ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 536 ทำไมเจ้าไม่ใส่แมสก์!
ตอนที่ 536 ทำไมเจ้าไม่ใส่แมสก์!?
เมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนของระบบ เยี่ยเว่ยหมิงก็หลุดขำ “เป็นด่านที่มีสถานะอ่อนแอจริงๆ ด้วย ไม่ใช่แค่ BOSS ที่ถูกตอนจนสถานะอ่อนแอ แม้แต่องครักษ์ก็ไม่ได้เตรียมไว้สักคน แต่พอเป็นแบบนี้ก็ลดความยุ่งยากให้พวกเราได้ไม่น้อย”
โหยวโหยวได้ยินแล้วถามด้วยสีหน้าจริงจัง “‘เวอร์ชันถูกตอน’ คำนี้ถ้าใช้ที่นี่ถือว่าได้ประโยชน์พอดี แต่ในเมื่อชื่อด่านชื่อว่า ‘ขันทีผู้แข็งแกร่ง’ เจ้าแน่ใจนะว่าไห่ต้าฟู่ไม่ได้ฝึกวิทยายุทธ์ประเภท ‘เคล็ดกระบี่พิชิตมาร’”
“คงจะไม่ใช่มั้ง” เยี่ยเว่ยหมิงส่ายหน้า “ข้าเองก็ไม่รู้รายละเอียดชัดเจนเหมือนกัน แต่อินปู้คุยบอกข้าว่าเจ้าคนที่อยู่ตรงหน้าอ่อนแอที่สุดในบรรดาคู่ต่อสู้สี่คน คิดว่าบนตัวเขาคงไม่มีสุดยอดวิชา”
ประตูลานบ้านของจวนซางซานเจี้ยนเปิดอยู่ ระหว่างที่ทั้งสองคุยกันก็เดินเข้าไปถึงข้างในแล้ว เจอกับขันทีเฒ่าหลังค่อมคนหนึ่งกำลังนั่งครุ่นคิดเรื่องบางอย่างอยู่ที่โต๊ะม้าหินอ่อนในสวน พอดี
“แค่กๆๆ!…”
เมื่อทั้งสองเข้ามา ขันทีเฒ่านั่นก็ไอรุนแรงขึ้นทันที
เสียงไอของเขาเหมือนนำมาซึ่งพลังมารน่ากลัวที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ทำให้เกิดความหวาดกลัวจากก้นบึ้งหัวใจโดยสัญชาตญาณ แม้จะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งอย่างเยี่ยเว่ยหมิงกับโหยวโหยวก็ยังอดตัวสั่นไม่ได้อยู่ดี พวกเขาเกือบจะเลี้ยววิ่งหนีแล้ว
หลังจากไอสองสามที ขันทีเฒ่านั่นก็หันกลับมาแล้วถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “พวกเจ้าสองคนมาหาเรื่องตระกูลข้าใช่หรือไม่”
แววตาของเขาว่างเปล่าและเยือกเย็นเหมือนผีดิบ ดูเหมือนไม่มีความรู้สึกเลยสักนิด
ขณะที่เขาหันกลับมา เหนือศีรษะก็เผยข้อมูล BOSS แล้วเช่นกัน
[ไห่ต้าฟู่]
ยอดฝีมือสำนักคงต้ง นิสัยดุร้ายเจ้าเล่ห์ ถนัดเรื่องการใช้พิษ
เลเวล: 43
พลังชีวิต: 66000/66000
กำลังภายใน: 15000/15000
……
หลังจากเห็นข้อมูลของ BOSS โหยวโหยวก็ยิ้มอย่างเต็มไปด้วยความมั่นใจทันที “เป็นอย่างที่เจ้าบอกจริงๆ ไห่ต้าฟู่ถูกทำให้อ่อนแอแล้ว มองปราดเดียวก็รู้ว่ารับมือง่าย”
ทว่าหลังจากเห็นข้อมูลแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงกลับลขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วกล่าวเสียงต่ำว่า “ไม่ใช่สิ! ข้อมูลนี้ไม่ใช่เวอร์ชันอ่อนแอแน่นอน แต่เป็น BOSS โหมดภารกิจทั่วไป! ตอนนั้นที่ข้ากับอินปู้คุยท้าสู้อ๋าวป้ายเป็นครั้งที่สอง อ๋าวป้ายที่เจอก็เป็น BOSS เลเวลสี่สิบห้า ถึงจะดูอ่อนแอกว่าค่าสเตตัสนี้หนึ่งระดับ แต่สำหรับพวกเราแล้วก็รับมือได้ยากจริงๆ”
โหยวโหยวได้ยินแล้วอึ้ง “ต่างกันมากไหม”
“ไม่มาก” เยี่ยเว่ยหมิงส่ายหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็บอกว่า “ไม่น่าเชื่อว่าตอนนี้ข้าเพิ่งนึกออก ก่อนหน้านี้ข้าจำกติกาของการท้าสู้ดันเจี้ยนนี้ผิด ในสี่ดันเจี้ยนนี้ แต่ละคนจะท้าสู้ดันเจี้ยนระดับต้นที่เป็นเวอร์ชันอ่อนแอได้เพียงหนึ่งครั้ง อีกทั้งในบรรดาสี่ดันเจี้ยนนี้ ก็เลือกท้าสู้ได้เพียงโหมดเดียว…
…หลังจากท้าสู้ไปครั้งหนึ่งแล้ว ดันเจี้ยนอื่นก็จะเริ่มที่ระดับความยากของ BOSS โหมดภารกิจ ซึ่งการท้าสู้ครั้งที่สอง ก็จะเป็นร่างแท้ของ BOSS โหมดปกติ!”
เมื่อเห็นเยี่ยเว่ยหมิงกับโหยวโหยวเอาแต่คุยกันอยู่สองคน ไม่เห็นตนอยู่ในสายตาเลย ในดวงตาไห่ต้าฟู่ก็ฉายแววสังหารทันที “เจ้าเด็กน้อยสองคนที่มองไม่เห็นหัวใคร ไม่รู้จักความเป็นความตายจริงๆ…แค่กๆๆ…”
ขันทีเฒ่าที่กำลังพูดร่างกายแย่มาก ยังพูดได้ไม่กี่ประโยคก็เริ่มไออย่างรุนแรงอีกแล้ว
เมื่อได้ยินเสียงไอของเขา เยี่ยเว่ยหมิงกับโหยวโหยวก็ถอยหลังก้าวหนึ่งพร้อมกันโดยจิตใต้สำนึก จากนั้นถึงได้ตระหนักว่าตอนนี้ตัวเองคือร่างกายอันสมบูรณ์ร้อยโรคไม่กล้ำกรายเพราะอยู่ในเกม ไม่ต้องกังวลเลยว่าตาแก่นี่จะแพร่เชื้อโรคสู่ตน
หลังจากวางใจแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็ก้าวขึ้นมาหนึ่งก้าวทันที ไม่รอให้ไห่ต้าฟู่ไอเสร็จก็ใช้ฝ่ามือมังกรผยองได้สำนึกตีกลางกบาลเขาแล้ว “ทำไมเจ้าไม่ใส่แมสก์ล่ะ!?”
เมื่อได้ยินเสียงมังกรคำราม ไห่ต้าฟู่ก็ตกใจมาก รีบประกบสองมือตรงหน้าอก กำลังภายในทั้งหยินและหยางก่อตัวขึ้นระหว่างฝ่ามือเขา จากนั้นก็เริ่มหมุนวนไปยังทิศทางตรงกันข้ามอย่างรวดเร็วเหมือนโม่บดแป้งที่ก่อตัวขึ้นจากกำลังภายใน บดขยี้ไปยังเงามายามังกรที่บินออกจากฝ่ามือของเยี่ยเว่ยหมิง
นี่คือสุดยอดทักษะที่แข็งแกร่งที่สุดของไห่ต้าฟู่…โม่บดหยินหยาง!
นี่คือวิชาที่ร้ายกาจมาก เปลี่ยนพลังหยินหยางให้กลายเป็นโม่บดเพื่อลดพลังของคู่ต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีที่เกิดจากกำลังภายในใดๆ เมื่อเจอโม่บดหยินหยางนี้ ก็จะเหมือนข้าวเปลือกที่อยู่ภายใต้โม่บด ถูกบดจนแตก ขยี้ให้แหลกจนกระทั่งหายไป…
ทว่าตอนที่เห็นสุดยอดทักษะนี้ของไห่ต้าฟู่ เยี่ยเว่ยหมิงกลับไม่ขยับหนังตาแม้แต่น้อย ราวกับมันไม่อยู่ในสายตาเลย ยังคงผลักฝ่ามือปล่อยภาพมายามังกรตามจังหวะเดิมของตัวเองต่อไป กดอัดโม่บดหยินหยางที่ก่อตัวจากฝ่ามือของไห่ต้าฟู่อย่างไม่รีบร้อน
กรรร!
ท่ามกลางเสียงมังกรคำรามที่ดังก้องทั่วทั้งลานบ้าน โม่บดหยินหยางของไห่ต้าฟู่ถูกฉีกจนแตกเป็นผุยผงในชั่วพริบตาเดียว เหมือนกับกระดาษบางที่อยู่ตรงหน้าดาบกระบี่ ไม่มีแรงต้านทานเลยแม้แต่น้อย!
หลังจากนั้น ภาพมายามังกรก็ถล่มไปบนหัวใจของไห่ต้าฟู่อย่างที่คาดไว้
-106884!
ตัวเลขดาเมจที่สูงกว่าค่าพลังชีวิตของไห่ต้าฟู่ตั้งไกลลอยขึ้นเหนือศีรษะ ไห่ต้าฟู่ที่มีศักยภาพสอดคล้องกับ BOSS โหมดภารกิจคนนี้ ร่างปลิวถอยหลังออกไปไกลสองจั้งราวกับว่าวสายป่านขาด
ตอนที่กระแทกลงพื้นก็หมดลมหายใจแล้ว!
[ติ๊ง!…]
[ประกาศระบบ: …]
เยี่ยเว่ยหมิงส่ายหน้าเล็กน้อย แล้วหันไปพูดอย่างไร้กังวล “แม้ BOSS จะตายไปแล้ว แต่ในเมื่อเราสองคนอยู่ทีมเดียวกัน ก็ควรจะแบ่งงานกันทำสิ ตอนนี้ข้าสังหาร BOSS แล้ว เรื่องคลำศพก็เป็นหน้าที่เจ้าแล้วกัน”
โหยวโหยวยิ้มบางๆ แล้วเดินไปคลำศพไห่ต้าฟู่
สำหรับเยี่ยเว่ยหมิงกับโหยวโหยวตอนนี้ การโจมตีสังหาร BOSS เลเวลสี่สิบสี่เป็นเรื่องที่ไม่ควรค่าให้อวดสักเท่าไร
โม่บดหยินหยางของไห่ต้าฟู่จะมีจุดที่พิเศษ แต่เมื่อเจอกับพลังฝ่ามือสยบมังกรของเยี่ยเว่ยหมิงที่สร้างคริติคอลดาเมจบนตัว BOSS เลเวลเก้าสิบได้ ก็สู้ไม่ได้แม้แต่กระบวนท่าเดียวอย่างนั้นหรือ
อย่าว่าแต่ท่าโม่บดหยินหยางเลย ต่อให้เป็น ‘มหาเวทคลายพลัง’ ‘มหาเวทดูดดาว’ และ ‘วิชาปรานภูตอุดร’ ที่สมบูรณ์แบบและอันธพาลกว่านี้ แต่ถ้าไปอยู่ในมือของ BOSS กระจอกเลเวลสี่สิบกว่า ก็ต้านทานท่า ‘มังกรผยองได้สำนึก’ ที่เยี่ยเว่ยหมิงฟาดออกมาส่งเดชไม่ได้อยู่ดี!
บอสในดันเจี้ยนจวนลู่ติ่งกงแม้เลเวลต่ำ แต่อัตราการดรอปก็ไม่เลว
ไห่ต้าฟู่ที่ถูกเยี่ยเว่ยหมิงปลิดชีพด้วยการโจมตีครั้งเดียว ไม่น่าเชื่อว่าจะดรอปอุปกรณ์ระดับทองคำสองชิ้น เคล็ดฝ่ามือระดับกลาง ‘โม่บดหยินหยาง’ หนึ่งเล่ม
แต่สำหรับของพวกนี้ ไม่ว่าจะเป็นเยี่ยเว่ยหมิงหรือโหยวโหยวก็ไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย ได้แต่โยนไปขายในร้านอุปกรณ์กิตติมศักดิ์
ความสิ้นเปลืองคือสิ่งที่น่าละอายใจ แม้ BOSS เลเวลสี่สิบสามจะถูกกำหนดให้ดรอปของไม่เยอะ แต่เยี่ยเว่ยหมิงก็ยังใช้เสื่อม้วนเก็บศพให้เขาจนเสร็จเรียบร้อย จากนั้นก็เรียกเจ้าแดงออกมาทันที เตรียมทำพิธีศพบนท้องฟ้า แต่เจ้าแดงกลับมีท่าทีรังเกียจศพ!
ระหว่างที่สื่อสารกันทางจิต เยี่ยเว่ยหมิงก็รู้ว่าเจ้าแดงรังเกียจที่ในศพร่างนี้มีธาตุพิษเยอะเกินไป ไม่อร่อย!
ภายใต้ความจนใจ ทำได้เพียงเก็บเขาไว้ก่อน เดี๋ยวกลับไปค่อยเปลี่ยนจากทำพิธีศพบนฟ้าเป็นฌาปนกิจแทน
จากนั้นเยี่ยเว่ยหมิงก็ถือ ‘ตระหนักรู้วิชากำลังภายใน’ หนึ่งเล่ม ‘ตระหนักรู้เคล็ดฝ่ามือ’ หนึ่งเล่มและ ‘ตระหนักรู้วิชาพิษ’ หนึ่งเล่มออกจากดันเจี้ยนไป
หลังจากสู้กับ BOSS คนแรกเสร็จแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่อยู่ต่ออีก ไปยังหน้าประตูด่านที่สองที่ต้องการท้าสู้วันนี้
หนึ่งกระบี่โลหิตสาด!