ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - ตอนที่ 1653
“ผม……ผม……ไอ ไอ ไอ…….”
เจ้ารองที่ถูกบีบคอ สีหน้ากลายเป็นสีน้ำเงินทันที
เขาอยากจะพูดอะไร แต่ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ นอกจากคำว่าผมคำเดียว
เขามองที่เย่เฉินด้วยสายตาที่น่าสะพรึงกลัวและขอร้องอ้อนว้อน โดยหวังว่าเย่เฉินจะปล่อยชีวิตเขาไปได้
แต่เย่เฉินกลับพูดอย่างเฉยเมยว่า “ถ้าคนอื่นไม่รุกรานผม ผมก็ไม่ไปรุกรานใคร พวกคุณติดตาม และดักฟังผมตั้งแต่โตเกียวจนตลอดทาง ตั้งใจจะฆ่าผมก่อนที่ผมจะออกจากญี่ปุ่น คุณคิดว่าผมจะปล่อยให้คุณรอดไปได้งั้นเหรอ?”
ใบหน้าของศิษย์น้องรองของฟูจิบายาชิ มาสะเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
เย่เฉินพูดอย่างใจเย็นว่า “เอาล่ะ ตายอย่างไม่ทรมานเถอะ”
หลังจากพูดจบ ด้วยแรงที่อ่อนโยนในมือของเขา ก็ได้ยินเสียงคมชัดจากคอของอีกฝ่าย และคนคนนั้นก็ได้สูญเสียพละกำลังไปอย่างสิ้นเชิง
ต่อมา เย่เฉินก็ยัดร่างของเจ้ารองและเจ้าสามลงในกระโปรงหลังรถ ราวกับว่าคนสองคนนี้ไม่เคยปรากฏตัวอยู่ที่นี่เลย
หลังจากที่ทำทั้งหมดนี้จนเสร็จ เย่เฉินก็หยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมา และโทรหาเฉินจื๋อข่าย “ให้ลูกน้องของคุณขับรถตู้แช่แข็งมาที่หน้าประตูของโรงแรม”
ฟูจิบายาชิ มาสะซึ่งอยู่ที่ทางเข้าของโรงแรม รอเกือบสิบนาที และก็ยังไม่เห็นสองคนนั้นขับรถออกมาสักที รู้สึกกังวลใจอย่างมาก
ถึงแม้การเปลี่ยนยางรถมันจะค่อนข้างยุ่งยากเล็กน้อย แต่สองคนทำพร้อมกัน มันก็คงเป็นไปไม่ได้หรอกนานขนาดนั้นแล้วยังไม่เสร็จสักทีใช่ไหม? เขาจึงหยิบมือถือออกมาแล้วโทรหาเจ้าสาม
ไม่มีใครรับสาย
ทันทีหลังจากนั้น เขาก็โทรหาเจ้ารองอีกครั้ง แต่ก็ยังคงไม่มีคนรับสาย
ไม่มีใครรับสายของทั้งสองคน ซึ่งผิดปกติมากเกินไปจริงๆ!
ทันใดนั้นความรู้สึกที่รุนแรง ก็ผุดขึ้นในหัวใจของฟูจิบายาชิ มาสะอย่างกะทันหัน
เมื่อนึกถึงการตายของฟูจิบายาชิ โอตะเจ้าสี่ เขาก็รู้สึกหนาวเย็นอยู่ที่หลังของเขา!
“หรือว่า พวกเราได้ตกเป็นเป้าหมายของใครบางคนในตอนนี้ไปแล้ว!”
“งั้นเจ้ารองและเจ้าสามก็ได้ประสบอุบัติเหตุไปแล้วหรือไม่!”
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เขาก็อยากจะหันหลังกลับโดยจิตสำนึก และลงไปที่ห้องใต้ดินเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เขาก้าวไปสองก้าว เขาก็ต้องหยุดลงทันที
“ถ้าเจ้ารองและเจ้าสามได้เจอกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันไปแล้วจริงๆ งั้นความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย ก็ไม่ใช่สิ่งที่ผมจะสามารถรับมือได้อย่างแน่นอน……”
“ดูเหมือนว่า ในขณะนี้ก็มีเพียงทางเดียวเท่านั้นก็คือในบรรดาสามสิบหกวิธี วิธีที่ดีที่สุดคือการจากไปแล้ว!”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฟูจิบายาชิ มาสะที่กำลังหงุดหงิดก็หันกลับมาเตรียมจะออกจากที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว
เขาอยากจะออกห่างจากสถานที่ที่วุ่นวายแห่งนี้ก่อน และหลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครติดตามเขาแล้ว ค่อยหาทางออกจากโอซาก้า
แต่ว่า……..
ทันทีที่เขาหันหลังและกำลังจะจากไป ทันใดนั้นเขาก็วิ่งเข้าชนกับชายคนหนึ่งอย่างเต็มอก
ในเวลานี้ ทั้งคนของเขาอยู่ในความตื่นตระหนก และไม่มีความสงบและความตื่นตัวตามปกติเลย เขาไม่แม้แต่จะมองคนที่เขาวิ่งเข้าชนเลย เขาก้มศีรษะและพูดว่าขอโทษ และก็อยากจะจากไปโดยเร็วที่สุด
แต่ในขณะนั้น จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าแขนของเขาถูกอีกฝ่ายดึงไว้ จากนั้น เขาก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยถามว่า “คุณฟูจิบายาชิ คุณรีบร้อนเช่นนี้ จะรีบไปไหนเหรอ?”
ในขณะที่ฟูจิบายาชิ มาสะได้ยินเสียงของเย่เฉิน ร่างกายของเขาก็สั่นเทาอย่างรุนแรง!
เขาเคยเฝ้าติดตามเย่เฉินอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งในนาโงยะ ดังนั้น เขาจึงจำเสียงนี้ได้ในทันที!
รอให้เขาเงยหน้าขึ้นโดยจิตสำนึก เขาก็เห็นเย่เฉินมองมาที่เขาด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา
ฟูจิบายาชิ มาสะถามด้วยความตกใจ “คุณ……คุณ…….ทำไมคุณ…….”