ผมเป็นเขย(ผู้ไม่ธรรมดา) - บทที่ 22 ฉินเฟย เมียแกถูกรังแกแล้ว(3)
“โทรหาไอ้คนไม่ได้เรื่องทำไม ฉันจะโทรหาพ่อเธอ พวกเขาไม่สนใจ พ่อเธอต้องจัดการให้แน่นอน ใช่ๆ และมีโจวเซี่ยงเฉียนด้วย เขาชอบเธอตลอด”
เสิ่นหัวหยีบโทรศัพท์ออกมาอย่างตื่นตระหนก เวลาเดียวกันมองไปคนในครอบครัวรอบๆ แม้แต่คุณย่าก็ก้มหน้าลงด้วยความละอายใจ
แต่เพื่ออนาคตของตระกูลเจียง ด้วยเป็นหัวตระกูล เธอต้องมีการเลือก
หลังจากได้ยินคำพูดของเจียงเยว่ถง คนในตระกูลก็กระซิบกันเสียงเบาๆ บางคนพูดจาดูถูกเหยียดหยาม
พวกเขาคิดเหมือนกันกับเสิ่นหัว ให้ไอ้ฉินเฟยไม่ได้เรื่องมา จะช่วยอะไรได้
บางคนปากแสบ กระซิบกันเสียเบาเบาๆ ว่า “ถึงไอ้คนไม่ได้เรื่องมา ก็ได้แค่ยืนข้างๆ เฉยๆ มองดูฮั่วจงเหยียนรังแกเมียมัน!”
“ฮ่าๆๆ” ฮั่วจงเหยียน อดไม่ได้ส่งเสียงหัวเราะเหลือบมองไปที่เสิ่นหัวเอ่ยว่า “ให้พวกเขามากันหมดเลย ฉันจะคอยดูใครจะแย่งกับฉัน เจียงเยว่ถงเป็นผู้หญิงของฉัน”
“คุณหุบปาก ฉันไม่แต่งงานกับคุณแน่นอน นอกจากฉันตายแล้ว” เจียงเยว่ถง พูดด้วยเสียงเย็นชา ใบหน้าแดงไปหมด รับความดูถูกของเขาไม่ได้
“สวยจังเลย เมียอนาคตของฉัน ถึงเธอจะโกรธ แต่ก็ทำให้ฉันชอบมากๆ เธอต้องเป็นผู้หญิงของฉันฮั่วจงเหยียน” ความดัชนีของเจียงเยว่ถงไม่ได้ทำให้ฮั่วจงเหยียนเก็บตัว กลับทำให้กระตุ้นความสนใจของเขา
พูดคำพวกนี้จบ เข้าไปกอดเจียงเยว่ถงไว้
เจียงเยว่ถงสะบัดมือเขาออกด้วยสัญชาตญาณ แต่รอบนี้เขาใช้แรงจริงๆ เจียงเยว่ถงส่งเสียงแบบเจ็บๆ ต่อสู้เขาไม่ได้ ข้อมือถูกเขาจับไว้อย่างแน่น
คราวนี้ คนในตระกูลเจียง เปลี่ยนสีหน้ากันทุกคน
คุณย่าเจียง หน้าเขียวไปหมด ตระกูลเจียงสืบทอดมาหลายชั่วอายุ มีความสนใจในเรื่องศีลธรรมตระกูลมาก สิ่งที่ฮั่วจงเหยียนทำ เท่ากับไปตบหน้าของตระกูลเจียง ใจจริงคุณย่าเจียงถือว่าอนุญาตการแต่งงานของวจงเหยียนกับเจียงเยว่ถงแล้ว ยังไงการแต่งงานครั้งนี้ถือว่าไม่เป็นเรื่องร้าย รอทั้งสองฝ่าย เลือกวันดีๆ ให้วจงเหยียนมารับเจียงเยว่ถงก็ได้แล้ว
แต่ไอ้ฮั่วจงเหยียน ช่างกล้าหาญนัก ที่ไม่สนใจเรื่องจรรยาบรรณ มาแตกต้องตัวเจียงเยว่ถง ต่อหน้าต่อตาคนอื่น
——
ถนนกว่างเฟิง เป็นถนนขายอาหารมีชื่อเสียงในเมืองชงไห่ ฉินเฟยเพื่อทำยาเชื่อมสวรรค์ ยังไม่ได้กินข้าวทั้งวัน ขี่จักรยานผ่านตรงนี้ หยุดไปซื้อของกิน
แต่เมื่อเขากำลังจะปั่นจักรยานไปหาเซียววี่ ที่ถนนโบ๋เหวิน ไม่คิดโดนไอ้คนบ้าตัดหน้าขวางทางไว้
คนหลีกทางเป็นชายชรา ตัวสกปรก ไม่ค่อยยสูง ผมหงอกครึ่งดำครึ่ง แต่ตาคู่หนึ่งดูสว่างมาก มองจ้องเข้าไปที่หน้าฉินเฟยทางซ้ายทางขวา เหมือนจะมองให้มีดอกไม้ออกมา
“เถ้าแก่ มองอะไร ยังไม่ได้กินข้าวหรือ นี้ให้” ฉินเฟยรีบไป ให้แพนเค้กไข่ปูที่กินเหลือให้กับชายชรา
“ไปๆ มึงคิดว่ากูเป็นคนขอทานรึ” นึกไม่ถึง ชายชราคนนี้รังเกียจมาก ส่ายมือเปิดแพนเค้กไข่ปู แต่สายตาก็ยังจ้องที่กางเกงของฉินเฟย
ชายชราหัวเราะ และเห็นฟันเหลืองๆของเขา ยังไปดมกลิ่นของตัวฉินเฟย “วัยรุ่น อันนี้ขายไหม”
เห็นชายชรา ที่มีแสงสีเขียว และจ้องมองลงไปที่ช่วงล่างของร่างกายตัวเอง ฉินเฟยตกใจไปนิด และด่าเขาด้วยความโกรธ “ไอ้เฒ่าแก่ ไม่คิดยังเป็นคนโรคจิต ไม่มีอะไรอย่ามาขวางทาง กูไม่เอาผู้ชายเว้ย”
“ไอ้เด็กเหี้ย คิดอะไรกับกู กูหมายถึงของในกระเป๋า ขายไหม” ชายชราใส่หัว พูดแบบโกรธมากมาย
“ของในกระเป๋ารึ” ฉินเฟยอึ้งไป เอามือไปจับ เปลี่ยนสีหน้าไปนิดนึง
เอามือออกจากกระเป๋า เปิดมือ ไว้ นั่นก็คือยาเชื่อมสวรรค์ !
ฉินเฟย ใช้เวลาทั้งวัน ทำมาได้สองเม็ด กินเข้าไปหนึ่งเม็ด ไม่มีผลห่าอะไรเลย คิดไว้ว่า อีกเม็ดใส่ไว้ในกระเป๋า เดี๋ยวจะทิ้งไป
“มึงรู้ได้ยังไง กระเป๋าของกู มีของอันนี้” ฉินเฟย ถามด้วยน้ำเสียงแปลกใจ
“ดมก็รู้สิ” ชายชราหัวเราะแบบชัยชนะ
ฉินเฟยมองไปที่ชายชราด้วยสายตาแปลกๆ ในใจสงสัยว่า ชายชรานี้เป็นคนรึ จมูกเก่งกว่าหมาในสถานีตำรวจอีก
“มึงขายไหม เท่าไร? หรือจะแลกด้วยเงื่อนไขอื่นๆ ก็ได้” ชายชรารีบพูด ในสายตามีแสงเขียวออกมา มองจ้องทียาเชื่อมสวรรค์ ที่อยู่ในมือของฉินเฟย
“ไม่ขาย!” ฉินเฟยส่ายหัว แต่ก็ดึงข้อมือของชายชราไว้ เอาไปเม็ดนึงไว้ในมือเขา “ นี่ให้ฟรี อย่าขวางทาง กูมีธุระ”
ไอ้ยาตัวนี้ยังไงก็ไม่มีผลอะไรเลย ฉินเฟยว่าจะทิ้งไป ในหัวสมองเขามีแต่ดาบชิ้นนั้น ไม่ได้คิดอะไรมาก
ชายชรา เห็นฉินเฟยขึ้นจักรยานจะหนี เลยมาจับ บอส ข้างหลังไว้ ว่า ไอ้เด็กบ้า หยุดเดี๋ยวนี้
“กูไม่เอาของฟรี ว่ามา มึงจะแลกอะไร”
เหี้ย เถ้าแก่นี่หัวสมองมีปัญหามั้ง ให้ฟรียังไม่เอา
ฉินเฟยโกรธ และมองไปที่ชายชรา สกปรกทั้งตัว เสื้อผ้าขาดไปหมด ในตัวเขาเยอะสุดน่าจะเป็นเหา
“มึงรู้จักยาตัวนี้รึ” ฉินเฟยถามด้วยเสียงแปลกๆ
“แน่นอน ยาตัวนี้ ต้นกำเนิด มาจากสำนักเรา” ชายชราเอ่ยว่า
“สำนัก?” หัวสมองฉินเฟยมีแต่คำถาม
“เหอะๆ สำนักกูมึงได้ยินมาก่อนแน่นอน กูเองเป็นผู้สูงอายุของสำนักเอ๋อเหมย เซียวเฟิ่งกาง” ชายชราพูดด้วยความภูมิใจ
“สำนักเอ๋อเหมย” ฉินเฟยมีอาการชักที่มุมปาก “มึงดูซีรี่ย์ไปเยอะไปเปล่า สำนักเอ๋อเหมยมีแต่ผู้หญิง และสวยๆ ทุกคนด้วย จะมีผู้ชายลามกอย่างมึงได้ไงวะ”
“ไอ้เด็กสารเลว มึงนี่แหละดูเยอะไป ผู้เริ่มต้นของสำนักเอ๋อเหมยคือซือถูเสวียนคง ลูกน้องส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย มึงไม่รู้เหี้ยอะไรเลย!” ชายชราโกรธมากๆ แบบทั้งเคราทั้งหน้าตกใจ
ฉินเฟยอึ้งไปสักพัก และตอนนี้ใจเย็นลง เพิ่งรู้สึกได้ว่าผิดปกติ
หรือจะเป็นคนมีความสามารถ?
“ยาตัวนี้เป็นของจริงรึ แต่ผมกินแล้วไม่มีผลอะไรเลย“ ฉินเฟยพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง ถามเอง
“มึงกินแล้ว?” ชายชราอึ้งๆ อยู่ๆ เอามือมาจับ ฉินเฟยเปลี่ยนสีหน้าไป และขัดขวางเขาไว้ด้วยสัญชาตญาณ
ฉินเฟยมีกงฟูอยู่ในอยู่แล้ว!
นึกไม่ถึง เพิ่งต่อสู้ไปสองรอบ ก็ถูกชายชราชนะไป นิ้วมือแห้งๆ กดข้อมูลเขาไว้อย่างแรง
พอสองวินาทีชายชราก็ปล่อยมือ พูดด้วยสำเนียงโกรธนิดหนึ่ง “ใช่กินไป 1 เม็ด แต่ยาเทพแบบนี้ถูกคนโง่อย่างมึงกินไป เสียดายของแท้ๆ !”
ฉินเฟยเกือบจะพูดอะไรไม่ออก แต่ก็พยายามอดทนไว้ถาม “ และผมกินเข้าไปทำไมไม่มีผลอะไรเลย”
“ผลมีแน่นอน อย่างน้อยได้ทำให้ร่างกายแข็งแรง
“วิธีอะไรรึ” ฉินเฟยสายหัวอย่างตื่นเต้น เนื่องจากในหนังสือ “ตำรากลันยา” ได้บันทึกไว้อยู่ว่ากินยาเชื่อมสวรรค์ต้องใช้วิธีพิเศษ แต่ไม่มีบันทึกเกี่ยวกับวิธีนี้
ยาเชื่อมสวรรค์ เท่าที่บันทึกไว้ หลังจากกินแล้วจะสามารถขึ้นสวรรค์ลงที่ดิน จะวิเศษเหนือคนธรรมดา
“วิธีมีแน่นอน แต่มึงต้องใช้ยาเชื่อมสวรรค์เม็ดนี้มาแลก” ชายชราพูดตรงตรง
“ตกลง นี่ให้!” ฉันเฟยพูดโดยไม่คิดอะไรเลย
แค่เค้าอยาก ยาเชื่อมสวรรค์ตัวนี้เขาสามารถเอามากรนเป็นขนมเล่นๆ
“ไม่ได้ เอางี้ มึงมีเวลาเมื่อไหร่ มาหากูที่โรงแรมปั่นเสียที่ถนนซี แล้วก็ ยาตัวนี้ต้องใช้ขวดหยกปิดด้วยเทียน เผื่อผลยาลดน้อยออกไป” ชายชราคนนี้ก็ยังไม่ยอมเอา หันหลังแล้วเดินจากไป
ฉินเฟยสงสัยไปสักพัก แต่ก็รีบเก็บยาไว้ ขี่รถไปถนนโบ๋เหวิน
มาถึงกู่ยิ่งถัง ทักทายกับเด็กหน้าร้านจางผิง ฉินเฟยก็เลยเดินไปห้องรับแขกข้างหลัง
เซียววี่รอคอยที่ห้องรับแขกข้างหลังอยู่แล้ว อยู่ข้างๆเธอ มีดาบที่เป็นสนิมวางไว้
“คุณเซียววี่ครับ ได้ข่าวว่า คุณหาเจอที่มาของดาบตัวนั้นแล้ว?” ฉินเฟยรีบถาม
“ค่ะ” เซียววี่พยักหน้าค่อยๆ ยิ้ม “เมื่อนคืนนี้ฉันได้ค้นหาประวัติศาสตร์และประวัติศาสตร์ลือมากมาย ตามข้อมูลเท่าที่คุณให้มา ราชวงศ์ถัง ถู่โป แล้วก็ องค์หญิงเหวินเฉิง แล้วก็แจกันหิมะเป็นต้นๆ
“ตามประวัติศาสตร์แล้ว คนในวังถู่โปมีความชื่นชอบกับองค์หญิงเหวินเฉิงมาก และได้ยกย่องเป็น “มู่ซ่า” ซึ่ง “ มู่” หมายถึง “หญิงสาว” ในขณะที่ “ ซ่า”หมายถึง “อมตะ นางฟ้า” หลังจากที่องค์หญิงเหวินเฉิงแต่งงาน ตอนนั้น อาป้าที่เป็นผู้ชายที่มีกงฟูระดับหนึ่งในถู่โป ซึ่งเป็นผู้คุ้มครองความปลอดภัยองค์หญิงเหวินเฉิง และเขาได้รับคำสั่งให้คุ้มครององค์หญิงเหวินเฉิงตลอดชีวิต และเขามีอาวุธนั่นก็คือ มีดพับที่มีชื่อว่า ดาบเสวีนอีน และมี “เพลงกระบีเสวียนอีน” พูดไปเซียววี่มองไปที่ดาบที่เต็มสนิม
“ตามที่บันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ลือ อาป้ามีความเคารพนับถือองค์หญิงมากอย่างกับนับถือพระเจ้า องค์หญิงเหวินเฉิงเสียชีวิตด้วยโรคฝีดาษ และฝังที่ถู่โป หลังจากนั้น เพื่อสมหวังความปรารถนาสุดท้ายของท่าน อาป้านำเสื้อผ้าของท่านไปยังกรุงราชวงศ์ถังและสร้างหลุมศพขึ้นเพื่อให้ท่านได้อยู่บ้านเกิดของท่านเอง อาป้าจงรักภักดีต่อพระองค์ และตายเพื่อการปลุกระดมเจ้าหญิง”
ฉินเฟยพยักหน้า พูดว่า “ แสดงว่าผมเดาไม่ผิด เจ้าของแผงคนนั้น จริงๆแล้วเป็นคนขโมยหลุมฝังศพ แจกันหิมะ หนังสือโบราณและ ดาบเสวียอีน พวกนี้มาจากที่เดียวกัน”
“ค่ะ เขาว่ากันว่า ดาบเสวียอี่นเป็นของที่ราชวงศ์ถู่โปยกให้กับอาป้า ซึ่งเป็นผู้ชายที่มีกงฟูระดับหนึ่ง และวัสดุทำมาจากอุกกาบาตที่ตกลงมาจากภูเขาสวรรค์ อุกกาบาตนี้ถูกซ่อมที่ใต้ภูเขาสวรรค์เป็นพันปี เป็นของเย็นอย่างยิ่ง และจากนั้นช่างหล่อได้ทำเป็นดาบนี้ อุกกาบาตนี้ที่จริงเป็นไฟ แต่ถูกเก็บไว้ที่ภูเขาหิมะที่เย็นที่สุด ก็เป็นสิ่งของที่พร้อมความร้อนความเย็น หลังที่ดาบเสวียอีนได้ทำเสร็จก็มีลมปราณ หลังจากอาป้าเสียชีวิต ดาบนี้ก็ได้ปิดเองไว้เลย
“วิธีปลดล็อคคือยังไง?” ฉินเฟยรีบที่จะถาม