลเวลต่ำสุดไปแล้วกัน”
ถังซานไฉ่ได้ยินแล้วสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย ก่อนจะสะบัดมือปล่อยอาวุธลับชิ้นหนึ่งออกมาโจมตี
ฟิ้ว!
แกร๊ง!
อาวุธลับถูกจีไหลเหย่ใช้นิ้วดีดออกไปอย่างว่องไว เพียงแต่เขาถูกถังซานไฉ่ดึงดูดค่าความแค้นเข้าไปอย่างเต็มที่ จากนั้นถังซานไฉ่ก็ดึงระยะห่างจากเยี่ยเว่ยหมิงกะทันหัน เขาเองก็ไล่ตามถังซานไฉ่ที่ลงมือโจมตีเขาก่อนหน้านี้แล้วเช่นกัน
เมื่อเยี่ยเว่ยหมิงเห็นสถานการณ์ดังนั้น ใบหน้าก็เผยยิ้มเล็กน้อย แต่กลับไม่ได้ไล่ตามไป
ที่จริงไม่ว่าจะเป็นฉากหลังเกมออนไลน์ใดๆ ก็ตาม สิ่งที่ผู้เล่นโจมตีระยะไกลกลัวจะเจอที่สุดก็คือ BOSS โจมตีระยะไกลแบบเดียวกัน เมื่ออยู่ในภายใต้สถานการณ์ที่ค่าสเตตัสทุกอย่างเทียบอีกฝ่ายไม่ติด หากสู้กับ BOSS ประเภทโจมตีระยะประชิด ผู้เล่นโจมตีระยะไกลยังอาศัยความได้เปรียบในการยิงระยะไกลเพื่อใช้กลยุทธ์ชักว่าว[1]ค่อยๆ บดขยี้ค่าพลังชีวิตของ BOSS ได้ แต่ยามสู้กับ BOSS ประเภทโจมตีระยะไกลเหมือนกัน ก็ไม่มีทางเป็นฝ่ายได้เปรียบอะไรทั้งนั้น
นอกจากผู้เล่นแบบโหยวโหยวแล้ว ก็ไม่มีผู้เล่นโจมตีระยะไกลคนไหนที่สนใจ BOSS ประเภทโจมตีระยะไกล
ดูจากท่าทางที่เก๋ออ๋างโส่วทอยลูกเต๋าเล่นอย่างสบายมือ ก็เห็นได้ชัดว่าเป็นยอดฝีมืออาวุธลับที่ถนัดการโจมตีระยะไกล ที่ถังซานไฉ่เลือกให้จีไหลเหย่เป็นคู่ต่อสู้ของตัวเอง ก็เพราะกลัวว่าจะถูกกดดันจากทุกทิศทางแบบนี้
ที่เยี่ยเว่ยหมิงบอกว่าต้องเลือกจีไหลเหย่ก่อนหน้านี้ ก็เป็นเพียงการล้อเล่นกับเขาเท่านั้น ไม่มีทางกลั่นแกล้งเพื่อนร่วมทีมในเวลานี้จริงๆ หรอก
เมื่อเห็นจีไหลเหย่เริ่มต่อสู้กับถังซานไฉ่โดยที่คนหนึ่งไล่ตามและอีกคนหลบหนีอยู่ในป่าทึบ เก๋ออ๋างโส่วถึงได้ล็อกสายตาอยู่บนตัวเยี่ยเว่ยหมิง “เจ้าหนู เตรียตัวรับความตายดีแล้วหรือยัง”
เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วยิ้มบางๆ แล้วนำเนื้อย่างชิ้นใหญ่จากห่อสัมภาระออกมากัดกินคำหนึ่ง
เมื่อเนื้อย่างหอมมันเข้าปาก เยี่ยเว่ยหมิงก็รู้สึกได้ทันทีว่าเนื้อย่างกลิ่นหอมเข้มข้นกำลังระเบิดอยู่ในช่องปาก ราวกับทุกเซลล์ในร่างกายกำลังกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุข อดรู้สึกทึ่งในความสมจริงของเกม ‘วีรบุรุษนิรันดร์กาล’ รวมทั้งฝีมือทำครัวที่ไม่ธรรมดาของอาจ่งไม่ได้
[ติ๊ง! คุณกินเนื้อหมาป่าย่าง ค่าความอิ่ม+1 ภายในหนึ่งชั่วโมง พละกำลัง +97!]เมื่อได้ยินเสียงเตือนจากระบบ เยี่ยเว่ยหมิงก็ก็ข่มความคิดที่จะกินต่อให้อิ่มเอาไว้ พร้อมเดินไปทางเก๋ออ๋างโส่วเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วยื่นเนื้อย่างให้ “เจ้าจะกินสักคำไหม”
โบนัสสเตตัสของอาหารในเกม ‘วีรบุรุษนิรันดร์กาล’ แบ่งออกเป็นสองด้าน ค่าความอิ่ม ยิ่งกินมากขึ้นก็ยิ่งเพิ่มขึ้น ค่าความอิ่มห้าสิบแต้มของเนื้อหมาป่าย่างเป็นจำนวนรวมที่เนื้อหมาป่าย่างชิ้นนี้จะรักษาระดับไว้ได้ ต้องกินให้หมดชิ้นค่าความอิ่มถึงจะสูงเท่าระดับที่แจ้ง แต่ค่าสเตตัสที่เสริมเข้ามากลับเหมือนผลไม้ปีศาจในการ์ตูนวันพีซ มีแต่ต้องกินต่อไปอีกคำเท่านั้นถึงจะได้ผล
รู้สึกได้ว่าตัวเองได้อาศัยสิ่งนี้ระเบิดพละกำลังออกมาอีกหนึ่งเท่า เยี่ยเว่ยหมิงเตรียมพร้อมสู้สุดตัวเรียบร้อยแล้ว
ได้กลิ่นหอมของเนื้อย่างโชยมา เก๋ออ๋างโส่วกลืนน้ำลายไปหลายอึกอย่างอดไม่ได้ ตอนได้ยินเสียงเยี่ยเว่ยหมิงเชิญให้ชิมด้วยกัน เขาก็ยิ่งตาเป็นประกาย และในตอนนี้เอง เยี่ยเว่ยหมิงแอบดึงระยะห่างของทั้งสองให้เข้าใกล้กันสามจั้งอย่างเงียบเชียบ เมื่อได้เห็นการกระทำของอีกฝ่าย รอยยิ้มบนใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นชัดเจนยิ่งขึ้น ยังคงเข้าใกล้อีกฝ่ายอย่างไม่รีบร้อนหรือชักช้า
ทันใดนั้น!
สีหน้าหิวกระหายของเก๋ออ๋างโส่วก็หายไปหมดสิ้น พร้อมโบกมือยิงลูกเต๋าสองลูกออกมา หลังจากอาวุธหลุดจากมือแล้ว มันก็เปลี่ยนเป็นลำแสงสีขาวสองสาย ยิงตรงไปทางสองตาของเยี่ยเว่ยหมิงทันที
การยิงครั้งนี้หากยิงถูกเป้าหมาย ก็ไม่เพียงแค่จะเกิดคริติคอลต่อเนื่องสองครั้งเท่านั้น ทั้งยังทำให้คนตกอยู่ในสถานะตาบอดอีกด้วย!
ที่แท้เก๋ออ๋างโส่วก็ไม่ได้ถูกอาหารเลิศรสของเยี่ยเว่ยหมิงมอมเมามาตั้งแต่แรกแล้ว กิน ดื่ม เที่ยวผู้หญิง เล่นพนัน สี่คำนี้แม้มักจะถูกพูดขึ้นด้วยกัน แต่เก๋ออ๋างโส่วกลับเป็น BOSS ที่มุ่งมั่นอยู่กับสิ่งเดียว ในบรรดาสี่วิชานี้ เขาหลงใหลเพียง ‘เล่นพนัน’ เท่านั้น ส่วนอย่างอื่นนั้นมอมเมาสติสัมปชัญญะของเขาไม่ได้เลย ดังนั้นตอนที่แสดงออกว่าทนไม่ไหว ก็เป็นเพียงการแสดงละครคู่กับเยี่ยเว่ยหมิงเท่านั้น
ฝีมือการแสดงของเยี่ยเว่ยหมิงหลอกอีกฝ่ายไม่ได้ ส่วนฝีมือการแสดงของเก๋ออ๋างโส่ว…
ก็ย่อมใช้ไม่ได้ผลกับเยี่ยเว่ยหมิงเช่นกัน!
อันที่จริง ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงลองใช้ของอร่อยมาดึงระยะให้ใกล้กับอีกฝ่าย ตัวเองก็ได้เตรียมป้องกันการจู่โจมกะทันหันของอีกฝ่ายไว้แล้ว ตอนที่เผชิญหน้ากับท่าไม้ตายของเก๋ออ๋างโส่ว นอกจากแค่ทอดถอนใจกับแผนการที่ล้มเหลว อารมณ์ของเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก พอเขากวาดกระบี่ชิงจู๋โจมตีในแนวขวาง ก็ทำให้ลูกเต๋าสองลูกแตกละเอียดพร้อมกัน จากนั้นเก็บเนื้อย่างเข้ากระเป๋า พร้อมใช้งานท่าร่างแปดก้าวไล่ทันคางคกพุ่งสังหารไปยังเก๋ออ๋างโส่ว
ทว่าผู้เล่นสำนักถังเหมินที่เชี่ยวชาญการใช้อาวุธลับ ราวกับว่านอกจากพลังโจมตีของตัวเองแล้ว ก็ให้ความสำคัญกับท่าร่างมากที่สุดเช่นเดียวกัน ในฐานะที่เก๋ออ๋างโส่วเป็น BOSS ประเภทโจมตีระยะไกล ท่าร่างของเขาก็ถือเป็นระดับสุดยอดในบรรดา BOSS เช่นกัน เคลื่อนไหวได้รวดเร็วมาก แม้จะสู้กับเยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้ แต่ก็ไม่แตกต่างกันมากนัก
ที่ร้ายแรงกว่านั้นก็คือ ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าหมอนี่จะไม่มีความรับผิดชอบและสำนึกที่ BOSS ควรจะมีแม้แต่น้อย ไม่มีความคิดที่จะลุกขึ้นยืนหยัดต่อสู้กับเยี่ยเว่ยหมิงเลย นึกไม่ถึงว่าจะเรียนรู้จากถังซานไฉ่ที่อยู่อีกด้านหนึ่ง ขณะที่วิ่งหนีอย่างไม่สนศักดิ์ศรีหน้าตา เขาก็ยังไม่หยุดโยนลูกเต๋าโจมตีเยี่ยเว่ยหมิง
BOSS ผู้สง่าผ่าเผยคนหนึ่งอย่างเขา ไม่น่าเชื่อว่าใช้วิธีโจมตีแบบชักว่าวกับผู้เล่น!
โชคดีที่มังกรร่อนล่อหงส์ของเยี่ยเว่ยหมิงก็เจ๋งมากเหมือนกัน เริ่มถักทอตาข่ายกระบี่แล้ว ทำให้ลูกเต๋าของอีกฝ่ายไม่มีทางกล้ำกรายแม้แต่ก้าวเดียว ถึงขั้นว่าหยุดยั้งการไล่ตามโจมตีของเขาไม่ได้ด้วย
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!…
แปะ! แปะ! แปะ!…
ท่ามกลางเสียงชนปะทะของกระบี่ยาวกับลูกเต๋าที่ต่อเนื่องกัน ระยะห่างของทั้งสองเข้าใกล้กันเรื่อยๆ แล้ว
ทว่าในตอนนี้เอง จู่ๆ ก็ได้ยินเก๋ออ๋างโส่วตะโกนเสียงดังว่า “ขว้างดาราเหิน!” แล้วก็เห็นเขาโบกสองมือรัวๆ ชั่วพริบตานั้น เขาก็โจมตีลูกเต๋าสิบกว่าลูกไปที่เยี่ยเว่ยหมิงอย่างต่อเนื่อง หลังจากลูกเต๋าหลุดจากมือมาแล้วก็กลายเป็นลำแสง เสียงเสียดปะทะลมดังแสบแก้วหู ยิงมาถึงรอบกายเยี่ยเว่ยหมิงด้วยความเร็ว ราวกับดาวตกไล่ล่าพระจันทร์จริงๆ ดุดันเกินต้าน!
การโจมตีนี้ หากอาศัยเพียงเคล็ดกระบี่ ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ ก็มิอาจต่อต้านได้เลย!
แทบจะชั่วพริบตาเดียวที่เห็นอีกฝ่ายปล่อยลูกเต๋าออกมา เยี่ยเว่ยหมิงก็ตัดสินใจได้แล้ว เขาถลันไปด้านข้างหนึ่งก้าวอย่างไม่ลังเล ขณะหลบออกจากขอบเขตอาวุธลับของอีกฝ่าย ก็ใช้เคล็ดกระบี่ ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ โจมตีลูกเต๋าสามลูกที่ยังคงคุกคามเขาอยู่จนตกไป
เพียงแต่เมื่อสู้กันอย่างนี้ ฝีเท้าของเขากลับช้าไปลงครึ่งหนึ่ง เก๋ออ๋างโส่วดึงระยะห่างให้ไกลกันอีกครั้ง
เยี่ยเว่ยหมิงไล่ตามต่อไป เก๋ออ๋างโส่ววิ่งหนีต่อไป จนกระทั่งตอนเขาดึงระยะห่างของทั้งสองให้เหลือหนึ่งจั้งได้อย่างยากเย็น อีกฝ่ายก็ใช้สกิล ‘ขว้างดาราเหิน’ อีกครั้ง ทุกอย่างกลับมาสู่จุดเดิมใหม่อีกรอบ ราวกับตกอยู่ในวงวนไร้จุดจบที่ไม่อาจฝ่าออกไปได้
ทว่า เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เจ้าเวรนี่เปลี่ยนเป้าหมายไปโจมตีเพื่อนร่วมทีมของตัวเอง เยี่ยเว่ยหมิงยังคงต้องไล่ตามอยู่ในสถานการณ์ที่เหมือนวงวนไร้จุดจบนี้ต่อไป
ไล่ตามได้พักหนึ่ง จู่ๆ เยี่ยเว่ยหมิงกลับตาเป็นประกาย
ในที่สุดก็มีโอกาสพลิกสถานการณ์แล้ว!
เห็นอาหวง สุนัขในภารกิจสำคัญของเขาฉวยโอกาสตอนที่ทั้งสองไม่สนใจ ดักซุ่มอยู่บนทางที่เก๋ออ๋างโส่วต้องผ่านอย่างเงียบเชียบ ตอนที่เขาหันตัวกลับมาโจมตี ‘ขว้างดาราเหิน’ ใส่เยี่ยเว่ยหมิงอีกครั้ง อาหวงก็พลันกระโจนมาจากข้างหลัง กัดน่องบนขาซ้ายของเก๋ออ๋างโส่วหนึ่งที!
“ไอ๊หยา!”
เก๋ออ๋างโส่วเจ็บจนร้องอุทานออกมา นี่ถือเป็นช่วงเวลาของอาหวง!
อาหวงสร้างผลงานแล้ว!
ตอนนี้วิญญาณของเจ้าร่ำรวย เจ้าเฮงเฮงและสุนัขฟ้าคำราม[2]ประทับร่างแล้ว!
มันไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพัง มันไม่ใช่สุนัขตัวเดียว!
[1] กลยุทธ์ชักว่าว 风筝战术 วิธีการต่อสู้แบบหนึ่ง เป็นการโจมตีขณะรีบเคลื่อนไหวเพื่อดึงระยะห่างจากคู่ต่อสู้ ทำให้คู่ต่อสู้ไล่ตามไม่ทัน
[2] สุนัขฟ้าคำราม 哮天犬 สุนัขที่เป็นองครักษ์ข้างกายเอ้อหลางเสิน