ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - ตอนที่ 1712
ด้านหนึ่งเอมิ นานาโกะเอ่ยเห็นด้วย “เป็นแบบนั้นจริงๆ เดิมทีพวกเราแข่งขันกับตระกูลทากาฮาชิอย่างดุเดือดมาก แต่ไม่คิดเลยว่าทากาฮาชิ มาจิ และทากาฮาชิ เอคิจิสองพ่อลูกจะเสียชีวิต ต่อจากนี้ไป ตระกูลทากาฮาชิจะต้องได้รับผลกระทบอย่างหนักแน่”
“นอกจากนี้ มัตสึโมโตะ โยชิโตะที่แต่เดิมคอยไล่ตามอยู่เบื้องหลัง ตอนนี้ตระกูลมัตสึโมโตะทั้งหมดถูกทำลายล้างลงโดยตรง ส่วนแบ่งธุรกิจทั้งหมดของตระกูลมัตสึโมโตะก็ถูกปล่อยออกมา ตระกูลทากาฮาชิตอนนี้ยังมีความสามารถในการแข่งขันกับเราหรือไม่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตระกูลล่างๆพวกนั้น หากพวกเราสามารถรีบถือโอกาสคว้าเอาทรัพยากรที่ตระกูลทากาฮาชิและตระกูลมัตสึโมโตะปล่อยออกมาได้ อย่างนั้นพวกเราก็จะกลายเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในญี่ปุ่นอย่างแท้จริง!”
นางาฮิโกะ อิโตะพยักหน้า แต่การแสดงออกของเขากลับไม่มีท่าทีของความดีใจ เขาถอนหายใจ “แต่เดิมฉันอยากเป็นเช่นซามูไร แข่งขันกับทากาฮาชิ มาจิ อย่างเปิดเผย คิดไม่ถึงเลยว่า จู่ๆจะกลายมาเป็นนกกระยางสู้กับหอยกาบ ชาวประมงได้ประโยชน์ ช่างเป็นการชนะอย่างไม่สง่าเลย…”
ในขณะนี้ เย่เฉินกลับมองไปที่นางาฮิโกะ อิโตะด้วยมุมมองใหม่อยู่บ้าง หากเป็นคนส่วนใหญ่ในเวลานี้ เกรงว่าจะต้องตื่นเต้นดีใจจนลืมตัวไปแล้ว
คิดไม่ถึงว่า นางาฮิโกะ อิโตะจะยังคงมีจิตสำนึกแบบนี้
ในเวลานี้ เอมิ นานาโกะเอ่ยปลอบโยน “พี่ชาย ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าชนะไม่สง่าอะไรนั่นแล้ว ในเมื่อทั้งสองตระกูลล้วนเจอเรื่อง อีกทั้งพวกเราก็ไม่ได้อยู่เบื้องหลังปัญหา แบบนี้พวกเราก็ถือว่าโชคดีได้เบาแรงลง อีกทั้งยังสามารถวางใจลงได้ ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดก็คือต้องรีบจัดการกวาดล้างสนามรบ ฉวยโอกาสนี้ ทำให้ตระกูลอิโตะยืนหยัดอยู่เหนือใคร!”
นางาฮิโกะ อิโตะไม่ตอบในทันที แต่กลับหันไปหาเย่เฉิน จากนั้นจึงประสานมืออีกครั้งและพูดอย่างจริงใจ “คุณเย่ ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณคุณมากแล้ว! ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ชะตากรรมของตระกูลอิโตะ อาจจะไม่ได้ดีไปกว่าตระกูลทากาฮาชิสักเท่าไหร่ หากไม่ใช่เพราะคุณ ตระกูลอิโตะและตระกูลทากาฮาชิเกรงว่าคงถูกทำลายล้างลงด้วยแผนการของมัตสึโมโตะ โยชิโตะไปนานแล้ว คุณ คือผู้มีพระคุณของตระกูลอิโตะ!”
ทันทีที่ เอมิ นานาโกะ เห็นดังนั้น เธอก็รีบลุกขึ้น จากนั้นจึงคุกเข่าลงข้างหนึ่งอย่างไม่ลังเล สองมือประสานกำปั้นและเอ่ยแสดงความนับถืออย่างสุดซึ้ง “คุณเย่ ขาทั้งสองของพี่ชายไม่สะดวกเคลื่อนไหว ฉันขอเป็นตัวแทนของตระกูลอิโตะ คำนับขอบคุณคุณ!”
อิโตะ นานาโกะเองก็รีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงคุกเข่าลงตามป้าของเธอและเอ่ยอย่างซาบซึ้ง “เย่เฉินซัง ได้โปรดยอมรับการคำนับครั้งนี้จากนานาโกะ!”
เย่เฉินถอนหายใจเบาๆ เขาพูดอย่างจริงจัง “ทั้งสองได้โปรดรีบลุกขึ้นเถอะ พวกคุณอันที่จริงแล้วไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ แม้ว่าผมจะบังเอิญได้เข้าไปช่วยตระกูลอิโตะอยู่บ้าง แต่ว่าการรอดพ้นจากภัยพิบัตินี้ได้ ท้ายที่สุดแล้ว ยังคงถือว่าเป็นโชคของตระกูลอิโตะ”
เอมิ นานาโกะและนานาโกะค่อยลุกขึ้นมา
เอมิ นานาโกะยังกล่าวกับนางาฮิโกะ อิโตะ “พี่ชาย คุณเย่พูดถูก เรื่องนี้นอกจากความช่วยเหลือของคุณแย่แล้ว ยังต้องบอกว่าโชคของตระกูลอิโตะนั้นหายากจริงๆ! ไม่เพียงแต่สามารถใช้โอกาสนี้ซึมซับส่วนแบ่งที่ตระกูลทากาฮาชิและตระกูลมัตสึโมโตะปล่อยออกมาเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้ประโยชน์จากความเสียหายของตระกูลทากาฮาชิ ผลักดันความร่วมมือกับตระกูลซู เห็นทีตอนนี้ตระกูลซูจะเหลือเพียงตระกูลอิโตะของพวกเราเป็นทางเลือกเดียวแล้ว!”
“ไม่!” นางาฮิโกะ อิโตะพูดโดยไม่ลังเล “จากนี้เป็นต้นไป พวกเราจะไม่ร่วมมือกับตระกูลซูไม่ว่าในลักษณะใด!”
เอมิ นานาโกะอดไม่ได้ที่จะถาม “พี่ชาย ทำไมล่ะคะ? คุณไม่ได้คาดหวังกับการร่วมมือในครั้งนี้มาตลอดหรอกหรือ!”
นางาฮิโกะ อิโตะพูดด้วยความเคร่งเครียด “นั่นเป็นเพราะฉันยังไม่รู้จักตระกูลซูมากพอ! แต่ตอนนี้ ผ่านเรื่องราวของตระกูลมัตสึโมโตะ ก็สามารถมองเห็นได้ชัดถึงสไตล์การกระทำของตระกูลซู คนตระกูลซูเหี้ยมโหดมากเกินไป อีกทั้งยังไม่มีขีดศีลธรรมขั้นต่ำสุด แม้กระทั่งเด็กเล็กก็ฆ่าไม่เว้น การร่วมมือกับตระกูลแบบนี้ ก็คือการหาหนังจากเสือ!”
เอมิ นานาโกะการแสดงออกเคร่งเครียดขึ้นมาและทันใดนั้นก็พูดว่า “สิ่งที่พี่ชายพูดมีเหตุผล… การกระทำของตระกูลซูนั้นโหดร้ายเกินไปจริงๆ…”
พูดไป จู่ๆเอมิ นานาโกะ ก็นึกอะไรบางอย่างได้และรีบพูดว่า “พี่ชาย ฉันได้ยินมาว่า ในอันดับตระกูลของจีนมีอีกตระกูลที่รองลงมาจากตระกูลซู และคล้ายว่าก็อยากมีส่วนร่วมในด้านการขนส่งทางทะเลเช่นกัน พวกเขามีความสัมพันธ์เป็นคู่แข่งกับตระกูลซูมานานหลายปี คล้ายกับสถานการณ์ระหว่างพวกเราและตระกูลทากาฮาชิในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ หากเงื่อนไขเหมาะสม พวกเราก็สามารถร่วมมือกับตระกูลเย่ได้”
นางาฮิโกะ อิโตะส่ายหัวและกล่าวว่า “ช่างเถอะ ตระกูลซูและตระกูลเย่ล้วนแข็งแกร่งอย่างมาก ไม่กี่ปีมานี้การพัฒนาเศรษฐกิจของจีนก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด ความแข็งแกร่งของทั้งสองตระกูลใหญ่นี้เหนือกว่าตระกูลอื่นๆ ในเอเชียไปอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นตระกูลซูหรือตระกูลเย่ พวกเราล้วนอยู่ห่างไกลจากการเป็นคู่มือของพวกเขา การร่วมมือกับตระกูลซูคือการหาหนังจากเสือ การร่วมมือกับตระกูลเย่ ก็คือการรุกรานเสืออย่างตระกูลซูอย่างสมบูรณ์ ในความคิดของฉัน พวกเราอย่าได้เอาตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายแบบนี้จะดีกว่า!”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ นางาฮิโกะ อิโตะก็ไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งและพูดอย่างจริงจังว่า “เอาแบบนี้ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ตระกูลอิโตะจะยุติความร่วมมือทั้งหมดกับตระกูลชาวต่างชาติทั้งหมด และจะไม่ยอมรับคำเชิญขอความร่วมมือจากตระกูลต่างชาติใดๆ ในช่วงนี้พวกเราจะพยายามทำงานอย่างหนักในตลาดญี่ปุ่น นอนฟืนแข็ง กินดีขม ขุดหลุมลึก สะสมเมล็ดพืช เตรียมตัวของเราให้พร้อม! ในยามที่เรามีความแข็งแกร่งเท่ากัน หรือใกล้เคียงกับตระกูลเย่และตระกูลซูเมื่อไหร่ ถึงตอนนั้นค่อยพิจารณาเรื่องการร่วมมือกับพวกเขา!”