ผมเป็นเขย(ผู้ไม่ธรรมดา) - บทที่ 57 ฉินเฟยมีชู้เหรอ (1)
ผมเป็นเขย(ผู้ไม่ธรรมดา) บทที่ 57 ฉินเฟยมีชู้เหรอ? (1)
เมื่อเห็นจางฉองหยวนจากไป ฉินเฟยก็รู้สึกโล่งอกแล้ว
เหมือนกับว่าซุนเย่าเหวินสังเกตเห็นว่ามันผิดปกติ ยังไงแล้วการมาครั้งนี้ของจางฉองหยวนนั้นเหลือเชื่อเกินไป แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่า ที่จริงแล้วจางฉองหยวนรีบมาก็เพื่อที่จะมาช่วยตัวเอง
ส่วนเจียงเยว่ถงหญิงบื้อคนนี้ ถูกปิดหูปิดตาโดยสมบูรณ์
“เถ้าแก่ซุน งั้นผมขอตัวก่อนนะ ขอให้คุณโชคดี” ฉินเฟยพูดกับซุนเย่าเหวินหนึ่งประโยคแล้วก็เดินจากไป
ซุนเย่าเหวินกลับดึงมือของฉินเฟยไว้ จะดึงฉินเฟยเข้ามาใกล้ๆ ทั้งสองคนเอาหัวเข้าใกล้กันแล้วพูดคุยกัน ความรู้สึกแบบนั้นเหมือนว่ามีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา
“ฉันหวังว่านายไม่โกหกฉัน นายรู้ผลลัพธ์ของการโกหกฉันดี!” ซุนเย่าเหวินพูดกระซิบ คืนนี้เขาเจอเรื่องดีและเรื่องร้ายมากมายเหลือเกิน
อารมณ์แปรปรวนมากเกินไป ซุนเย่าเหวินกลัวว่าฉินเฟยจะโกหกเขาจริงๆ
“ถ้าหากสิ่งที่ผมพูดเป็นความจริงล่ะ?” ฉินเฟยยิ้มและย้อนถาม
“งั้นนายก็เป็นพี่น้องร่วมสาบานของฉัน สนิทยิ่งกว่าสามวีรบุรุษสาบานในสวนท้อซะอีก!” ซุนเย่าเหวินพูดอย่างจริงจัง
“แฮ่ม!” ฉินเฟยทำเสียงกระแอม พูดอย่างจำใจว่า: “หากนับญาติกัน เยว่ถงต้องเรียกคุณว่าลุง ผมก็ควรเรียกคุณว่าลุงด้วยเช่นกัน..”
“แล้วยังไงล่ะ นายมีพระคุณกับฉัน ต่างคนต่างเรียกในแบบของตัวเอง” ซุนเย่าเหวินส่ายหน้า มองฉินเฟยอย่างจริงจัง: “น้องชายนายจำไว้ พระคุณส่วนนี้ ฉันซุนเย่าเหวินจะไม่ลืมไปตลอดชีวิต จะต้องตอบแทน!”
พูดจบก็ไม่รอให้ฉินเฟยตอบกลับ จึงรีบก้าวเดินไปชั้นบน
เพิ่งมาถึงมุมบันได มือถือของเขาก็ดังขึ้นอีกครั้ง
คนที่โทรมาคือสวีเม่าเซิ่ง เขาเป็นเพื่อนมาหลายปีแล้ว และวันนี้เขาเป็นผู้ช่วยที่มีความสามารถที่ลู่เจี้ยน กรุ๊ป เมื่อก่อนเขากำชับสวีเม่าเซิ่งให้ทำบางอย่าง
“เสร็จสิ้นแล้วเหรอ?”
“พี่ใหญ่ ทุกอย่างเสร็จสิ้นไปตามที่คุณกำชับแล้ว โจวต้าเฉียง รวมถึงจ้าวอิง หลี่ปางเฉิง ต่งจื้อ ที่ติดตามเขาอย่างใกล้ชิดในบริษัท
พวกเขาต่างก็ถูกพาตัวไปที่ห้องใต้ดินของวิลล่าในเขตชานเมืองทางตอนเหนือ นอกจากนี้ผมยัง……กักตัวบอดี้การ์ดนับสิบคนที่คุณหญิงฝึกฝนด้วย ต่อไปจะทำยังไงต่อดี?” สวีเม่าเซิ่งกล่าว
สวีเจิ้งเม่าอยู่ในระดับอาวุโสของลู่เจี้ยน อยู่กับซุนเย่าเหวินมา 30 กว่าปีแล้ว เมื่อมีคนเขาก็จะเรียกซุนเย่าเหวินว่าประธาน แต่เมื่ออยู่ด้วยกันเป็นการส่วนตัว พวกเขาต่างก็ชอบเรียกกันว่าพี่ใหญ่
“ทำได้ดี กักตัวไว้ก่อน รอให้ฉันกลับไปจัดการ เตรียมเบียร์กับกับแกล้มไว้ด้วย กลับไปดื่มกับพวกพ้อง ฮ่าๆ ตามนี้นะ……”
ทางปลายสายโทรศัพท์ของอีกฝั่ง สวีเจิ้งเม่าจ้องมองที่โทรศัพท์ที่ถูกวางสายด้วยเสียง ‘ตื๊ดๆ’ อย่างตะลึงเล็กน้อย รู้สึกสับสนเล็กน้อยอยู่ครู่หนึ่ง
ในฐานะที่เป็นผู้ช่วยมากความสามารถของซุนเย่าเหวิน แน่นอนว่าเขารู้เรื่องราวค่อนข้างมาก อีกทั้งเมื่อก่อนเขายังพอรู้อะไรบางอย่างจากการคุยโทรศัพท์ของพี่ใหญ่
คุณหญิงโจวฉ่ายเวยสวมเขาให้พี่ใหญ่ และคุณชายน้อยก็มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะไม่ใช่ลูกชายแท้ๆของพี่ใหญ่!
เรื่องนี้ทำร้ายพี่ใหญ่มากแค่ไหน สวีเจิ้งเม่ารู้ดีแน่นอนและจากน้ำเสียงของพี่ใหญ่ทางโทรศัพท์ก็สามารถรู้สึกได้ว่าตอนนั้นเขาอารมณ์ไม่ดีเอามากๆ
แต่ตอนนี้เกิดอะไรขึ้น? เหมือนว่ายังรู้สึกเร้าใจเล็กน้อยเหรอ? ถึงขั้นที่ว่า……ตื่นเต้น?
สวีเจิ้งเม่าเดาไม่ออกจริงๆ
……
ภายในภัตตาคาร ฉินเฟยไม่สนใจสายตาคนรอบข้าง เขามองไปยังเจียงเยว่ถงที่กำลังมองตัวเองด้วยความตื่นเต้น ยิ้มเล็กน้อย คิดไปเองว่าหล่อและทำมือท่าทาง ‘ok’
แต่ว่า สิ่งที่ต้อนรับเขา กลับกลายเป็นความเย็นชาของเจียงเยว่ถง
เจียงเยว่ถงลุกขึ้นยืนด้วยใบหน้าที่เย็นชา เดินข้ามฉินเฟยและเข้าไปตรงทางเข้าห้องน้ำของภัตตาคาร
ฉินเฟยตกตะลึง สีหน้างงงวย กลับรีบตามเข้าไป
หรือว่า เมื่อสักครู่ตอนที่ตัวเองกับซุนเย่าเหวินเข้าไปในห้องวีไอพี จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นเหรอ?
ตอนที่เจียงเยว่ถงเดินเข้าไปที่อ่างล่างหน้าส่วนรวม ฉินเฟยรีบก้าวสองก้าวตามเข้าไปอย่างรวดเร็ว และดึงแขนของเจียงเยว่ถงไว้: “คุณเป็นอะไรไป?”
“คุณว่าฉันเป็นอะไรล่ะ?” เจียงเยว่ถงสะบัดมือของฉินเฟยออกด้วยความโมโห สายตาโกรธเคืองจ้องมองเขา: “วันนี้คุณทำบ้าอะไรลงไปกันแน่? คุณเกือบจะทำให้ฉันตกใจกลัวแทบแย่ คุณรู้หรือเปล่า?”
เจียงเยว่ถงอารมณ์เสีย เสียงเปลี่ยนไปเล็กน้อย ถึงขั้นที่ว่าโกรธจัดแทบทนไม่ไหว กำหมัดแน่น กระแทกที่ไหล่เขาอย่างรุนแรง
มองดูสีหน้าของเจียงเยว่ถงที่โมโห ร่างกายของฉินเฟยสั่นสะท้าน ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายในทันที แม้จะเป็นกำปั้นที่รุนแรงของเจียงเยว่ถง กลับทำให้เจ็บแค่กาย แต่อบอุ่นในหัวใจ
ฉินเฟยก็ไม่รู้ว่าคิดยังไง ยิ่งไม่รู้ว่าเป็นความกล้าหาญมาจากไหน คว้ากำปั้นที่แน่นจากมือเล็กๆของเจียงเยว่ถง ดึงมาอย่างกะทันหัน ทำให้เจียงเยว่ถงเข้าไปอยู่ในอ้อมกอด
“อ๊ะ!”
เจียงเยว่ถงร้องขึ้นมาเบาๆ เห็นได้ชัดว่าคิดไม่ถึงว่าฉินเฟยจะทำเช่นนี้ ร่างกายที่บอบบางสั่นไปด้วย ดิ้นรนด้วยสัญชาตญาณ
แต่หลังจากดิ้นรนได้ไม่นาน เธอก็ยอมแพ้ ให้แขนที่แข็งแรงของฉินเฟย โอบเธอไว้ในอ้อมแขนอันอบอุ่น
คืนนี้ฉินเฟยก็เหงื่อออกเช่นกัน ในตอนนี้หลังแขนของเขาก็เปียกโชกไปด้วยเหงื่อ และหลังจากตึงเครียดมาเป็นเวลานาน ก็ต้องการบางสิ่งเพื่อมาปลดปล่อยความอัดอั้นตันใจเช่นนี้ ราวกับว่าควบคุมตัวเองไม่ได้……
แต่ว่า ตอนที่เขากอดเจียงเยว่ถง เขาก็รู้สึกเสียใจทีหลังแล้ว!
นี่คือเจียงเยว่ถงนะ เป็นเทพธิดาแห่งภูเขาน้ำแข็งที่เขาหมายปองในใจ เป็นภรรยาเทพธิดาที่สูงส่งจนไม่อาจล่วงเกินได้แม้แต่น้อย
แต่ต่อมาฉากเจียงเยว่ถงเตะและตบเขา ไม่ได้ปรากฏให้เห็น และในไม่ช้าเธอก็สงบลง ใบหน้าสวยติดอยู่ที่หน้าอกของเขา ราวกับว่า……ยังเพลิดเพลินมากๆ?
ที่จริงแล้วเจียงเยว่ถงก็ไม่ได้คิดมากเกินไป เธอกังวลกระวนกระวายทั้งคืน อ้อมกอดเช่นนี้ เธอก็ไม่ได้ต่อต้าน อ้อมกอดอันแสนอบอุ่นเช่นนี้ ก็ทำให้หัวใจของเธอที่ตึงเครียดมาโดยตลอด ค่อยๆผ่อนคลายลง……
ในเวลานี้อารมณ์ของฉินเฟยค่อยๆผ่อนคลายลง และแทนที่ด้วยความรู้สึกหนึ่งที่อธิบายออกมาไม่ได้ อย่างที่รู้กัน ตอนนี้คนที่ยอมถูกเขากอดในอ้อมแขนแต่โดยดี ก็คือเจียงเยว่ถงภรรยาเทพธิดา
เรื่องเช่นนี้ เขาไม่กล้าแม้แต่จะนึกจะฝันถึงสิ่งนั้น
ฉินเฟยตื่นเต้นมาก ก็กลัวว่าจะทำให้เจียงเยว่ถงรู้สึกเอือมระอา เพียงแค่กอดเธอไว้ไม่กล้าขยับ แต่สัมผัสได้ถึงร่างกายบอบบางอันอ่อนนุ่มในอ้อมแขน ฉินเฟยตื่นเต้นไปทั้งตัว
จนกระทั่งเจียงเยว่ถงตำหนิด้วยเสียงที่ค่อนข้างเขินอายเล็กน้อย: “รีบปล่อยฉันสิ ที่นี่เป็นห้องน้ำสาธารณะนะ!”
“อ๋อๆ” ฉินเฟยกล้าขัดใจที่ไหนกัน เขารีบปล่อยเจียงเยว่ถง
เจียงเยว่ถงเหลือบมองไปตรงหน้าอย่างไม่สบอารมณ์ ฉินเฟยที่รู้สึกตื่นเต้นและเก้ๆกังๆ เมื่อกี้ฉินเฟยเพียงแค่กอดตัวเองอย่างตื่นเต้น และก็ไม่ได้ทำอย่างอื่น เจียงเย่วถงก็ไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดใจ
ยิ่งไปกว่านั้น ฉินเฟยเสี่ยงอันตรายมากขนาดนี้ ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพ่อและตระกูลเจียง
ภายในใจของเธอนอกจากมีความประทับใจ ก็ยังมีความสับสนมากขึ้นอีกด้วย
หลังจากที่ฉินเฟยเดินเข้ามาในห้องวีไอพีกับซุนเย่าเหวิน เธอก็ไม่ได้ละสายตาไปจากประตูห้องวีไอพีเลย เมื่อสักครู่ก็เห็นทุกอย่างหลังจากที่สองคนออกมาจากห้องวีไอพี ทั้งสองจับมือกัน ความสนิทสนมเหมือนพี่น้องที่พลัดพรากจากกันหลายปี……
เจียงเยว่ถงคิดไม่ออกจริงๆ ว่าฉินเฟยทำได้อย่างไรกันแน่
แต่ไม่รอให้เขาถาม ฉินเฟยก็พูดโพล่งขึ้นมาว่า: “ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน เกือบจะฉี่ราดแล้ว”
จางหยู่ถงใบหน้าแข็งทื่อ
เกือบหัวเราะออกมาทั้งที่โมโห กลอกตามองบนไปที่ฉินเฟย
ตกใจจนฉี่ราดเหรอ? คิดว่าตัวเองตาบอดจริงเหรอ? เหมือนว่าเรื่องที่เกิดตั้งแต่ต้นจนจบ พัฒนาไปตามสคริปต์ในหัวของหมอนี้สินะ?
เห็นได้ชัดว่าไม่อยากคุยด้วย!
แต่ว่า ไม่คิดว่าฉินเฟยจะโก่งตัวเข้าไปในห้องน้ำ ท่าทางแปลกมาก!
เจียงเยว่ถงมองดูสับสน จู่ๆ ก็นึกอะไรบางอย่างออก ใบหน้าสวยแดงระเรื่อขึ้นมาทันใด สาปแช่งในใจไม่หยุด ไอ้บ้าคนนี้ เพียงแค่มากอดตัวเองก็เท่านั้น ก็มีความรู้สึกแล้วเหรอ?
คนอันธพาล !
……
ทั้งสองเดินเคียงข้างกันออกจากโรงแรมเทียนฝูจู เทียบกับความหนักหน่วงก่อนหน้านี้ ในตอนนี้เจียงเยว่ถงรู้สึกผ่อนคลายขึ้น
ฉินเฟยก็ถอนหายใจ แต่ไม่เพียงแค่แก้ปัญหาสถานการณ์ในปัจจุบันของสองตระกูลเจียงและซุน แต่วันนี้เปิดเผยตัวเองมากเกินไปแล้วจริงๆ และเมื่อตัวตนของตัวเองถูกเปิดเผยทั้งหมด เรื่องหลังจากนี้ ก็ไม่มีใครคาดคิดแล้ว
“ตึงๆ——“
ทั้งสองคนเดินมาถึงข้างๆรถ จากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงปิดประตูเป็นชุดๆดังขึ้น ฉินเฟยมองไปตามเสียง เห็นรถเบนซ์คันใหญ่นำอยู่ไม่ไกล หลังจากนั้นมีคนยืนอยู่มากมายข้างๆรถตู้จินเปยกว่า 10 คัน
คนที่ยืนอยู่ด้านหน้า ก็คือจางฉองหยวนที่จากไปนั่นเอง
เห็นได้ชัดว่า เขายังไม่ค่อยวางใจเกี่ยวกับความปลอดภัยของฉินเฟย อีกอย่าง เหมือนว่ามีบางอย่างจะคุยกับฉินเฟยด้วย
เมื่อเห็นฉากนี้ ร่างอันบอบบางของเจียงเยว่ถงก็เกร็งขึ้น มือเล็กๆอดไม่ได้ที่จะจับแขนฉินเฟยไว้ ใบหน้าที่ผ่อนคลายกลายเป็นจริงจังและตึงเครียดในทันที
เจียงเยว่ถงไม่ใช่มือใหม่ที่เพิ่งก้าวเข้าสู่สังคม เธอรู้จักใบหน้าของผู้หลักผู้ใหญ่เหล่านั้นเป็นอย่างดี ภายนอกเป็นอย่างหนึ่ง ลับหลังก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง นี่เป็นวิธีที่พวกเขาใช้จนเคยชิน
เดาว่า ซุนเย่าเหวินให้จางฉองหยวนมาสกัดพวกเขาไว้!
“ไม่ต้องกังวล ไม่เป็นไร” ฉินเฟยปลอบใจเจียงเยว่ถงไปประโยคหนึ่ง ชำเลืองมองจางฉองหยวนอย่างหมดคำพูดเล็กน้อย
เวรเอ๊ย 1 คืน 2 รอบ สิ่งนี้กำลังจะทำให้ภรรยาของเขาตกใจแทบตายเลยงั้นเหรอ?
“คุณชายฉิน เหอะๆ ขอโทษสำหรับเรื่องก่อนหน้านี้ ฉันเหล่าจางเสียมารยาทแล้ว” จางฉองหย่วนเดินไปพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า ริเริ่มที่จะยื่นมือออกมาแต่ไกล
ความรู้สึกแบบนั้น เหมือนว่าทั้งสองคนเพิ่งรู้จักกันเป็นครั้งแรกเลย
ฉินเฟยฝืนยิ้มอยู่ในใจ จางฉองหยวนคือคณะศิลปะการแสดงแน่นอน ไม่ได้ไปเป็นนักแสดงของว่านเซียง มูวี ของตัวเอง น่าเสียดายจริงๆ
“ประธานจางพูดอะไรกันล่ะ เป็นการเข้าใจผิดกันทั้งนั้น ในเมื่อความเข้าใจผิดได้รับการแก้ไขแล้ว ถ้าเราไม่ทะเลาะก็คงไม่รู้จักนิสัยกัน เพื่อนกันทั้งนั้น” ฉินเฟยค่อยๆยิ้ม และก้าวเดินตอบรับไปสองก้าว และจับมือจางฉองหยวน
“ใช่ๆ เพื่อนกันทั้งนั้นๆ” จางฉองหยวนยิ้มและพยักหน้า มองเจียงเยว่ถงที่ยืนอยู่ด้านหลังฉินเฟย พยักหน้าอย่างช้าๆ: “ประธานเจียง ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามมานานแล้ว”
“ประธานจางยกย่องกันเกินไปแล้ว ท่านเป็นถึงผู้มีชื่อเสียงในซ่งไห่” เห็นสามีและจางฉองหยวนจับมือกันอย่างสนิทสนม เจียงเยว่ถงยิ้มรับเบาๆ สวยงามและมีเสน่ห์ แสดงท่าทางที่เป็นกุลสตรี
เมื่อเทียบกับซุนเย่าเหวิน ชื่อเสียงของจางฉองหยวนในซ่งไห่ก็โด่งดังไม่แพ้กัน ถึงขั้นที่ว่าทำให้คนรู้สึกหวั่นเกรงเล็กน้อย สุดท้ายแล้วเขาออกมาจากอำนาจมืด แม้ว่าวันนี้กลับตัวกลับใจแล้ว แต่สิ่งเหล่านั้น มันจะขาวบริสุทธิ์ได้อย่างไรกัน
เห็นได้จากความจริงที่ว่าวันนี้เขาพาผู้คนมากมายไปยังหมู่บ้านเทียนฝู ในเวลานั้นหากฉินเฟยไม่รู้ว่าจะใช้วิธีไหนเกลี้ยกล่อมซุนเย่าเหวิน คืนนี้พวกเขาไม่มีทางออกไปจากหมู่บ้านเทียนฝูได้หรอก!
จางฉองหยวนยิ้มและพยักหน้า แล้วค่อยหันหน้าไปมองฉินเฟย: “ไม่รู้ว่าคุณชายฉินมีเวลาไปดื่มชาด้วยกันหรือเปล่า?”
“ประธานจางเป็นคนเชื้อเชิญด้วยตัวเอง ฉันก็ไม่กล้าปฏิเสธอยู่แล้ว” ฉินเฟยยิ้มและพยักหน้า
เจียงเยว่ถงที่อยู่ข้างๆค่อยๆขมวดคิ้ว มองฉินเฟยด้วยความกังวลเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
เจียงเยว่ถงได้รับการสั่งสอนที่ดีจากครอบครัวตั้งแต่เธอยังเด็ก ยิ่งไปกว่านั้นก็รู้เรื่องการปฏิบัติตัวเป็นภรรยา เมื่อสามีของตนพูดคุยกับใครอยู่ ตัวเองก็ไม่สามารถเอ่ยปากแทรกพูดตามใจชอบ
ผู้ชายพูดกัน ผู้หญิงก็ไม่เข้าไปแทรกพูด