ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 2602
บทที่ 2602
เย่เฉินโบกไม่โบกมือ : “ซูโสว่เต้า แกคิดมากไปแล้ว เรื่องอื่นอาจจะใช้เงินมาจัดการได้ แต่เรื่องของวันนี้ แม้ว่าแกจะมอบทั้งตระกูลซูให้
ฉันด้วยความเต็มใจก็ไม่มีประโยชน์”
พูดจบ ก็ยิ้มเยาะ พร้อมพูดกล่าวอีกว่า : “แต่ว่าเรื่องนี้แกกลับว่วางใจได้ คลิปวิดีโอนี้ ฉันไม่มีทางปล่อยออกไปสู่สาธารณะหรอกนะ”
ซูโสว่เต้าพูดอย่างไม่กล้าที่จะเชื่อว่า : “คุณแน่ใจนะว่าจะไม่ประกาศสู่สาธารณะ? !”
เย่เฉินพยักหน้า ยิ้มพร้อมพูดว่า : “อย่างน้อยตอนนี้ฉันก็ไม่ได้คิดที่จะประกาศสู่สาธารณะ”
พูดแล้ว เขาก็มองดูเวลา ยิ้มพร้อมพูดว่า : “เวลาก็พอสมควรแล้ว ไป ฉันจะพาแกไปเจอเพื่อนเก่าสักสามสี่คน”
ซูโสว่เต้ายังคิดว่าเย่เฉินจะพาเขาไปพบกับน้องชายซูโสว่เต่อ ตัวสั่นอย่างตื่นเต้น โพล่งพูดออกไปว่า : “คุณ..คุณจะพาฉันไปที่ไหน?!”
เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย : “แกเดาดูสิ”
ซูโสว่เต้าพูดอย่างตื่นเต้นว่า : “ฉัน..ฉันเดาไม่ออก….
พูดจบ เขาก็พูดอีกว่า : “คุณคงไม่ได้…คงไม่ได้จะพาฉันไปเจอโสว่เต่อหรอกนะ? ! *
เย่เฉินยิ้มพร้อมพูด : “วางใจได้ สิ่งที่ฉันจัดเตรียมไว้ให้แก ต่างกับของน้องชายคนที่สองของแโดยสิ้นเชิง พวกแกสองคนไม่เจอกัน
หรอกนะ”
พูดจบ เขาก็จับปกคอเสื้อของซูโสว่เต้า พูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นว่า : “คนที่ฉันจะพาแกไปพบนั้นอยู่ที่โรงแรมแห่งนี้ อีกเดี๋ยวแกก็รู้แล้ว”
ในใจของซูโสว่เต้าตื่นตระหนกอย่างมาก แต่ก็ทำได้เพียงถูกเยเฉินลากตัวไปข้างหน้า
ออกมาจากประตูห้อง เขาตกตะลิ่งอย่างมากเมื่อพบว่า ประตูห้องข้างๆกว่าสามสี่ห้อง ล้วนแต่มีคนชุดดำสามสี่คนอยู่
รวมถึงห้องที่เขาและลูกน้องสี่คนพักอาศัยอยู่ ในเวลานี้ก็ถูกคนชุดดำเฝ้าไว้อย่างหนาแน่น
ในใจของซูโสว่เต้ารู้ดีอย่างมาก มองดูท่าทางนี้ เกรงว่าคนของตัวเองก็น่าจะรอดกลับมายาก
แต่ว่าไม่ตาย อย่างน้อยก็ถูกลูกน้องของเย่เฉินควบคุมตัวเอาไว้
ในเวลานี้ เฉินจี๋อข่ายเดินเข้ามาต้อนรับ มองไปที่ซูโสว่เต้าแวบหนึ่ง พูดกับเย่เฉินด้วยความเคารพว่า : “คุณชาย คุณอยากจะจัดการกับซู
โสว่เต้ายังไง? ต้องการใช้ฮลิคอปเตอร์พาเขาไปส่งที่ฟาร์มสุนัขของหงห้ไหม?”
ซูโสว่เต้าได้ยินคำพูดนี้ คนทั้งคนก็เกิดอาการหนาวสั่นเลย ในใจก็ตกใจจนเต้นตูมๆอย่างไม่หยุดหยอน
เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย : “เหล่าเฉิน ไม่ใช่ว่าคนแบบไหนก็ส่งไปยังฟาร์มสุนัขได้ ถึงอย่างไรฟาร์มสุนัขนั่นของหงห้า จุดประสงค์หลักคือใช้
เลี้ยงสุนัข ถ้าหากพวกเราจับคนได้แล้วส่งไปที่นั่น สุดท้ายแล้วคนเยอะกว่าสุนัขซะอิก คุณว่าต่อไปต้องเรียกมันว่าฟาร์มสุนัขหรือว่าเรียกว่า
ฟาร์มเลี้ยงคน? ”
เฉินจื่อข่ายสองมีอคารวะ พูดกล่าวอย่างอ่อนน้อมว่า “คุณชายพูดถูก! ในเมื่อไม่ส่งไปที่ฟาร์มเลี้ยงสุนัข งั้นส่งไปที่ไหนล่ะ? ในเวลานี้
คิดว่า ส่งไปที่ภูเขาฉางใบ ไปขุดโสมกับพ่อลูกตระกูลเว่ยนั่น กลับว่าก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลวเลยนะ”
พูดจบ เฉินจี๋อข่ายถอนหายใจยาวพร้อมพูดว่า : “เพียงแค่น่เสียดายอากาศในตอนนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิอบอุ่นแล้ว ถ้าหากคุณซู่ไปล่ะก็
ก็ไม่ได้สัมผัสฤดูหนาวที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุด น่าเสียดายมากเลยจริงๆ”
เย่เฉินยิ้มพร้อมพูดกล่าวว่า : “คนพวกนี้ สกปรกยิ่งกว่าพ่อและลูกชายของตระกูลเว่ยรวมเข้าด้วยกันอีก ส่งไปที่ภูเขาฉางไม นี่
เท่ากับว่าเป็นการทิ้งขยะที่อันตรายที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ไว้ที่ภูเขาฉางไบ ”
พูดจบ มุมปากของเขาผยรอยยิ้มที่เยือกเย็น พูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งซรึมว่า : “พาตัวเขาไปที่ชั้นห้องเอ็กเช็กคูที่ฟก่อน หลังจากเจอคนที่
สมควรเจอแล้ว ฉันจัดการเอง !