ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 2740
แต่ตอนนี้ คนของตระกูลเหอจำนวนสี่ห้าสิบคนที่เต็มใจไปกับเหออิงฉวนที่ซูหาง ได้เตรียมจะนำสัมภาระขึ้นรถแล้ว
หนึ่งในนั้น มีน้องรองของเหอหงเซิ่ง นั่นก็คือครอบครัวอารองของเหออิงฉวนทั้งครอบครัว ยังมีครอบครัวของเหออิงเฟยน้องชายแท้ๆของเหออิงฉวน รวมถึงลุงของเหออิงฉวน ครอบครัวของลูกพี่ลูกน้องของเหอหงเซิ่ง
หลังจากที่เหออิงตงวิ่งกลับไป เขาไม่ได้ขัดขวางรถพวกนั้น แต่วิ่งกลับเข้าไปในบ้าน แล้วพูดกับคนที่เหลือว่า“ทุกท่านครับ พ่อผมบอกแล้ว ให้ทุกคนไปรอที่ห้องโถง เขากำลังกราบไหว้บรรพบุรุษอยู่ อีกเดี๋ยวจะกลับไปประกาศเรื่องสำคัญกับทุกคนที่ห้องโถงครับ”
มีคนถามว่า“อิงตง คุณท่านมีเรื่องสำคัญอะไรจะประกาศอ่ะ?”
เหออิงตงส่ายหัวไปมา“รายละเอียดผมก็ไม่รู้ครับ ทุกคนรอกันหน่อยนะครับ!”
ตอนเช้าสิบโมง ขบวนรถของตระกูลซูล้อหมุนตรงเวลา โดยบรรทุกเหออิงฉวนรวมถึงคนอื่นๆในตระกูลเหออีกสี่สิบกว่าชีวิตเดินทางลงใต้
ระหว่างทาง คนตระกูลเหอพวกนั้นก็รู้สึกตื่นเต้นมาก
เพราะซูอานสุ้นบอกกับพวกเขาว่า ซูเฉิงเฟิงคุณท่าใหญ่ตระกูลซูนั้น เต็มใจที่จะจ่ายเงินให้พวกเขาปีละหนึ่งพันล้าน
อันที่จริง ซูเฉิงเฟิงให้เงินก้อนนี้เขาก็รู้สึกปวดใจเหมือนกัน
เทพที่แท้จริงเชิญมาไม่ได้ เชิญมาได้แต่พวกลิ่วล้อ ยังต้องใช้เงินไปกว่าครึ่งของงบประมาณ ซึ่งเป็นการขาดทุนอย่างมาก
แต่ว่า ตอนนี้เขาไม่กล้าเอาชีวิตของตัวเองมาล้อเล่น ถึงจะเป็นคนตระกูลเหอครึ่งหนึ่ง เขาก็ต้องดึงเข้ามาให้ได้
ถึงอย่างไรซะเงินนี้อย่างมากก็ให้แค่ปีเดียว รอจัดการเรื่องกวนใจกับอันตรายเสร็จ ปีหน้าก็ไม่ต้องจ่ายแล้ว กระทั่งหาผู้ช่วยที่ดีกว่านี้ ดีไม่ดีอาจจะกวาดคนพวกนี้ออกไปก็เป็นได้
ขบวนรถเดินทางออกมาจากตระกูลเหอไม่นาน เหอหงเซิ่งที่กราบไหว้บรรพบุรุษตระกูลเหอเสร็จ ก็กลับไปยังคฤหาสน์ตระกูลเหอ
เหลือญาติของตระกูลเหอประมาณเจ็ดแปดสิบคน ทุกคนรออยู่ที่ห้องโถงด้วยความร้อนใจ
ทุกคนต่างร่วมกลุ่มเล็กกลุ่มน้อยซุบซิบ วิจารณ์ถึงคนพวกนั้นที่พึ่งจากไป วิจารณ์ว่าเดี๋ยวคุณท่านจะประกาศเรื่องสำคัญอะไรกันแน่
คนพวกนี้เลือกที่จะอยู่ต่อ ส่วนมากพวกเขามีความเคารพและศรัทธาในตัวเหอหงเซิ่ง ยังมีอีกส่วนอยากฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ให้ดี ไม่เห็นเงินอยู่ในสายตา
ตอนนี้ พวกเขาต่างรอคอยการมาของเหอหงเซิ่ง รอให้เหอหงเซิ่งมาคลายปริศนาให้กับพวกเขา
เวลา10นาฬิกา15นาที เหอหงเซิ่งก้าวเข้ามาในห้องโถง กับเหออิงซิ่ว
เมื่อเห็นเหลือคนประมาณเจ็ดแปดสิบคน ภายใต้สีหน้าทรงพลังของเหอหงเซิ่ง ยังมีความดีใจปนอยู่เล็กน้อย
เมื่อทุกคนเห็นเขา ก็ถึงกับรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
คนพวกนี้ฝึกฝนวิชาสู้เหอหงเซิ่งไม่ได้ ดังนั้นจึงดูไม่ออกว่าเขาฝึกฝนเป็นอย่างไรบ้าง แต่ทุกคนสามารถสัมผัสได้ว่า ดูเหมือนเหอหงเซิ่งในวันนี้จะหนุ่มกว่าหลายปีก่อน กำลังวางชาของเขาก็ดูแข็งแกร่งขึ้น
ตอนนี้เอง เหอหงเซิ่งมองไปยังทุกคน แล้วพูดอย่างเรียบเฉยว่า“คนพวกนั้นที่ก้าวออกไปเมื่อครู่ ผมคิดว่าทุกคนคงเห็นกันแล้ว”
ทุกคนไม่มีใครกล้าพูดอะไร ไม่รู้ว่าคุณท่านยินดีหรือโกรธ
แต่เหอหงเซิ่งกลับหัวเราะ แล้วเอ่ยปากพูดขึ้นมาว่า“ในฐานะที่ตระกูลเหอเป็นตระกูลที่มุ่งมั่นจะก้าวไปข้างหน้า ก็เหมือนกับทีมปฏิวัติ ที่ภายในทีม ที่อนุญาตให้ตกขบวนได้ อนุญาตให้ถอนตัว แต่สิ่งเดียวที่ไม่อนุญาตก็คือถ่วงความเจริญ ดังนั้นพวกคนที่ก้าวขาออกไป สำหรับคนที่เหลืออย่างพวกเราแล้ว เป็นเรื่องที่ดีอย่างแน่นอน ไม่ใช่เรื่องดี”
พูดจบ น้ำเสียงของเขาก็เคร่งขรึมขึ้น แล้วพูดต่อไปว่า“ตอนนี้ ผมขอประกาศอย่างเป็นทางการ นับจากวันนี้เป็นต้นไป คนที่ออกจากตระกูลเหอในวันนี้ขอตัดขาดกัน ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆทิ้งสิ้นกับพวกเขา ในอนาคตข้างหน้าจะไม่อนุญาตให้พวกเขากลับตระกูลเหออีกเป็นอันขาด พวกคุณจงจำไว้ ถึงผมจะตายไป คนที่สืบทอดตำแหน่งก็ต้องทำตามการตัดสินใจของผมครั้งนี้!”
สีหน้าของทุกคนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัว
นี่เท่ากับตัดขาดความสัมพันธ์หรอ?
ในที่นี้ไม่เพียงแต่มีลูกชายแท้ของคุณท่าน ยังมีน้องชาย และพี่ชายของเขาด้วย
หรือคุณท่านไม่ปวดใจแม้ หรืออยากได้กลับคืนมาเลยแม้แต่น้อย?
ในขณะที่ทุกคนยังไม่สามารถดึงสติกลับมาได้นั้น เหอหงเซิ่งก็กระแอมเบาๆ แล้วพูดขึ้นมาว่า“ต่อไป ผมจะขอประกาศเรื่องสำคัญหนึ่งเรื่อง!”
เดิมทีทุกคนคิดว่าการตัดขาดความสัมพันธ์กับคนพวกนั้น เป็นเรื่องสำคัญที่คุณท่านต้องการจะพูด
คิดไม่ถึงว่า สิ่งที่สำคัญยังมีอีกเรื่องบทที่ 2740
ซูโสว่เต้าถึงกับหัวใจห่อเหี่ยว
ถึงแม้เขาจะอยากเพิ่มเพิ่มให้เยเฉินอีกหนึ่งร้อยสำนดอลลาร์ เพื่อเปลี่ยนสถานที่ที่อย่างน้อยสภาพการเป็นอยู่ยังพอไปได้ให้ตนเอง แต่
ตอนนี้เขาไม่มีเงินที่สามารถจ่ายได้แล้ว
คุณท่านใหญ่ซูควบคุมอำนาจทางการเงินค่อนข้างมิดชิด ถึงแม้ซูโสวเต้าจะเป็นลูกชายคนโต อีกทั้งอสังหาริมทรัพย์มากมายรวมถึง
ทรัพย์สมบัติอื่นๆ แต่งินที่สามารถใช้จ่ายได้กลับมีไม่มาก
คนทั้งตระกูลซู รายจ่ายทั้งหมดโดยปกติแล้วจะต้องผ่านเครดิตของตระกูล สามารถใช้จ่ายเงินได้ แต่การใช้จ่ายเงินจะต้องอยู่ภายใต้
การควบคุมของระบบการเงินในตระกูล
ซูเฉิงเฟิงไม่ได้เป็นคนขี้หนี่ยว แค่คาบคุมค่อนข้างเคร่งครัต ถึงจะซื้อเครื่องมินลำละหลายร้อยล้นตอลลาร์ ไม่ใช่ว่าเขาเสียดาย แต่ต้อง
ให้เขารับทราบ ผ่านการอนุมัติจากเขา อีกฝ่ายถึงจะสามารถช้จ่ายเงินก้อนนี้ด้ ขอแค่ลูกหลายตระกูลซูกล้ำใช้จ่ายเงินสั่บหลังเขา หรือทำให้
เครดิตของตระกูล ย้ายไปอยู่ในคลังสมบัติของตัวเอง ก็จะต้องได้รับการลงโทษอย่างหนักจากตระกูล
เพื่อรวบรวมอำนาจทางการเงิน ฝ่ายการเงินของตระกูลจะต้องงคำสั่งของซูเฉิงเฟิงแต่เพียงผู้เดียว พวกเขาต้องตรวจสอบการใช้จ่าย
ของลูกหลานตระกูลซุ เป็นระยะ ความเข้มงดของกรตรวจสอบแบบนี้ เปรียบได้กับการสีบสวนอาชญากรรมทางการเงินได้เลย ดังนั้นลูก
หลานของตระกูลซูจึงไม่กล้าใช้จ่ายเงินลับหลังคุณท่าน
ก่อนหน้านี้ซูโสวเต้าเคย จ่ายงินให้ฮามิดหนึ่งร้อยล้านดอลลาโดยไม่ผ่านคุณท่าน ซึ่งเป็นการทำแล้วค่อยรายงานทีหลัง ถ้าปกติเขาทำ
แบบนี้ จะต้องได้รับการลงโทษอย่างหนักของคุณท่านแน่นอน
ดังนั้นซูโสว่เต้าจึงรู้ตี หลังจากที่มีครั้งที่หนึ่ง ตนไม่มีทางมีโอกาสใช้วิธีเต็มๆอีกแล้ว
ดีไม่ดีตอนนี้คุณท่านอาจจะระงับเครดิตในตระกูลของตัวเองไปแล้ว อีกอย่างตนไม่มีแม้แต่โทรศัพหมือถือ ไม่มีทางเอาเงินให้เย่เฉินอีก
ดังนั้นนอกจากอตทน ก็ไม่มีวิธีอื่นอีกแล้ว
หลังจากที่กล่าวลาซูโสว่เต้าเสร็จ จ้าวหยินเชิงก็ริบเดินจากไป
เหลือซูโสว์เต้าคนเดียวอยู่ป่านผุฟังแห่งนี้
ฤดูหนาวในชิเรีย อบอุ่นและมีฝนตกซุก ในขณะที่ซูโสว่เต้ากำลังทำอะไรไม่ถูก ก็มีฝนกระหน่ำเทลงมา
เขารีบหลบเข้าไปในห้อง เมื่อเห็นว่าด้านนอกฝนตกหนักขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ลานบ้านเต็มไปด้วยดินฉอะแฉะ หัวใจของเขาสิ้นหวังมาก
ถึงแม้จะฤดูหนาวในซีเรียอบอุ่น แต่นเวลาฝนตกนั้น อากาศจะลดลงถึง10องศา
ประกอบกับความชื้นและความหนาวเย็น ทำให้ซูโสว่เต้าเกือมจะต้านทานไม่ไหว ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงแค่รับนำผ้าห่มมาคลุมตัวไว้ มุต
อยู่ในผ้าห่มคอยฟังเสียงฝนตกจากดำนนอก
เขารู้สึกรำคาญใจมาก ชูโสว่เต้างยหน้าขึ้นมองผนังอย่างไม่รู้ตัว พมว่าส่วนบนของผนังเชื่อมต่อกับหลังตา มีรอยน้ำมากมายรั่วไหลออก
มาโดยไม่รู้สาเหตุ
ซูโสว่เต้ากอดเข่าแล้วถอนหายใจ พลางก่นด่าว่า”ดูหาไอ้ป่นโง่ๆนี่จะไม่ได้แค่เก่าอย่างเดียว ยังแม่งน้ำซึมด้วย น้ำซึมก็ช่างเถอะ ทางที่ดี
อย่าน้ำรั่วแล้วกัน…..”
พึ่งพูดจบ จู่ๆหน้าผากของเขาก็รู้สึกเย็นวาบ
ที่แท้น้ำซึมออกมาจากหลังคาของบ้าน รวมเป็นน้ำหยดลงมา ใส่บนหัวของเขา
ซูโสว่เต้าแตะหน้ผาก อันปียกโช โกรรจนอดไม่ได้ร้องไห่ไปด้วยนดไปด้วย”แม่ง! น้ำรั่วด้วยหรอเนี่ย? ! พระเจ้าจะจบได้รึยัง
เนี่ยห้ะ? ! ล้อเล่นกับผมอยู่ได้!เอาแต่ทำกับฉันอย่างนี้ใครมันจะไปทนไหววะ? !”
แต่น่าเสียดาย ไม่มีใครรับฟังคำถามของเขา
ทหารยามที่ยืนอยู่ข้างๆถึงจะได้ยิน แต่ก็ฟังไม่เข้าใจ
ดังนั้น ทุกคนจึงตั้งสติ รอการคลายปมปริศนา
ตอนนี้เหอหงเซิ่งพูดอย่างไม่สามารถปิดบังความตื่นเต้นได้ว่า“เช้าวันนี้ ผมได้เปิดเส้นลมปราณเส้นที่สี่สำเร็จแล้ว!”
ทันทีที่พูดออกไป ทุกคนก็ถึงกับช็อก!