ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - ตอนที่ 1414
ชายผู้นั้นอัปยศอย่างยิ่ง แต่เพื่อเอาชีวิตรอด เขาเป็นเหมือนนกกระทา และตะโกนอย่างจริงใจว่า:”พ่อ ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย……”
เย่เฉินพยักหน้าด้วยความพึงพอใจและพูดว่า:”เห็นว่าคุณสองคนยังค่อนข้างจริงใจ งั้นฉันจะให้โอกาสพวกคุณรอด คุกเข่าลงพื้นเรียกว่าพ่อ ถ้าครั้งนี้เรียกได้ดี ฉันจะปล่อยพวกคุณไป”
เทพสงครามพูดประท้วง:”คุณให้ฉันเรียกว่าพ่อ ฉันก็เรียกแล้ว ทำไมคุณยังไม่ปล่อยฉันไป แล้วยังให้ฉันคุกเข่าเรียกพ่ออีก?”
เย่เฉินยิ้มพูดว่า:”แรกๆฉันก็บอกแล้วว่าให้คุกเข่าเรียกพ่อ ถ้าคุณไม่เรียก งั้นฉันจะให้คุณตายอย่างมีศักดิ์ศรี คุณคิดเอาเองแล้วกัน”
เจ้าถิ่นที่อยู่ข้างๆพูดอย่างโกรธเคือง:”จะว่ายังไงฉันก็คือเจ้าถิ่นของนอร์ทเทิร์นแลนด์ ในตอนนั้นฉันสามารถเอาชนะได้ด้วยหนึ่งต่อร้อย คุณอย่าทำมากเกินไป!:
เย่เฉินยิ้มเยาะเย้ย และพูดว่า:”เจ้าถิ่นของนอร์ทเทิร์นแลนด์? คืออะไร?”
เจ้าถิ่นพูดว่า:”ทหารรับจ้างนอร์ทเทิร์นแลนด์ องค์กรทหารรับจ้างเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ!”
“อ๋อ”เย่เฉินพยักหน้า และยิ้มพูดว่า:”สวัสดีเจ้าถิ่น ชื่อเรียกของคุณยอดเยี่ยมมาก ฉันก็มีชื่อ ซึ่งได้มาจากคนในยุทธภพ ไม่รู้ว่าเมื่อเทียบกับของคุณ ใครจะสุดยอดกว่ากัน?”
เจ้าถิ่นถามว่า:”ชื่อเรียกของคุณคืออะไร?”
เย่เฉินยิ้มเบาๆ:”ห้าคำ เทพมังกรในโลกมนุษย์”
สีหน้าของเจ้าถิ่นเปลี่ยนไป
เทพมังกรในโลกมนุษย์?
บ้าไรเนี่ย!
หยิ่งเกินไปหน่อยรึเปล่า?
เย่เฉินคร้านที่จะพูดคุยกับเขาต่อไป ออกแรงในมืออีกครั้งและพูดนิ่งๆว่า:”ถ้าคุณเต็มใจก็คุกเข่า ไม่เต็มใจก็ตาย คุณมีเวลาเพียงสามวินาทีในการคิด”
เจ้าถิ่นรู้สึกว่าพลังแถวลำคอของเขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ตกใจจนตื่นตระหนก และโพล่งออกมาว่า:”ฉันคุกเข่า! ฉันคุกเข่า!”
เย่เฉินมองไปหาคนที่เรียกว่าเทพสงครามที่อยู่ถัดจากเขา:”แล้วคุณล่ะ พี่เทพสงคราม คุกเข่าหรือไม่คุกเข่า?”
“คุกเข่า! ฉันก็คุกเข่าด้วย!”
เทพสงครามก็รู้หลักที่ว่าการมีชีวิตอยู่ดีกว่าตาย เลยพยักหน้าโดยไม่ลังเล
เย่เฉินยิ้มด้วยความพึงพอใจ และกดพวกเขาทั้งสองลงพื้นโดย ตรงราวกับไก่ตัวเล็ก ๆ และพูดอย่างเย็นชาว่า:”เรียกเสียงดังกว่านี้หน่อย มิฉะนั้นฉันจะหักรากฐานของพวกคุณ ทำให้คุณสองคนเป็นขันทีตลอดชีวิตที่เหลือ! ”
ทั้งสองคนตัวสั่นด้วยความตกใจ คุกเข่าลงพื้นและร้องพร้อมกัน:”พ่อยกโทษให้ฉันด้วยครับ! พ่อยกโทษให้ฉันด้วยครับ!”
สีหน้าของสองพี่น้อง กู้เย้นจงและกู้เย้นกางแย่มาก
แต่ว่า ในเวลานี้พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้
ได้แต่มองดูลูกน้องสองคนคุกเข่าลงพื้น แล้วเรียกชายหนุ่มผู้นี้ว่าพ่อ
เมื่อเย่เฉินเห็นความทุ่มเทและความจริงจังของทั้งสองคน ก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ และพูดว่า:”เด็กดี ใช้ได้ๆ สามารปรับตัวได้กับทุกสถานการณ์ เป็นคนที่สามารถทำการใหญ่ได้”
ทั้งสองเงยหน้าขึ้นมองเย่เฉินอย่างโกรธเคือง พวกเขาคิดในใจ อยากจะฆ่าเขาเป็นหมื่นครั้งแล้ว
ในขณะเดียวกัน ทั้งสองก็คิดเรื่องเดียวกัน
นั่นก็คือหลังจากผ่านอุปสรรควันนี้ไป จะหาวิธีเอาคืนเย่เฉินยังไง
ถึงเวลานั้น จะต้องปลิดชีพเขาเพื่อบรรเทาความเกลียดชังของตัวเองให้ได้!
สิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิดก็คือ เย่เฉินได้เตรียมการมานานแล้ว ว่าจะตัดรากเหง้าแห่งภัยพิบัติตลอดไป
ดังนั้น เย่เฉินจึงทำสีหน้าเล่นตลก และยิ้มพูดว่า:”ลูกชายที่น่ารักสองคน คนหนึ่งในพวกคุณคือเทพสงคราม และอีกคนหนึ่งเป็นเจ้าถิ่น มันสุดยอดมากจริงๆ พ่อรู้สึกภูมิใจมาก แต่พ่อไม่ชอบให้พวกเธอสองคนตีกันทั้งวัน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เป็นเด็กดีที่นอนหลับตรงเวลากันเถอะ”
ทั้งสองคนคิดว่าเย่เฉินเยาะเย้ยพวกเขาเฉยๆ ดังนั้นพวกเขาไม่พอใจ แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร
แต่พวกเขาไม่นึกเลยว่า เย่เฉินได้วางแผนที่จะฆ่าพวกเขามานานแล้ว
จากนั้น เขาปล่อยปราณทิพย์สองอันออกจากมืออย่างเงียบๆ มุดเข้าไปในร่างของทั้งสองโดยตรง และปิดผนึกตันเถียนและเส้นลมปราณของทั้งสองคนทันที ทำให้ทั้งสองคนจากยอดฝีมือระดับสูงในสายตาของคนธรรมดา กลายเป็นคนไร้ประโยชน์ที่ไม่มีแรงเลยสักนิด
หากทั้งสองคนกล้าออกแรงหรือสะสมพลังงาน ไม่เพียงแต่ไม่สามารถที่จะระเบิดความอันตรายใดๆออกมาได้ ยังต้องทนทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวดสุดขีดจากมดนับหมื่นตัวที่กัดร่างกายของพวกเขา แม้แต่อยากจะย้ายอิฐสักนิดก็เป็นไปไม่ได้
ดังนั้น ทั้งสองคนกลายเป็นคนไร้ประโยชน์แล้วจริงๆ ไร้ประโยชน์จะไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว
ณ ตอนนี้ เย่เฉินตะคอกเสียงเย็นชาใส่ทั้งคู่ว่า:”เอาล่ะ พวกแกทั้งสองคนไปอยู่นิ่งๆฝั่งนั้นไป ฉันยังมีธุระนิดหน่อย จะคุยกับลูกพี่ทั้งสองคนของตระกูลกู้!”