ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 2177
บทที่ 2177
เย่เฉินรู้จักเซียวเวยเวยมานานแล้ว และวันนี้เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเชียวเวยเวยแสดงความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะทำงาน
เมื่อก่อน เธอไม่เคยมีความตั้งใจแนวแน่เช่นนี้
เมื่อก่อน เธอเป็นคนที่ใจร้อนหุนหันพลันแล่น อวดดี และยั่งรังเกียจคนจน ชอบคนมีฐานะ
แต่ตอนนี้ หลังจากที่เธอประสบความทุกข์ยากในชีวิต ทำให้เธอมีความสุขมมากขึ้นไม่น้อย
จุดนี้ ทำให้เย่เฉินรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย
คนตระกูลเซียวเป็นคนที่น่เคียดแค้น แต่ยังไงคนเหล่านั้นเป็นญาติทงสายเลือดของเชียวชูหรันกรรยาของตนเอง
ดังนั้น นี่คือเหตุผลที่แท้จริงว่า ทำไมเย่เฉินถึงได้ไม่เล่นงานพวกเขาจนตาย
มิฉะนั้น ด้วยความสามารถเล็กน้อยของคนตระกูลเซียว ทำให้พวกเขาตายไปนานแล้ว
ตอนนี้ เชียวเวยเวยมีความมุ่งมั่นที่จะกลับตัวเป็นคนตี งั้นตนเองก็จะให้โอกาสเธอ
อย่างไรก็ตาม การให้โอกาส แต่ก็ไม่สามารถให้เธอบริหารตัดสินใจบริษัทเพียงลำพังได้
ดังนั้น เย่เฉินจึงกล่าวกับเซียวเวยเวยว่า “หลังจากที่คุณเข้ามาบริหารดูแลบริษัทมารยาทซ่างเหม่ยแล้ว อย่าลืมความตั้งใจเดิมของคุณ
ไม่ใช่พอเห็นว่าบริษัทสามารถทำรายได้มากแล้วคุณก็เหลิงจนสี่มตัว”
เซียวเวยเวยพยักหน้าซ้ำ ๆ และกล่าวอย่างแน่วแน่ว่า “พี่เขย คุณวางใจเถอะ ฉันจะจำคำสั่งสอนของคุณไว้อย่างแน่นอน…”.
เย่เฉินขานรับคำหนึ่ง และกล่าวต่อไปอีกว่า “หลังจากเงินของหลิวจฮุยและเฉินเสี่ยวเฟยโอนเข้าบัญชีของบริษัทแล้ว คุณเก็บเงินห้าแสน
ไว้ในบัญชีเพื่อเป็นเงินทุนในการดำเนินงาน ส่วนคุณได้รับเงินเดือนพื้นฐานเดือนละหนึ่งหมี่นหยวน แล้คุณก็หาบัญชีมาคุมการเงิน และทุกเดือน
ผมจะให้คนไปตรวจสอบบัญชี เพื่อตรวจสอบดูว่าคุณเอาเงินไปใช้ส่วนตัวหรือไม่”
เซียวเวยเวยกล่าวโดยไม่ลังเลว่า “พี่เขย ฉันจะไม่ทำตุกติกแน่นอน คุณสามารถมาตรจสอบฉันได้ตลอดเวลา ถ้าตรวจพบว่ฉันคดโกง
คุณสามารถไล่ฉันออกไปได้ตลอดเวลา!”
เย่เฉินพยักหน้า แล้วกล่าวต่อไปว่า “นอกจากนี้ คุณซื้อรถเพื่อการพาณิชย์ที่ผลิตในประเทศให้กับบริษัทจำนวน 3 คัน ซื้อรถยนต์ที่มีสิบ
หรือสิบสามที่นั่ง ซึ่งเป็นรถที่มีประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับราคา ตอนนี้รถใหม่ราคาน่าจะอยู่ที่ประมาณหนึ่งแสนหยวน จากนั้นก็จ้างพนักงานขับ
รถมา 3 คน เพื่อพาสาว ๆ ออกไปทำงาน ไม่ว่าจะลมแรง ฝนตก หนาวจัดหรือร้อนจัด ก็จะทำให้สาว ( เตื้นทางสบายขึ้น ในเมื่อตัวคุณเองก็เคย
ผ่านจุดนี้มาก่อน ดังนั้นคุณต้องเห็นใจพวกเธอให้มากขึ้น”
เซียวเวยเวยรู้สึกตื้นตันจนน้ำตาไหล
ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นพริตตี้ไม่นาน แต่เธอก็ได้ลิ้มลองการทำงานหนักมามากแล้ว
อสังหาริมทรัพย์ในเขตซานมืองบางแห่งอยู่ไกลและเดินทางไม่สะดวก ระยะเวลาเดินทางไปกลับอาจใช้เวลามากกว่าหนึ่งชั่วโมง การนั่ง
แท็กซี่นั้นมันก็แพงเกินไป และรายได้จากการทำงานอาจไม่เพียงพอสำหรับค่าแท็กซี่
นอกจากนี้ ตอนนี้อากาศหนาวมาก และเวลาตอนเช้าฟ้าสว่างช้ ดังนั้นบางครั้งเธอต้องออกจากบ้านตั้งแต่ตี้ห้ากว่า มีเพียงตนเองเท่านั้น
ที่รู้ว่ามันยากลำบากแค่ไหน
หากบริษัทสามารถจัดหารถยนต์ให้บริการทุกคน และขับรถพาทุกคนไปร่วมงานได้ จะเป็นสวัสดิการดีที่สุดสำหรับพริตตี้ทุกคน
ดังนั้น เย่เฉินจึงได้พิจารณาถึงเรื่องนี้ ทำให้เธอรู้สึกตื้นต้นเป็นอย่างมาก
หลิ่วจงฮุยที่อยู่ด้านข้างได้ฟังคำพูดง่าย ๆ ของเย่เฉินด้วยตนเอง และทำการมอบบริษัทของตนเองให้คนอื่นไป ทำให้เขารู้สึกว่าชีวิตของ
ตนเองพังทลายลงไปแล้ว
แม้ว่าเขาจะรู้สึกเคียดแค้นอยู่ในใจ แต่ตอนนี้เขาก็ไม่กล้าแม้แต่จะแสดงออกมา
ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่ตนเองจะต้องทำต่อไปก็คือ โอนเงินทั้งหมดของตนเองให้กับบริษัท แล้วมอบบริษัทให้คนอื่น แล้วไปทำงาน
เป็นบ่อยที่ KTV