ผมเป็นเขย(ผู้ไม่ธรรมดา) - บทที่ 35 ขอรางวัลจากภรรยา
ระหว่างทางกลับว่านเซียง มูวี ฉินเฟยรับสายโทรศัพท์ของเจียงเยว่ถง
แต่หลังจากที่ฉินเฟยรับ คนที่อยู่ปลายสายอย่างเจียงเยว่ถงเอาแต่เงียบ ไม่พูดอะไรสักคำ
ถ้าไม่ได้ยินเสียงลมหายใจเบาๆ ของเจียงเยว่ถง ฉินเฟยคงเข้าใจว่าเธอโทรผิด
แต่ฉินเฟยรู้เรื่องที่บริษัทฉีแยกำลังจะเปลี่ยนเจ้าของ รู้ว่าตอนนี้จิตใจของเจียงเยว่ถงต้องไม่ดีเป็นอย่างมาก
เขาก็ไม่ได้พูดอะไรเหมือนกัน
เจียงเยว่ถงยืนอยู่หน้าลานอาคารเยี่ยหลัน ถือมือถืออยู่เงียบๆ บริษัทฉีแยเปลี่ยนเจ้าของแล้ว เธอโดนไล่ออกจากบริษัทแล้ว!
เธอยืนอยู่ในลานกว้างที่คนเดินไปมาพลุกพล่าน จู่ๆ อยากโทรหาฉินเฟย แต่เมื่อโทรติดก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร
แต่งงานมาสามปี จู่ๆ เจียงเยว่ถงพบว่าตัวเองไม่ได้คุ้นเคยกับฉินเฟยขนาดนั้น ไม่รู้จะพูดอะไรเหมือนกัน แค่อยากโทรหาเขาเฉยๆ
“นายอยู่ไหน” เงียบอยู่นาน จู่ๆ เจียงเยว่ถงเอ่ยขึ้น
“เอ่อ……ถนนวินรุ่ย ผมเพิ่งเอาของขวัญของคุณย่ามา” ฉินเฟยพูด ตอนนี้ไม่รู้อารมณ์ของเจียงเยว่ถง จึงไม่กล้าพูดอะไรมาก
“มารับฉันหน่อย ฉันอยากรับลม ฉันอยากไปดูทะเล” เจียงเยว่ถงเอ่ยขึ้น
ฉินเฟยจับมือถืออย่างประหลาดใจ ดูทะเลเหรอ ซงไห่มีทะเลที่ไหนกันล่ะ เจียงเยว่ถงโมโหจนเลอะเลือนไปแล้วเหรอ
แม้จะงงเล็กน้อย แต่ฉินเฟยก็รีบตอบว่า “คุณรอผมที่บริษัท ผมจะไปรับคุณ”
“ได้” เจียงเยว่ถงวางสาย ยิ้มขมขื่นมุมปาก เธอไม่มีบริษัทแล้ว
ความคิดของเจียงเยว่ถงล่องลอยไปมา จู่เธอคิดถึงโจวเซี่ยงเฉียนขึ้นมา โจวเซี่ยงเฉียนก็เสียบริษัทไปเมื่อสองสามวันก่อน……
ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอกดโทรหาเบอร์ของโจวเซี่ยงเฉียน
“ฮัลโหล เยว่ถงเหรอ” เสียงสัญญาณดังอยู่หลายครั้ง กว่าจะมีคนรับสาย เสียงโจวเซี่ยงเฉียนดูตกใจเล็กน้อย คิดไม่ถึงเลยว่าเจียงเยว่ถงจะเป็นฝ่ายโทรหาเขา
“อืม ขอบคุณที่นายชอบมาหลายปี นายมีเวลาเมื่อไร ฉันจะเอากระโปรง The chanrm of heaven คืนให้” เจียงเยว่ถงเอ่ยขึ้น
เธอไม่รู้ว่าโจวเซี่ยงเฉียนไปเอาเงินมาจากไหนเยอะแยะ เพื่อซื้อกระโปรงThe chanrm of heaven ตัวนั้น แต่เธอคิดว่าจำเป็นต้องคืนให้เขา อย่างน้อยก็แลกเป็นเงินกลับมาได้ ส่วนเรื่องระหว่างเธอกับเขา เป็นไปไม่ได้เลย ถึงเจียงเยว่ถงหย่า ก็ไม่สามารถยอมรับโจวเซี่ยงเฉียนได้
ยิ่งไปกว่านั้น เธอไม่ได้คิดหย่า
“The chanrm of heaven เหรอ กระโปรง กระโปรงอะไร” เสียงของโจวเซี่ยงเฉียนดูงุนงง
“หืม กระโปรง The chanrm of heaven ตัวนั้น นายไม่ได้ส่งให้ฉันเหรอ” เจียงเยว่ถงขมวดคิ้วทันที เสียงดูประหลาดใจ “ฉันไม่ได้ส่งThe chanrm of heaven อะไรนั่นให้เธอนะ ก่อนหน้านี้ In Love ที่เป็นของปลอม โดนสามีแสนดีของเธอโยนไปแล้วไม่ใช่เหรอ เหอะๆ” โจวเซี่ยงเฉียนพูดอย่างขมขื่น
เมื่อวางสาย เจียงเยว่ถงขมวดคิ้วแน่น โจวเซี่ยงเฉียนไม่ได้ส่ง The chanrm of heaven ตัวนั้นมาเหรอ
แต่ว่า……จะเป็นใครได้อีกล่ะ
เจียงเยว่ถงรู้สึกงงไปหมด
ตอนฉินเฟยรีบขี่รถมาถึงอาคารเยี่ยหลัน เห็นจากไกลๆ ว่าเจียงเยว่ถงยืนรออยู่ที่ลานอาคารเยี่ยหลัน เธอสวมชุดยูนิฟอร์มกระโปรงสีดำ ไม่ได้สวมถุงน่อง เรียวขายาวดึงดูดคนเป็นพิเศษ
ฉินเฟยหยุดรถแล้วโบกมือทักทาย เห็นเจียงเยว่ถงเดินคิ้วขมวดมาหาตัวเอง
สภาพของเจียงเยว่ถงดูไม่ค่อยดีอย่างเห็นได้ชัด เหมือนไม่เจอวันเดียว เธอซูบลงไปเยอะ
ตัวตนของเจียงเยว่ถงนั้นร้อนแรงอย่างไม่ต้องสงสัย อีกทั้งยังเป็นแบบที่ฉินเฟยชอบที่สุด รูปร่างของเจียงเยว่ถงไม่ได้ผอมบางและสูงโปร่ง แต่เป็นแบบที่เซ็กซี่ มีน้ำมีนวลเล็กน้อย เขาชอบผู้หญิงมีน้ำมีนวล แต่ตอนนี้เหมือนเจียงเยว่ถงผอมลง ผอมแห้งซีดเซียว เหมือนลมพัดเบาๆ ก็ทำให้เธอล้มได้
ฉินเฟยรีบถอดสูทออก คลุมบนตัวเจียงเยว่ถงอย่างห้าวหาญ
เดิมคิดว่าเจียงเยว่ถงจะปฏิเสธ และรังเกียจว่าเขาสกปรก โดยเฉพาะตอนนี้เธออารมณ์ไม่ดี แต่เจียงเยว่ถงไม่พูดอะไรซึ่งเห็นได้ยาก ปล่อยให้ตัวเองคลุมสูทให้เธอ
เจียงเยว่ถงมองฉินเฟยแวบหนึ่ง เขาไม่ได้พูดอะไร การที่เขาไม่พูด กลับทำให้เจียงเยว่ถงรู้สึกสบายใจนิดหน่อย
ยื่นมือเล็กๆ ออกมาติดกระดุมสูท รูปร่างงดงามอยู่ภายใต้สูทใหญ่ เธอเงยหน้ามองฉินเฟยแล้วพูดว่า “ลงรถ”
“หา?” ฉินเฟยเงยหน้าอย่างตกใจ ยังเข้าใจว่าตัวเองฟังผิด
“ไปนั่งข้างหลัง ฉันจะขี่” เสียงเจียงเยว่ถงเผด็จการ
เธออยากรับลม
“เอ่อ……คุณขี่เป็นเหรอ……” ฉินเฟยลังเล เห็นเจียงเยว่ถงขมวดคิ้ว เขารีบหุบปากอย่างรู้งาน และลงรถอย่างว่าง่าย
เจียงเยว่ถงขี่รถไฟฟ้า เป้าหมายคือริมแม่น้ำซงไห่
แต่ไม่นานเธอก็รู้สึกเสียใจแล้ว เพราะไอ้เลวฉินเฟยที่อยู่ด้านหลัง กอดเอวของเธอ!
……
ริมแม่น้ำซงไห่ เจียงเยว่ถงนั่งเงียบๆ บนเก้าอี้ยาว บ่ายสี่โมงกว่า พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน แสงอาทิตย์ยามเย็น ตรงขอบฟ้า ทำให้ผิวน้ำระยิบระยับ สะท้อนสีแดงที่แตกต่าง
เจียงเยว่ถงเหม่อลอย จู่ๆ เสียงมือถือดังขึ้น แต่เมื่อมองหน้าจอ เจียงเยว่ถงตกใจทันที
คุณย่าโทรมางั้นเหรอ
เจียงเยว่ถงต้องตกใจอยู่แล้ว คุณย่าเจียงยุ่งมากทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ของตระกูลเจียง เธอต้องไปจัดการด้วยตัวเอง คนที่ติดต่อกับคุณย่าบ่อยๆ ล้วนเป็นผู้อาวุโสของตระกูลเจียง รวมไปถึงเจียงเฉิงเย่ที่คุณย่ารักมาก
ส่วนเจียงเยว่ถง หนึ่งปีก็ไม่แน่ว่าจะได้รับสายจากคุณย่า
โดยเฉพาะวันนี้ยังเป็นวันครบรอบวันเกิดของคุณย่า แม้ยังไม่ถึงเวลางานเลี้ยงตอนเย็น แต่คุณย่าน่าจะยุ่งมากไม่ใช่หรือไง
“คุณย่า” แม้ในใจสงสัย แต่เจียงเยว่ถงก็กดรับสาย
“เสี่ยวถงใช่ไหม”
เสียงคุณย่าดังออกมาจากมือถือ
อันที่จริงคุณย่าก็ไม่ค่อยเต็มใจเป็นฝ่ายโทรหาเจียงเยว่ถงสักเท่าไร แต่ตอนนี้จนปัญญา ว่านเซียง มูวีบอกว่าเขารู้จักแค่เจียงเยว่ถงคนเดียว
“เสี่ยวถง ย่าอยากขอร้องแกเรื่องหนึ่ง……” คุณย่าเจียงพูดขึ้นอีกครั้ง น้ำเสียงจริงใจมาก
เมื่อพูดประโยคนี้ออกมา จู่ๆ เจียงเยว่ถงตะลึงเล็กน้อย คุณย่าจัดการเรื่องใหญ่มาหลายปี ท่าทางแข็งกร้าวมาโดยตลอด เคยใช้น้ำเสียงแบบนี้พูดกับเด็กที่ไหนกันล่ะ โดยเฉพาะกับเจียงเยว่ถง ในบรรดาคนอายุน้อยในตระกูลเจียง ฐานะของเธอต่ำมาก
คิ้วสวยของเจียงเยว่ถงขมวดเล็กน้อย อดมองฉินเฟยที่อยู่ข้างๆ ที่มองมาอย่างแปลกใจเช่นกัน เธอกดเปิดลำโพงแล้วพูดว่า “คุณย่า มีเรื่องอะไรคุณพูดมาตรงๆ ได้เลย”
“เสี่ยวถง……” คุณย่าลังเลครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “ย่ารู้ว่าทำเรื่องผิดต่อแก แต่ย่าก็หมดหนทางเหมือนกัน ฉันอยากให้แกไปเจรจาที่ว่านเซียง มูวี ให้เราลงทุน”
เจียงเยว่ถงขมวดคิ้วอีกครั้ง ก่อนหน้านี้คุณย่ามอบหน้าที่นี้ให้เจียงเฉิงเย่แล้ว ทำไมตอนนี้ถึงกลับมา ‘ขอร้อง’ ให้ตัวเองไปเจรจาอีกล่ะ
ขณะนั้น เจียงเยว่ถงรู้สึกแน่นตรงมือ ฉินเฟยจับข้อมือเธอไว้ ตามมาด้วยเสียงเบาๆ ของฉินเฟย “บอกว่าเธออารมณ์ไม่ดี ขี้เกียจทำอะไร! ปฏิเสธเธอ!!”
เจียงเยว่ถงเงยหน้ามองฉินเฟยอย่างตกใจ จู่ๆ เธอไม่รู้จะคิดยังไง พูดใส่มือถือว่า “คุณย่า ในเมื่อคุณมอบหน้าที่ให้เจียงเฉิงเย่แล้ว ก็ให้เขาไปเจรจาเถอะ ฉันเหนื่อยนิดหน่อย ไม่อยากไป”
“แก!” คุณย่าเจียงโมโหจนเกือบกระอักเลือดออกมา “เสี่ยวถง แกพูดอะไร นี่แกกำลังตำหนิฉันเหรอ แกคิดว่าตระกูลเจียงไม่มีแก แล้วจะไม่มีวิธีทำความร่วมมือกับว่านเซียง มูวีเหรอ แกคิดว่าปีกกล้าขาแข็งแล้วใช่ไหม”
เจียงเยว่ถงขบริมฝีปาก แล้วพูดออกมาตรงๆ “คุณย่า ฉันเหนื่อยแล้ว แต่คืนนี้ฉันจะไปอวยพรวันเกิดคุณย่า งั้นแค่นี้นะ ฉันวางสายก่อน”
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เจียงเยว่ถงไม่มีทางกล้าพูดแบบนี้กับคุณย่าแน่นอน แต่ตอนนี้เธออารมณ์ไม่ดีจริงๆ ในเมื่อคุณย่าเจียงให้เจียงเฉิงเย่สละบริษัทฉีแยของเธอออก บวกกับเมื่อวานเธอเห็นอะไรที่เรียกว่าคนตระกูลเจียงอย่างชัดเจน
บวกกันสองด้าน รวมถึงที่ฉินเฟยเพิ่งเตือนเข้าเมื่อกี้ เธอจึงทำตามที่เขาบอกอย่างไม่รู้ตัว
“ทำไมต้องปฏิเสธล่ะ” เมื่อวางสาย เจียงเยว่ถงเงยหน้ามองฉินเฟย
“เพราะเธอจะขอร้องคุณ คุณย่ากับเจียงเฉิงเย่ฉลาดขนาดนี้ อยากให้คุณจัดการ ต้องเอาอะไรมาแลกอยู่แล้ว” ฉินเฟยยิ้มอย่างมั่นใจ
“คุณวางใจเถอะ นอกจากคุณ ว่านเซียง มูวีไม่รู้จักใครทั้งนั้น เชื่อผม”
ครั้งนี้เจียงเยว่ถงตกใจจริงๆ
ดวงตาคู่สวยจ้องฉินเฟยเขม็ง ดวงตาสวยวูบไหว จู่ๆ นึกถึงตอนไปว่านเซียง มูวีขึ้นมาได้ เลขาหลิ่วเมิ่งบอกว่ารองประธานเสิ่น ไม่ได้มีผู้ช่วยฉินอะไรนั่น
“ที่ว่านเซียง มูวี นาย นายเป็นใครกันแน่”
ในใจฉินเฟยเกิดเสียง ‘ตุ้บ’ ถอนหายใจด้วยความเศร้า แต่งงานกับภรรยาฉลาดก็เหนื่อยมากเหมือนกัน
ฉินเฟยอดยื่นมือออกมาจับมือเจียงเยว่ถงไม่ได้ พูดด้วยใบหน้าจริงจังและลึกซึ้ง “คุณภรรยา พูดตามตรง อันที่จริงประธานลึกลับของว่านเซียง มูวีคือผมเอง สามีของคุณไม่ใช่แค่คุณชายตระกูลใหญ่ ยังรวยมากด้วย มีเงินเยอะ!!”
เจียงเยว่ถงใบหน้าเย็นชา สะบัดมือปลาหมึกของฉินเฟยออกอย่างแรง “ไสหัวไปทางนั้นเลย ฉันไม่มีอารมณ์เล่นกับนาย”
ฉินเฟยแอบขำในใจ พูดในใจว่า: ผมไม่ได้หลอกคุณนะ พูดความจริงกับคุณ แต่คุณไม่เชื่อ จะโทษผมไม่ได้
“วางใจเถอะ อีกไม่นานบริษัทฉีแยของคุณก็จะกลับมาแล้ว เชื่อผมสิ” ฉินเฟยยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น
เมื่อได้ยินสามคำสุดท้าย ความรู้สึกปลอดภัยผุดขึ้นในใจเจียงเยว่ถงอย่างไม่สามารถอธิบายได้
จู่ๆ เธอเข้าใจแล้ว เข้าใจความหมายของฉินเฟย เขาจะบีบให้คุณย่าเจียงเอาบริษัทฉีแยคืนกลับมาให้เธอ
ส่วนคำพูดที่ฉินเฟยบอกให้เธอพูดเมื่อกี้ ไม่ใช่คำพูดไร้สาระ เธอบอกว่าเธอเหนื่อย ไม่อยากไป เป็นการบอกชัดเจนว่า: คุณขายบริษัทฉัน ฉันไม่พอใจ!
ส่วนว่านเซียง มูวีดันรู้จักแค่ตัวเอง งั้นวิธีแก้ปัญหาเพียงอย่างเดียว ก็คือมาง้อให้ตัวเองมีความสุข
แต่เมื่อวกหัวข้อสนทนามา ฉินเฟยทำได้ยังไง ทำไมว่านเซียง มูวี ถึงรู้จักตัวเองคนเดียว
“ฉินเฟย นายทำได้ยังไง นายกับรองประธานเสิ่น……” ดวงตาทั้งสองข้างของเจียงเยว่ถงจ้องเขม็งไปที่ฉินเฟย
ในเมื่อฉินเฟยไม่ใช่ประธานลึกลับคนนั้น งั้นเขาต้องจ่ายด้วยอะไร หรือไม่ก็มีความสัมพันธ์พิเศษกับรองประธานเสิ่น ไม่งั้นทำไมรองประธานเสิ่นถึงดูแลแบบนี้ตลอด
มองแววตาคู่สวย ที่วูบไหวของเจียงเยว่ถง ฉินเฟยเข้าใจความหมายของเธอทันที เขาพูดด้วยสีหน้าเศร้า “คุณภรรยา คุณกำลังคิดอะไรเหรอ คุณคิดว่าสามีคุณเป็นเทพบุตรเหรอ”
มองสีหน้าถูกใส่ความจนรันทดอดสูของฉินเฟย เจียงเยว่ถงกัดริมฝีปากแน่น ก็เข้าใจขึ้นมา ประธานเสิ่นเป็นถึงใคร ไม่เพียงแต่จะรวยและสวย กลิ่นของผู้หญิงที่แผ่ออกมา ขนาดตัวเองยังอิจฉาแทบแย่ แค่เธอกวักมือ ไม่รู้มีผู้ชายตั้งเท่าไรยอมบุกน้ำลุยไฟเพื่อเธอ จะฟังคำพูดของฉินเฟยได้ยังไง
เมื่อคิดออกแล้ว เจียงเยว่ถงรู้สึกว่าความคิดของตัวเองเมื่อครู่ ปัญญาอ่อนมาก พูดด้วยหน้าแดงระเรื่อว่า “งั้นต่อไปฉันควรทำยังไง”
เจียงเยว่ถงก็ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่า ฉินเฟยกลายมาเป็นคนสำคัญของตัวเองตั้งแต่เมื่อไร
“ตอนนี้คุณควรคิดว่า ถ้าผมทำเรื่องนี้ให้คุณสำเร็จ คุณจะตอบแทนผมยังไง” ฉินเฟยพูดอย่างได้ใจ คางคกขึ้นวอ
“มีการขอสิ่งตอบแทนจากภรรยาตัวเองด้วยเหรอ” เจียงเยว่ถงพูดอย่างโมโห แต่เมื่อพูดจบก็รู้สึกผิดปกติ หน้าแดงระเรื่อขึ้นมาทันที