ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 2979
แต่ในตอนนี้ หญิงสาวทั้งสองต่างก็ไว้ผมยาวปะบ่าเหมือนกัน ดูหวานแหววเรียบร้อยไม่มีใครยอมใคร ดังนั้นเซียวชูหรันแทบจะจำภาพสองสาวยอดนักสู้ในสังเวียนในตอนนั้นไม่ได้เลย
เมื่อผู้หญิงห้าคนนี้นั่งแถวเดียวกัน พูดได้เลยว่าเป็นอะไรที่ละลานตา มีสีสัน เหมือนห้าบุปฝาอันล้ำค่า
ในตอนที่เซียวชูหรันกำลังตะลึงงันอยู่นั้น ซ่งหวั่นถิงก็เป็นฝ่ายเอ่ยพูดขึ้นมาว่า “สวัสดีค่ะนายหญิงเย่ ไม่เจอกันนานเลยนะ!”
ก่อนหน้านี้ เพื่อนสนิทของเซียวชูหรันอย่างจางเสี่ยวม่านแต่งงาน เพื่อไม่ให้จางเสี่ยวม่านขายหน้าพ่อแม่สามี เขาจึงพาเธอไปตัดชุดแต่งงานที่ร้านของซ่งหวั่นถิง ในตอนนั้น ซ่งหวั่นถึงกับมาบริการด้วยตัวเอง แล้วก็เป็นครั้งนั้น ที่เซียวชูหรันกับซ่งหวั่นถิงได้เจอและติดต่อกัน
ในตอนนี้เองซ่งหวั่นถิงก็เป็นฝ่ายเอ่ยทักทายตัวเองก่อน เซียวชูหรันรู้สึกประหม่าเล็กน้อย กระวีดกระวาดพูดขึ้นมาว่า “สวัสดีค่ะคุณซ่ง ไม่เจอกันเลยนะ!”
ในตอนนี้เอง เฉินเสี่ยวจาวที่อยู่ข้างๆก็เอ่ยพูดขึ้นมาเช่นกันว่า “สวัสดีค่ะนายหญิงเย่!”
เซียวชูหรันรีบพูดว่า “สวัสดีค่ะคุณเฉิน! ก่อนหน้านี้ต้องขอบคุณคุณกับหมอเทพซือที่ช่วยพ่อของฉันด้วยนะคะ ไม่ทราบว่าช่วงนี้หมอเทพซือสบายดีหรือเปล่า? “
เฉินเสี่ยวจาวยิ้มเล็กน้อย เอ่ยพูดว่า “คุณตาสบายดีค่ะ นายหญิงเย่หายห่วงได้”
อิโตะ นานาโกะกับฉินเอ้าเสวี่ยนสบตากัน พร้อมกับมองมาที่เซียวชูหรันพร้อมกัน จากนั้นก็เอ่ยพูดอย่างเคารพว่า “สวัสดีค่ะคุณหญิงเย่!”
“ฉันฉินเอ้าเสวี่ยน”
“ส่วนฉันอิโตะ นานาโกะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ!”
เย่เฉินรีบเอ่ยแนะนำเซียวชูหรันว่า “อ้าวเสวี่ยนเป็นลูกสาวของประธานฉินก่าง ฉินก่างเป็นพ่อค้าผลิตภัณฑ์ยารายใหญ่ในเมืองจินหลิน ร่วมงานกับหมอเทพซือค่อนข้างบ่อย”
“ส่วนคุณอิโตะเป็นนักมวยที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ก่อนหน้านี้เธอเคยขึ้นชกกับเอ้าเสวี่ยนที่เมืองจินหลิงมาก่อน และทั้งสองก็กลายมาเป็นเพื่อนกันระหว่างการแข่งกันด้วย”
คราวนี้เซียวชูหรันเข้าใจทุกอย่างในทันที เอ่ยพูดออกไปว่า “อ๋อ….ฉันคิดออกแล้ว คุณฉินก็คือคนที่สื่อต่างๆก็พูดว่าเป็นนักมวยมีพรสวรรค์ที่หายากในประเทศนี่เอง!พอพูดถึงคุณอิโตะ ฉันก็พอจะนึกออกแล้ว แต่ว่าตัวจริงของพวกเธอกับในข่าวไม่ค่อยเหมือนกันเลย…..”
ฉินเอ้าเสวี่ยนพูดยิ้มๆว่า “พ่อฉันก็บอกว่าตอนชกมวยฉันไม่เหมือนผู้หญิงเลย เพราะงั้นเวลาแต่งตัวในชีวิตประจำวันฉันจึงพยายามทำให้ตัวเองเหมือนผู้หญิงให้ได้มากที่สุด จึงไม่แปลกที่ภาพจำของฉันในสายตาของนายหญิงเย่จะแตกต่างกัน”
เซียวชูหรันพยักหน้า แล้วพูดยิ้มๆว่า “คิดไม่ถึงเลยว่าคุณฉินก็เป็นแฟนคลับกู้ชิวอี๋ มากไปกว่านั้นคุณอิโตะก็ชอบด้วยเหมือนกัน…”
อิโตะ นานาโกะประกบสองมือไว้ข้างหน้า แล้วโค้งตัวลงเล็กน้อย เอ่ยพูดอย่างจริงจังว่า “นายหญิงเย่ คุณกู้ดังที่ญี่ปุ่นมากเลยนะคะ อัลบั้มของเธอขายดีมากที่ญี่ปุ่น เพื่อนฉันมีคนชอบคุณกู้อีกตั้งเยอะ ส่วนฉันเป็นแฟนนัมเบอร์วันของเธอเลยล่ะค่ะ”
เซียวชูหรันคิดไม่ถึงว่าสาวญี่ปุ่นคนนี้จะโค้งเก่งขนาดนี้ จึงเริ่มทำตัวไม่ถูก เธอเลยโค้งตอบอย่างมีมารยาท “คุณอิโตะมาดูคอนเสิร์ตขนาดนี้ สมกับป็นแฟนคลับนัมเบอร์วันจริงๆค่ะ”
อิโตะ นานาโกะมองมาที่เย่เฉิน ใบหน้าน่ารักแดงระเรื่อขึ้นมา แล้วเอ่ยพูดว่า “ที่จริงแล้ว….ก็รู้สึกผิดเหมือนกันนะคะ ฉันมาดูคอนเสิร์ตที่เมืองจินหลิงครั้งนี้เป็นแค่แผนสำรอง จริงๆแล้วฉันมีจุดประสงค์สำคัญอย่างอื่นต่างหากล่ะคะ”
เซียวชูหรันไม่รู้ว่าจุดประสงค์ของอิโตะ นานาโกะคืออะไร คิดว่าที่อีกฝ่ายมาที่เมืองจินหลิงคงมาทำธุระสำคัญ แล้วถือโอกาสมาดูคอนเสิร์ตด้วย ดังนั้นจึงพูดขึ้นมาว่า “แบบนี้ก็ดีเลยค่ะ เดินทางครั้งหนึ่งได้ทำตั้งหลายอย่าง”
เย่เฉินที่ได้ยินคำพูดแฝงความนัยของอิโตะ นานาโกะ ก็เริ่มรู้สึกอึดอัด แอบพึมพำเงียบๆว่า “ุถ้าปล่อยให้พวกเธอถามไถ่กันต่อล่ะก็ ไม่รู้ว่าพวกเธอจะสื่อความนัยอะไรออกมาอีก”
ดังนั้น เขาจึงรีบพูดกับทุกคนว่า “เอาล่ะ พวกเธอนั่งเถอะ ที่นั่งของพวกฉันอยู่ข้างใน ต้องขอตัวก่อนแล้วกัน!”