ผมเป็นเขย(ผู้ไม่ธรรมดา) - บทที่ 6 เจียงเยว่ถงผู้โดดเด่นสะดุดสายตา
บรรยากาศในรถตึงเครียดขึ้นมาหลังจากเสียงตะโกนและสบถด่าของเสิ่นหัว
ฉินเฟยมองไปที่พ่อตาของเขา จากนั้นก็มองเจียงเยว่ถงที่กำลังขับรถอยู่
“แม่อย่าโกรธสิ” เจียงเฟิ่งหยุนยังไม่ได้พูดอะไร เจียงเยว่ถงที่ขับรถก็พูดเบาๆ
“หึหึ นี่เป็นเรื่องของลูกสาว จะหย่าไม่หย่าก็ขึ้นอยู่กับเธอเป็นคนตัดสินใจ” เจียงเฟิ่งหยุนเองก็เอ่ยขึ้นเช่นกัน
“ลูกสาวตัดสินใจอะไรกัน? ลูกสาวไม่ใช่ของคุณหรือไง?” เสิ่นหัวจ้องไปที่เจียงเฟิ่งหยุนอย่างโกรธจัด จากนั้นก็ชี้ไปที่ฉินเฟยและพูดว่า “ฉันบอกนายเลยนะฉินเฟย หลังจากการประชุมตระกูลในคืนนี้ นายก็รีบไปที่สำนักงานกิจการพลเรือนให้ฉันทันทีแล้วจัดการเรื่องหย่าให้เรียบร้อยซะ แล้วไสหัวไปจากตระกูลเจียงของเรา ได้ยินไหม!”
ฉินเฟยนั่งอยู่ที่นั่นโดยไม่พูดอะไรสักคำ
เวลานี้ในวิลล่าตระกูลเจียงมีรถยนต์หรูหรามากกว่า 50 คันจอดอยู่
เห็นได้ชัดว่าเสิ่นหัวกำลังโกรธเจียงเฟิ่งหยุน เธอดึงลูกสาวของเธอเข้าวิลล่าไป
หลังเจียงเฟิงหยุนลงจากรถ เขาก็เหลือบมองลูกเขยของเขาและพูดกับฉินเฟยเรียบ ๆ ว่า “ลูกผู้ชายไม่ควรเป็นแบบนาย ถ้านายยังเป็นแบบนี้ ฉันก็ตกลงให้ลูกสาวของฉันหย่ากับคุณ”
พูดจบเจียงเฟิ่งหยุนก็ตามเข้าไปในวิลล่า
ฉินเฟยยิ้มอย่างขมขื่นและไม่พูดอะไร
อันที่จริง เขาไม่โทษเสิ่นหัว เจียงเฟิ่งหยุน หรือภรรยาของเขา นั่นเพราะท้ายที่สุด ไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากให้ลูกสาวแต่งงานกับขยะไร้ค่าอย่างเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเจียงเยว่ถงโดดเด่นขนาดนี้
ในฐานะผู้หญิง เจียงเยว่ถงยิ่งไม่ต้องการแต่งงานกับผู้ชายโง่เง่าอบ่างตนไปตลอดชีวิต
ที่ฉินเฟยไม่ได้เปิดเผยตัวตนของเขา อันที่จริงเขาต้องการดูว่าเจียงเยว่ถงเป็นคนแบบไหน
ในช่วงสามปีที่ผ่านมาเขาได้เห็นอะไรมากมาย
แม้เจียงเยว่ถงจะดูถูกเขา แต่อย่างน้อยผู้หญิงคนนี้ก็เป็นคนรักนวลสงวนตัวอย่างมาก เธอไม่ยอมให้ตัวเองแตะต้อง และไม่ยอมให้ผู้ชายคนอื่นแตะต้องอย่างแน่นอน และนี่คือเหตุผลที่เขาไม่ได้ออกจากบ้านนี้
ตอนนี้ หลังจากช่วงเวลาสามปีผ่านไป เขาต้องการเห็นทัศนคติที่แท้จริงของเจียงเยว่ถง
เมื่อครอบครัวของเจียงเยว่ถงมาถึง ห้องโถงคริสตัลของวิลล่าก็เต็มไปด้วยผู้คนแล้ว เมื่อพวกเขาเห็นเจียงเยว่ถง หลายคนก็ออกมาต้อนรับพวกเขา
สำหรับพ่อตาและแม่ยาย น่าจะไปหาคุณย่าตระกูลเจียงแล้ว ตอนนี้ตระกูลเจียงมีคุณย่าตระกูลเจียงเป็นคนตัดสินใจทุกอย่าง
ฉินเฟยคุ้นเคยกับมันมานานแล้ว เขาคุ้นเคยกับการเป็นคนไม่มีตัวตน และแน่นอนว่าไม่มีใครสนใจเขา
ฉินเฟยไม่ใส่ใจ ยังไงเสียเขาก็แค่ตามมาชมความครื้นเครง อีกเดี๋ยวเมื่อการประชุมเริ่มขึ้น ตนก็แค่หยิบอะไรดีๆ มายัดลงท้องหน่อยซึ่งนี่ดีกว่าสิ่งอื่นใด
อย่างไรก็ตาม มักจะมีบางคนที่ชอบหาเรื่องและหัวเราะเยาะคนอื่นเพื่อยกระดับสถานะของตนอยู่เสมอ
ตัวอย่างเช่น เจียงเฉิงเย่ ที่ทำอย่างกับฉินเฟยไปนอนกับภรรยาของเขา ทุกครั้งที่เขาเห็นฉินเฟย เจียงเฉิงเย่ก็ต้องหัวเราะเยาะเขาทุกครั้ง
“ไอ้หย่า นี่ไม่ใช่ฉินเฟยเหรอ?” เจียงเฉิงเย่เดินมาข้างหน้าและพูดเสียงดัง “ฉินเฟยเอ๋ย เสื้อที่นายใส่ฉันออกจะคุ้นๆ อยู่นะ นายไปซื้อมันที่แผงขายของในตลาดตงต้าเผิงใช่ไหม ดูเหมือนจะตัวละห้าสิบหยวนนี่?”
ทันทีที่คำพูดของเขาจบลง ฉินเฟยก็กลายเป็นจุดสนใจของผู้ชม ทุกคนมองไปที่ฉินเฟยด้วยสีหน้าขบขัน ราวกับว่ากำลังดูละครอยู่
“ห้าสิบหยวน? นั่นเป็นเพราะคุณไม่ยอมต่อรอง เสื้อตัวนี้ผมต่อจนเหลือยี่สิบเก้าต่างหาก” ฉินเฟยพึมพำ
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
คนรอบข้างพากันหัวเราะคิกคัก ผู้หญิงหลายคนที่อยากจะสงวนกิริยาก็ยังหัวเราะอย่างอดไม่ได้
“นายหุบปากเดี๋ยวนี้!” เจียงเยว่ถงเอ่ยเสียงต่ำ เธอรู้สึกว่าใบหน้าของเธอร้อนผ่าวและถูกฉินเฟยทำให้อับอายขายหน้าอย่างมาก หากไม่ใช่เพราะกฎของตระกูลที่สมาชิกทุกคนจะต้องเข้าร่วมการประชุมกลางปี ตนคงไม่ปล่อยให้เขามาอย่างแน่นอน
“เยว่ถง ไม่ใช่ว่าฉันดูถูกครอบครัวของเธอ สามีของเธอใส่ชุดราคา 29 หยวนก็แล้วไป แต่เธอที่เป็นสมาชิกของตระกูลเจียง ชุดเดรสบนตัวของเธอนี้ดูดีไม่เลว แต่แค่มองก็รู้แล้วว่าของปลอม ราคาก็คงแค่สี่ห้าร้อยหยวนสินะ?” เจียงเฉิงเย่หัวเราะ
“ต่อให้เธอไม่มีเงินซื้อเดรสดีๆ สักตัว แต่จะซื้อของปลอมแบบนี้ได้ยังไง? เห็นสูทของฉันไหม สั่งตัดจากไคลน์ รู้ราคาไหม?”
เจียงเยว่ถงไม่ได้พูดและเจียงเฉิงเย่เองก็ไม่ใส่ใจ เขายื่นนิ้วออกมาและส่ายไปมาหน้าฉินเฟยและเจียงเยว่ถง “หนึ่งล้านพอดี!”
“โว้ว!”
ทันทีที่คำพูดของเขาจบลง คนรอบข้างเขาก็ดูอิจฉาตาร้อน ผู้หญิงหลายคนในตระกูลญาติมิตรก็ดูคลั่งไคล้ขึเนมา ส่วนพวกผู้ชายก็ดูอิจฉาเช่นกัน
เจียงเยว่ถงกัดริมฝีปากของเธอ จริงอยู่ที่ถึงแม้เธอจะแต่งตัวดี แต่ราคาอย่างสูงก็เพียงพันหยวนเท่านั้น เสื้อผ้าราคาเป็นล้านเธอไม่กล้าคิดจะซื้อ
ส่วนชุดที่อยู่บนตัวเธอ ถึงแม้จะมีราคาแพง แต่พูดออกไปก็คงไม่มีใครเชื่อ มีก็รังแต่จะทำให้เจียงเฉิงเย่พูดอย่างโจ่งแจ้งมากขึ้นว่ามันเป็นของปลอม
นอกจากนี้ เธอคิดว่าโจงเซี่ยงเฉียนให้ชุดนี้แก่เธอ ซึ่งธรรมเนียมของตระกูลเจียงนั้นเข้มงวดมากโดยเฉพาะสำหรับผู้หญิง
เธอไม่ต้องการให้ใครมาพูดลับหลังเธอ ว่าเธอกำลังหลอกล่อเศรษฐีบางคน
เหตุผลที่เธอใส่มันเป็นเพราะว่าเธอชอบThe chanrm of heavenนี้จริงๆ และเธอก็หลงรักมัน
เจียงเยว่ถงไม่ได้พูดอะไรซึ่งถือเป็นการยอมรับไปโดยปริยาย เธอรู้สึกว่าทุกคนกำลังหัวเราะเยาะตน ใบหน้าที่งดงามของเธอแสดงให้เห็นร่องรอยของความอับอาย
ผลก็คือ ในเวลานี้จู่ๆ ฉินเฟยก็เดินเข้าไปตบไหล่เจียงเฉิงเย่
“นี่นายเป็นบ้าหรือไง!” เจียงเฉิงเย่ดุด่าอย่างโกรธเคืองทันที “ชุดนี้เป็นของที่มือสกปรกๆ ของนายจะมาจับต้องได้ง่ายๆ หรือไง!”
“หึหึ นายว่าชุดนี้ของนายต่างหากถึงเป็นของปลอม?” ฉินเฟยยิ้มจางๆ เขาหมุนนิ้วชี้ใส่ ท่าทางมั่นใจอย่างมาก
“บ้ารึไง นายจะไปรู้อะไร?” เจียงเฉิงเย่ถลึงตาใส่
“แน่นอนว่าฉันรู้แน่ ชุดสูทนี้ได้รับการออกแบบโดยไคลน์ นักออกแบบแฟชั่นชาวยิวที่มีชื่อเสียงในยุโรป และเป็นผลงานชิ้นเอกชิ้นสุดท้ายของเขาด้วย ล้ำค่าอย่างมาก”
เจียงเฉิงเย่พยักหน้าอย่างภาคภูมิใจ ที่ฉินเฟยพูดนั้นถูกต้อง
ฉินเฟยยิ้มน้อยๆ แต่คำพูดกลับเปลี่ยนเป็นว่า “อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีเพียงชิ้นเดียว ดังนั้นชุดนี้จึงถูกเก็บเอาไว้ในพิพิธภัณฑ์แฟชั่นอิตาลี ดังนั้นชุดนี้บนร่างกายของนาย จะต้องเป็นของเลียนแบบ ชุดนี้นั้นของจริงจะย้อมด้วยสีพิเศษเรียกว่าสีเทากรมและเป็นสิ่งที่ไคลน์ทำขึ้นมาได้โดยบังเอิญ มีแค่เขาเพียงคนเดียวในโลกที่สามารถทำสีย้อมพิเศษนี้ได้ ดังนั้นจึงเป็นที่มาที่ไคลน์ตั้งชื่อนี้เช่นกัน เพราะฉะนั้น ของของนายจึงไม่ใช่แค่ของเลียนแบบเท่านั้น แต่ยังเป็นการเลียนแบบที่หยาบสุดๆ หยาบถึงขั้นแค่ราคาสองร้อยหยวน ก็ถือว่าแพงสุดๆ แล้ว”
ฉินเฟยยิ้มร่าและยื่นสองนิ้วออกมา น้ำเสียงไม่ดัง แต่คนฟังทั้งหมดต่างได้ยิน!
เงียบ เงียบราวกับป่าช้า!
ทุกคนในงานตกตะลึงไป พวกเขายากที่จะจินตนาการได้ว่าคำพูดดังกล่าวนั้นจะออกมาจากปากของฉินเฟย!
“ชุดนี้บนตัวนายต่างหากถึงเป็นของปลอม The chanrm of heavenบนตัวภรรยาของฉันต่างหากที่เป็นของจริง” ฉินเฟยเอ่ยคำต่อคำ “นายไม่รู้จักเสื้อผ้าเลย และก็อาจไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับThe chanrm of heavenของ วาเลนติโน่ด้วย แต่ว่านายสามารถไปตรวจสอบบนอินเทอร์เน็ตเอาได้”
เมื่อพูดจบลง ในงานก็เกิดความโกลาหลอีกครั้ง
“The chanrm of heaven?เป็นThe chanrm of heavenของจริง! สวยงามมาก…”
ชั่วขณะหนึ่ง คนในงานทั้งหมดก็ระเบิดขึ้นมา สายตาของผู้หญิงเกือบทั้งหมดมองไปที่เจียงเยว่ถง ไม่น่าแปลกใจเลยที่ทำไมพวกเธอถึงได้รู้สึกคุ้นเคยกับชุดของเจียงเยว่ถง
ในไม่ช้าพวกเธอก็เปลี่ยนจากความสงสัยเป็นความตกใจ และเปลี่ยนจากความตกใจเป็นความอิจฉาริษยาและความกระตือรือร้น!
ในบรรดาสตรีที่มาร่วมงาน ในนั้นก็มีลูกหลานของตระกูลที่ร่ำรวยไม่ธรรมดา ทำไมพวกเธอจะไม่เคยได้ยินThe chanrm of heavenของ วาเลนติโน่?
ตั้งแต่The chanrm of heavenกำเนิดขึ้น ก็มีการลอกเลียนแบบมากมาย แต่ชุดนี้บนตัวของเจียงเยว่ถงแทบจะเหมือนกับของจริงทุกกระเบียดนิ้ว และไม่มีร่องรอยของปลอมเลย เหมือนที่ฉินเฟยกล่าว
นี่คือThe chanrm of heaven! ของแท้!
นี่เป็นถึงThe chanrm of heavenเชียวนะ อย่างนั้นก็ต้องมีราคา 60 ล้าน! อีกทั้งตอนนี้ก็หาซื้อไม่ได้แล้ว จะมีผู้หญิงคนไหนที่ไม่ชอบมัน?
ชั่วขณะหนึ่ง เจียงเยว่ถงก็กลายเป็นจุดสนใจของทุกคน
เจียงเยว่ถงขมวดคิ้วและมองไปที่ฉินเฟย หลังจากแต่งงานมาสามปี นี่เป็นครั้งแรกที่เธอคิดว่าสามีของตนค่อยดูเป็นผู้ชายขึ้นมาหน่อย!
“อย่ามาพูดเรื่องไร้สาระกับฉัน พูดมั่วซั่วอะไร อย่างฉันจะสวมเสื้อผ้าเลียนแบบอย่างดีได้ยังไง?” เจียงเฉิงเย่โกรธ เขาชี้ไปที่ฉินเฟย และตะโกนใส่เขา
“เพี๊ยะ!”
ในเวลาเดียวกันนี้เอง จู่ๆ ฉินเฟยก็โดยตบเข้าที่หน้าโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า
การตบนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่หนักหน่วงอย่างมาก หลังจากเสียงตบดังขึ้นลั่น ทั้งทั่วห้องโถงก็เงียบสนิท
ไม่ใช่เจียงเฉิงเย่ที่ตบเขา แต่เป็นเสิ่นหัวแม่ยายของตน!
ทุกคนมองเธอด้วยความประหลาดใจ
เสิ่นหัวจ้องที่ฉินเฟยอย่างเย็นชา “ฉินเฟย ถ้านายไม่อยากอยู่ที่นี่ก็ไสหัวออกไปซะ มัวแต่มาพูดพล่ามอะไรอยู่ได้?”