ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3185
ในขณะเดียวกัน ว่านพั่วจวินก็อยู่ในเย่นจิงเช่นกัน เขานอนไม่หลับ
พึ่งผ่านเที่ยงคืน เขาก็ฉีกปฏิทินของวันพรุ่งนี้ทิ้ง แล้วมองดูสี่คำนี้ วันที่สี่เดือนสี่ อย่างตกอยู่ในภวังค์
เฉินจงเหล่ยรวมถึงทหารนับพันนายของสำนักว่านหลงพ่ายแพ้ที่ซีเรีย ทำให้เขารู้สึกโกรธมาก แต่แล้วเมื่อใกล้เข้าวันที่ห้าเดือนสี่เข้ามาเรื่อยๆ เขาก็ไม่สนใจว่าเฉินจงเหล่ยจะเป็นหรือตาย รวมถึงการสู้รบที่สำนักว่านหลงพ่ายแพ้
เขาในตอนนี้ แค่อยากแก้แค้นให้พ่อแม่ของตนเอง ให้พ่อแม่ของตนนอนตายตาหลับ
จุดนี้ ว่านพั่วจวินกับเย่เฉินคิดเหมือนกัน เขาสองคนเป็นลูกกตัญญู ล้วนรำลึกนึกถึงความแค้นของพ่อแม่ ทั้งคู่มีความมุ่งมั่นที่จะล้มล้างทุกสิ่งและได้ทุกอย่างกลับคืนมา
ตอนนี้ ว่านพั่วจวินเดินออกมาจากห้อง แล้วยืนอยู่ในสวน เขามองดูโลงศพราคาถูกสิบกว่าโลง ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาต
ในตอนนี้เอง ลู่เห้าเทียนแม่ทัพผู้มีความสามารถของเขา ก็เอ่ยปากถามว่า ท่านประมุขครับ ทำไมท่านถึงยังไม่พักผ่อนครับ?
นอนไม่หลับ ว่านพั่วจวินพูดพึมพำ แล้วพูดอย่างไม่อยากยอมแพ้ต่อโชคชะตาว่า ถ้าเย่ฉางอิงยังมีชีวิตอยู่ก็ดีสินะ ฉันจะได้ลงมือตัดหัวมัน ต่อหน้าหลุมศพของพ่อกับแม่ฉัน เพื่อให้ดวงวิญญาณของพวกเขาเป็นสุขอยู่ในสวรรค์!
ลู่เห้าเทียนรีบกล่าวว่า ท่านประมุขครับ คุณไม่จำเป็นต้องคิดแบบนี้ ถ้าหากตอนนี้เย่ฉางอิงยังมีชีวิตอยู่ เขาก็จะมีชีวิตอีกยี่สิบกว่าปีไม่ใช่หรอครับ?นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เขาสบายเกินไปน่ะสิครับ!
พูดจบ ลู่เห้าเทียนก็พูดอีกว่า อีกทั้งท่านประมุข จากที่ผมตรวจสอบ พบว่าตอนนั้นเย่ฉางอิงตายอย่างทรมาน ได้ยินมาว่าตอนที่เขาโดนรถชน อวัยวะภายในของ ถูกพวงมาลัยบีบอัดจนฉีกขาด เมียของเขายิ่งเลวร้ายไปกันใหญ่ เธอติดอยู่ในที่นั่งฝั่งคนขับไม่สามารถออกมาได้ ถูกเผาให้ตายทั้งเป็น
อืม…… ว่านพั่วจวินพยักหน้า แล้วพูดอย่างเรียบเฉยว่า พวกเขาตายอย่างทรมาน ฉันค่อยรู้สึกสบายใจหน่อย
ลู่เห้าเทียนกล่าวอีกว่า ท่านประมุขครับ ถ้าคุณยังรู้สึกไม่สะใจ ผมจะพาคนแบกโลงศพไปที่ตระกูลเย่เดี๋ยวนี้เลยครับ!
ว่านพั่วจวินโบกมือไปมา แล้วกล่าวว่า เรื่องแบบนี้ ทำตอนกลางวันแสกๆให้ทุกคนตกตะลึงดีกว่า พรุ่งนี้ฉันไม่เพียงแต่จะให้ตระกูลเย่รับรู้ว่าถึงวันหายนะของพวกมันแล้ว และฉันก็จะทำให้ทุกตระกูลในเย่นจิงรู้ว่า ลูกชายของว่านเหลียนเฉิงกลับมาแล้ว!
พูดจบ เขาก็จ้องไปที่โลงศพพวกนั้น แล้วพูดอย่างเย้ยหยันว่า คืนนี้ ให้คนของตระกูลเย่นอนหลับเป็นคืนสุดท้าย พรุ่งนี้เวลาสิบโมงตรง ให้แบกโลงศพพวกนี้ไปที่ตระกูลเย่!
รับทราบครับ ท่านประมุข!
……
วันรุ่งขึ้น เย่เฉินตื่นตั้งแต่เช้า
วันนี้ก่อนที่จะเริ่มพิธีไหว้บรรพบุรุษทุกคนจะต้องประชุมกันก่อน ดังนั้นคนในตระกูลเย่รวมถึงญาติห่างก็ต้องเข้าร่วมด้วย
ถ้าหากเป็นเมื่อวาน เย่เฉินคิดว่าดูน่าเบื่อไปหน่อย ขอแค่ตัวเองมาถึงก็พอ อาจจะเช้าหรือสายกว่านี้ก็ไม่เป็นอะไร
แต่วันนี้ สำหรับเขาแล้ว ทุกอย่างมีความหมายเปลี่ยนแปลงไปราวฟ้ากับเหว
ถ้าหากอยากเป็นผู้นำตระกูลเย่ วันนี้สำหรับเย่เฉินแล้ว มันสำคัญเป็นพิเศษ
เพราะว่า วันนี้เขาที่จากตระกูลเย่มานานกว่ายี่สิบปี จะกลับมาอย่างเป็นทางการ
ดังนั้น สำหรับเขาแล้ววันนี้ สำคัญมากๆ
กู้เย้นจงกับหลินหว่านชิวสองสามีภรรยาตื่นกันเช้ากว่า
พอเห็นว่าเย่เฉินเก็บสัมภาระเรียบร้อยเดินออกมาจากห้องรับแขก แกทั้งยังสวมเสื้อยืดกับกางเกงยีน หลินหว่านชิวก็รีบก้าวออกมาพูดว่า เฉินเอ๋อ นายมาครั้งนี้ไม่ได้เตรียมชุดสูทมาด้วยหรอ?
เย่เฉินรีบกล่าว น้าหลินครับ ก่อนหน้านี้พ่อบ้านถังบอกกับผมแล้ว เสื้อผ้าสำหรับพิธีไหว้บรรพบุรุษเป็นชุดที่ตระกูลเย่สั่งตัดเอง ดังนั้นผมเลยไม่ได้นำมาด้วย
หลินหว่านชิวพยักหน้า แล้วพูดอย่างจริงจังว่า วันนี้เป็นวันแรกที่นายกลับตระกูลเย่ ความประทับใจแรกเป็นสิ่งที่สำคัญมากนะจ๊ะ ห้ามสวมเสื้อผ้าตามอำเภอใจเกินไป ให้คนอื่นดูถูกดูแคลนนายได้!
พูดจบ เธอก็ดึงเย่เฉินมา แล้วพูดอย่างยิ้มๆว่า หลายวันก่อนน้าได้ให้คนสั่งตัดชุดสูทให้กับนาย นายรับไปลองดูสิว่าพอดีตัวไหม!