ผมเป็นเขย(ผู้ไม่ธรรมดา) - บทที่ 56 ผล็อตเรื่องผกพัน!(5)
ผมเป็นเขย(ผู้ไม่ธรรมดา) บทที่ 56 ผล็อตเรื่องผกพัน!(5)
“คุณติดค้างพวกเธอทั้งสอง มากเกินไปแล้ว!”
น้ำเสียงของฉินเฟยค่อนข้างรุนแรง และแทงใจดำ และไม่ให้เกียรติซุนเย่าเหวินเลยแม้แต่น้อย
ซุนเย่าเหวินกลับไม่ได้โกรธเคืองเลย แถมยังตกอยู่ในความทรงจำที่เจ็บปวด กัดฟันแน่น ดวงตาแดงก่ำ อบอวลไปด้วยหมอกควัน: “เสี่ยวเหมย เธอโง่หรือเปล่า……ทำไมเธอถึงไม่มาหาฉันล่ะ?”
“ทำไมเธอไม่มาหาคุณล่ะ เรื่องนี้คุณน่าจะรู้ดีกว่าผมนะ” ฉินเฟยพูดจาโผงผาง: “เธอเกลียดคุณแน่นอน! อีกอย่าง คุณก็รู้จักนิสัยของเธอ!”
“ดังนั้น ตอนนี้คุณต้องเตรียมใจให้พร้อม เธออาจจะไม่ยอมรับคุณ ลูกสาวของคุณก็เช่นกัน คุณไม่ได้รับผิดชอบเลยแม้แต่น้อย”
“ฉันรู้ๆ” ซุนเย่าเหวินพยักหน้า
ตอนนี้ เขาใจเย็นลงโดยสมบูรณ์
“ที่จริงแล้วเสิ่นเสวี่ยเหมยมาที่ซงไห่เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว เธอมาเพื่อให้ลูกสาวของเธอได้เข้าเรียนโรงเรียนที่ดี และในตอนที่คุณเพิ่งจะสร้างตัวได้ไม่นาน ตอนนั้นคุณประสบความสำเร็จ แถมยังได้แต่งงานกับภรรยาคนสวยอีกด้วย คนอื่นไม่มีใครรู้ แต่เสิ่นเสวี่ยเหมยซึ่งอยู่ในซ่งไห่จะต้องรู้จักคุณ เธอรู้ว่าคุณร่ำรวย และรู้ด้วยว่าลูกสาวที่เธอเลี้ยงมาด้วยชีวิตและจิตใจก็เป็นลูกสาวคุณเช่นกัน คุณไม่เพียงแค่รวย แถมยังยิ่งรวยมากขึ้นเรื่อยๆด้วย แต่……ไม่ว่าจะเจอเรื่องลำบากแค่ไหน เธอก็ไม่เคยมาหาคุณเลย”
“ฉันรู้ สิ่งที่เสี่ยวเหมยทำมันไม่แปลกเลยสักนิด นิสัยเธอก็เป็นแบบนี้แหละ เธอเกลียดฉัน”
ซุนเย่าเหวินตาลอยเล็กน้อย เหมือนจะหลุดโฟกัส ตกอยู่ในห้วงความทรงจำบางอย่าง แม้ว่าเสิ่นเสวี่ยเหมยไม่ได้ถือว่าสวยเท่าไหร่ แต่นิสัยของพวกเขาเข้ากันได้ พวกเขาเคยมีความรักซึ่งกันและกัน และซุนเย่าเหวินก็รู้จักนิสัยของเสิ่นเสวี่ยเหมยเป็นอย่างดี
“คุณรู้ก็ดี แม้ว่าตอนนี้คุณจะร่ำรวย มีทรัพย์สินนับหมื่นล้าน แต่ตอนนี้ชีวิตเธอจากที่แย่ก็คงจะดีขึ้นเรื่อยๆแล้ว และไม่ได้ต้องการคุณ”
“ฉันรู้” เสิ่นเสี่ยวเหมยพยักหน้า แต่เขาไม่ได้รู้สึกหดหู่เพราะเรื่องนี้
นี่คือความหวังเดียวของเขา
“อืม พวกเราควรจะออกกันไปได้แล้ว ต่างก็กำลังรอคุณอยู่ ผมไม่อยากให้เยว่ถงรอผมนานเกินไป” ฉินเฟยลุกขึ้นและกล่าว
ซุนเย่าเหวินมีสติกลับมา ฉินเฟยก็เดินไปหน้าประตูห้องวีไอพีที่ล็อกไว้
ซุนเย่าเหวินเดินตามฉินเฟยไปอย่างรวดเร็ว จับมือเขาไว้ กระซิบอย่างรวดเร็วว่า: “น้องรัก ฉันไม่รีบ ส่วนทางฝั่งสาวน้อยเยว่ถงไม่มีทางโทษนายหรอก สาวน้อยคนนี้แค่มองก็รู้เหตุรู้ผลแล้ว เธอไม่มีทางโทษนายแน่ นายบอกฉันอีกสิ บอกฉันอีกนะ……”
“ที่ควรพูดผมพูดไปหมดแล้ว กล่าวอีกนัยนึง รักลึกซึ้งแค่ไหน เกลียดกันมากเพียงใด แต่ความรู้สึกในส่วนนี้อาจจะยังคงอยู่ แต่คุณจะไปหาเสิ่นเสวี่ยเหมยโดยตรงมันก็ไม่ได้อยู่แล้ว แต่ก็ใช่ว่าไม่มีวิธี อายุมากแล้ว ไม่มีความต้องการอะไรกับตัวเองแล้ว มีแต่จะคิดเพื่อลูกสาวอยู่เสมอ”
ซุนเย่าเหวินอึ้งเล็กน้อย
“ง่ายมาก คนแก่ต่างก็คำนึงถึงลูกสาวกันทั้งนั้นแหละ คุณสามารถเริ่มลงมือจากเสิ่นหรูจวินก็ได้ อายุของเธอยังเป็นช่วงที่ต้องพัฒนาขึ้นอีก มักจะพบกับปัญหาอยู่เสมอ ถูกต้องไหม? ถ้าหากคุณสามารถทำให้ลูกสาวยอมรับคุณได้ งั้นครอบครัวพวกคุณจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งก็มีความเป็นไปได้สูงแล้ว ไม่ใช่หรือไง?” ฉินเฟยกล่าวอย่างจำใจ
“ใช่ๆๆ นายเป็นเพื่อนรักของฉันจริงๆ!”ซุนเย่าเหวินตบหัว และเพิ่งจะเข้าใจ
ไม่ใช่ว่าเขาโง่ แต่คืนนี้เขาเจอเรื่องราวมากเกินไป ความคิดในสมองจึงสับสนเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงไม่เข้าใจความหมายของฉินเฟยอยู่ครู่หนึ่ง
ได้ยินคำนี้ ฉินเฟยก็หมดคำพูดอยู่สักพัก
จางฉองหย่วนในวัย 40 กว่าปีเรียกเขาว่าน้องรัก จางจงเยว่ก็ยิ่งเกินไป เรียกภรรยาเขาว่าพี่สะใภ้ และในตอนนี้ ซุนเย่าเหวินในวัยห้าสิบ ยังเรียกตัวเองว่าเป็นน้องรักของเขา
ฉินเฟยพูดไม่ออกเลย ตัวเองแก่ขนาดนั้นเลยเหรอ?
“น้องรักฉินเฟย นายบอกฉันมาตรงๆ นายเป็นใครกันแน่? นายวางใจเถอะ พี่ชายไม่เคยมีหวังร้ายกับนายแน่นอน” ซุนเย่าเหวินรู้สึกมาตั้งนานแล้วว่าฉินเฟยไม่ธรรมดา เรื่องทั้งหมดในตอนนี้มันชัดเจนแล้ว ในที่สุดก็อดทนไม่ไหวจึงถามออกมา
ฉินเฟยฝืนยิ้มอยู่ในใจ สุดท้ายก็มาจนได้!
อีกอย่างเขารู้ ถึงแม้ว่าเขาไม่พูด อาศัยความสามารถของซุนเย่าเหวิน สักวันหนึ่งก็สามารถตรวจสอบได้
“ผม……”
และในเวลานี้ จู่ๆ ก็มีเสียงทะเลาะวิวาทดังขึ้นจากข้างนอก เสียงค่อนข้างดัง
ซุนเย่าเหวินขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้
ใครไม่รู้จักรักตัวกลัวตาย คิดไม่ถึงว่าจะกล้ามาวุ่นวายถึงหมู่บ้านเทียนฝู?
และในเวลานี้ ฉินเฟยก็ฉินเฟยถือโอกาสใช้มือเปิดประตูออก
เขารู้ว่าสักวันหนึ่งตัวตนของตัวเองจะถูกเปิดเผย แต่สามารถปิดบังได้ 1 วัน เขาก็จะมีเวลาพัฒนาตัวเองเพิ่มอีกหนึ่งวัน
เพราะวันที่ตัวตนของเขาถูกเปิดเผยโดยสมบูรณ์ จะต้องนำไปสู่หายนะที่ถึงแก่ชีวิตอย่างแน่นอน!
แต่ขณะที่ฉินเฟยเปิดประตูห้องวีไอพี ภาพตรงหน้าทำให้เขาตกใจแล้ว
ทั้งห้องอาหาร แม้แต่ทางขึ้นบันได ก็มีคนแน่นขนัดเต็มไปหมด
ทั้งหมดล้วนแล้วเป็นบอดี้การ์ดสวมชุดสูท!
เกิดเรื่องอะไรขึ้น?
ฉินเฟยรู้สึกช็อก และในขณะที่เขากำลังมองหาไปรอบๆ ขณะที่เห็นผู้นำในการสร้างปัญหา สีหน้าก็ยิ่งช็อกขึ้นไปอีก
จางฉองหยวน!
เขามาได้ยังไง? ทั้งสองคนมองหน้ากัน!
“เกิดอะไรขึ้น?” ไม่รอให้ฉินเฟยพูดอะไร ก็เดินตามซุนเย่าเหวินไปติดๆ มองไปรอบๆที่ผู้คนที่แน่นขนัดด้วยสายตาที่เย็นชา น้ำเสียงเย็นชาและเคร่งขรึม
“ฉินเฟย?” จางฉองหยวนมองไปที่ประตูห้องวีไอพี ฉินเฟยปรากฏตัวทันที เขาค้นพบแล้ว ทำเสียงร้อนรน รีบเดินเข้ามา
แน่นอนว่าเขามาช่วยฉินเฟย!
โจวฉ่ายเวยถูกคนด่าที่หมู่บ้านเทียนฝู ซุนเย่าเหวินก็โผล่ตามมา ทั้งสองฝ่ายต่างก็เกลียดกัน!
ข่าวนี้แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ถึงขั้นที่ว่ามีคนถ่ายรูปไว้เลย
และจางฉองหย่วนที่อยู่ในโรงแรมเทียนเซียงที่ห่างออกไปกลับรู้สึกประหลาดใจที่ค้นพบ โจวฉ่ายเวยที่โมโหเดือดดาลคนนี้ ไม่คิดว่าคนที่เรียกว่าชายหนุ่มผู้แกว่งเท้าหาเสี้ยนจะเป็นฉินเฟยผู้มีพระคุณของตนเอง!
จึงไม่พูดพร่ำทำเพลง ลากคนกลุ่มหนึ่งพุ่งมาอย่างร้อนรน!
แน่นอนว่าจางฉองหยวนรู้ว่าซุนเย่าเหวินแห่งตระกูลซุนมีอำนาจมากน้อยเพียงใด ในด้านอำนาจและรายละเอียดภายใน จางฉองหยวนสองคนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตระกูลซุนเลย แต่จางฉองหยวนให้ความสำคัญกับความยุติธรรม จะไม่ยอมมองดูผู้มีพระคุณของตัวเองถูกซุนเย่าเหวินทุบตีจนตายหรอก
แต่หลังจากที่พาคนมาแล้ว กลับได้ยินว่าโจวฉ่ายเวยถูกตบแล้ว! หลังจากที่จางฉองหยวนได้ยินข่าวนี้ เกือบจะร้องออกมา ก่อนหน้านี้เขาเกลี้ยกล่อมฉินเฟยว่าควรแสดงความสามารถออกมาแล้วหรือเปล่า แต่สิ่งที่ฉินเฟยทำมันเกินไปมากแล้วนะ?
หลังจากนั้น เขาก็ได้ข่าวว่าคนที่ตบโจวฉ่ายเวยไม่ใช่ฉินเฟย แต่เป็นซุนเย่าเหวิน!
จางฉองหยวนรู้สึกสับสนโดยสิ้นเชิง แต่ไม่ว่ายังไง ฉินเฟยก็ไม่มีทางตกอยู่ในอันตรายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรู้ว่าฉินเฟยถูกซุนเย่าเหวินดึงเข้าไปในห้องวีไอพี เขาก็ยิ่งร้อนรนแล้ว
แต่กลายเป็นว่าบอดี้การ์ด 250 คนที่เฝ้าประตูไม่ยอมให้พวกเขาเข้าไปซะงั้น!
“ฉินเฟย นายไม่เป็นไรใช่ไหม?” จางฉองหยวนรีบเดินเข้ามา มองดูฉินเฟยตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างละเอียดถี่ถ้วน เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้แขนขาขาด จึงคลายกังวล
เมื่อได้ยินน้ำเสียงของจางฉองหยวนที่ร้อนรนเช่นนี้ ฉินเฟยก็ยิ่งเข้าใจทันที แต่ในใจก็รู้สึกประทับใจเล็กน้อย
แต่ ตอนนี้ไม่ใช่เวลามารู้สึกประทับใจ เพราะตอนนี้ก็ไม่อยากเปิดเผยตัวจริงของตัวเองออกมา โดยเฉพาะเจียงเยว่ถงซึ่งนั่งอยู่ไม่ไกลที่กำลังมองมาทางนี้ เพียงเพราะว่าทางฝั่งนี้อัดแน่นไปด้วยผู้คน เธอเดินเข้ามาไม่ได้
เป็นเพียงใบหน้าที่สวยงาม เต็มไปด้วยความสงสัย
“พี่จาง ไม่เป็นไร ประธานซุนเพียงแค่ต้องการคุยธุระบางอย่างกับผม คุณไม่ต้องเปิดเผยตัวตนของผมนะ แค่บอกว่ามาช่วยเขาก็พอ” ฉินเฟยรีบพูดประโยคหนึ่งอย่างรวดเร็ว กะพริบตาให้เขาโดยไม่ให้ใครสังเกตเห็น
จางฉองหยวนตกตะลึง เข้าใจความหมายของฉินเฟย
“เหล่าจาง จู่ๆวันนี้คุณพาคนมามากมาย นี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่?” ซุนเย่าเหวินจับจ้องจางฉองหยวน สีหน้ามืดมนเล็กน้อย
“อะไรหมายความว่ายังไง?” จางฉองหยวนแกล้งทำเป็นตกตะลึง พูดอธิบายว่า: “ฉันได้ยินมาว่าพี่สะใภ้ถูกไอ้เด็กเวรต่างถิ่นคนหนึ่งรังแกแล้ว ก็เลยรีบพาพวกพ้องมา คิดว่าจะจัดการไอ้เด็กเวรไม่ดูตาม้าตาเรือ!”
สิ่งที่จางฉองหยวนพูดนั่นเรียกว่าจริงจัง รางวัลออสการ์ก็ยังต้องมอบรูปปั้นให้เขาเลย
ได้ยินคำนี้ สีหน้าของซุนเย่าเหวินแข็งทื่ออยู่ครู่หนึ่ง มาช่วยเหรอ?
ซงไห่ไม่ใช่เมืองเล็กๆ แต่แวดวงชั้นสูงสุดที่แท้จริงกลับมีไม่มาก เขารู้จักกับจางฉองหยวน และก็เป็นเพื่อนกันมานานแล้ว
แต่เป็นเพราะเช่นนี้ จางฉองหยวนน่าจะตระหนักถึงอำนาจของตระกูลซุนของเขามากยิ่งขึ้น ตัวเองยังต้องการความช่วยเหลืออีกไหม?
คงไม่ได้มาดูเรื่องตลกหรอกมั้ง?
แต่ว่า นี่มันก็ไม่ถูกอีก……
เรื่องที่ซุนเย่าเหวินพบเจอในคืนนี้มากมายเกินไป รู้สึกสมองสับสนเล็กน้อย ในเวลานี้ก็ขี้เกียจเกินกว่าที่จะคาดเดาเป้าหมายที่แท้จริงของจางฉองหยวน
ในฉากนี้เอง กลับทำให้เจียงเยว่ถงที่อยู่บนโต๊ะอาหารไม่ไกลสะดุ้งตกใจ!
จางฉองหยวนผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง ซึ่งเกี่ยวข้องกับทั้งรัฐบาลและอันธพาล พาผู้คนจำนวนมากมายมาที่นี่เพื่อช่วยซุนเย่าเหวินทำลายฉินเฟยเนี่ยนะ?
ชั่วขณะหนึ่ง หัวใจของเจียงเยว่ถงหัวใจเต้นถี่รัว
นอกจากนี้ คำให้การเช่นนี้ก็ทำให้ซุนเย่าเหวินตกใจ ราวกับว่ากลัวจางฉองหยวนจะทุบตีฉินเฟยผู้มีพระคุณของตัวเองแล้วจริงๆ รีบยื่นมือไปคว้ามือของจางฉองหยวน พูดเสียงเบาว่า: “ทั้งหมดนี้เป็นการเข้าใจผิด พี่ชายขอบคุณสำหรับความหวังดีของนาย มีเวลาว่างฉันจะเลี้ยงน้ำชานาย นายดูนะ……ทางฝั่งฉันยังมีธุระด่วน ไม่งั้นนายพาเพื่อนไปดื่มเหล้าห้องวีไอพีข้างบนไหม? ค่าใช้จ่ายทั้งหมดคืนนี้ฉันจ่ายเอง ถือว่าพี่ชายเลี้ยงขอบคุณในความหวังดีของนายแล้วกัน”
“เหอะๆ พี่ซุนพูดอะไรกัน วันนี้ผมมาไม่ใช่เพราะมาดื่มฟรี” จางฉองหยวนสีหน้าจริงจัง: “ในเมื่อทางฝั่งคุณไม่มีธุระอะไร งั้นผมก็พาพวกพ้องไปก่อนนะ”
“เหอะๆ ก็ดี วันหลังเราค่อยมาดื่มชาด้วยกัน” ซุนเย่าเหวินพยักหน้า
เมื่อเห็นกลุ่มผู้คนลงไปด้านล่าง ‘ซู่ๆซ่าๆ สีหน้าของซุนเย่าเหวินแปลกประหลาดอย่างมาก มุมปากกระตุก
เขาเดาไม่ออกจริงๆ ว่าจางฉองหย่วนคิดอะไรกันแน่!?