ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 2903
เย่เฉินยิ้มอ่อน: “ใช่ ถึงเวลานั้นฉันจะต้องไปบ้านเธอเพื่อเยี่ยมลุงกู้ น้าหลินแน่นอน”
กู้ชิวอี๋เอ่ย: “เวลานี้จัดการได้พอเหมาะพอดีเลย เพราะว่าตอนครึ่งเดือนเมษายนฉันจะต้องไปสหรัฐอเมริกาแล้ว”
“ไปสหรัฐอเมริกางั้นเหรอ?” เย่เฉินถามอย่างสงสัย: “ทำไมจะไปสหรัฐอเมริกากะทันหันแบบนี้ล่ะ?”
“ไม่กะทันหันนะคะ” กู้ชิวอี๋เอ่ย: “ก็หลังทัวร์คอนเสิร์ตรอบนี้ก็จะออกจากวงการบันเทิงแล้วไม่ใช่เหรอ ก็เลยอยากจะจัดคอนเสิร์ตเยอะๆ หน่อย ถือว่าเป็นการบอกกล่าวกับแฟนเพลงด้วย ฉันมีแฟนคลับที่ยุโรปสหรัฐอเมริการวมถึงประเทศญี่ปุ่นเยอะเหมือนกัน ในนั้นมีคนเชื้อสายจีนเยอะมาก เพราะงั้นคอนเสิร์ตครั้งนี้นอกจากจะจัดในแผ่นดินใหญ่ จีนไต้หวัน จีนมาเก๊า และจีนฮ่องกงแล้ว ประเทศญี่ปุ่น เกาหลีรวมถึงสหรัฐอเมริกาก็มีการจัดคอนเสิร์ตด้วย กลางเดือนเมษายนจนถึงสิ้นเดือนจะไปจัดที่นิวยอร์ก ชิคาโก ลอสแองเจลิส ฮิวสตันรวมถึงซีแอตเทิลประเทศสหรัฐอเมริกาจัดห้าที่ จากนั้นค่อยไปจัดสามรอบในประเทศญี่ปุ่นและเกาหลี”
เย่เฉินเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ: “ทำไมไม่จัดคอนเสิร์ตที่เอเชียก่อนแล้วค่อยไปยุโรปล่ะ? เธอไปเหนื่อยเกินกว่าครึ่งเดือน แถมยังต้องมาเหนื่อยตอนกลับมาอีก”
กู้ชิวอี๋ยิ้มเอ่ยว่า: “คุณพ่อคุณแม่จะต้องไปสหรัฐอเมริกาเพราะเรื่องงานในเดือนเมษายนพอดีค่ะ เพราะงั้นฉันเลยกะว่าจะไปพร้อมทั้งสองท่านเลย”
ขณะที่เอ่ย เธอก็ถามเย่เฉิน: “พี่เย่เฉิน อยากไปด้วยกันไหมคะ?”
เย่เฉินส่ายหน้า ยิ้มเอ่ยว่า: “ฉันไม่ไปหรอก ธุระที่จินหลิงค่อนข้างเยอะพอสมควร เดือนเมษายนคาดว่าเป็นช่วงที่หยวนหยางขนส่งกรุ๊ปเริ่มดำเนินกิจการด้วย น่าจะหาเวลาปลีกตัวไปไม่ได้”
กู้ชิวอี๋พยักหน้า เอ่ยด้วยความรู้สึกเสียดาย: “เพราะว่าไม่ค่อยชินกับชีวิตและสถานที่ในสหรัฐอเมริกา มักจะรู้สึกไม่เคยชินอยู่เรื่อยเลย มีพ่อแม่ไปด้วยก็ค่อยยังชั่วขึ้นมาหน่อย ถ้ามีพี่เย่เฉินไปด้วยได้ก็จะยิ่งดีขึ้นไปอีก แต่ว่าพี่มีเรื่องส่วนตัวต้องไปจัดการ ฉันเข้าใจได้หมดเลยค่ะ”
เย่เฉินเอ่ยปลอบใจ: “แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะไกล แต่นั่งเครื่องบินก็แค่ 12 ชั่วโมง อีกอย่างเธอก็ไปจัดคอนเสิร์ตโชว์เพื่อคนเชื้อสายจีนด้วย ไม่ต้องกลัวจะไม่เคยชินกับสภาพแวดล้อมหรอก”
“อืมค่ะ” กู้ชิวอี๋พยักหน้าเบาๆ เอ่ยถามเย่เฉิน: “พี่เย่เฉินคะ พี่ไม่อยากไปดูสหรัฐอเมริกาหน่อยเหรอ?”
เย่เฉินส่ายหน้า: “ฉันไปดูอะไรที่สหรัฐอเมริกา?”
กู้ชิวอี๋เอ่ย: “ไปเยี่ยมคุณตาคุณยายของพี่ไงคะ ฉันได้ยินคุณแม่บอกว่า คุณตาคุณยายของพี่ยังสบายดีกันทั้งคู่”
เย่เฉินอึ้งไปทันที ผ่านมาไม่นาน จึงยิ้มอย่างไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ เอ่ยว่า: “ฉันไม่ไปรบกวนพวกท่านดีกว่า ถึงยังไงตอนเด็กๆ ฉันก็ไม่ได้เจอหน้าพวกท่านบ่อยเท่าไร อีกอย่างพวกท่านก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับฉันมากนัก จะว่าไปแล้ว ฉันก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับพวกท่านเหมือนกัน”
มีคำพูดหนึ่ง เย่เฉินไม่ได้เอ่ยออกมา
เมื่อก่อน เขาไม่รู้จักเรื่องในอดีตของคุณแม่ชัดเจนนัก ในความทรงจำก็มีเพียงเคยเจอคุณตาคุณยายเมื่อตอนเด็กมากๆ ดังนั้นตนจึงไม่มีรากฐานความรู้สึกที่ดีอะไรกับคุณตาคุณยาย
อีกทั้ง หลังจากที่เขารู้จักเฮ่อหยว่นเจียง เฮ่อหยว่นเจียงก็บอกเขาว่า อันที่จริงตระกูลของแม่เขายิ่งใหญ่กว่าตระกูลเย่เยอะมาก คุณตาคุณยายไม่พอใจกับการตัดสินของของคุณแม่ที่แต่งงานกับคุณพ่อแล้วตามคุณพ่อกลับมาที่หัวเซี่ยมาโดยตลอด
ได้ยินว่าอาจเพราะเรื่องนี้ คุณแม่ถึงทะเลาะบาดหมางกับที่บ้านตัวเองเรื่องใหญ่
ตอนนี้คุณแม่ไม่อยู่แล้ว หลานยายที่ไม่ได้เจอกันมา 20 กว่าปี หากไปหาคุณตาคุณยายจริงๆ เกรงว่าคงทำให้พวกเขาทำตัวไม่ถูกเช่นเดียวกัน
ดังนั้น เย่เฉินคิดว่า ไม่ไปรบกวนพวกเขา ก็เป็นความเคารพอย่างหนึ่งสำหรับพวกเขา