ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 2932 นายดูถูกฉันรึไง
เย่เฉินอาบน้ำเสร็จออกมา เห็นว่าเซียวชูหรันยังไม่กลับห้อง จึงได้ใส่ชุดนอนอยู่บ้านออกมาที่ห้องรับแขก
ในห้องรับแขก ทั้งสามคนกำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน
เซียวฉางควนและหม่าหลันคู่กัดคู่นี้ที่เอาแต่ทะเลาะจะแยกบ้านกัน กลับไม่ได้เถียงกันอีกอย่างน่าแปลกใจ
เย่เฉินลงมา ถามอย่างสงสัยว่า “ชูหรัน พ่อครับ แม่ครับ ทำไมพวกคุณยังไม่กลับห้องไปพักผ่อนอีกละครับ?”
เซียวชูหรันรีบลุกขึ้นยืน วิ่งเข้ามาควงแขนของเย่เฉินไว้ พูดด้วยรอยยิ้มว่า “พ่อแม่บอกว่าจะเฝ้ารอวันเกิดให้กับนาย อีกไม่ถึงสองชั่วโมงก็ถึงวันเกิดอายุยี่สิบเจ็ดของนายแล้ว ทุกคนต่างก็รอพูดสุขสันต์วันเกิดกับนายอยู่!”
เย่เฉินยิ้มอ่อน พูดว่า “ขอบใจที่รัก ขอบคุณครับพ่อแม่”
หม่าหลันรีบพูดอย่างประจบว่า “โอ๊ยลูกเขยที่แสนดี นายจะยังมาเกรงใจกับแม่ขนาดนี้ทำไมกัน ห่างเหินเกินไปแล้ว”
พูดจบแล้วก็พูดอีกว่า “ใช่สิลูกเขยที่แสนดี พรุ่งนี้เป็นวันเกิดของนาย ลูกค้าพวกนั้นของนาย จะมามอบของขวัญให้นายที่บ้านเหมือนตอนวันตรุษจีนอีกมั้ย?”
เย่เฉินสะดุ้ง พวกเฉินจื๋อข่ายจะมาให้ของขวัญกับเขามั้ย ตัวเขาเองก็ไม่แน่ใจ
แต่ว่า พวกเขาก็ปวดหัวการที่ต้องมาเข้าแถวมอบของขวัญจริงๆ ดังนั้นจึงแอบตัดสินใจ เดี๋ยวไปบอกกับเฉินจื๋อข่ายไว้ ให้เขาไปหลอกถามคนพวกนั้นสักหน่อย ถ้าหากว่าเตรียมของขวัญไว้ให้ตัวเองแล้ว ก็อย่าได้ส่งมาที่บ้านเด็ดขาด
ดังนั้น เขาจึงล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาส่งข้อความให้กับเฉินจื๋อข่าย และก็พูดกับหม่าหลันไปด้วยว่า “แม่ครับ วันตรุษจีนพวกเขามามอบของขวัญให้ เป็นเพราะปีก่อนผมช่วยเหลือพวกเขาไว้ไม่น้อย ดังนั้นพวกเขาจึงรวมตัวกันช่วงปลายปีเพื่อมาขอบคุณ วันเกิดก็คงไม่มาแล้วละครับ ยังไงซะเงินของพวกเขาก็ไม่ได้ได้มาง่ายๆ”
หม่าหลันได้ยินคำนี้ บนใบหน้าเก็บความผิดไม่หวังไม่อยู่พูดว่า “ฉันก็คิดว่าพรุ่งนี้เขาจะมาซะอีก ถ้าอย่างนั้น ก็ใจเย็นรอจนถึงสิ้นปีละกัน”
เซียวชูหรันที่อยู่ข้างกายได้ยินอย่างนี้ ก็ส่ายหัวอย่างเอือมระอา
จากนั้น คนทั้งบ้านก็นั่งคุยกันเงียบๆอย่างเป็นไปได้ยาก
เซียวชูหรันและเซียวฉางควนต่างก็พูดถึงสถานการณ์การทำงานของตัวเอง
แม้ว่าช่วงนี้เซียวชูหรันจะงานยุ่งมาก แต่สำหรับเธอแล้วกลับรู้สึกอิ่มเอมอย่างผิดปกติ
ก่อนหน้านี้แม้ว่าเธอจะเคยทำงานมาหลายปี แต่ก่อนหน้านี้ก็คอยทำงานอยู่แต่ที่บริษัทเซียวซื่อ ไม่เพียงแต่ต้องคอยโดนนายหญิงใหญ่กลอกตาใส่ แล้วยังต้องถูกบีบจากเซียวไห่หลงและเซียวเวยเวยไม่หยุด การทำงานอย่างนั้นรู้สึกแย่อย่างมาก และก็แสดงออกถึงความโดดเด่นและความสามารถของตัวเองได้ยาก
ตอนนี้หลังจากที่เธอเริ่มต้นทำธุรกิจ ทำงานให้กับตัวเอง ก็สามารถลบล้างสิ่งไม่ดีก่อนหน้านี้ไปได้ และตั้งแต่เริ่มต้นทำธุรกิจก็ได้รับการสนับสนุนและความช่วยเหลือจากตี้เหากรุ๊ป ดังนั้นตอนนี้เธอก็ค่อยๆได้รับรู้ถึงความรู้สึกที่จะประสบความสำเร็จทางด้านการงาน รู้สึกได้ถึงความอิ่มเอมในทุกวัน และก็ยังมีความรู้สึกของความสำเร็จด้วย
ส่วนเซียวฉางควน ช่วงนี้ก็มีความพัฒนาในสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดไม่น้อย
ตอนนี้ได้เป็นรองประธานาธิบดีของสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดแล้ว เป็นรองประธานาธิบดีที่มีมาตรฐาน มีชื่อเสียงและผลกระทบต่อในวงการอยู่บ้าง
เขาแนะนำกับคนที่บ้านอย่างมีความสุขว่า “ตอนนี้เมืองจินหลิงของพวกเรากำลังสร้างภาพลักษณ์เป็นเมืองประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอย่างแข็งขัน ทางเมืองได้จัดสรรเงินทุนจำนวนมากเพื่อมาสนับสนุนทางด้านวัฒนธรรมโดยเฉพาะ สมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดที่ฉันอยู่ ช่วงนี้ได้รับเงินอุดหนุนจากทางรัฐบาลไม่น้อย ต่อไปก็สามารถยิ่งอยู่ยิ่งดีขึ้นได้แล้ว”
“มีเงินอุดหนุนและความช่วยเหลือจากรัฐบาล สมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดของพวกฉัน มันก็จะไม่ใช่เพียงแค่กลุ่มงานอดิเรกของประชาชนเท่านั้นแล้ว แต่กลายเป็นองค์กรการกุศลกึ่งสาธารณะและกึ่งรัฐบาล!”
“อีกอย่าง ในเงินอุดหนุนโดยเฉพาะของรัฐบาล ยังให้ค่าตอบแทนที่ไม่เลวกับผู้ที่มีหน้าที่การงานในสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาด ต่อไปเหล่าเซียวของเราก็มีเงินเดือนจากสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดแล้ว”
หม่าหลันถามอย่างสงสัยว่า “โอ๊ะ สมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดของพวกนาย ตอนนี้ได้เริ่มแจกเงินเดือนให้พวกนายแล้ว?!”
เซียวฉางควนพูดอย่างภาคภูมิว่า “ไม่เพียงแต่ให้เงินเดือนเท่านั้น แต่ยังให้ไม่น้อยด้วย!”
พูดแล้วเซียวฉางควนก็พูดอีกว่า “นี่ยังเป็นแค่เงินเดือนพื้นฐานที่เมืองจินหลิงให้พวกเราเท่านั้น ที่จริงแล้วช่วงนี้ยังมีบริษัทเอกชนมากมายที่ต้องการจะใช้ประโยชน์ทางธุรกิจด้านการพัฒนาวัฒนธรรมด้วย ดังนั้นจึงบริจาคเงินไม่น้อยให้กับสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาด ติดต่อกับบริษัทมากมาย สมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดของพวกเราได้ดำเนินกิจกรรมประเภทเขียนพู่กันจีนและวาดภาพมาอย่างต่อเนื่องเมื่อไม่นานมานี้ เพราะงั้นวันข้างหน้าของสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดก็จะสบายอย่างมาก”
หม่าหลันรีบถามต่อว่า “งั้นพวกนายร่วมงานกับองค์กรเอกชน ก็จะสามารถหาเงินได้?”