ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - ตอนที่ 271
บทที่ 271
หม่าหลันนั่งแช่อยู่ที่โรงไพ่นกกระจอกทั้งเช้าอย่างเหม่อลอย รอเวลาจวนใกล้จะถึง จึงรีบไปที่ร้านอาหารเทียนหัวตามที่นัดหมายไว้กับเกาจวิ้นเว่ย
ทั้งเช้า เธอคิดไปคิดมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ของขวัญราคาหนึ่งล้านที่เกาจวิ้นเว่ยพูดคืออะไรกันแน่?
เครื่องประดับ?เพชรพลอยของล้ำค่า?เช็ค?หรือว่าจะเป็นสิ่งของอย่างอื่น?
สำหรับหม่าหลันคนที่ชอบเอาเปรียบคนอื่นแล้วนั้น ของขวัญราคาหนึ่งล้านที่เกาจวิ้นเว่ยพูดนี้ ดึงดูดความสนใจได้อย่างมากเลยทีเดียว
ครั้งก่อน หม่าหลันเอาเงิน160000หยวนจากเช็คมูลค่า180000 หยวนของเซียวชูหรันไป เธอมีความสุขอย่างมากยิ้มฉีกจนถึงรูหูไปหลายวัน
ดังนั้น พอคิดว่าใกล้จะได้ของขวัญจำนวนหนึ่งล้านบาทจากเกาจวิ้นเว่ย ในใจของเธอก็ยิ่งจะตื่นเต้นจนแทบทนไม่ไหวแล้ว
เป็นเวลา 11.30 หม่าหลันบอกลาขาไพ่ เดินออกมาจากโรงไพ่นกกระจอกแล้ว พร้อมทั้งเรียกรถแท็กซี่ มุ่งหน้าไปยังร้านอาหารเทียนหัวเลย
เมื่อมาถึงสถานที่ที่ทั้งสองนัดหมายกัน เธอเอาตามที่ตกลงไว้ จึงไม่ได้รีบเข้าไป และยืนอยู่ที่หน้าประตูร้านอาหาร รอเกาจวิ้นเว่ยมาถึง
อย่างรวดเร็ว รถเบนซ์สีดำใหม่เอี่ยมคันหนึ่ง ก็ค่อยๆขับมาจอดตรงหน้าของเธอ
จากนั้น ประตูรถเปิดออก ผู้ชายวัยรุ่นสวมใส่ชุดสูทรองเท้าหนัง หน้าตาอัจฉริยะ ก้าวเท้าลงมาจากรถ
คนที่มาก็คือเกาจวิ้นเว่ย
เกาจวิ้นเว่ยดูแล้วหล่อเหลาจริงๆ มีการวางตัวที่ดีมาก แต่ที่น่าเสียดายก็คือ เขาเดินกะเผลก
ผู้หญิงจำนวนมากถูกดึงดูดความสนใจเพราะความหล่อเหลาและรถเบนซ์หรูของเกาจวิ้นเว่ย มองไปยังเขาด้วยสายตาที่เปล่งประกาย แต่เมื่อเห็นเขาเดินกะโผลกกะเผลก ก็ถอนหายใจลากยาวอย่างน่าเสียดาย และเบือนหน้าหนีไป
ทุกอย่างอยู่ในสายตาของเกาจวิ้นเว่ยทั้งหมด ในใจโมโหอย่างมาก เกลียดเย่เฉิน ซือเทียนฉีอย่างมาก แค่คิดอยากจะจัดการให้สิ้นซากจะได้มีความสุขสักที
แต่ว่า ในเวลานี้ก็เผชิญหน้ากับหม่าหลันที่อยู่ไม่ไกลนัก ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถแสดงความเกลียดที่มีอยู่ข้างในใจออกมาได้ พร้อมทั้งเดินขากะเผลกเข้าไปตรงหน้าของหม่าหลัน
เมื่อเกาจวิ้นเว่ยเดินมาถึงตรงหน้าของหม่าหลัน ยิ้มเบาๆ พร้อมพูดว่า “คุณป้าครับ ขอโทษนะครับ ที่ให้คุณรอนาน”
หม่าหลันรีบพูดตอบทันที : “ไอ้หยาจวิ้นเว่ย คุณก็เกรงใจเกินไปแล้ว ป้าก็เพิ่งจะมาถึงได้ไม่นาน……”
พูดแล้ว เธอก็มองไปยังรถเบนซ์หรูสีดำคันนั้นที่อยู่ข้างหลังเกาจวิ้นเว่ย ถามด้วยความประหลาดใจ : “ไอ้หยา รถเบนซ์คันนี้ เป็นรถคันใหม่ของคุณเหรอ?”
เกาจวิ้นเว่ยยิ้มพร้อมพูด : “ใช่ครับ นี้เป็นรถเบนซ์รุ่น S500 ผมเพิ่งไปรับรถมาจากศูนย์เมื่อเช้านี้ครับ ราคาก็ไม่ได้แพงมากเท่าไหร่ ก็แค่หนึ่งล้านหกแสนกว่าบาทเอง ”
พูดแล้ว เขาก็ส่งกุญแจรถไปในมือของหม่าหลัน พูดว่า : “คุณป้าครับ กุญแจรถคันนี้ คุณช่วยรับไปหน่อยนะครับ”
หลังจากที่หม่าหลันรับกุญแจรถมา สับสนมึนงง อดไม่ได้ที่จะถามออกไป : “จวิ้นเว่ย นี่มันอะไรกัน?”
เกาจวิ้นเว่ยยิ้มเล็กน้อย พูดว่า : “คุณป้าครับ นี้เป็นของขวัยที่ผมบอกคุณป้าทางโทรศัพท์ครับ!ผมเห็นว่าคุณลุงเซียวและชูหรันต่างก็มีรถBMWกันแล้ว คุณยังไม่มีรถเลย แบบนี้มันไม่สมเหตุสมผล และไม่สมกับฐานะของคุณด้วย”
หม่าหลันอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น เอ่ยพูด : “ไอ้หยาจวิ้นเว่ย นี่มันเป็นสิ่งของที่ล้ำค่าเกินไป ป้าจะรับไว้ได้อย่างไรละ!”
แม้ว่าจะพูดแบบนี้ แต่กุญแจที่อยู่ในมือ ถูกเขากุมไว้แน่น ไม่ได้มีความตั้งใจจะคืนให้เกาจวิ้นเว่ยเลย
เกาจวิ้นเว่ยเห็นถึงความสำคัญกับความคิดนี้ของเธอ ยิ้มพร้อมพูดว่า : “คุณป้าครับ พูดตามตรงนะ คุณลุงกับซูหรันต่างก็ขับ BMW ซีรีส์ 5กันทั้งคู่ รวมๆกันแล้วก็ไม่น่าเกินเก้าแสนหยวน หรูหราไม่เท่ารถเบนซ์ S500คันนี้เลยครับ ผมดูแล้วว่าความสง่างามของคุณป้า ควรที่จะะขับรถเบนซ์ ดังนั้นรถเบนซ์คันนี้คุณกรุณารับไว้เถอะครับ”
ในใจของหม่าหลินมีความสุขอย่างมากไปตั้งนานแล้ว!
เธอเป็นแบบอย่างของแม่ยายที่ชอบประจบสอพลอกับผู้ที่มีอำนาจสูงกว่าที่มักจะเห็นในสังคมกันอยู่บ่อยๆ