ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 2064
บทที่ 2064
ในตอนที่เรือลำนั่นปรากฏเข้ามาในจอเรดาร์ หัวหน้าของกองกำลังป้องกันตนเองภาคพื้นดินญี่ปุ่นก็พูดยิ้มๆขึ้นมาว่า “รอตั้งนาน ในที่สุด
ไอ้พวกสวะนั่นก็มาสักที!”
ผู้ช่วยของเขาพูดยิ้มๆอยู่ข้างๆว่า “หัวหน้า ถ้าครั้งนี้เราจับตัวชูรั่วหลีเข้าสู่กระบนการทางกฎหมายได้ ต้องเป็นความมสำเร็จที่ยิ่งใหญ่
แน่ๆ”
ห้วหน้าพยักหน้า “แน่นอนอยู่แล้ว ซูรั่หลีคนนี้ คืออาชญากรที่คนทั้งญี่ปุ่นหมายหัว ถ้าเราจับตัวเธอกลับไปได้ ไม่ว่าจะแบบเป็นหรือ
แบบตาย ต่างก็เป็นความสำเร็จทั้งนั้น!”
ขณะที่พูด เขาก็ถูมืออย่างรู้สึกสนุก “พยายามหลีกเสี่ยงกรใช้ปั่น เราต้องจับเป็นมาให้ได้ก่อน!”
ไม่นาน เรดาร์การเดินเรื่อ ก็ขยับเข้ามาใกล้จุดที่พวกเขาแอบชุ่มอยู่ ห่างกันไม่ถึงไมลั
บนเรือของกองกำลังป้องกันตนองของญี่ปุ่นตกอยู่ในความเงี้ยบ พวกเขาดับเครื่อง รวมไปถึงดาวเทียมและไฟทุกดวงบนเรือ หลังจาก
ที่เป้าหมายเข้ามาใกล้จะได้ตั้งตัวรับมือไม่ทัน
เมื่อเห็นเป้าหมายเข้ามาใกล้เรื่อยๆ หัวหน้าก็ออกคำสั่งทันทีว่า “บุกได้!”
ชั่วินาที เรือของกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นทั้งหมดหกลำก็เปีดไฟขึ้นมาอย่างพร้อมเพยงกัน สาดส่องไปยังเรือที่ไร้ผู้คน
โดยสาร
หัวหน้าใช้โทรโข่งตะโกนออกมาว่า “เรื่อลำข้างหน้าฟังให้ดี พวกเราคือกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น ดับเครื่องยนต์แล้วยอมให้เรา
ตรวจค้นซะดีๆ! ”
หลังจากที่ตะโกนออกไป ตามแผนที่วางเอาไว้ เป้าหมายควรที่จะผ่อนความเร็วลง
แต่สิ่งที่เขาคิดไม่ถึงก็คือ เป้าหมายไม่เพียงแต่ไม่ผ่อนความเร็ว ซ้ำยังพุงเข้ามายังทิศทางที่พวกเขาอยู่อย่างต่อเนื่อง
ดังนั้นเขาจึงรีบตะโกนขึ้นมาว่า “นี่ฟังนะ ตอนนี้พวกแกโดนพวกฉันล้อมเอาไว้หมดแล้ว หยุดคิดที่จะต่อต้าน พวกแกควรยกมือขึ้นแล้ว
มอบตัวซะดีๆ ถ้าพวกแกไม่ยอมมอบตัว พวกฉันก็จะใช้ไม้แข็งจัดการพวกแก!”
เรือลำนั้นแล่นตรงเข้ามาเรื่อยๆ โดยไม่ลดความเร็วลงแม้แต่น้อย
หัวหน้าตะคอกอย่างหัวเสียว่า “ฉันเตือนแกแล้วนะ ถ้าไม่รีบดับเครื่องยนต์เดี๋ยวนี้ พวกฉันจะยิงพวกแก!”
เรือลำนั้นยังคงเห็นเขาเป็นอากาศ ขับมุ่งตรงมาหน้าอย่างต่อเนื่อง
เมื่อหัวหน้าเห็นว่าเรือใกล้จะฝ่าวงล้อม ไม่มีที่ท่ายอมให้จับแโดยดี จึงอดพูดขึ้นมาอย่างงุนงงไม่ได้ว่า “ไอ้หมอนั่นกำลังทำอะไร? ตกลง
กันแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะหยุดตั้งแต่ที่ตะโกนครั้งแรก?”
ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆเอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ว่า “ห้วหน้า พวกเขาคงไม่ได้คิดจะฉวยโอกาสหนีไปหรอกใช่ไหม?”
หัวหน้าเอ่ยพูดอย่างโมโหว่า “จะไปรู้กับผีมันเหรอ! คนพวกนี้น่าเชื่อถือไม่ได้จริงๆ รีบตามมันไป ไล่ต้อนให้มันหยุด!”
เรือทั้งหกลำขับตามไปด้วยความรวดเร็ว พวกเขาหนีบเรือเป้าหมายไว้ตรงกลาง จากนั้นก็ค่อยๆขยับเข้าไปใกล้เรื่อยๆ
ในตอนที่พวกเขาเข้าไปใกล้ ก็มีคนอุทานออกมาอย่างตกใจว่า “หัวหน้า เรือลำนั้นเหมือนจะไม่มีคนนะ!”
“อะไรนะ?! ไม่มีคน?! ”
คนนั้นพยักหน้า “ใช่ครับ กล้องส่องทางกลเห็นซัดมาก ในห้องคนขับเรือไม่มีแม้แต่คนเดียว บนดาดฟ้าเรือก็ไม่มี!”
หัวหน้าตกใจตัวสั่นสะท้าน หลุดปากพูดออกไปว่า “แม่งเอ้ย! อย่าบอกนะว่าซูรั่วหลีอะไรนั่นปั่นหัวเราด้วยกลยุทธ์จักจั่นลอกคราบ?!”
คิดมาถึงตรงนี้ เขาก็รีบออกคำสั่งว่า “รีบหาทางหยุดเรือลำนั้น แล้วขึ้นไปตรวจค้นให้ละเอียด!”
แน่นอนว่าเรือของพวกเขาเร็วกว่าเรืออีกลำอยู่แล้ว ไม่นานก็สามารถล้อมเรื่อลำนั้นเอาไว้ได้อย่างหนาแน่น ถึงขนาดที่ว่าขวางทางเอาไว้
ทั่วทุกทิศ
ในตอนนี้เอง ระหว่างที่เรือของพวกเขากับเรือตรงกลางกำลังคุมเชิงกันอยู่นั้นลูกเรือที่กำลังแบกปืนอยู่ก็กระโดดขึ้นไปบนเรืออีกลำ
เพื่อตรวจค้นตามคำสั่งของหัวหน้า
แล้วก็พบว่าบนเรือไม่มีคนจริงๆ!
ห้วหน้าตเข่าฉาดใหญ่ สบถด่าออกมาอย่างกรุ่นโกรธว่า “ระกูลซู ไอ้พวกสารเลว! ดูเหมือนเรื่องที่พวกมันมาขอให้เราร่วมมือเล่นละคร
ตบตาด้วยจะเป็นเรื่องโกหก แห้จริงแล้วพวกมันแค่ต้องการล่อเสือออกจากป่า แล้วใช้กลยุทธ์จักจั่นลอกคราบช่วยนั่งนั่นกลับไป! ปังอาจกล้ามา
ปั่นหัวฉัน พวกมันอยากตายหรือยังไง?! “