ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 2954 ล้มเหลวแล้ว
หลังจากที่ส่งสองสามีภรรยากู้เย้นจงและหลินหว่านชิวถึงโรมแรมป๋ายจินฮ่านกง และมอบหมายให้เฉินจื๋อข่ายช่วยดูแลแทนแล้ว เย่เฉินก็ขับรถกลับสู่คฤหาสน์ Tomson Riviera ของตัวเอง
ตอนนี้ก็เพิ่งเวลาบ่ายสอง เดิมทีเย่เฉินคิดว่าภรรยาเซียวชูหรันจะเสร็จงานสักบ่ายสามสี่โมง ดังนั้นจึงคิดว่าจะกลับบ้านก่อนสักรอบ รอเธองานใกล้เสร็จแล้วค่อยไปรับเธอ
แต่ที่คาดไม่ถึงคือ เมื่อเย่เฉินกลับถึงบ้านแล้ว ภรรยาเซียวชูหรันและพ่อตาเซียวฉางควน แม่ยายหม่าหลัน ได้เริ่มยุ่งวุ่นวายอยู่ในครัวกันแล้ว
เมื่อเห็นว่าเซียวชูหรันอยู่บ้าน เย่เฉินก็ถามอย่างประหลาดใจว่า “ที่รัก เธอกลับมาเมื่อไหร่? ทำไมถึงไม่บอกกับฉันสักคำละ ฉันจะได้ไปรับเธอ”
เซียวชูหรันพูดยิ้มๆว่า “ฉันเร่งความคืบหน้าสักหน่อย ตอนบ่ายสองฉันก็ถึงบ้านแล้ว คืนนี้จะเตรียมงานเลี้ยงวันเกิดให้นายไม่ใช่หรือไง เพราะงั้นเลยกลับมาเร็วหน่อย”
หม่าหลันในตอนนี้สองมือกำลังถือปูอลาสก้าตัวใหญ่ไว้ วางมันไว้ในหม้อนึ่งไปด้วย แล้วพูดยิ้มๆกับเย่เฉินไปด้วยว่า “ลูกเขยที่รัก คืนนี้แม่ทำอาหารมื้อใหญ่ให้นาย นายดูปูตัวใหญ่นี่สิ ตัวนึงก็สามพันกว่าแหนะ!”
เซียวชูหรันที่อยู่ด้านข้างเห็นว่าเธอกำลังจะนึ่งปู จึงรีบพูดว่า “โอ๊ยแม่ ปูนั่นนึ่งตอนนี้ไม่ได้นะ ตอนนี้ยังไม่ถึงบ่ายสาม อีกนานกว่าจะกินข้าว!ถ้าแม่นึ่งสุกตอนนี้ ถึงมื้อค่ำมันก็ไม่อร่อยแล้วค่ะ!”
หม่าหลันถามอย่างประหลาดใจว่า “งั้นเธอกลับมาเร็วขนาดนี้ เร่งพวกฉันทำอาหารทำไมกัน?”
เซียวชูหรันพูดอย่างเอือมระอาว่า “ก็ทำการเตรียมไว้ก่อนไงคะ ปูอลาสก้าล้างสะอาดแล้วก็วางไว้ในกะละมังเพื่อเตรียมใช้ วัตถุดิบอย่างอื่นก็เหมือนกัน จัดการออกมาให้หมด วัตถุดิบที่ใช้ทำกับข้าวเองก็เอาออกมาเตรียมไว้ จากนั้นรอใกล้ถึงเวลาอาหารแล้วค่อยทำ แบบนี้ถึงจะสามารถรับประกันรสชาติได้”
หม่าหลันพูดอย่างไม่พอใจว่า “เฮ้อ ฉันก็คิดว่าเริ่มทำอาหารตั้งแต่ตอนนี้เลยซะอีก ปูนี่ไม่ใช่ว่านึ่งเลยหรือไง? ยังต้องล้างอีกหรอ?”
“ต้องล้างอยู่แล้วสิคะ” เซียวชูหรันพูด “อย่างน้อยก็ต้องใช้แปรงขัดมาขัดสิ่งสกปรกทีพื้นผิวสักหน่อย จากนั้นก็ค่อยใช้น้ำสะอาดล้างอีกไม่กี่รอบ”
หม่าหลันเบะปาก “ฉันไม่กล้าขัดเจ้าสิ่งนี้หรอกนะ หนามเต็มตัวไปหมด ถ้าหากว่าทิ่มโดนฉัน….ให้พ่อเธอมาจัดการพวกอาหารทะเลก็แล้วกัน”
พูดจบ เธอก็มองไปยังเซียวฉางควน สั่งว่า “เซียวฉางควน นายล้วงเอาปูนี่ออกมาจากหม้อนึ่งแล้วมาล้าง จำไว้ว่าล้างสะอาดหน่อยนะ!”
เซียวฉางควนอดไม่ได้ที่จะบ่น “ที่ฉันยังมีอย่างอื่นต้องทำอีก เธอทำเองเลย”
หม่าหลันพูดอย่างโมโหว่า “อย่าพูดมาก รีบไปจัดการปูซะ!ไม่อย่างนั้นตอนค่ำนายก็อย่ากินสักคำละ!”
เซียวฉางควนถามอย่างไม่พอใจว่า “เธอให้ฉันจัดการปู แล้วเธอทำอะไร?”
หม่าหลันตอบเผินๆว่า “ฉันไปแกะกระเทียม”
พูดจบ เธอก็หยิบกระเทียมหลายหัว หยิบเก้าอี้เล็กไปนั่งตรงมุม แล้วก็แกะเปลือกกระเทียมลงถังขยะ
เซียวฉางควนมีความไม่พอใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่กล้าทะเลาะกับหม่าหลัน จึงได้ไปหยิบปูออกมาอย่างระมัดระวัง แล้วเอาไปล้างทำความสะอาดที่อ่าง
เย่เฉินเห็นอย่างนั้น จึงเอ่ยปากพูดว่า “พอครับ ผมมาล้างทำความสะอาดปูเอง”
เซียวชูหรันรีบพูดกับเย่เฉินว่า “ที่รัก นายเป็นเจ้าของงานวันเกิด วันนี้ก็อย่าเข้าครัวเลย ไปห้องนั่งเล่นด้านนอกดูทีวีซะ เดี๋ยวคนส่งเค้กก็มาแล้ว นายตั้งใจฟังเสียงกริ่งหน่อยนะ”
เย่เฉินเห็นว่าท่าทางเธอชัดเจน จึงไม่ได้พยายามต่อ แล้วพูดว่า “งั้นถ้าเธอมีอะไรก็เรียกฉันนะ”
“โอเค”
เย่เฉินออกมาจากห้องครัว เพิ่งนั่งลงที่ห้องนั่งเล่นได้เพียงครู่เดียว เสียงกริ่งก็ดังขึ้น
เขาเห็นจากกล้องวงจรว่าคนที่กดกริ่งคือพนักงานส่งของคนหนึ่ง ดังนั้นจึงได้เดินออกจากประตูบ้าน
นอกลานบ้าน ชายหนุ่มส่งของวัยกลางคนถามขึ้นว่า “ไม่ทราบว่านี่คือบ้านของคุณเซียวมั้ยครับ?”
เย่เฉินพยักหน้า “ใช่ครับ”
อีกฝ่ายจึงได้ยื่นกล่องสี่เหลี่ยมความยาวประมาณห้าสิบเซนติเมตรมาให้ พูดว่า “นี่คือเค้กที่คุณเซียวสั่งครับ รบกวนเซ็นรับหน่อยครับ”
เย่เฉินรับเค้กมา ในตอนที่จะเซ็นชื่อลงในใบสินค้า อีกฝ่ายก็พูดเตือนขึ้นว่า “คุณเปิดดูก่อนเถอะครับ ถ้าหากว่ามีปัญหาผมก็จะได้นำกลับไปที่ร้านเค้ก อย่าได้รอเซ็นรับไปแล้วเห็นว่ามีปัญหาแล้วค่อยทำการร้องเรียนเลยครับ ถึงตอนนั้นคนขับรถอย่างพวกเราเองก็ต้องรับผิดชอบด้วยเช่นกัน”