ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 2975
เมื่อเห็นหม่าหลันร้องไห้อย่างเจ็บปวด ในใจก็พวยพุ่งไปด้วยความสงสารที่มีต่อหม่าหลัน
ไม่รู้ว่ามาจากเบื้องลึกในใจ หรือเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ เขาถึงได้ก้าวเดินมาอยู่ตรงหน้าหม่าหลัน แล้วตบไหล่ของเธอเบาๆ ทอดถอนหายใจออกมาว่า “เฮ้อ…หลายปีที่ผ่านมา คุณคงได้รับความไม่เป็นธรรมไม่น้อยเลยสินะ”
คำพูดของเซียวฉางควาน จี้จุดในใจของหม่าหลัน ทำเอาเธอรวบกอดเอวของเขาเอาไว้ พร้อมร้องไห้โฮออกมา เซียวฉางควานตบหลังเธอไปพลาง ดวงตาวูบไหวไปด้วยหยาดน้ำตา
ในตอนนี้เอง เซียวชูหรันก็ลงมาจากข้างบน เมื่อเห็นภาพตรงหน้าก็สะดุ้งตกใจ เธอกำลังจะเอ่ยทัก แต่กลับเห็นว่าพ่อกับแม่กำลังปลอบโยนกันอย่างที่นานๆทีจะมีครั้ง เธอจึงรีบเดินมาหาเย่เฉิน เอ่ยถามเสียงเบาว่า “ที่รัก พ่อกับแม่เป็นอะไรไป?”
เย่เฉินยิ้มออกมาอย่างเงอะงะ พูดว่า “เมื่อกี้พวกเขาพูดถึงเรื่องในอดีตกันน่ะ คุยไปคุยมาก็พากันอ่อนไหวซะงั้น…”
เซียวชูหรันพยักหน้า ถอนหายใจแล้วพูดว่า “ดีเหมือนกัน ฉันไม่เคยเห็นพวกเขากอดกันมาหลายปีแล้ว”
เซียวชูหรันพูดพร้อมกับกวักมือเรียกเย่เฉิน กระซิบเสียงเบาว่า “งั้นเรารีบไปกันเถอะ! อย่ารบกวนพวกเขาเลย!”
เย่เฉินตอบรับ จากนั้นก็ออกไปจากบ้านพร้อมกับเซียวชูหรันเงียบๆ
……
สองสามีภรรยาเรียกใช้บริการรถไปส่งที่ศูนย์กีฬาโอลิมปิกเมืองจินหลิง
เมื่อใกล้จะถึงสถานที่จัดงาน การจราจรรอบด้านก็แออัดจนเดินทางลำบาก
สองสามีภรรยาไม่อยากรบกวนเวลาคนขับรถ จึงลงจากรถเพื่อเดินไปยังทางเข้าเอง
ณ เวลานี้ รอบๆต่างก็เต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังส่งเสียงเกรียวกราว นอกจากผู้ที่มีตั๋วอยู่ในมือแล้ว ก็ยังมีวัยรุ่นหนุ่มสาวท่าทางกระตือรือร้น คอยเข้าไปถามคนอื่นว่าอยากส่งต่อตั๋วข้าชมคอนเสิร์ตไหม บางคนถึงขั้นยอมให้อัพราคาขึ้นถึงสิบเท่า
นอกจากพวกเขาแล้ว ก็ยังมีแก๊งขายตั๋วผีตะโกนตัวเลขในราคาสูงๆ แต่คนที่มีตั๋วอยู่ในมือแล้วแทบจะไม่มีใครสนใจคนสองกลุ่มนี้เลย
แค่นี้ก็พอจะเห็นภาพแล้วว่า ชื่อเสียงของกู้ชิวอี๋โด่งดังมากเพียงไหน ยิ่งระดับแฟนพันธุ์แท้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
ตั๋วที่แฟนๆได้มาแต่ละใบไม่ใช่ว่าจะได้มาง่ายๆ กว่าจะมีโอกาสได้มาดูคอนเสิร์ตของไอดอลที่ชอบ จึงไม่มีใครยอมเสียโอกาสนี้ไปเพียงเพราะราคาตั๋วที่ถูกอัพสูงถึงสิบเท่า
ในตอนที่เย่เฉินกับเซียวชูหรันเดินเข้าไปในคอนเสิร์ตพร้อมกลุ่มคน ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมาจากข้างๆ “ไอ้หยา ก็บอกแล้วไง ว่าไม่ขาย ไม่ขาย เลิกตามตื๊อสักทีจะได้ไหม?”
คนที่กำลังพูดคิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นต่งรั่งหลิน
เซียวชูหรันหันไปมอง ก็เจอต่งรั่งหลินยืนอยู่ไม่ไกล กำลังคุยกับชายหนุ่มวัยกลางคนด้วยท่าทางหงุดหงิด
มองแวบแรกก็รู้แล้วว่าผู้ชายวัยกลางคนคนนั้นเป็นพวกแก๊งขายตั๋วผี ขนาดถูกต่งรั่งหลินไล่ขนาดนี้แล้ว แต่ก็ยังหน้าด้านตื๊อต่อ “โถ่คนสวย ขอแค่เธอตกลง เรื่องราคาเรามาต่อรองกันได้นะ ฉันอัพให้เธอสิบห้าเท่าเลยเอาไหม?”
ต่งรั่งหลินเอ่ยพูดอย่างไม่พอใจ “ฉันไม่ได้ร้อนเงินย่ะ อย่าว่าแต่สิบห้าเท่าเลย ต่อให้ร้อยห้าสิบเท่าฉันก็ไม่ขาย!”
ในตอนนี้เองเซียวชูหรันก็ตะโกนเรียกเธอ “รั่งหลิน! รั่งหลิน!”
ต่งรั่งหลินหันมาตามเสียงเรียก ก็พบว่าเป็นเซียวชูหรันกับเย่เฉิน จึงวิ่งเข้าไปหาด้วยใบหน้าดีใจ เพื่อสลัดแก๊งขายผีไปให้พ้น จากนั้นก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าพวกเขา
“ชูหรัน เย่เฉิน! มาดูเหมือนกันเหรอ!”
เซียวชูหรันพูดยิ้มๆ “ฉันเฝ้ารอเวลานี้มานานแล้ว จะพลาดได้ยังไง”
ต่งรั่งหลินพยักหน้ายิ้มๆ “ก็ใช่ แกชอบกู้ชิวอี๋มาตลอดเลยนี่นา”
ขณะที่พูด เธอก็มองไปที่เย่เฉิน เอ่ยอย่างแฝงความนัย“ไ้อ้หยา คิดไม่ถึงเลยนะเนี่ยว่าเย่เฉินก็ชอบกู้ชิวอี๋ด้วย!”