ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 1864
เซียวเวยเวยแม้ว่าจะคบหากับหวังเหวินเฟยอย่างสุดจิตสุดใจมาหลายปี แถมยังเคยท้องลูกของเขา แต่ก็ยังคงถูกหวังเหวินเฟยสลัดทิ้งอย่างหมดจด
เซียวเวยเวยในภายหลัง กลายเป็นคู่นอนและของเล่นของเซียวอี้เชียนและเว่ยฉางหมิงสองคน อยู่กับพวกเขาทั้งสอง ไม่ใช่แค่ไม่ได้รับข้อดีอะไรมากมาย กลับประสบความทุกข์ทรมานไม่น้อยแทนเสียด้วยซ้ำ ยังทำลายชื่อเสียงของตนเอง
เซียวเวยเวยในตอนนี้ ยิ่งเป็นความน่าเวทนาถึงขีดสุด แม้ว่ายังพักอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ใหญ่ Tomson Rivieraที่หรูหราแห่งนี้ แต่เธอหิวมาทั้งคืน กลับแม้แต่เงินที่จะกินข้าวเช้าก็ยังไม่มี
ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ มามองเห็นหวังเหวินเฟยอีก ทุกฉากต่างๆในปีนั้นปรากฏขึ้นต่อหน้า ทำให้เธอรู้สึกเสียใจถึงขีดสุด
ไม่นาน รอบดวงตาของเซียวเวยเวยก็ถูกเติมเต็มไปด้วยน้ำตา จากนั้น น้ำตาร้อนๆสองข้างทางก็ทะลักออกมาจากรอบดวงตา
เธอสะอึกสะอื้นเบาๆอย่างห้ามเอาไว้ไม่อยู่ “พี่เหวินเฟย…ทำไมพี่ถึงไม่เอาฉันแล้ว…พี่เหวินเฟย…ฉันทำผิดอะไรกันแน่ ให้พี่จากฉันไปอย่างหมดใจขนาดนี้…พี่เหวินเฟย…”
พูดถึงตรงนี้ เซียวเวยเวยทั้งคนก็ได้ร้องไห้จนไม่มีเสียง!
เฉียนหงเย่นเห็นลูกสาวร้องไห้จนกลายเป็นแบบนี้ ส่วนลึกภายในจิตใจแน่นอนก็ต้องเจ็บปวดเป็นอย่างมาก โอบเธอเข้ามาไว้ในอ้อมแขนเบาๆ ปลอบว่า “เวยเวย เชื่อแม่ อนาคตลูกจะต้องสามารถหาผู้ชายที่ดียิ่งกว่าหวังเหวินเฟยได้อย่างแน่นอน!”
เซียวเวยเวยร้องไห้พร้อมกับเอ่ย “จะเป็นไปได้ยังไงล่ะคะ…ตอนนี้หนูชื่อเสียงป่นปี้โดยสมบูรณ์แบบแล้ว คนอื่นคุยถึงหนู ล้วนเพียงแค่เห็นเป็นตัวตลก เย้ยหยันว่าหนูรักตัวเองไม่พอ ไปเป็นเมียน้อยให้กับเซียวอี้เชียนผู้ชายคนนั้นที่อายุมากกว่าพ่อฉันเสียอีก เสร็จเรื่องยังถูกเขาเททิ้งให้กับเว่ยฉางหมิง…”
พูดถึงตรงนี้ เซียวเวยเวยก็หมุนตัวกลับมา ถลึงตาใส่นายหญิงใหญ่เซียวที่ยืนอยู่ด้านข้างด้วยสีหน้าที่ซับซ้อนตวาดประณามด้วยความโมโหว่า “โทษย่าคนเดียว!โทษย่าคนเดียวยายแก่กะโหลกกะลา!ในตอนแรกล้วนเป็นย่าที่บีบบังคับให้หนูไปอ่อยเซียวอี้เชียน!หากไม่ใช่ย่า ชื่อเสียงของหนูก็ไม่มีทางเสื่อมเสีย!หากไม่ใช่ย่า หนูกับพี่เหวินเฟยบางทีอาจจะยังพอมีโอกาส!คือย่าที่ทำลายหนู!”
นายหญิงใหญ่เซียวถูกการตะคอกด้วยความโมโหของเซียวเวยเวยทำให้ตกใจ เธอถอยหลังไปหนึ่งก้าวโดยจิตใต้สำนึกในทันที เอ่ยปากว่า “เรื่องนี้จะมาโทษฉันได้ยังไงกันล่ะ? ในตอนแรกให้เธอไปอยู่กับเซียวอี้เชียน ตัวเธอเองก็ไม่ใช่รับปากแล้วหรอกหรอ?”
เซียวเวยเวยตะคอกด่าด้วยความโมโห “ย่าเหลวไหล!หากไม่ใช่ย่าบังคับหนู หนูจะรับปากได้ยังไงกัน?!ย่าก็คือคิดจะยืมเซียวอี้เชียนมาแลกเปลี่ยนการลงทุน!ย่าก็คือคิดจะขายร่างกายของหนู มาแลกเปลี่ยนความเจริญรุ่งเรืองและความร่ำรวย!”
นายหญิงใหญ่เซียวเอ่ยอย่างโกรธเคืองว่า “เวยเวย!เธอพูดจาจะต้องอาศัยความรู้สึกผิดชอบชั่วดี!เรื่องนี้ หรือว่าฉันได้รับผลประโยชน์แค่คนเดียวหรอ?”
พูดจบ เธอก็ชี้ไปที่เฉียนหงเย่น เอ่ยขึ้นด้วยความโมโห “เธออย่าลืม ในตอนแรกเซียวอี้เชียนยังให้เธอห้าล้าน สุดท้ายล้วนเสียเปรียบให้กับพ่อแม่ของเธอ!หากเธออยากจะบอกว่ามีใครขายร่างกายของเธอแลกความเจริญรุ่งเรืองและความร่ำรวยมาจริงๆ ฉันได้เพียงนับเป็นหนึ่งในนั้น!พ่อแม่ของเธอก็ต้องนับเข้ามา!เธอเองก็ต้องนับเข้ามาด้วย!”
สีหน้าของเฉียนหงเย่นเปลี่ยนเป็นไม่น่าดูถึงขีดสุดขึ้นมาในทันที
คำพูดนี้ของนายหญิงใหญ่เซียวแม้ว่าจะทิ่มแทงหู แต่ที่พูดก็ล้วนเป็นเรื่องจริง
ในตอนแรกไม่ว่าจะเป็นนายหญิงใหญ่เซียว หรือว่าจะเป็นเฉียนหงเย่นกับเซียวฉางเฉียน ต่างก็ชอบในความสามารถและความร่ำรวยของเซียวอี้เชียน
ดังนั้น พวกเขาถึงได้รวมตัวกันโน้มน้าวให้เซียวเวยเวยเป็นฝ่ายรุกเข้าไปในห้องของเซียวอี้เชียนกลางดึก
และเซียวเวยเวยก็ไม่ใช่ถูกบีบบังคับทั้งหมด วิธีการพูดที่แม่นยำยิ่งกว่าก็คือดันครึ่งยอมครึ่ง
เธอในตอนนั้นเลิกกับหวังเหวินเฟย สถานการณ์เศรษฐกิจภายในบ้านก็แย่ลงไม่หยุด ตัวเธอเองก็ไม่พอใจกับวันเวลาที่ยากจนแบบนั้นมาตั้งนานแล้ว ดังนั้น ไปอยู่ด้วยกันกับเซียวอี้เชียน ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะจิตใจที่ฟุ้งเฟ้อของตัวเธอเอง
เซียวเวยเวยในเวลานี้ก็ใบหน้าแดงก่ำขึ้นมาระลอกหนึ่ง
เธอรู้
เรื่องนี้ ทุกคนต่างก็มีส่วนรับผิดชอบ รวมถึงตัวเธอเอง
ก็เหมือนสุภาษิตประโยคหนึ่ง ตอนที่หิมะถล่ม ไม่มีเกล็ดหิมะเกล็ดไหนที่เป็นผู้บริสุทธิ์
คิดถึงตรงนี้ เธอก็สลัดความคิดที่จะไม่จบไม่สิ้นกับนายหญิงใหญ่เซียวต่อไป นั่งย่อลงบนพื้นกุมศีรษะร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดขึ้นมา
นายหญิงใหญ่เซียวไม่สนใจเธอ แต่มองดูรถหรูระดับท็อปแถวยาวรวมไปถึงคนใหญ่คนโตที่อยู่ในสังคมชั้นสูงกลุ่มใหญ่นั้นที่อยู่หน้าประตูบ้านเย่เฉิน ในใจอิจฉาจนถึงขีดสุด…
ในใจของเฉียนหงเย่นก็ริษยาเป็นอย่างยิ่งเช่นเดียวกัน!
เธอนึกถึงเย่เฉินในตอนแรกที่ส่งตนเองไปเหมืองถ่านหินดำ เธอก็ยิ่งในใจเกิดความโมโห
ด้วยเหตุนี้ก็เลยกัดฟันด่าออกมา “เย่เฉินนี่ก็เป็นเพียงแค่นักต้มตุ๋นไม่ใช่หรอ? แม่งคำนวณบ้าอะไรล่ะ!ยังอาจารย์เย่ อาจารย์บ้านมันสิ!ทำไมถึงได้มีคนใหญ่คนโตมากมายขนาดนี้เชื่อมันกันนะ? ตาสุนัขของพวกแม่งบอดกันจริงๆ!”
นายหญิงใหญ่เซียวถอนหายใจยาวออกมาอย่างหนักหน่วง เอ่ยขึ้นอย่างเสียใจในสิ่งที่ตัดสินใจทำลงไปอย่างถึงขีดสุดทั้งยังสิ้นหวังอย่างถึงขีดสุดว่า “เฮ้อ!!!หากก่อนหน้านี้รู้ว่าเย่เฉินจะมีความสามารถแบบในวันนี้ ในปีนั้นฉันพูดอะไรก็ไม่มีทางไล่พวกเขาทั้งครอบครัวออกไปหรอก!ตาสุนัขของฉันนี่บอดไปแล้วจริงๆเลย!”