CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา - บทที่ 13 เงาชั่วร้าย

  1. Home
  2. ผู้กล้าเหนือกาลเวลา
  3. บทที่ 13 เงาชั่วร้าย
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บทที่ 13 เงาชั่วร้าย

“พวกเราไป!” สายตากางเขนกวาดไปทางหัวหน้าเหลย ส่วนร่างกายก็ถอยกลับอย่างไม่ลังเล หลวนยากับผีเถื่อนที่อยู่ข้างๆ ก็ถอยกลับอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน

สวี่ชิงหรี่ตาลง มองร่างเงาของหัวหน้าเหลยที่เดินไปทางฝูงหมาป่า มองพลังวิญญาณที่ระเบิดมาจากตัวเขา ใช้อานุภาพสยบฝูงหมาป่า

เขาไม่ขยับเท้า ในมือชูเหล็กแหลมขึ้นเล็กน้อย คมเหล็กเย็นวาบออกมา

“เด็กน้อย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมหัวหน้าเหลยจึงเป็นหัวหน้า” กางเขนที่บินกระโจนออกห่างไปแล้ว ส่งเสียงแว่วกลับมา

“ไม่ใช่แค่เพราะหัวหน้าเหลยมีพลังบำเพ็ญรวมปราณขั้นหกที่สูงกว่าข้า แต่ที่มากกว่านั้นคือการแบกรับภาระและการตัดสินใจในช่วงจังหวะการเผชิญหน้าอันตรายของหัวหน้าอย่างเขาต่างหาก”

ตอนที่เสียงของกางเขนส่งเข้ามา ก็มีเสียงครืนครันเสียงหนึ่งดังก้องสะท้อนในจุดที่เขาอยู่

นั่นเป็นต้นไม้ใหญ่ขนาดสองร้อยจั้งต้นหนึ่งถูกกางเขนใช้ธนูในมือยิงจนหัก ร่วงโครมลงพื้น

ผีเถื่อนเองก็เช่นกัน เขี้ยวหงส์ก็ทำเหมือนกัน ต้นไม้ใหญ่กลายมาเป็นกำแพงกำบังทีละต้นๆ เหลือช่องว่างเป็นทางออกด้านหลังช่องหนึ่ง กางเขนกับเขี้ยวหงส์ไม่ได้หยุดนิ่ง แต่พุ่งทะยานออกไปอีกครั้ง

มีเพียงผีเถื่อนที่มือข้างหนึ่งถือโล่ อีกข้างถือกระบองหมาป่าเท่านั้นที่ยังอยู่ที่เดิม พิงอยู่ข้างต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งราวกับภูเขาขนาดย่อมคอยคุ้มกันอยู่ตรงนั้น

ขณะเดียวกัน ทางหัวหน้าเหลยก็ระเบิดพลังฉับพลัน สองมือส่องแสงเจิดจ้า พุ่งเข้าไปหาฝูงหมาป่า

เมื่อฝูงหมาป่าทุกตัวที่กระทบกับตัวเขาในทุกแห่งที่พุ่งผ่าน ก็ล้วนเสียเลือดเสียเนื้อจนตายกันหมด

เพียงแต่ฝูงหมาป่ามากเกินไป เพียงไม่นานเงาของหัวหน้าเหลยก็ถูกปกคลุมอยู่ด้านใน

มีเพียงเสียงครืนครันกับเสียงหมาป่าหอนออกมาต่อเนื่องไม่หยุดเท่านั้น เวลานี้เองกางเขนที่ห่างออกไปก็ คำรามเสียงต่ำออกมาด้วยเช่นกัน

“เด็กน้อย มารวมกับพวกเรา มีโอกาสให้เจ้าลงมือแล้ว!”

ในใจสวี่ชิงคาดเดาออกแล้วว่านี่คือแผนยุทธศาสตร์ของกลุ่มสายอัสนี จึงไม่ลังเลรีบพุ่งไปหาผีเถื่อน

ผีเถื่อนแสยะยิ้ม ชี้ไปยังร่องทางออกด้านหลังตนเอง สวี่ชิงมองเขาผาดหนึ่ง ก็มุดตัวผ่านร่องไล่ตามกางเขนกับเขี้ยวหงส์ไป

เพียงไม่นาน เขาก็มองเห็นเขี้ยวหงส์ที่กำลังสาละวนอยู่ในพื้นที่ที่ถูกสะสางไปแล้วผืนหนึ่ง มีท่อนไม้ขวางไว้ทั้งสี่ด้าน

นางหยิบผงฝุ่นในตัวออกมามากมายสาดออกไปรอบทิศ ทั้งยังกัดนิ้วจนแตก ใช้เลือดสดวาดบางสิ่งที่คนนอกมองไม่ออกบนพื้น

เมื่อเห็นสวี่ชิง นางเองก็ไม่มีเวลาพูดคุย สายตาส่งสัญญาณให้สวี่ชิงรีบเดิน

สวี่ชิงกวาดตาผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ลังเล จนกระทั่งห่างจากเขี้ยวหงส์ไปทางด้านหลังสองร้อยจั้ง เขาก็มองเห็นกางเขนที่นั่งยองอยู่บนต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง

ต้นไม้ต้นนี้สูงราวกับว่าเป็นจุดสูงสุดที่สามารถมองเห็นสนามรบโดยรอบได้ กางเขนที่นั่งยองอยู่ตรงนั้น มองสวี่ชิงที่เข้ามาใกล้ด้วยความเร็ว ส่งเสียงต่ำพูดออกมาว่า

“ด้านหลังของข้าที่ห่างออกไปสองร้อยจั้ง เจ้ารับผิดชอบเสีย!”

สวี่ชิงพยักหน้าหนักๆ เข้าใจแผนยุทธศาสตร์ของกลุ่มสายอัสนีจนกระจ่างแล้ว

เมื่อกระโจนออกไปถึงบริเวณเขตสองร้อยจั้ง เขาก็กวาดตามองไปรอบทิศทันที ไม่ได้ไปเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมใดๆ แต่ซ่อนตัวอยู่ในโคลนตมใต้ท่อนไม้แห่งหนึ่ง

ไม่ขยับเขยื้อนเหมือนกับตอนที่รอล่าเหยื่อในซากเมืองก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยน

พริบตาที่เขาซ่อนตัว ห่างออกไปก็มีเสียงครืนครันรางๆ ดังแว่วมา

สวี่ชิงมองไม่เห็นภาพที่ห่างออกไปแปดร้อยจั้งเพราะต้นไม้บดบัง แต่เขาสัมผัสได้ถึงความร้อนแรงของการต่อสู้ที่นั่น

และความจริงก็เป็นเช่นนั้น ตอนนี้ร่างของหัวหน้าเหลยที่ห่างออกไปแปดร้อยจั้งพุ่งออกมาจากในฝูงหมาป่า แม้ว่าเขาจะระดับรวมปราณขั้นหก แต่ก็เลี่ยงความอับจนซมซานในสภาพที่ใช้พลังเยอะไม่ได้เช่นนี้ได้ยากเช่นกัน

ยังดีที่เขาควบคุมพลังวิญญาณตนเองได้เฉียบคม รักษาสภาพเอาไว้ครึ่งหนึ่ง ถอยกรูดไปทางผีเถื่อนท่ามกลางการไล่กวดโจมตีของหมาป่าเกล็ดดำ

ผีเถื่อนยิ้มเหี้ยมเกรียม ยกกระบองเขี้ยวหมาป่าในมือขึ้น พริบตาที่หัวหน้าเหลยกระโจนผ่านข้างกายเขาไปก็ฟาดหมาป่าเกล็ดดำที่ไล่เข้ามาอย่างจัง

กางเขนที่คุมอยู่บนจุดสูง สองตาก็จับจ้องเขม็งขึ้นในพริบตานั้น ง้างสายธนูแกร่งในมือขึ้นฉับพลัน

ลูกศรที่แปรมาจากพลังวิญญาณหลายดอกนำเสียงคมกริบหวีดหวิวพุ่งออกมาจนเป็นรอยทางลมหลายสาย สาดลงไปยังฝูงหมาป่าเพื่อสนับสนุนผีเถื่อน

ขณะที่เสียงกรีดร้องแหลมดังก้องขึ้นอีกครั้ง หัวหน้าเหลยก็ออกมาจากสถานที่ที่ผีเถื่อนอยู่ ตรงเข้าหาเขี้ยวหงส์ ด้านหลังของผีเถื่อนที่ยืนอยู่ราวกับขุนเขาเหนือพสุธา ขวางกั้นทั้งหมดเอาไว้เพียงลำพัง

และเช่นนี้ สวี่ชิงที่ซ่อนตัวอยู่ในบ่อโคลน เมื่อมองเห็นหัวหน้าเหลยเป็นคนแรกที่กลับมาพุ่งผ่านข้างกายเขี้ยวหงส์กับกางเขน

หัวหน้าเหลยตอนทะยานผ่านข้างกายสวี่ชิง สายตาก็เหลือบเห็นจุดที่เขาซ่อนตัวอยู่ แต่ไม่มีเวลาพูดจึงแค่พยักหน้า จากนั้นก็ตรงออกไปด้านหลังสองร้อยจั้ง นั่งลงขัดสมาธิแล้วกลืนลูกกลอนขาวลงไป ทำการปรับสภาพเพื่อเตรียมความพร้อมกับการลงมือรอบต่อไป

นี่คือแผนการถอยร่นของกลุ่มสายอัสนี

หัวหน้าเหลยในฐานะที่แกร่งที่สุด จึงเข้าขัดขวางเป็นคนแรก ผีเถื่อนเป็นตัวสกัดด่านที่สอง ตอนที่แรงใกล้จะหมดเขาก็จะถอยร่น จากนั้นภารกิจการสกัดฝูงหมาป่าก็จะถูกเขี้ยวหงส์รับช่วงต่อ จากนั้นก็เป็นกางเขน

และก็วนซ้ำกลับไปใหม่เช่นนี้ พวกเขาก็จะมีเวลาพักของตนเองได้

นี่เป็นวิธีการต่อสู้ที่เหมาะสมที่สุดของกลุ่มเล็กๆ ในพื้นที่ต้องห้ามที่ไอพลังประหลาดเข้มข้น

และคนที่เหนื่อยที่สุดในนี้ก็คือหัวหน้าเหลยกับกางเขน

คนแรกขวางเอาไว้นานที่สุด สังหารหมาป่ามากที่สุดเพื่อช่วงชิงเวลาที่มากขึ้นให้กับสหายด้านหลัง

ส่วนคนหลังนอกจากจะต้องเป็นคนที่คอยสกัดกั้นหมาป่าแล้ว ยังต้องรับประกันความปลอดภัยตอนที่สหายล่าถอยจากมุมสูงอีกด้วย

พูดได้ว่าการจัดวางตำแหน่งของทุกคนล้วนสำคัญอย่างมาก และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการรู้ใจกันและความเชื่อมั่นซึ่งกันและกันของพวกเขา!

“นี่คือกลุ่มของคนเก็บกวาดหรือ…”

สวี่ชิงสายตาเผยความเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ซ่อนตัวไม่ขยับเขยื้อน ตามเวลาที่ไหลผ่าน ไม่นานเขาก็มองเห็นร่างหอบหายใจของผีเถื่อนเข้ามาใกล้

และผ่านไปอีกครู่หนึ่ง ก็เห็นร่างของเขี้ยวหงส์ที่กำลังกุมหน้าอก ใบหน้าซีดขาว

สุดท้ายที่วิ่งผ่านตัวเขาไป ก็คือกางเขน

เขาใบหน้าหล่อเหลาเย็นชา ดูแล้วเหมือนปกติดี แต่สวี่ชิงก็สัมผัสได้ถึงคลื่นพลังวิญญาณที่เกือบจะเหือดแห้งไปแล้ว ฝูงหมาป่านับไม่ถ้วนกำลังคำรามไล่ด้านหลังของเขา

ตอนที่ผ่านสวี่ชิงไป กางเขนเหมือนจะผ่อนช้าลงเล็กน้อย

“ข้าไหว” สวี่ชิงเห็นถึงเจตนาจะไม่พูดของอีกฝ่าย จึงเอ่ยขึ้นเสียงหนัก

กางเขนไม่พูดอะไร โซซัดโซเซจากไป เพียงพริบตาเดียวฝูงหมาป่าก็คำรามกรูกันเข้ามา

ลมที่ถูกกระพือพัดขึ้นผ่านใบหน้าของสวี่ชิงมีกลิ่นสาปส่งมาด้วย โดยเฉพาะสิบกว่าตัวที่อยู่ด้านหน้าสุด ร่างดำขลับตาแดงฉาน ทั่วทั้งตัวแผ่ซ่านความโหดร้ายและบ้าคลั่งออกมา

เห็นได้ชัดว่าการจัดวางกลยุทธ์รอบแรกของกลุ่มสายอัสนี ทำให้พวกมันได้รับการบาดเจ็บล้มตายไปไม่น้อยเลย ทำให้หมาป่าเกล็ดดำเหล่านี้บ้าคลั่งกันขึ้นมาเพราะถูกกระตุ้นจากกลิ่นคาวเลือด

เวลานี้พวกมันเหมือนกับไม่ได้สนใจสวี่ชิงที่กำลังซ่อนตัวเลย แต่กำลังวิ่งไล่กางเขน

และพริบตาตอนที่พวกมันมาถึง กริชเล่มหนึ่งก็ลอยออกไปฉับพลัน เสียงวูมเสียงหนึ่งเข้ามาใกล้ พุ่งแทงไปที่หน้าผากหมาป่าเกล็ดดำตัวหน้าสุด

ความแรงของระดับพลัง ทะลวงจนทะลุในพริบตา

หมาป่าเกล็ดดำส่งเสียงร้องแหลมออกมา ดับดิ้นลงทันควัน ขณะที่ศพร่วงลงบนพื้น ร่างของสวี่ชิงก็ไหววูบพุ่งออกไปราวสายอัสนี

เหล็กแหลมสีดำในมือเปล่งคมเย็นเยียบ แทงเข้าไปในดวงตาของหมาป่าเกล็ดดำอย่างรุนแรง หลังจากแทงทะลุส่วนหัว ร่างของเขาก็ไหววูบมือซ้ายกำหมัด ออกแรงซัดไปยังหมาป่าตัวที่สามที่คิดจะลอบโจมตีเข้ามา

หัวหมาป่าระเบิดยับทันที เลือดสดสาดมาบนตัวสวี่ชิง

สังหารหมาป่าสามตัวในพริบตา สวี่ชิงร่างไหววูบอีกรอบ

ความเร็วของเขาเผยออกมาอย่างสมบูรณ์แบบในตอนนี้

ร่างทั้งร่างคล่องแคล่วไร้เทียมทาน ราวกับรากษส[1]ออกสังหาร เดินทะลวงฝ่าเข้าไปในฝูงหมาป่า สายตาเย็นเยียบ ลงมืออย่างเด็ดขาด

เสียงกรีดร้องก่อนตายของหมาป่าเกล็ดดำก็ดังลั่นไปทั่วทิศทีละตัวๆ เพราะความแหลมคมของเหล็กแหลมสีดำ

บนตัวเขามีเลือดหมาป่าเพิ่มมากขึ้นเรื่อย สองมือก็ถูกย้อมจนเป็นสีแดงสด แม้จะเหนียวไปบ้าง แต่เหล็กแหลมที่กำอยู่ก็ยังคงเหนียวแน่น สีของเหล็กแหลม เวลานี้ก็เปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยเช่นกัน

เพียงแต่ฝูงหมาป่าก็ยังกระจายตัวออกเป็นกลุ่ม สุดท้ายก็มีส่วนหนึ่งที่พุ่งกระโจนเข้ามาหาเขา

และยังมีเขี้ยวเล็บบางส่วนสร้างแผลไว้บนตัวเขาแล้ว

แต่ภายใต้ความเร็วของสวี่ชิง ส่วนแรกเขาฝืนพุ่งเข้าไปขวาง ส่วนอย่างหลัง…พลังฟื้นฟูที่น่ากลัวของผลึกวารีสีม่วงของเขา ก็สำแดงผลอันมหัศจรรย์ในศึกนี้

แผลถลอกด้านนอกทั้งหมดล้วนถูกผสานอย่างรวดเร็วในชั่วอึดใจ ส่วนบาดแผลที่ค่อนข้างหนักก็ไม่มีเลือดไหลอีกแล้ว

ฉากนี้ เพราะว่าเขามีเลือดหมาป่าอยู่เต็มไปหมด ดังนั้นคนนอกจึงมองไม่ออกและเมื่อเทียบกับการรักษาอาการบาดเจ็บ การฟื้นฟูพลังกายของเขาก็น่ากลัวยิ่งกว่า พลังสู้ต่อเนื่องของทั้งร่างยืดยาวอย่างน่าตกตะลึง

ดังนั้นจึงค่อยๆ มีศพหมาป่ารอบๆ ตัวเขา ความคมกริบในดวงตาก็เย็นชาขึ้นเรื่อยๆ เวลาในการยืนหยัดก้าวข้ามคนทั้งหมดไป จนทำให้ฝูงหมาป่ารอบๆ เริ่มปรากฏแววตกใจกลัวขึ้นมาบ้างแล้ว

มองไกลออกไป แสงตะวันส่องลอดใบไม้ที่หนาแน่นสาดลงมาบนตัวเขา แสงที่หักเหแผ่ซ่านออกตามเลือดบนตัวเขา ราวกับจะทำให้เขากลายเป็นแสงเลือดสายหนึ่ง

และฉากนี้ ก็ถูกหัวหน้าเหลยที่ห่างไปด้านหลังสองร้อยกว่าจั้งกับกางเขนที่อยู่บนที่สูงที่ไกลกว่ามองเห็นเข้าแล้ว

ทั้งจิตใจสองคนล้วนเกิดระลอกคลื่น เห็นได้ชัดว่าถูกความห้าวหาญและความแข็งแกร่งของสวี่ชิงสั่นสะเทือนเข้าแล้ว

“เด็กน้อย ถอยไป!” หัวหน้าเหลยเอ่ยขึ้นกะทันหัน

สวี่ชิงยังมีแรงเหลือ แต่เขาก็รู้สึกได้ถึงการใช้พลังวิญญาณสิ้นเปลืองอย่างหนัก

ผลึกวารีสีม่วงแม้จะสามารถฟื้นฟูกำลังวังชาและอาการบาดเจ็บได้ แต่พลังวิญญาณที่ถูกใช้ก็ไม่สามารถชดเชยกลับได้

ยังดีที่เขาฝึกกายา ไม่เหมือนกับเขี้ยวหงส์ที่พอไม่มีพลังวิญญาณก็จะลงมือต่อไม่ได้

แต่ในที่สุดก็ยังส่งผลกระทบมาบ้างอยู่ดี ทำให้เขาจำใจต้องสูดรับเอาพลังวิญญาณที่ปนเปื้อนไอพลังประหลาดเข้มข้นรอบๆ เข้ามา ความเจ็บปวดของจุดกลายพันธุ์ที่แขนก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

ดังนั้นหลังจากที่ได้ยินคำพูดของหัวหน้าเหลย สวี่ชิงก็ไม่ชักช้า ถอยฉากออกทันที

แต่พริบตาที่เขาถอยฉาก หมาป่าเกล็ดดำที่ดวงตาไม่ได้แดงก่ำแต่เหลือตาดำอยู่เพียงข้างเดียวตัวหนึ่งก็กระโจนขึ้นโถมตัวมาทางสวี่ชิง

สายตาสวี่ชิงเปล่งประกายเย็นเยียบ เหล็กแหลมในมือกลายเป็นเส้นสีแดง แทงทะลุหัวของมันฉับพลัน ตอนที่กำลังจะถอยตัวหลบต่อ ทว่าตอนนี้เอง…

ภายใต้แสงตะวันพร้อย เขาไม่รู้ว่าเห็นภาพลวงตาหรือไม่ ศพหมาป่าเกล็ดดำที่ร่วงหล่นลงมาตัวนี้ เงาของมันราวกับบิดเบี้ยวขึ้นมา กางแผ่เข้าหาตัวสวี่ชิงอย่างรวดเร็วจากพื้นดิน

และแสงตะวันของจุดนี้กระจัดกระจายไม่เข้มข้นนัก ดังนั้นเขาจึงแน่ใจทั้งหมดนี้ไม่ได้ในตอนแรก พริบตาต่อมาเงานั้นก็กระทบเข้ากับร่างของเขา

ร่างกายสวี่ชิงสั่นสะท้านขึ้นฉับพลัน

จิตแห่งความชั่วร้ายที่ยากจะพรรณนาวูบหนึ่งคิดจะบุกรุกเข้ามาในร่างกายในพริบตานั้น

และในชั่วขณะนี้เอง ผลึกวารีสีม่วงซึ่งนอกเหนือจากพลังฟื้นฟูแล้วก็ไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรอีกตั้งแต่ต้นจนจบที่ถูกฝังอยู่ในทรวงอก กลับสั่นสะเทือนขึ้นอย่างรุนแรงในพริบตานี้ ความเย็นวาบวูบหนึ่งระเบิดออกมาจากภายใน

ความรู้สึกที่ถูกความชั่วร้ายรุกรานนั้นก็สลายหายไปทันทีจากการระเบิด

ความเย็นวาบนั้นมาอย่างรวดเร็วก็จากไปอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน เพียงพริบตาก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ผลึกวารีสีม่วงเองก็กลับสู่ปกติ ไม่ขยับเขยื้อนเหมือนกับก่อนหน้านี้

สวี่ชิงตกตะลึง แต่ตอนนี้ก็ไม่มีเวลาคิดมาก หลังจากที่ร่างกายฟื้นฟูแล้วเขาก็รีบทะยานถอยกลับ และฉากที่เห็นเมื่อครู่ ก็ล้วนเกิดขึ้นในพริบตาเดียวเท่านั้น ดังนั้นไม่ว่าจะหัวหน้าเหลยหรือว่ากางเขนที่อยู่ห่างออกไปก็ไม่สังเกตเห็นแม้แต่น้อย

ระหว่างการล่าถอยของสวี่ชิง หัวหน้าเหลยก็ก้าวออกมารับ ในดวงตายังคงเหลือความสั่นสะเทือนอยู่

“เจ้าทำได้ดีมาก รีบกลับไปพักผ่อนด้านหลังเถิด

“หมาป่าเกล็ดดำที่ใช้ชีวิตอยู่ในส่วนลึกพื้นที่ต้องห้าม ชอบสถานที่ที่มีไอพลังประหลาดเข้มข้น แต่พื้นที่รอบนอกเมื่อเทียบกับส่วนลึกแล้วไอพลังประหลาดเบาบางกว่ามาก ดังนั้นไม่ว่าพวกมันจะปรากฏตัวเพราะอะไร พวกมันก็ไม่ชอบที่นี่ ขอแค่สู้ยืดเวลาต่อสู้ไปนานๆ มันก็จะล่าถอยกันออกไปเอง”

พูดจบ พลังวิญญาณทั่วร่างหัวหน้าเหลยก็ระเบิดออก สาวเท้าก้าวใหญ่พุ่งตรงเข้าไปยังหมาป่าเกล็ดดำที่ไล่หลังสวี่ชิงมา

เงาของผีเถื่อนเองก็บินทะยานมาถึง เห็นได้ชัดว่าเขารอที่ด้านหลังอยู่นาน ในใจคงร้อนรนมากที่เวลาผ่านไปแล้วพอสมควร หลังจากที่เข้ามาถึงเมื่อมองเห็นเลือดสดที่อาบทั้งตัวสวี่ชิง รวมไปถึงศพหมาป่ามากมายไม่ห่างออกไปนัก เขาจึงสูดลมหายใจ แล้วเดินเข้ามาประคองตัวสวี่ชิง

“ไม่เป็นไร” สวี่ชิงไม่ยอมให้อีกฝ่ายเข้ามาประคอง หันหน้าไปมองหัวหน้าเหลย สุดท้ายจึงรีบเดินจากไปพร้อมกับสายตาเคารพเลื่อมใสของผีเถื่อน

ตอนเดินผ่านเขี้ยวหงส์ นางก็เหมือนจะได้รับข่าวมาแล้ว หลังจากที่เห็นสวี่ชิงสีหน้าก็มีแววตกตะลึง พอคิดๆ ดูก็ล้วงเอาถุงหนังใบหนึ่งโยนให้เขา

สวี่ชิงรับไป คลำเจอรูปร่างของยาลูกกลอนด้านใน ในใจก็รู้ว่าคือสิ่งใดจึงเอ่ยขอบคุณกับเขี้ยวหงส์ และรีบออกมาอย่างรวดเร็วจากสายตาของนาง จนกระทั่งมองเห็นกางเขน

กางเขนอยู่บนยอดไม้ไม่ส่งเสียง พยักหน้าให้กับสวี่ชิง สายตายอมรับชัดเจนอย่างมาก

สวี่ชิงเองก็ไม่พูดอะไร พยักหน้าเบาๆ เป็นสัญญาณตอบกลับ ขณะที่มาถึงด้านหลังสุด เขาจึงหาตำแหน่งแล้วนั่งลง พ่นลมหายใจออกมา จากนั้นหยิบลูกกลอนขาวออกมาสามเม็ด

เขาเริ่มสูดรับพลังวิญญาณรอบด้านเพื่อฟื้นฟูพร้อมการละลายของยาลูกกลอน

เวลาผ่านไปครึ่งชั่วยาม สวี่ชิงลืมตาขึ้น ความเหนื่อยล้าของจิตวิญญาณได้รับการผ่อนคลายแล้ว แต่ในดวงตาเผยความสับสนออกมา เขาพบว่าไอพลังประหลาดในร่างกายของตนเอง เหมือนกับว่า…เหลือไม่มากแล้ว

ก็เลยรูดแขนเสื้อขึ้นมอง ความงุนงงในดวงตาก็เปลี่ยนเป็นความตกตะลึงทันควัน

จุดกลายพันธุ์บนแขนเขา มัน…หายไปหนึ่งจุด!

แต่พลังบำเพ็ญยังคงเป็นฝึกกายาขั้นสองอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากที่ผ่านการสังหารก่อนหน้ามาก็ไม่ได้อ่อนแอลงแต่อย่างใด แต่กลับเฉียบคมขึ้นกว่าก่อนหน้าหลังจากผ่านการฟื้นฟูครั้งนี้เสียด้วยซ้ำ

โดยเฉพาะเขาจำขณะที่สังหารก่อนหน้านี้ทำให้ต้องดูดซับพลังวิญญาณเข้ามาได้อย่างชัดเจน จุดกลายพันธุ์ทั้งสองจุดยังเจ็บปวดเสียดแทงขึ้นมาอย่างรุนแรงอยู่เลย

ส่วนลูกกลอนขาว สวี่ชิงก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่าไม่เคยกิน ผลลัพธ์ก็ไม่ได้น่าตกตะลึงขนาดนี้ แต่เวลานี้เหมือนจะไม่มีคำอธิบายอื่นอีกแล้ว

นอกเสียจาก…เรื่องที่ผลึกวารีสีม่วงระเบิดขึ้นในพริบตานั้น

“เงา จิตแห่งความชั่วร้าย ผลึกวารีระเบิดไอเย็น…”

สวี่ชิงหรี่ตาลง ย้อนคิดกลับไปถึงเหตุการณ์ประหลาดก่อนหน้านี้

เขามั่นใจว่าตนเองเห็นฉากเงาพุ่งเข้ามาปะทะ ไม่ใช่ภาพลวงตาแน่นอน และยิ่งไม่ได้เข้าใจผิดว่าเพราะแสงตะวันสาดส่องเข้ามาด้วย

ก็เลยย้อนคิดไปถึงฉากที่ผลึกวารีระเบิดไอเย็นออกมา เหมือนในพริบตานั้น จิตแห่งความชั่วร้ายที่เข้าจู่โจมตนเองถูกความเย็นนั้นพัดหาย ดูดกลับเข้าไปในผลึกวารี

“กินเข้าไปหรือ” สวี่ชิงคาดเดาขึ้นมาอย่างตกตะลึง

[1] รากษส [ราก-สด] น. ยักษ์, ผีเสื้อน้ำ, เป็นชื่อพวกอสูรเลว มีนิสัยดุร้าย ชอบเที่ยวตามป่า ทำลายพิธีและกินคน

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

นิยายที่คุณอาจสนใจ

6423cd40UKNyJli3
ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า
13 มิถุนายน 2024
NGWhY-1
คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า
7 กรกฎาคม 2024
62789bebSaP1P9fk
บันทึกตำนานราชันอหังการ [ 剑道第一仙 ]
8 กรกฎาคม 2024
645ca913j
กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี
8 กรกฎาคม 2024

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 13 เงาชั่วร้าย"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์