ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - ตอนที่ 48
บทที่ 48 หญิงร้ายชายเลว
ชายคนนั้นหัวเราะคิกคัก พลางบีบหน้าของหล่อน แล้วพูดขึ้น : “ตอนนี้เธอเป็นผู้หญิงของฉันแล้ว ยังจะกลับไปอยู่กับเขาอีกเหรอ? ผู้หญิงที่เป็นของจ้าวตงแล้ว จะไม่ยอมให้ผู้ชายคนไหนได้ไปครองอีก!”
หลิวลี่ลี่รีบตอบทันที : “พี่ตงวางใจได้ ตั้งแต่ตอนนี้ ฉันจะไม่ให้เขาได้แตะต้องตัวอีกเลย ฉันรังเกียจ! ร่างกายของฉันจะเป็นของพี่ตงคนเดียวตลอดไป และก็จะเอาไว้เพื่อรับใช้พี่ตงคนเดียวด้วย!”
หล่อนพูดพลางอธิบาย : “ที่จริงแล้วฉันคิดไว้ว่าพอหลังจากที่เปิดร้านแล้วจะบอกเลิกเขา แต่ไม่คิดว่าตาบ้านั่นจะไปรู้จักกับเพื่อนที่ดูจะมีอิทธิพลมาก ที่ช่วยจัดการกับพวกนักเลงที่มารังควานได้ ฉันก็เลยรอให้ทุกอย่างเข้าที่ก่อน แล้วค่อยเลิกกับเขา แบบถีบหัวส่งออกไปจากร้านเลย”
จ้าวตงหัวเราะชอบใจ แล้วพูดขึ้น : “ก็แค่นักเลง มันจะเก่งแค่ไหนกัน? ถ้าเธอบอกพี่ก่อนหน้านี้ แค่พี่โทรไปครั้งเดียวก็สามารถให้ลูกพี่มันมาคุกเข่าขอโทษได้แล้ว”
หลิวลี่ลี่หัวเราะอย่างพอใจ : “โห พี่ตงสุดยอดที่สุด! ตอนนั้นสถานการณ์ค่อนข้างบีบบังคับ ฉันเองก็นึกไม่ถึงว่าโทรหาพี่ และตอนนั้นกลหวังเต้าคุนเองก็อยู่ ฉันเลยกลัวว่าพี่จะไม่ชอบใจ!”
จ้าวตงบีบที่เอวหล่อนทีหนึ่ง พลางหัวเราะแล้วพูดขึ้น : “เธอนี่รู้ใจที่สุด!”
หลิวลี่ลี่เกาะที่แขนเขาแล้วอ้อน : “พี่ตง ตกลงว่าพี่จะยอมซื้อรถให้ฉันมั้ยอ่า!”
จ้าวตงหัวเราะ : “เอาแบบนี้ รอสักหน่อย ให้กลับไปที่บ้านพี่ก่อน แล้วให้พี่ได้ลิ้มลองเธอสักครั้ง หลังจากนั้นเธอก็ไปเลิกกับไอ้หนุ่มนั่น แล้วพรุ่งนี้พี่จะมาซื้อรถให้เธอ!”
หลิวลี่ลี่ถามขึ้นด้วยความดีใจ : “พี่ตง พี่พูดจริงๆ ใช่มั้ย? พรุ่งนี้จะซื้อบีเอ็ม X6ให้ฉันจริงๆ นะเหรอ?”
“ฉันเคยหลอกเธอตอนไหน?” จ้าวตงหัวเราะออกมา : “แต่ว่า เธอต้องปรนนิบัติพี่ให้ดีนะถึงจะได้!”
หลิวลี่ลี่กะพริบตาปริบๆ แล้วพูดขึ้น : “พี่ตงวางใจได้ รอให้ถึงบ้านพี่ก่อน ฉันจะดูแลพี่อย่างดีเลย!”
ทั้งสองคนคุยกันเสร็จ ก็เดินออกไปจากร้านทันที
เย่เฉินรู้สึกเกลียดหญิงร้ายชายเลวสองคนนี้มาก พลันหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วโทรไปหาหวังเต้าคุน
พอหวังเต้าคุนรับสาย เขาก็พูดขึ้นทันที : “เย่เฉิน มีอะไรเหรอ? ทำไมถึงโทรมาหาฉันได้?”
เย่เฉินพูดเสียงธรรมดา : “โทรมาถามไถ่แกเฉยๆ ตอนนี้ยุ่งอะไรเหรอ?”
หวังเต้าคุนตอบ : “ฉันช่วยงานในครัวอยู่ ตอนนี้ก็ใกล้เที่ยงแล้ว อีกหน่อยลูกค้าก็จะเข้าแล้ว ฉันก็เลยเข้ามาช่วยน่ะ”
เย่เฉินถามขึ้น : “แกอยู่ในร้านยุ่งทั้งวันเลยเหรอ?”
หวังเต้าคุนพูดขึ้น : “ใช่แล้ว ร้านพึ่งเปิด งานเลยเยอะ อีกอย่าง เงินทำร้านครึ่งหนึ่งเป็นของพ่อลี่ลี่ ถ้าฉันไม่ขยัน จะโดนดูถูกเอาได้”
เย่เฉินถามขึ้นอีกครั้ง : “แกออกไปเท่าไหร่?”
“ฉันออกไปหนึ่งแสนหยวน มันเป็นเงินทั้งหมดที่ฉันหาได้ตอนเรียนมหาลัย”
เย่เฉินถามขึ้นอีกครั้ง : “เจ้าของร้านเป็นชื่อใคร?”
หวังเต้าคุนตอบ : “ก็ฉันสิ!”
เย่เฉินถามขึ้นอีกครั้ง : “ตอนจดบันทึกเปิดร้านเป็นชื่อแกเหรอ?”
หวังเต้าคุนพูดขึ้น : “ไม่ใช่ เป็นชื่อของคุณพ่อลี่ลี่ ฉันยังไม่แต่งงานกับลี่ลี่ ในเมื่อเขาออกเงินช่วย จะเขียนเป็นชื่อฉันคงไม่ดีมั้ง”
พูดจบ หวังเต้าคุนก็ถามขึ้น : “แต่ว่าพ่อลี่ลี่บอกว่า รอให้พวกเราแต่งงานกันก่อน ก็จะเปลี่ยนชื่อร้านนั้นให้เป็นของฉัน”
พอเย่เฉินได้ยินแบบนั้นก็ส่ายหัวทันที ช่างโง่จริงๆ ถูกคนหลอกใช้ยังไม่รู้ตัวอีก!
หลิวลี่ลี่เห็นเขาเป็นวัวเป็นควาย บอกให้เขาเปิดร้านทำธุรกิจ แล้วตัวเองก็ออกไปลั้ลลากับชายคนอื่น แล้วก็ไปอยู่กับผู้ชายรวยๆ แถมยังวางแผนจะถีบหัวส่งเขาอีก
และตอนนี้ร้านอาหารนั้น ก็ไม่ได้มีอะไรที่เป็นของเขาเลย ถ้าหากว่าหลิวลี่ลี่ทำแบบนั้นจริง เขาก็คงเหลือแต่ตัว!
พอถึงตอนนี้ ก็เท่ากับว่าทำไปแบบไม่มีประโยชน์ และเงินอีกแสนหยวนที่เขาออกไปก็อาจจะเสียเปล่าด้วย!
พอครุ่นคิดดูแล้ว เขาก็ยิ่งรู้สึกเกลียดหล่อนมากขึ้นไปอีก เลยถามหวังเต้าคุนไปตรงๆ : “ลี่ลี่ตอนนี้ไปไหนล่ะ?”
หวังเต้าคุนหัวเราะแล้วพูดขึ้น : “ลี่ลี่เหรอ ออกไปทำผม มีอะไรเหรอ?”
เย่เฉินหัวเราะ : “ทำผม? เธอบอกเหรอ?”
“ใช่!”
“เธอบอกแบบนั้นแกก็เชื่อเหรอ?”
หวังเต้าคุนเริ่มรู้สึกไม่ดีแล้วถามขึ้น : “เย่เฉิน แกหมายความว่ายังไงกันแน่? พูดมาตรงๆ ไม่ต้องอ้อมค้อม”
เย่เฉินตอบรับ แล้วเล่าให้เขาฟัง : “งั้นฉันจะพูดล่ะนะ ฉันเห็นหลิวลี่ลี่ที่ร้านรถบีเอ็ม 4S เธอมากับผู้ชายที่ชื่อจ้าวตง พร้อมกับโอบกันไปมา แถมยังเรียกจ้าวตงว่าที่รักด้วย แกน่าจะโดนเธอสวมเขาแล้วล่ะ”
“เป็นไปไม่ได้!” หวังเต้าคุนพูดออกมาทันที : “ลี่ลี่ไม่ใช่คนแบบนั้น! แกอาจจะจำคนผิดหรือเปล่า?”
เย่เฉินพูดเสียงจริงจัง : “ฉันจำคนไม่ผิด เป็นลี่ลี่”
“ฉันไม่เชื่อ!” หวังเต้าคุนยืนยันเสียงแข็ง : “เย่เฉิน ถึงพวกเราจะสนิทกัน แต่แกก็ไม่ควรเห็นแก่ความสนิทกันของเรา แล้วพูดให้ภรรยาฉันแบบนี้นะ!”
เย่เฉินหัวเราะออกมา พลันพูดขึ้น : “หวังเต้าคุน แกตื่นได้แล้ว! ภรรยาแกไปอยู่กับชายอื่นแล้ว แถมไอ้คนนั้นยังตอบตกลงว่าจะซื้อรถให้เธอด้วย ตอนนี้ลี่ลี่ก็กลับไปกับเขาแล้วด้วย แล้วก็เตรียมจะไปบอกเลิกแกตอนเย็น! เห็นแกที่เราเป็นเพื่อนกัน ฉันเลยมาบอกให้แกทำใจ!”
เขาไม่รอให้หวังเต้าคุนตอบ พลันพูดต่อ : “ทางที่ดีฉันว่าแกเอาภาพวาดใบนั้นย้ายออกมาก่อน เก็บภาพนั้นไว้ แกถึงจะสามารถยืนหยัดกลับมาได้อีก แต่ถ้าหากว่าแกไม่เชื่อ ฉันเองก็จนปัญญา”
หวังเต้าคุนก็พูดเสียงหวั่นๆ : “เย่เฉิน! แกหยุดพูดจาบ้าบอได้แล้ว! ลี่ลี่เป็นว่าที่ภรรยาของฉัน ฉันรู้เกี่ยวกับเธอดี เธอไม่มีทางหักหลังฉันหรอก! ถ้าแกยังใส่ร้ายเธออีก พวกเราก็จบกันเพียงเท่านี้!”
เย่เฉินขมวดคิ้วแน่น พร้อมกับพูดขึ้น : “ได้ สำหรับความเป็นเพื่อนของเรา สิ่งที่ฉันควรเตือนฉันก็เตือนแล้ว ถ้าหากว่าแกไม่เชื่อ ฉันเองก็หมดปัญญา ขอให้แกโชคดี!”
พูดจบ เย่เฉินก็ตัดสายทันที
ช่างเป็นคนที่บ้าและโง่ให้กับความรักจริงๆ ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ ก็คงอัดวิดีโอไว้ให้เขาดูแล้ว!
ในตอนนี้ ผู้จัดการกำลังเคาะกระจก ถามเขาอยู่ : “คุณชาย บีเอ็ม 530 ใช้ได้มั้ย?”
เย่เฉินพยักหน้า : “ดีมากเลย งั้นเอาคันนี้แหละ ไปเลือกคันใหม่มาให้ฉันนะ”
ผู้จัดการดีใจมาก : “คุณรอสักครู่ ผมจะให้พนักงานขับมาให้เดี๋ยวนี้เลย”
ไม่นาน บีเอ็มสีดำ รุ่น 530 ก็ขับมาจอด เย่เฉินรูดบัตรจ่ายอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็พับเก็บรถมอเตอร์ไซไฟฟ้าเข้าไว้ในที่เก็บด้านหลัง พลันขับรถออกไปจากร้านทันที
ระหว่างทางขับกลับ พ่อตากับแม่ยายก็โทรมาถามว่ากลับมาหรือยัง
ตอนที่เขากลับมาถึงใต้ตึกก็พบว่า พวกเขาสองคนได้มารออยู่แล้ว
พอเห็นเย่เฉินกลับมาพร้อมกับรถบีเอ็ม 530 ทั้งสองคนต่างก็ยิ้มจนหน้าบาน
พ่อตาเดินอ้อมรถอยู่หลายครั้ง พร้อมกับพูดขึ้น : “รถเยี่ยมจริงๆ! เยี่ยมมาก! คาดไม่ถึงจริงๆ ว่าฉันจะมีวาสนาได้ขับบีเอ็ม!”
เย่เฉินหัวเราะ พลางพูดขึ้น : “คุณพ่อต่อไปไม่แน่ว่าอาจจะได้ขับรถโรลรอยซ์ก็ได้นะ”
พ่อตาหัวเราะชอบใจ : “งั้นก็ต้องดูความสามารถของพวกแกแล้วแหละ!”
แม่ยายที่อยู่ข้างๆ ก็ดีใจไปด้วย แล้วก็เปลี่ยนความคิดสำหรับเย่เฉินไปบ้าง
พ่อตาขึ้นไปขับรถดูรอบหนึ่ง พอกลับมาจึงพูดขึ้น : “เป็นรถที่ดีจริงๆ ขับสบาย นิ่มมาก เพียงแค่ตัวรถยาวไปหน่อย ควบคุมยาก เย่เฉิน ตอนบ่ายแกไปเป็นคนขับรถให้พ่อ พาพ่อออกไปทำธุระหน่อยนะ พอดีฉันนัดเพื่อนออกไปดูของ”
เย่เฉินพยักหน้ารับ : “ได้ครับ คุณพ่อ”
แม่ยายเองก็พูดขึ้นด้วยความดีใจ : “กลับมาก็มาขับรถให้แม่หน่อยนะ พาแม่ออกไปดื่มชาตอนบ่ายกับเพื่อนหน่อย ให้พวกเขาได้เห็น ว่าตอนที่ฉันออกจากบ้านก็มีคนมารับมาส่ง!”
“ได้ครับ คุณแม่!”