ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - ตอนที่ 1358
เซียวชูหรันพูดอย่างซาบซึ้งใจว่า “ขอบคุณมากนะคะที่รัก แต่คราวหน้าอย่าได้ใช้เงินฟุ่มเฟือยกับฉันมากขนาดล่ะ…”
เย่เฉินรู้ว่าในใจของเธอไม่ค่อยอยากยอมรับของราคาสูงแบบนี้ ดังนั้นเขาจึงยิ้มและพูดว่า “ได้เลยๆ ผมรู้แล้ว คราวหลังผมจะซื้อของขวัญที่คุ้มราคาให้คุณนะ”
…
เมื่อกลับมาถึงบ้าน หม่าหลันรีบนำแอร์เมสที่เย่เฉินมอบให้เธอไปจัดวางที่ห้องรับแขก
เธอจัดววางทั้งของขวัญและกล่องไปด้วย จากนั้นก็หยิบมือถือออกมา และถ่ายรูปจากมุมต่างๆไปหลายรูป
จากนั้น เธอก็เลือกรูปภาพที่ตัวเองพอใจออกมา 9 รูป และโพสต์โมเมนต์ลงในวีแชตทันที พร้อมกับระบุข้อความไว้ว่า “ลูกเขยคนดีของฉันไปทำงานที่เย่นจิงกลับมาแล้วซื้อแอร์เมสให้ฉันกองหนึ่งเลย! ฉันดีใจมากจริงๆ!”
ในโมเมนต์ มีการกดไลค์และคอมเมนต์พุ่งปรี๊ดขึ้นมาทันที เมื่อเห็นคอมเมนต์ที่อิจฉาของผู้หญิงกลุ่มหนึ่ง หม่าหลันก็กระโดดโลดเต้นอย่างดีใจ!
และอดไม่ได้ที่จะภูมิใจ “มันเจ๋งมากเลย! ตอนนี้คุณแม่อาศัยอยู่ในวิลล่าหลังใหญ่ และสะพายแอร์เมส และเธอก็เป็นเหมือนดั่งหญิงชนชั้นสูงที่สมบูรณ์แบบคนหนึ่งแล้ว! รอให้ฟันหน้าสองซี่ของเธอนั้นทำเสร็จ พร้อมกับเข้าที่แล้ว คุณแม่ก็จะสามารถถือกระเป๋าแอร์เมส สวมผ้าพันคอแอร์เมส พร้อมกับใส่เข็มขัดแอร์เมสออกไปอวดได้แล้ว
ส่วนเซียวฉางควน ก็นั่งลงบนโซฟา และรีบนำชาที่เย่เฉินให้มา ชงไปกาหนึ่ง แล้วลองชิมดูว่ารสชาติต่างจากชาที่ซื้อจากสาวขายชาในวีแชตว่า แท้ที่จริงแล้วมันต่างกันยังไง
ทันทีที่เปิดซองของชาที่ถังซื่อไห่ให้มากลิ่นหอมของชาที่ซึมซาบเข้าไปในใจก็โชยเข้ามาที่จมูก!
ก็ทำให้จิตใจของเซียวฉางควนอึกเหิม!
เขาไม่เคยเห็นชาที่หอมแบบนี้มาก่อนเลย!
ทันทีที่เปิดออก ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ชง กลิ่นนั้นก็โชยวนเวียนไปรอบๆ ทำให้จิตใจของคนกระปรี้กระเปร่า
เมื่อมองดูใบชาเหล่านั้น ชาแต่ละใบนั้นสมบูรณ์แบบไร้ที่ติและขนาดก็ไม่ต่างกันเลย และมันก็ไม่มีปัญหาเรื่องสีและความวาว และยิ่งไม่มีการบดละเอียดของโฟมและบัลลูนฟลาวเวอร์เล็กๆ เลย เมื่อเห็นก็รู้ได้เลยว่ามันถูกคัดเลือกมาทีละใบอย่างประณีต
เขาหยิบใบชาขึ้นมาหนึ่งกำมือแล้วนำมาไว้ที่ใต้ปลายจมูกแล้วดมเบาๆ จากนั้นก็หยิบชาที่เขาซื้อมาจากสาวขายชาในวีแชตแล้วดมกลิ่น แค่ครู่เดียวเขาก็รู้สึกได้ถึงความแตกต่างอย่างมาก
โดยกลิ่นแรกนั้น เปรียบเสมือนกับติ่มเฮียงธรรมชาติชั้นดี ซึ่งกลิ่นหอมนั้นเข้มข้นและสมบูรณ์แบบ และมันก็เป็นกลิ่นที่เป็นธรรมชาติโดยสิ้นเชิง โดยแทบจะไม่ได้กลิ่นของร่องรอยการแปรรูปเลย
แต่อย่างหลัง ก็เหมือนติ่มเฮียงปลอมที่ทำจากฟืนคุณภาพต่ำแช่น้ำยาเคมี เมื่อดมแล้วมีกลิ่นฉุนเล็กน้อย และเมื่อเทียบกับชาก่อนหน้าแล้ว ก็เห็นได้ชัดว่ามันคนละเรื่องเลย
เซียวฉางควนรีบใส่ใบชาที่เย่เฉินให้มาลงไปในกาน้ำชา และกาต้มน้ำไฟฟ้าบนโต๊ะชงชาในขณะนั้นก็เดือดแล้ว เขาจึงรีบเทน้ำเดือดลงในกาต้มน้ำชา จากนั้น กลิ่นหอมของใบชาก็ถูกขับออกมาโดยน้ำร้อน และหอมไปทั่วมั้งห้องรับแขก
เซียวฉางควนพูดด้วยความสะดุ้งตกใจว่า “นี่…รสชาติของใบชานี้ดีมากๆ เลย!”
เซียวชูหรันที่อยู่ห่างออกไปในระยะหนึ่งก็ได้กลิ่นหอมนี้แล้วเช่นกัน เธอตะโกนออกมาด้วยความตกใจว่า “เอ๊ะ กลิ่นก็ไม่เลวนะ! พ่อคะ ช่วยริมชาให้หนูถ้วยหนึ่งด้วยค่ะ!
หม่าหลันที่ไม่ชอบดื่มชามาแต่ไหนแต่ไรในขณะนี้ก็ได้กลิ่นหอมของชาแล้วเช่นกัน เธอพูดอย่างตื่นเต้นว่า ใบชานี้มีกลิ่นที่มีคุณภาพสูงมาก เซียวฉางควน รินชาให้ฉันถ้วยหนึ่งด้วย!”
เซียวฉางควนจึงหยิบถ้วยชาเล็กสี่ใบออกมา แล้วรินน้ำชาไปสี่ถ้วย จากนั้นก็ถือถ้วยชาของตัวเองขึ้นมา และจิบอย่างระมัดระวัง จากนั้นดวงตาของเขาก็เป็นประกาย เขาจึงตะโกนด้วยความตกใจออกมาว่า “ชาดี! ชาดีนี่นา! ในชีวิตนี้ฉันไม่เคยดื่มชาดีๆ แบบนี้มาก่อน!”