ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 2733
เหอหงไท่ไม่เข้าใจเป็นอย่างมาก เขาอดที่จะถามไม่ได้ว่า“หงเซิ่ง ในอดีตเมื่อมีคนบุกทะลวงเส้นลมปราณเส้นที่สามสำเร็จ ตระกูลศิลปะการต่อสู้เกือบทั้งหมดจะส่งคนไปมอบของขวัญให้ ในหมู่จอมยุทธ ต้องเป็นจุดสนใจอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เรากลับจะปิดประตู มันจะดูแตกต่างจากคนอื่นรึเปล่า?”
เหอหงเซิ่งกล่าวอย่างจริงจังว่า“พี่ใหญ่ ที่ผมมีการบุกทะลวงที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ได้ เป็นเพราะการช่วยเหลือจากผู้สูงศักดิ์ท่านหนึ่ง ดังนั้นจากนี้ไปตระกูลเหอจะดูทิศทางม้าจากนายพลผู้สูงศักดิ์ท่านนี้ อีกทั้งบุคคลผู้สูงศักดิ์ท่านนี้จะให้ทรัพยากรการฝึกอบรมที่หายากมากแก่ตระกูลเหอในอนาคต เชื่อผมนะ สิ่งนี้จะทำให้ตระกูลเหอได้ผลประโยชน์ อาจจะใช้เวลาไม่กี่ปีหรอก ตระกูลเหอก็จะปรากฏคนที่บุกทะลวงเส้นลมปราณเส้นที่สามคนต่อไปได้ อาจจะอีกไม่กี่ปี ก็จะมีคนเหมือนกับผมคนต่อไป คนที่สามารถบุกทะลวงเส้นลมปราณเส้นที่สามได้ ถึงเวลานั้นความสามารถของตระกูลเหอเรา อนาคตข้างหน้าจะปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันไม่ได้!”
เหอหงไท่ที่ได้ยินอย่างนั้น ก็รีบพยักหน้า แล้วพูดอย่างซาบซึ้งว่า“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันจะรอฟังคำสั่งจากนายแล้วกัน!”
คนที่อยู่ต่อ ไม่ว่าจะเป็นลูกเล็กเด็กแดงผู้หญิงหรือคนแก่ สำหรับตระกูลเหอ สำหรับเหอหงเซิ่งล้วนจงรักภักดี ดังนั้นทุกการตัดสินใจของเหอหงเซิ่ง พวกเขาพร้อมจะสนับสนุน
เหอหงเซิ่งยังตระหนักด้วยว่า หลังจากที่ลูกชายคนโตพาคนพวกนั้นออกไป ในตอนที่ตนตัดสินใจครั้งใหญ่ มีเสียงคัดค้าน และข้อสงสัยน้อยลง ซึ่งทำให้เขาตระหนักได้ว่าความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันสำคัญมาก
ตระกูลเหอในตอนนี้ ไม่มีทางเหมือนกับเมื่อก่อนอีกแล้ว ที่เกิดเรื่องขัดแย้งไม่จบไม่สิ้น กลับกัน ตระกูลเหอในตอนนี้จะรวมเป็นเชือกเส้นเดียว ช่วยกันทำให้เกิดความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ขึ้น!
เมื่อคิดได้ดังนั้น ก้นบึ้งหัวใจของเขาก็อดที่จะตื้นตันไม่ได้ เขากล่าวออกมาว่า“ใช่แล้ว!ยังมีอีกเรื่องจะประกาศ คนของตระกูลเหอที่ก้าวออกไป จะไม่อนุญาตให้กลับมาอีก ประตูของตระกูลเหอนับจากนี้ไป จะไม่เปิดประตูให้คนที่อยากก้าวออกไปกลับเข้ามาอีก!”
……
ขณะที่เหออิงฉวนพาคนของตระกูลเหอกลุ่มใหญ่นั่งรถบัสเดินทางไปที่สนามบิน สนามประลองก็เกิดความวุ่นวายโกลาหลขึ้น!
ตระกูลเหอประกาศต่อคนภายนอกว่า เหอหงเซิ่งผู้นำตระกูลเหอบุกทะลวงเส้นลมปราณเส้นที่สี่สำเร็จ!
เมื่อข่าวนี้ถูกปล่อยออกไป ก็ได้จุดชนวนให้เกิดการระเบิดทั้งสนามประลองในประเทศทันที!
ปัจจุบันในบรรดาผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ในประเทศนับแสนคน ร้อยละเก้าสิบเปิดเส้นลมปราณได้เพียงแค่เส้นเดียวเท่านั้น
ที่เหลืออัตรา10%มี9.999% เป็นคนที่สามารถเปิดเส้นลมปราณสองเส้นได้
แต่คนที่สามารถเปิดเส้นลมปราณสามเส้นได้ กลายเป็นนักบู๊สามดาว เท่าที่รู้ทั้งประเทศมีแค่ห้าคนเท่านั้น!
อีกทั้ง ในห้าคนนี้ล้วนอยู่ในอันดับทั้งสี่ตระกูล
นอกจากตระกูลฮ่อที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือที่มีนักบู๊สามดาวสองคน ที่เหลือก็เป็นคนของตระกูลเหอและอีกสามตระกูล ต่างมีตระกูลละหนึ่งท่าน
สำหรับคนที่เปิดเส้นลมปราณทั้งสี่เส้นได้ ก่อนหน้าเหอหงเซิ่ง ยังไม่มีแม้แต่คนเดียว
นั่นก็หมายความว่า ปัจจุบันเหอหงเซิ่งเป็นจอมยุทธภายในประเทศ คนเดียวที่สามารถบุกทะลวงเส้นลมปราณทั้งสี่เส้นสำเร็จ
ซึ่งหมายความว่า เหอหงเซิ่งกลายเป็นบุคคลแรกในวงการศิลปะการต่อสู้
เดิมที ทุกคนที่อยู่ในรถต่างตาตั้งรอคอยชีวิตใหม่หลังจากที่มาถึงซูหาง แต่ในเวลานี้ ไม่รู้ว่าใครตะโกนออกมาว่า“อารองบุกทะลวงเส้นลมปราณทั้งสี่เส้นสำเร็จแล้ว!”
“ว่าไงนะ?!”
ใครๆก็รู้ว่า เหอหงเซิ่งในบรรดาพี่น้องเขาเป็นลูกคนที่สอง เสียงที่เรียกว่าอารองต้องเป็นเขาอยู่แล้ว!
ชั่วพริบตาเดียว คนในตระกูลเหอที่อยู่ภายในรถบัสก็แตกฮือขึ้นมา!
เหออิงฉวนยังไม่ทันได้ตั้งตัว มือถือของเขาก็ราวกับระเบิดทันที!
มีข้อความจากคนที่อยู่ในแวดวงเดียวกัน ส่งข้อความแสดงความยินดีให้กับพ่อของเขา เมื่อเหออิงฉวนได้เห็นข้อความพวกนั้น เขาก็เหมือนกับถูกสายฟ้าฟาด!
เขาไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่า ตนพึ่งแตกหักกับพ่อ หลังจากนั้นไม่นานพ่อที่อายุแปดสิบกว่าของตนก็บุกทะลวงสำเร็จ!
เขาเป็นคนหวั่นไหวต่อเงินทอง เขาตระหนักขึ้นมาได้ในทันทีว่า ตระกูลเหอจะขึ้นสู่จุดสูงสุดในอีกไม่ช้า!
เมื่อคิดได้ว่าตนพึ่งก้าวออกมา พ่อก็ประกาศข่าวทันที เหออิงฉวนรู้สึกโกรธมาก เขาพูดในใจว่า“ถึงว่าล่ะตาแก่กลับคำกะทันหันขนาดนี้!ที่แท้ก็บุกทะลวงสำเร็จแล้วนี่เอง!ฉันเป็นลูกชายคนโตของเขา เรื่องบุกทะลวงสำคัญขนาดนี้ แต่กลับไม่บอกฉัน!มีอย่างที่ไหนกัน!