ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - ตอนที่ 1320
ดังนั้น เธอถามเย่เฉินเสียงเบาๆว่า “นี่แม่เป็นอะไรหรือ? ทำไมเธอลงครัวทำอาหารแล้วล่ะ?”
เย่เฉินยิ้มพูดว่า “แม่บอกว่าจะให้ผมลองชิมฝีมือของเธอสักหน่อย บอกว่าจะทำก๋วยเตี๋ยวแห้งมะเขือเทศไข่”
เซียวชูหรันทอดถอนใจด้วยความหดหู่พูดว่า “โอ้แม่เจ้า แม่ฉันถึงขนาดเป็นฝ่ายลงครัวเอง นี่ช่างเป็นพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกแล้วจริงๆ ดูแล้วนี่คือเธอกลับเนื้อกลับตัวแล้วล่ะ”
ในตอนนี้เย่เฉินคิดว่า ไม่ใช่กลับเนื้อกลับตัวคำนี้ แต่เป็น “อยู่ดีๆมาคอยเอาอกเอาใจ ไม่ใช่คนพาลก็คือขโมย” ประโยคโบราณคำนี้
ดังนั้นเขาคาดเดาว่า หม่าหลันแม่ยายย่อมมีเรื่องจะขอร้องตนเอง มิฉะนั้นจากนิสัยของเธอ เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นฝ่ายลงครัวเองอย่างเด็ดขาด
เหมือนอย่างที่คิดจริงๆ ตอนที่อยู่บนโต๊ะอาหาร หม่าหลันทั้งตักหมี่ให้เย่เฉินด้วยตนเองทั้งยิ้มตาหยีพูดกับเขาว่า “ลูกเขยที่ดี ยังมีเรื่องหนึ่งอยากจะขอร้องแก ไม่รู้ว่าแกจะรับปากได้หรือไม่?”
เย่เฉินพูดว่า “แม่มีอะไรก็พูดมา อยู่ในขอบเขตความสามารถของผมทั้งสมเหตุสมผล ผมจะไม่ปฏิเสธ”
หม่าหลันยิ้มมีน้ำใจไมตรีในทันที พูดว่า “ลูกเขยที่ดีเป็นเช่นนี้ล่ะ ช่วงนี้แม่พบเห็นว่า ทั้งตัวดูเหมือนแก่ลงกว่าแต่ก่อนไม่น้อยเลย บนใบหน้านี้ปรากฏริ้วรอยออกมาไม่น้อยยังไม่ต้องพูดถึงตีนกาที่อยู่บนหางตานี้ก็ยิ่งมายิ่งเห็นได้ชัดแล้วเช่นกัน ช่างเป็นเวลาที่ไม่เกรงใจคนจริงๆล่ะ!”
พูดจบ เธอยิ้มตาหยีจ้องมองเย่เฉิน “ช่วงนี้แม่ได้ยินเขาว่าล่ะ ในต่างประเทศมีเครื่องสำอางต่อต้านริ้วรอยที่ใช้คาเวียร์เกรดสูง เป็นวัตถุดิบอย่างหนึ่ง ว่ากันว่า สรรพคุณต่อต้านริ้วรอยของมันดีเป็นพิเศษ ดาราที่มีชื่อเสียงมากมายล้วนใช้มันมาต่อต้านริ้วรอย แม่อยากจะขอร้องคุณซื้อให้แม่สักชุด”
พอเซียวชูหรันได้ยินคำนี้ ร้องโพล่งออกจากปากอย่างตื่นตระหนกพูดว่า “แม่! เครื่องสำอางที่ท่านพูดนั้นชุดหนึ่งจะต้องเป็นแสนนะ! สภาพบ้านเราเป็นเช่นไร ท่านจะให้เย่เฉินซื้อเครื่องสำอางแพงขนาดนั้นให้ท่านหรือ? ก่อนหน้านั้นที่ฉันซื้อให้ท่าน Estee Lauder ที่ชุดหนึ่งหลายพันบาทยังจะไม่พอใช้เลยเชียวหรือ?”
หม่าหลันพูดโพล่งออกจากปากว่า “แกไม่ต้องพูดถึงEstee Lauderอะไรนั้นของแกอีกเลย ฉันสงสัยว่าริ้วรอยของฉันก็เพราะใช้มันจึงเกิดขึ้นมาล่ะ”
เซียวชูหรันกลัดกลุ้ม “แม่! Estee Lauderก็ไม่เลวแล้ว แม้แต่ตัวฉันเองล้วนยังตัดใจไม่ลงที่จะใช้ล่ะ! ท่านไปดูสิในห้องน้ำของเราสิ่งที่ฉันใช้ล้วนมีอะไรบ้าง ล้วนเป็นแบรนด์ในประเทศกับแบรนด์นำเข้าธรรมดาเหล่านั้น เหมือนแบรนด์ใหญ่อย่าง Estee Lauderแบบนี้ฉันตัดใจไม่ลงที่จะใช้เลยสักนิด”
หม่าหลัน ฮึ ฮึ พูดว่า “แกยังเยาว์วัยอยู่ล่ะ! วัยรุ่นถึงแม้ไม่ใช้อะไรล้วนไม่เป็นไรเช่นกัน แต่ฉันแก่แล้ว! ถ้าไม่บำรุงรักษาๆอีก วันหลังก็กลายเป็นป้าหน้าเหลืองแล้ว! แกดูพ่อแกสิ ตอนนี้ก็เริ่มรังเกียจฉันแล้ว แยกกันอยู่กับฉันแล้ว ยังพูดเต็มปากเต็มคำว่าจะหย่าร้างกับฉันอีก ถ้าฉันไม่ใส่ใจอีกหน่อย วันหลังถ้าหากพ่อแกโยนฉันทิ้งแล้ว ยังจะมีผู้ชายที่ไหนยอมรับฉันล่ะ!?”
แป๊บเดียวเซียวชูหรันพูดไม่ออกเลย
ในใจเธอโมโห ทั้งรู้สึกว่าพูดกับแม่ไม่มีประโยชน์จริงๆ ก็ไม่มีวิธีที่จะบอกเหตุผลกับเธอได้ จากนั้นก็เลยพูดกับเย่เฉินว่า “คุณอย่าไปฟังแม่ฉัน จงอย่าซื้อให้เธอเด็ดขาด!”
แป๊บเดียวหม่าหลันก็น้อยเนื้อต่ำใจร้องไห้ออกมาแล้ว “พ่อแกไม่ดีกับฉัน คุณย่าแกพวกเขายิ่งไม่ดีกับฉันอีก แต่ว่าแม้แต่ฝันฉันก็นึกไม่ถึง แกเป็นลูกสาวของฉันแท้ๆแม้แต่แกก็ไม่ดีกับฉันเช่นกัน!”
เซียวชูหรันพูดโพล่งออกจากปากว่า “แม่ ท่านพูดอย่างนี้ได้ยังไงล่ะ? ไม่ซื้อเครื่องสำอางที่เป็นแสนชุดหนึ่งให้ท่าน ก็กลายเป็นไม่ดีต่อท่านแล้วหรือ? ที่ไหนจะมีเหตุผลเช่นนี้ล่ะ!”
หม่าหลันร้องไห้ ฮือ ฮือ “ฉันไม่สน ฉันก็คืออยากจะเยาว์วัยหน่อย ไม่อยากแกเร็วขนาดนี้ ฉันน่าเวทนาขนาดนี้แล้ว ไม่สามารถมองเห็นตนเองนับวันก็ยิ่งเป็นป้าแก่ๆอีกแล้วจริงๆ!”
ในเวลานี้เย่เฉินตบมือของเซียวชูหรันตบแล้วตบอีก พูดอย่างเย็นชาว่า “พอแล้วภรรยาจ๋า คุณก็ไม่ต้องโมโหด้วย สิ่งที่แม่พูดก็มีเหตุผลเหมือนกัน ใจที่รักสวยรักงามใครๆก็มี แม่ก็ย่อมมีความต้องการอย่างนี้เช่นกัน”
หม่าหลันพยักหน้าต่อๆกัน ฉวยโอกาสประจบหนึ่งที “ยังเป็นลูกเขยของฉันที่ดีที่สุด! เข้าใจฉันที่สุด!”
ในเวลานี้เย่เฉินพูดต่ออีกว่า “ผมมีเพื่อนทำธุรกิจนำเข้าเครื่องสำอางพอดี แล้วผมค่อยไปสืบถามกับเขาสักหน่อย เขายังอยากจะมาหาผมให้ดูฮวงจุ้ยร้านใหม่เขาพอดี ถึงเวลานั้นผมก็ให้เขาเอาเครื่องสำอางสองชุดให้ผม เป็นการจ่ายแทนค่าดูฮวงจุ้ย”
หม่าหลันพอได้ยินคำนี้ ตื่นเต้นเหลือเกินพูดว่า “จริงหรือ? อั้ยยะ ลูกเขยที่ดีของฉัน แกเป็นลูกเขยที่ดีของแม่จริงๆล่ะ! แม่นึกไม่ถึงจริงๆ แม่ประสบความหนาวร้อนบนโลก สุดท้ายจึงพบเห็นว่า ที่แท้ลูกเขยจึงเป็นสิ่งคุ้มค่าที่สุดในการพักพิง คนอื่นๆไม่ว่าจะเป็นแม่ยาย พี่ชาย พี่สะใภ้ สามีอีกทั้งลูกสาว เวลาสำคัญล้วนผิดหวังจนได้!”