ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - ตอนที่ 144
บทที่ 144 สุดยอดยาเทวดาแห่งยุค(2)
“ยาวิเศษณ์อะไรนะ?” เย่เฉินก็ตะลึง
ยังมียาวิเศษณ์ให้ซือเทียนฉีสนใจอีกหรือ ไม่รู้ว่าจะเป็นของล้ำค่าอะไรกันแน่
ซือเทียนฉีก็รีบเอากล่องหยกออกมาจากหน้าอก ค่อยๆ เปิดมันออก แล้วพูดว่า “ยาวิเศษณ์เม็ดนี้ ซื้อมาในราคา5ล้าน แต่มันคุ้มค่า ผมใช้ไปครึ่งเม็ด และกำลังซึมซับตาครึ่งเม็ดนั้น เหลืออีกครึ่งเม็ดติดตัวไว้ เชิญอาจารย์เย่ดู”
เห็น “ยาวิเศษณ์” นั้น เป็นเหมือนของล้ำค่าของซือเทียนฉี ฝูงชนก็มุงเข้ามา อยากจะเห็น “ยาวิเศษณ์” ที่ทำให้หมอเทวดาสนใจ ว่าจะเป็นอย่างไรกันแน่
พอกล่องหยกเปิดออก กลิ่นหอมของยาก็โชยออกมา
เห็นยาสีดำครึ่งเม็ดวางอยู่ในกล่อง ซือเทียนฉีหยิบมีดขึ้นมา ค่อยๆ ตัดออกมาขนาดเท่าเล็บ แล้วยื่นให้ชายวัยกลางคนตระกูลซ่ง และซ่งหรงวี่ ให้พวกเขาลองดู
ทั้งสองลังเลครู่หนึ่ง แล้วก็เอายาเข้าปากไป
พอยาเข้าปากก็สลายตัว สีหน้าของชายวัยกลางคนตระกูลซ่งก็ตะลึงยิ่งกว่าเดิม
“ท่านซือ มันเป็นยาวิเศษณ์อะไรกันแน่ อาการเจ็บที่หน้าอกของผมที่มักเกิดบ่อยๆ แต่ตอนนี้มันหายเป็นปลิดทิ้งเลย”
ซ่งหรงวี่ก็อ้าปากค้าง “ปอดของผมก็อาการไม่ค่อยดีมาตลอด แต่พอกินยาไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ก็รู้สึกว่าดีขึ้นมาเลย!”
ซือเทียนฉียิ้มพูดว่า “ตอนนี้รู้สรรพคุณของมันแล้วใช่ละสิ”
ชายวัยกลางคนตระกูลซ่งมีใบหน้าดีใจ แล้วพูดกับท่านซือว่า “ยานี้มันวิเศษณ์จริงๆ ถ้าท่านซือสามารถทำมันออกมาได้ ผมจะยอมซื้อในราคาแพงๆ เลย!”
ซือเทียนฉียิ้มแหยพูดว่า “ผมก็เคยศึกษาตัวยาสูตรนี้แต่ก็ยังแยกแยะไม่ออกรู้เพียงว่ามันเป็นวิชาการเล่นแร่แปรธาตุที่สาบสูญไปนานแล้ว เกรงว่ายาครึ่งเม็ดนี้
จะกลายเป็นของหายากในโลกนี้แล้ว”
เย่เฉินเห็นยาครึ่งเม็ดนั้น ก็อึ้งอยู่ในนั้น แล้วตามด้วยอาการยิ้มหน้าเสียๆ
“ท่านซือ ยานี้ คุณจ่ายเงิน5ล้านเพื่อซื้อหรือ?”
“ใช่แล้ว”
ซือเทียนฉีพูดยิ้มตาหยีว่า “เงิน5ล้านไม่นับว่ามาก ถ้าสามารถซื้อยาวิเศษณ์ที่สาบสูญไปนานแล้วได้ จ่าย10ล้านก็ยอม”
อาจารย์เย่ คุณก็มองออก ว่ายานี้มันไม่ธรรมดา เพื่อนของผมบอกมาว่า คนที่ผลิตยานี้เป็นปรมาจารย์ที่เร้นกาย มีอายุกว่า150ปี เพื่อนของไปนั่งคุกเข่าอยู่หน้าประตูบ้านของปรมาจารย์คนนั้นตั้ง3วัน3คืน จนปรมาจารย์คนนั้นใจอ่อน แล้วซื้อมาในราคาเม็ดละ5ล้าน พอหลังจากที่เขาซื้อยาแล้ววันที่สอง ปรมาจารย์คนนั้นก็ออกท่องเที่ยวไปยังที่อื่นๆ เกรงว่าในชีวิตนี้คงจะไม่มีโอกาสได้พบแล้ว
ชายวัยกลางคนตระกูลซ่งถอนหายใจพูดว่า “ปรมาจารย์คนนั้น หรือว่าจะเป็นเทพเซียน!จ่ายเงิน5ล้านเพื่อยาหนึ่งเม็ด ไม่นับว่าแพง”
เฉินเสี่ยวจาวเพิ่งขอโทษเย่เฉินเมื่อครู่ ถึงแม้ยอมจะยอมแพ้ต่อวิชาการแพทย์ของเขา แต่พอมาคิดดู เขากลับเก่งกาจกว่าคุณตา ของตนเองเสียอีก คิดๆ แล้วก็ไม่ค่อยสบายใจ
ในตอนนั้นก็เห็นใบหน้าของเย่เฉินแปลกๆ ราวกับกำลังกลั้นหัวเราะ เธอเห็นแล้วก็อดในไม่ได้ แล้วพูดว่า “นี่นาย หัวเราะอะไร หรือนายจะดูถูกยาวิเศษณ์นี่ นายทำได้รึไงกัน?”
เย่เฉินก็นิ่ง เห็นทุกคนมองมาที่ตนเอง ก็ได้แต่พูดออกไปว่า “ยานี้ผมเป็นคนทำเอง ท่านซือ คุณถูกเพื่อนของคุณหลอกเอาแล้ว”
พอสิ้นเสียงพูดของเขา ในห้องก็เงียบกันหมด
สายตาหลายสิบคู่ จับจ้องมายังตัวของเขา แต่ละคนต่างก็อึ้งกิมกี่
ซือเทียนฉีก็อึ้งด้วย จนตั้งสติกลับมาไม่ได้ พักใหญ่ถึงได้ส่งเสียงออกมา “อาจารย์เย่ ยาวิเศษณ์ระดับโลกนี้ คุณเป็นทำอย่างนั้นหรือ?”
เฉินเสี่ยวจาวอ้าปาก ราวกับร่างตนเองถูกสตาฟไว้
เย่เฉินพยักหน้า แล้วตอบนิ่งๆ ว่า “สิ่งนี้ไม่นับว่าเป็นยาวิเศษณ์อะไร ผมแค่ทำมันออกมาเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บฟกช้ำ ของพ่อตาผมเท่านั้น แต่กลัวร่างกายเขาจะรับไม่ไหว ผมก็เลยตั้งใจลดปริมาณยาไปตัวหนึ่ง เป็นยาที่เกือบจะสำเร็จเท่านั้น”
เย่เฉินเพิ่งพูดจบ กลุ่มคนก็เงียบเป็นเป่าสาก