ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - ตอนที่ 242
บทที่242 ทรยศเซียวเวยเวย(2)
ดังนั้น อนาคตของตัวเธอเอง ก็กลายเป็นความริบหรี่สุดขีดขึ้นมาในทันที
นายหญิงใหญ่เซียวเช็ดน้ำตาให้เธอ พูดขึ้นมาอย่างจริงจัง: “เวยเวย เมื่อก่อนเธออยู่บ้านเรา ก็เป็นองค์หญิงตัวน้อยคนหนึ่ง ย่ารักและเอาใจเธอ พ่อแม่เธอก็รักและเอาใจเธอ พี่ชายเธอก็รักและเอาใจเธอ ดังนั้นก่อนหน้านั้นเธอไม่ตั้งใจเรียน เรียนจบแล้วก็ไม่อยากไปทำงาน เรื่องพวกนี้ล้วนไม่ใช่ปัญหา แต่ว่าตอนนี้ตระกูลเราเทียบไม่ได้กับแต่ก่อน เธอจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง เธอจะต้องโตเป็นผู้ใหญ่ให้เร็วที่สุด ต้องช่วยแบ่งเบาภาระส่วนหนึ่งของบ้านหลังนี้ ถ้าไม่อย่างนั้น เราก็ได้แต่ยิ่งแย่ลงไปเรื่อยๆเท่านั้น”
เซียวเวยเวยพยักหน้าซ้ำๆ พูดขึ้นมาอย่างละอายใจ: “คุณย่า เมื่อก่อนหนูห่วงแต่เล่นเกินไป ไม่ได้เรียนรู้วิชาอะไรมาเลย ไม่สามารถช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัวเราได้……”
นายหญิงใหญ่เซียวกุมมือของเธอแน่น พูดอย่างจริงจัง: “เวยเวย เรื่องเมื่อก่อนผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป เธอเป็นเป่าเป้ยหลานสาวคนรองของย่า ย่าจะโทษเธอ ตำหนิเธอได้อย่างไร?”
พูดไป นายหญิงใหญ่ก็พูดด้วยความจริงจังและจริงใจอีกครั้ง: “ตอนนี้ มีโอกาสที่ดีเยี่ยมอยู่ สามารถได้หลายอย่างในคราวเดียว ไม่เพียงแต่จะสามารถแก้ไขวิกฤตของตระกูลเท่านั้น ยังสามารถให้เธอหาโอกาสที่จะลุกขึ้นมาใหม่อีกครั้ง แม้กระทั่ง ยังสามารถทำให้เธอกลายเป็นคนเหนือคนได้ เธออยากจะคว้ามันเอาไว้ไหม?”
เมื่อเซียวเวยเวยได้ยินคำพูดนี้ ก็รีบพยักหน้าไม่หยุดทันที พูดอย่างตื่นเต้นว่า: “คุณย่า หนูอยาก!”
เซียวฉางเฉียนกับเซียวไห่หลงได้ยินคำพูดนี้ ก็รีบล้อมวงเข้ามา
ในนั้น เซียวฉางเฉียนถามขึ้นมาอย่างไม่สามารถซ่อนความตื่นเต้นได้: “แม่ มีวิธีดีๆอะไร?”
นายหญิงใหญ่เซียวพูดขึ้นมาอย่างจริงจัง: “ก็คือประธานเซียวที่พักอยู่ในห้องรับแขกชั้นบน เซียวอี้เชียน!”
“เขา?” เซียวฉางเฉียนรีบถาม: “เขารับปากจะช่วยเราแล้ว?”
“เปล่า” นายหญิงใหญ่เซียวส่ายหน้า พูดว่า: “เขากับเรา พูดให้แจ่มแจ้งก็ไม่ใช่ญาติไม่ใช่มิตร มาก็เพื่อความปรารถนาสุดท้ายของพ่อเขาเท่านั้น ไม่มีหน้าที่ที่จะต้องช่วยเหลือเรา”
เซียวฉางเฉียนไม่ค่อยเข้าใจ ถามว่า: “งั้นคุณแม่หมายความว่าอย่างไร?”
นายหญิงใหญ่เซียวพูดว่า: “ความหมายของฉันคือ ให้เวยเวยคว้าโอกาสของเซียวอี้เชียนคนนี้เอาไว้! ฉันดูออกว่า เขามีใจให้เวยเวย!”
เซียวฉางเฉียนตกใจมาก พูดโดยไม่ต้องคิด: “แม่ แม่คงไม่ได้จะให้เวยเวยไปอยู่กับเซียวอี้เชียนคนนั้นใช่ไหม? เขาอายุมากกว่าผมแล้วด้วยซ้ำ!”
“แล้วมันเป็นอย่างไร?” นายหญิงใหญ่เซียวถามกลับ: “อายุมากไปหน่อยมีปัญหาอะไรเหรอ? หวังเหวินเฟยอายุไม่มาก เวยเวยอยู่กับเขามานานขนาดนี้ แถมยังเคยทำแท้งเพื่อเขา สุดท้ายเป็นอย่างไรล่ะ? นอกจากเขาจะทำร้ายเวยเวยแล้ว ยังให้อะไรกับเวยเวยอีก?”
เซียนฉางเฉียนพูดอย่างรีบร้อน: “นั่นก็เป็นความรักปกติของชายหญิง แต่ว่าเซียวอี้เชียนเป็นตาแก่แล้วนะ!”
นายหญิงใหญ่เซียวพูดขึ้นมาอย่างเอาจริงเอาจัง: “ตาแก่แล้วเป็นอย่างไร? ตาแก่ มีเงินมีอำนาจ มีเส้นสายแล้วยังมีทรัพยากร อยู่กับเขา จะไม่ใช่ต้องการอะไรก็มีสิ่งนั้นเหรอ?”
เซียวฉางเฉียนโบกมืออย่างเดียว: “ไม่ได้ ไม่ได้! เรื่องที่เวยเวยอยู่กับหวังเหวินเหย ผมรู้สึกยังพอรับได้ แต่จะให้เธอไปอยู่กับเซียวอี้เชียน ผมที่เป็นพ่อคนนี้จะยอมรับไหวได้อย่างไร?”
“ยอมรับไม่ได้?” นายหญิงใหญ่เซียวฮึเย็นชาออกมา ถามกลับไปว่า: “งั้นแกรับความจนได้ไหม? ถ้าหากบริษัทเซียวซื่อล้มละลาย แกจะสืบทอดมรดกอะไรจากฉันได้? บ้านพักตากอากาศเก่าๆหลังนี้? แกอย่าลืมนะ บริษัทเซียวซื่อเป็นหนี้เงินกู้ธนาคารอยู่ ถึงเวลาล้มละลายชำระหนี้เต็มจำนวน ศาลจะทวงคืนบ้านพักตากอากาศหลังนี้กลับไป! ฉันน่ะไม่เป็นไร ก็ไม่มีกี่ปีให้มีชีวิตอยู่ได้แล้ว พวกแกล่ะ? ถึงเวลาพวกแกจะทำอย่างไร? ทำเหมือนกับเซียงฉางควน ไปอาศัยอยู่ในถงจือโหลว(ห้องขนาดเล็ก)เก่าๆทรุดโทรมเหรอ?
เซียวฉางเฉียนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ……
เขาไม่อยากจะทรยศลูกสาว แต่ว่า เขาก็ไม่อยากจะยากจน……
ในตอนที่เขาไม่รู้จะทำอย่างไรดีอยู่นั้น เซียวเวยเวยที่ไม่พูดอะไรมาโดยตลอดจู่ๆก็เอ่ยปากพูดขึ้นมา: “คุณย่า ถ้าหากเขาสามารถช่วยบริษัทเซียวซื่อได้ งั้นหนูก็ยินดีไปอยู่กับเขา! แต่ว่าหนูมีเงื่อนไขหนึ่งข้อ!”
นายหญิงใหญ่เซียวถามด้วยตื่นเต้นไม่หยุด: “เงื่อนไขอะไร?!”
เซียวเวยเวยกัดฟันพูด: “หนูจะเป็นผู้อำนวยการบริษัทเซียวซื่อ! ตำแหน่งก่อนหน้านั้นของเซียวชูหรัน!”