ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 1874
ซ่งจี่โม่รีบเอ่ยตอบทันที: “คุณผู้หญิงหม่าครับ เรือยอชต์ลำนั้นมีความทนทานในการขับเคลื่อนสองพันกว่าไมล์ทะเล นับดูแล้วเกือบจะสี่พันกิโลเมตร เพียงพอที่จะขับจากเมืองจินหลิงจนออกทะเล และไปจนถึงโตเกียวครับ แต่ว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องถึงเรื่องเข้าออกประเทศ ดังนั้นคุณจะต้องรายงานกับทางด่านศุลกากรล่วงหน้าถึงจะได้”
หม่าหลันหันไปกล่าวกับเย่เฉินอย่างดีอกดีใจทันที: “ลูกเขยคนดี พอถึงตอนนั้นพวกเราหาเวลา ขับเรือยอชต์ไปเที่ยวญี่ปุ่นเองกัน ลูกว่าเป็นยังไงบ้าง?”
เย่เฉินกล่าวอย่างคลุมเครือ: เรื่องนี้…มีเวลาค่อยว่ากันเถอะครับ…”
หม่าหลันรีบเอ่ยขึ้นมา: “เรื่องเวลามันจะไปยากอะไร? ฉันกับพ่อต่างก็ไม่ได้ทำงาน ลูกเองก็ไม่ได้ทำงาน มีเพียงชูหรันบริหารจัดการบริษัทอยู่คนเดียว และเธอก็เป็นเจ้านายเอง อยากจะหยุดงานตอนไหนก็แค่พูดประโยคเดียวก็ได้แล้วไม่ใช่เหรอ?”
เซียวชูหรันรีบกล่าวขึ้นมาทันที: “คุณแม่คะ พูดอะไรของคุณแม่น่ะ การบุกเบิกกิจการจะต้องเอาจริงเอาจังถึงจะเห็นผลสำเร็จ หนูจะทิ้งบริษัทไว้ แล้วตัวเองหนีเที่ยวได้ยังไงคะ…”
หม่าหลันกล่าว: “งั้นก็ไม่เป็นไร พอถึงตอนนั้นลูกอยู่ทำงานต่อ ให้เย่เฉินพาพ่อกับแม่ไปเที่ยวที่กรุงโตเกียว พอดีเลยพวกเราต่างไม่ได้อยู่บ้าน ลูกยิ่งจะมีสมาธิในการบริหารจัดการบริษัทของลูกมากกว่าเดิม”
เซียวชูหรันพูดไม่ออกขึ้นมาทันที
ถึงแม้เธอจะไม่อยากให้ครอบครัวออกไปเที่ยวโดยทิ้งเธอไว้คนเดียว แต่ทำยังไงได้ในเมื่อคำพูดนี้ของหม่าหลันนั้นมีกลเม็ดมากเลยทีเดียว
เธอบอกให้เซียวชูหรันไปด้วยกันก่อน แต่เซียวชูหรันปฏิเสธโดยใช้เหตุผลว่าต้องตั้งอกตั้งใจบุกเบิกกิจการ
ดังนั้นเธอจึงบอกว่าให้เซียวชูหรันอยู่ตั้งใจบุกเบิกกิจการต่อ เซียวชูหรันไม่อาจโต้แย้งได้โดยสิ้นเชิง ไม่งั้นก็เท่ากลับว่าตบหน้าตัวเอง
ดังนั้นเซียวชูหรันจึงทำได้เพียงกล่าวอย่างจำใจ: “เฮ้อ แล้วแต่เถอะค่ะ”
เย่เฉินยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย และกล่าวขึ้น: “อย่าพึ่งพูดเรื่องพวกนี้เลย อีกไม่นานก็จะถึงวันตรุษจีนแล้ว ระยะนี้จะต้องอยู่ที่บ้านฉลองตรุษจีนเป็นธรรมดา สำหรับเรื่องจะออกไปเที่ยวหรือเปล่านั้น ก็รอให้ผ่านตรุษจีนไปก่อนค่อยว่ากัน”
หม่าหลันพยักหน้าอย่างร้อนรน และกล่าวด้วยรอยยิ้ม: “ลูกเขยคนดี แม่ฟังลูกทุกอย่างเลย!”
เย่เฉินอืมตอบรับ แล้วหันไปมองทุกคน และกล่าวอย่างจริงจัง: “วันนี้ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่มาเยือนเป็นอย่างมาก แถมยังมอบของขวัญมากมายแบบนี้ ทำให้ทุกท่านต้องเสียค่าให้จ่ายแล้ว”
ทุกคนต่างรีบเอ่ยขึ้นมา: “ที่ไหนกันครับ มันเป็นสิ่งที่พวกเราควรจะทำ!”
เย่เฉินมองดูทุกคน และกล่าวด้วยรอยยิ้ม: “คำโบราณว่าดีมาก็ดีไป รอหลังตรุษจีนตอนที่ผมไม่ยุ่งแล้ว จะต้องเตรียมของขวัญเป็นการขอบคุณกลับสำหรับทุกท่านอย่างแน่นอน พอถึงตอนนั้น ยังต้องรบกวนประธานฉินช่วยผมจัดวัตถุดิบบางอย่างด้วยแล้ว”
เมื่อคำพูดนี้ถูกพูดออกมา ทุกคนที่มาอวยพรปีใหม่ ต่างมีความปีติยินดีที่ยากจะเก็บเอาไว้ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้า
พวกเขารู้ว่า เย่เฉินจะมอบยาลูกกลอนเพื่อเป็นการตอบแทนพวกเขา!
ไม่อย่างนั้นล่ะก็ เย่เฉินก็คงไม่พูดคำพูดที่ว่า ให้ฉินกางช่วยจัดเตรียมวัสดุออกมา!
ฉินกางทำธุรกิจอะไร?
เขาทำธุรกิจเกี่ยวกับยาสมุนไพรจีนโดยเฉพาะ!
ครั้งแรกที่เย่เฉินกลั่นยา ก็เป็นฉินกางที่จัดหาวัตถุดิบให้!
ตอนนี้เย่เฉินก็บอกอีกว่าให้ฉินกางช่วยจัดเตรียมวัตถุดิบ ถ้าไม่ใช่เพื่อทำยาลูกกลอน แล้วจะเป็นอะไรไปได้อีกล่ะ?
และที่เย่เฉินไม่กล่าวให้ชัดเจนนั้น ก็เพราะอยู่ต่อหน้าของภรรยา รวมทั้งพ่อตาแม่ยาย เขาไม่อยากจะพูดเรื่องยาลูกกลอนออกมาโดยตรง
ไม่ว่าจะเป็นยาลูกกลอนขั้นพื้นฐานในเมื่อก่อน หรือจะเป็นยาอายุวัฒนะ ต่างก็ไม่ได้บอกให้คนในครอบครัวรับรู้
แต่ว่า เหล่าผู้คนที่อยู่ตรงนี้ เคยได้รับบุญคุณจากตัวเองมาก่อน คำพูดนี้แค่พูดถูกจุด พวกเขาก็จะเข้าใจทันที