CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ผู้พิทักษ์รัติกาลแห่งต้าฟง - บทที่ 137 อวี้อ๋อง

  1. Home
  2. ผู้พิทักษ์รัติกาลแห่งต้าฟง
  3. บทที่ 137 อวี้อ๋อง
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บทที่ 137 อวี้อ๋อง
สวี่ชีอันเดินตามนักบวชเต๋าเด็ก ผ่านวิหารด้านหน้า ผ่านลานกว้าง ผ่านห้องต่างๆ และสวน มาถึงอารามรัตนะที่อยู่ลึกที่สุด

นี่คือสวนเล็กๆ ที่เงียบสงบ ต้นไม้ใบหญ้าโรยราไปหมดแล้ว มีศาลาและภูเขาจำลองตั้งตระหง่าน ในสระน้ำมีคลื่นสีเขียวกระเพื่อมขึ้นลง

นักพรตหญิงโฉมงามนั่งขัดสมาธิอยู่บนผิวน้ำในสระ สวมชุดไท๊เก๊ก ที่ศีรษะสวมมงกุฎดอกบัว ที่หว่างคิ้วแต้มจุดสีแดงด้วยชาด งดงามทั้งรูปโฉมและกิริยาท่าทาง

ใบหน้าของนางใสสะอาดราวกับเจียระไนจากผลึกน้ำแข็งไร้มลทิน จมูกโด่งเป็นสันสวยงาม ริมฝีปากอวบอิ่ม เวลาหลับตา ขนตาไขว้กันหนาราวกับขนแปรง

หลังจากสวี่ชีอันเข้ามาในสวนก็เอาแต่จ้องมองนาง เดินไปมองไป ตะลึงพรึงเพริดจนคาดเดาอายุนางไม่ได้

ความรู้สึกเหมือนผู้หญิงวัยเริ่มสุกงอมอายุเพิ่งจะ 30 และให้ความรู้สึกเหมือนผู้หญิงที่สุกจนหวานหยดย้อย หรือหากมองดีๆ ยังสามารถเห็นเสน่ห์อันบริสุทธิ์ที่ไร้เดียงสาและเหมือนต้องมนตร์ผสมผสานกันในตัวนาง

‘ข้าถึงกับเกิดความรู้สึกว่า จะต้องหาวิธีแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ให้ได้ เป็นเพราะข้าไม่ได้ใกล้ชิดกับความงามของผู้หญิงมานานเกินไปแล้ว หรือเพราะนิกายมนุษย์มีวิธีบำเพ็ญตบะที่พิเศษไม่เหมือนกัน…ยั่วยวนเหรอ’

ความคิดของสวี่ชีอันสับสน ขณะที่ภายนอกดูสงบ

“จินเหลียนเป็นคนให้เจ้ามาหาข้าเหรอ” ลั่วอวี้เหิงลืมตาคู่งาม อัตราส่วนของตาขาวและตาดำสมส่วน เป็นดวงตาที่งดงามมาก

“ใช่ พลังหยินนักบวชเต๋าจินเหลียนถูกทำลายอย่างหนัก ร่างกายก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน ดังนั้นจึงวานให้ข้ามาขอยาจวี้หยวนหนึ่งเม็ด”

หากเป็นเวลาปกติ สวี่ชีอันจะพูดว่า ‘ขอยาสองเม็ด’ แล้วก็เก็บค่านายหน้าโดยซ่อนไว้เองหนึ่งเม็ด

แต่เขาไม่คุ้นเคยกับลั่วอวี้เหิงผู้นำเต๋านิกายมนุษย์คนนี้ เพื่อตอบแทนบุญคุณนักบวชเต๋าจินเหลียนที่ช่วยชีวิตไว้ จึงพูดตามความจริงแต่โดยดี

อยู่ต่อหน้าผู้อาวุโสเช่นนี้จะทำตัวตามใจชอบ แสดงนิสัยที่แท้จริงออกมาไม่ได้เด็ดขาด หากทำเช่นนั้นมีแต่จะทำให้เสียแผน

“เจ้าเป็นสมาชิกของพรรคฟ้าดิน ถือหนังสือปฐพีเล่มที่เท่าไหร่” น้ำเสียงของลั่วอวี้เหิงไพเราะมาก มีเนื้อเสียงน่าฟัง มีเสน่ห์ดึงดูด ทำให้สวี่ชีอันนึกถึงนักพากย์ในภพก่อน

“เล่มที่สาม” สวี่ชีอันตอบ

ลั่วอวี้เหิงพยักหน้า ดวงตาคู่งามจ้องหน้าเขา ไม่พูดอะไรเป็นเวลานาน ทันใดนั้นนางก็ทำเสียงเอ๊ะ สีหน้ามีแววฉงน

“ดวงชะตาของเจ้าแปลกมาก…บอกวันเดือนปีเกิดเจ้ามา” นักพรตหญิงโฉมงามถาม

สายลมพัดมา ชายเสื้อที่ห้อยอยู่บนผิวน้ำกวัดแกว่งไปมา จากมุมของสวี่ชีอันสามารถมองเห็นส่วนโค้งส่วนเว้าของสะโพกอวบอิ่มได้อย่างเลือนราง

นางสามารถมองเห็นความผิดปกติของข้าได้เหรอ สวี่ชีอันรีบบอกวันเดือนปีเกิดในทันที

มือเรียวงามของลั่วอวี้เหิงยื่นออกมาจากแขนเสื้อ นิ้วเรียวขยับไปมา คำนวณอยู่ครู่หนึ่ง คิ้วเรียวโค้งขมวดแน่น ราวกับประสบปัญหาที่ยากจะอธิบาย

สวี่ชีอันรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย แล้วถามอย่างมีความหวังว่า “ท่านราชครูเป็นอย่างไรบ้าง”

“ลิง” นางพูด

ปีลิงเหรอ นางพูดถึงสัญลักษณ์แทนปีเกิดของข้า เหมือนปีนักษัตรของภพก่อน…สวี่ชีอันพบว่าความคิดที่ไม่ชอบธรรมในใจของเขากำลังทำงาน

ผู้หญิงคนนี้มักทำให้ข้าอยากคุยเรื่องใต้สะดือกับนางโดยไม่รู้ตัว…นี่ไม่ใช่เพราะข้ามีปัญหาอย่างแน่นอน แต่เป็นเพราะนางที่ทำให้จิตใจข้าสกปรก…เป็นลักษณพิเศษของนิกายมนุษย์เหรอ อืม แล้วค่อยกลับไปถามนักบวชเต๋าจินเหลียนละกัน

ลั่วอวี้เหิงส่ายหน้า พูดด้วยน้ำเสียงที่เนื้อเสียงน่าฟัง “ไม่มีอะไรผิดปกติ”

นางไม่อยากพูดอะไรมากไปกว่านี้ หยิบแจกันกระเบื้องออกจากแขนเสื้อ งอนิ้วดีดเบาๆ แจกันกระเบื้องก็ลอยไปอยู่ตรงหน้าสวี่ชีอัน

“ขอบคุณท่านราชครู” สวี่ชีอันรับแจกันกระเบื้องมา และกอบหมัดกล่าวขอบคุณ

นางก็ไม่รู้ความเป็นมาของข้าเช่นเดียวกัน แต่นักบวชเต๋าจินเหลียนนั้น สามารถรู้สึกได้แค่เพียงรางเลือนเท่านั้น…สวี่ชีอันไม่คิดจะอาลัยอาวรณ์อีกต่อไป กล่าวลาแล้วก็จากไป

…

รถม้าแล่นเข้าสู่เขตพระราชฐาน แล้วหยุดที่ทางเข้าพระราชวัง เจียงลวี่จงซึ่งเป็นผู้ขับรถม้า กระโดดลงจากรถม้า แล้วหยิบบันไดไม้ออกมารับเว่ยเยวียนลงมา

ยกเว้นสมาชิกของราชวงศ์แล้ว ขุนนางห้ามขับรถม้า หรือขี่ม้าในเขตพระราชวัง

เว่ยเยวียนพาเจียงลวี่จงเข้าไปในพระราชวัง เมื่อเข้าใกล้ห้องทรงพระอักษร หลิวกงกงก็เดินมาต้อนรับ

“เว่ยกง ท่านมาเสียที” หลิวกงกงบ่นว่าไม่ขาดปาก “ฝ่าบาททรงให้ข้ามารอต้อนรับท่านที่นี่ รีบไปเถิด ฝ่าบาทกำลังทรงกริ้วอยู่ในห้องทรงพระอักษร”

เว่ยเยวียนพยักหน้าอย่างสงบ ราวกับว่าแม้ฟ้าถล่มลงมาก็ไม่สะดุ้งสะเทือน และก็ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากคำพูดของหลิวกงกง

“เมื่อครุู่นี้ขุนนางแก่สองสามคนเพิ่งจะกล่าวโทษท่านต่อหน้าพระพักตร์ฝ่าบาท…เฮ้อ ท่านจัดการเองก็แล้วกัน แต่ระวังไว้หน่อยก็ดี”

หลิวกงกงและเว่ยเยวียนเป็นพวกเดียวกัน เว่ยเยวียนเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณของกลุ่มขันทีทั้งหมด ขุนนางชั้นสูงในราชสำนักทุกคนคิดที่จะสอดแนมในวัง เป็นเรื่องยากมาก แต่เว่ยเยวียนสามารถทำได้อย่างง่ายดาย

เว่ยเยวียนมาถึงประตูห้องทรงพระอักษร ก็ได้ยินพระสุรเสียงจักรพรรดิหยวนจิ่งทรงบริภาษดังมาจากข้างใน “ใช้ไม่ได้ ใช้ไม่ได้ทุกคน คดีทะเลสาบซังผอจนถึงวันนี้ยังคลี่คลายไม่ได้ เบาะแสที่เจ้าสองคนได้มายังมากสู้ฆ้องทองแดงเล็กๆ คนหนึ่งไม่ได้ ราชสำนักเลี้ยงพวกเจ้าสองคนไว้จะมีประโยชน์อะไร ข้าจะต้องการพวกเจ้าไว้ทำอะไร”

ในห้องทรงพระอักษร เจ้ากรมแห่งกรมอาญาและขุนนางชั้นสูงแห่งต้าหลี่ ตลอดจนข้าหลวงเฉินฮั่นกวาง ทั้งสามคนยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กันอยู่ที่กลางห้อง ก้มหน้ารับฟังคำสั่งสอนของจักรพรรดิหยวนจิ่ง

นอกจากทั้งสามคนแล้ว สมุหราชเลขาธิการ เจ้ากรมจากทุกกรม และขุนนางชั้นสูงหลายคนของราชสำนัก ล้วนยืนก้มหน้าก้มตาด้วยความอับอายอยู่สองฝั่ง

คดีฆ่ายกครัวของจวนผิงหย่วนป๋อ วันนี้แพร่สะพัดไปทั่วทั้งในและนอกราชสำนัก บรรดาเชื้อพระวงศ์และขุนนางชั้นสูงต่างพากันหวาดหวั่น ด้านหนึ่งยื่นหนังสือกล่าวโทษเว่ยเยวียน และสอบสวนฆาตกรอย่างเข้มงวด อีกด้านหนึ่งก็แอบเสริมกำลังทหารอารักขาในจวน

ชั่วขณะหนึ่งผู้คนต่างพากันหวาดหวั่น มีคนกล่าวว่ามีเผ่าพันธุ์ปีศาจที่แข็งแกร่งรุกรานเมืองหลวง ฆ่าขุนนางคนสำคัญของราชสำนัก และทำลายระเบียบของราชสำนัก

บางคนบอกว่าศาสนาพุทธกำลังก่อกวนอย่างลับๆ โดยมีจุดประสงค์เพื่อเผยแผ่ศาสนาไปยังที่ราบภาคกลาง และบีบบังคับให้ราชวงศ์ต้าฟ่งยอมศิโรราบ

“ฝ่าบาท เหตุใดท่านโหราจารย์จึงล้มป่วยในเวลานี้พ่ะย่ะค่ะ”

“ห้ะ ป่วยเหรอ เห็นได้ชัดว่ากำลังนิ่งดูดาย”

“เหตุใดเมื่อคืนนี้จึงปล่อยให้ฆาตกรหนีไป หน่วยลาดตระเวนยามวิกาลบกพร่องต่อหน้าที่ ขอฝ่าบาททรงลงโทษเว่ยเยวียนสถานหนัก”

ขุนนางชั้นสูงหลายท่านต่างพากันกล่าวเตือนอย่างตรงไปตรงมา

เว่ยเยวียนเข้าไปในห้องทรงพระอักษร ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์

“เว่ยเยวียน” เมื่อจักรพรรดิหยวนจิ่งเห็นเขาเข้ามา ก็ทรงคว้าหนังสือราชการปึกหนึ่งแล้วขว้างลงพื้น แล้วทรงตรัสด้วยความกริ้วท่ามกลางเสียงกระดาษโปรยปราย

“สามวัน ภายในเวลาสามวันหากเจ้าหาตัวฆาตกรมาไม่ได้ ข้าจะปลดเจ้าออกจากตำแหน่ง”

เว่ยเยวียนหลบหลีกอย่างว่องไว ก้มลงเก็บหนังสือราชการที่กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น พลางถอนหายใจแล้วพูดว่า “ฝ่าบาทเหตุใดจึงทรงกริ้ว บำเพ็ญพรตคือการบำเพ็ญจิต อย่าให้จิตใจต้องว้าวุ่นพ่ะย่ะค่ะ”

จักรพรรดิหยวนจิ่งทรงทำเสียงฮึในลำคออย่างเย็นชา

เจ้ากรมแห่งกรมอาญากล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “ฝ่าบาท หน่วยลาดตระเวนยามวิกาลปล่อยให้ฆาตกรหนีไปสองครั้งติดต่อกันแล้ว กระหม่อมสงสัยว่าเว่ยเยวียนกำลังสมรู้ร่วมคิดกับเผ่าพันธุ์อื่น คิดประทุษร้าย ขอฝ่าบาททรงสอบสวนอย่างเข้มงวดด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

จักรพรรดิหยวนจิ่งไม่ทรงตอบ แต่ทรงมองไปที่เฉินฮั่นกวางที่ก้มศีรษะไม่พูดไม่จา “ข้าหลวงเฉินคิดเห็นอย่างไร”

แม้ว่าข้าหลวงจะเป็นขุนนางระดับสี่ แต่เขามีอำนาจปกครองยี่สิบสี่มณฑลรอบเมืองหลวง อำนาจยิ่งใหญ่ อิทธิพลไม่ด้อยไปกว่าเจ้ากรมทั้งหกกรม

เฉินฮั่นกวางนั้นมีประสบการณ์สูง ไม่อยากผิดใจกับทั้งสองฝ่าย จึงกล่าวว่า “คดีทะเลสาบซังผอยังไม่สิ้นสุด เวลานี้ก็เกิดคดีฆ่ายกครัวจวนผิงหย่วนป๋อขึ้นอีก ฝ่าบาทอย่าได้ทรงกริ้วไปเลย ทรงพระทัยเย็นไว้ก่อนพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมคิดว่าควรฟังเว่ยกงก่อนว่าจะพูดอย่างไร”

เตะบอลออกไปตรงๆ เสียอย่างนั้น

จักรพรรดิหยวนจิ่งมองเว่ยเยวียนอย่างเย็นชา

“ฝ่าบาท คดีผิงหย่วนป๋อกับคดีทะเลสาบซังผอเป็นคดีเดียวกันพ่ะย่ะค่ะ” เว่ยเยวียนกล่าว

ในห้องทรงพระอักษร รวมถึงจักรพรรดิหยวนจิ่ง สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปเล็กน้อย

เว่ยเยวียนไม่มองสีหน้าของทุกคน ก้มหน้ามองพื้น พูดเสียงดังว่า “กระหม่อมสอบสวนพบแล้วว่าฆาตกรคดีฆ่ายกครัวผิงหย่วนป๋อเป็นใครพ่ะย่ะค่ะ”

“เป็นใคร” มีคนแย่งพูดด้วยความลืมตัว เขาคือจางฟ่งเจ้ากรมแห่งกรมทหาร

เว่ยเยวียนเหลือบมองเขา ไม่ตอบ แต่กราบทูลจักรพรรดิหยวนจิ่งว่า “ฝ่าบาทได้โปรดเชิญทุกคนออกไปก่อนพ่ะย่ะค่ะ”

ขณะที่พูดประโยคนี้ เว่ยเยวียน ก็นึกถึงสวี่ชีอันโดยไม่มีสาเหตุ

จักรพรรดิหยวนจิ่งทรงจ้องมองเว่ยเยวียนแวบหนึ่ง จากนั้นสายพระเนตรที่่แหลมคมก็ทอดพระเนตรเหล่าขุนนาง “เชิญทุกท่านออกไปก่อน”

ทุกคนถวายความเคารพด้วยสีหน้าแปลกๆ แล้วออกจากห้องทรงพระอักษรไป

เว่ยเยวียนอยู่ในทรงพระอักษรเป็นเวลาครึ่งชั่วยาม โดยไม่มีใครรู้ว่าเขาพูดอะไรกับจักรพรรดิหยวนจิ่ง

…

“เว่ยกง เว่ยกง…”

เว่ยเยวียน ฟางฝู่ ก้าวออกจากห้องทรงพระอักษร พร้อมกับหลิวกงกง เดินได้ไม่กี่ก้าวก็ได้ยินคนเรียกเขา

เมื่อหันไปมอง จางฟ่ง เจ้ากรมแห่งกรมทหารใบหน้าซูบผอม สวมชุดขุนนางสีแดงสดก็เดินมาหา ใบหน้ายิ้มแย้ม

“เว่ยกง ไม่รู้ว่าฆาตกรคดีฆ่ายกครัวผิงหย่วนป๋อเป็นคนของฝ่ายใดเหรอ”

เว่ยเยวียนส่ายหน้า “เจ้ากรมจาง คดีนี้เกี่ยวข้องกับทะเลสาบซังผอจึงไม่สะดวกที่จะเปิดเผย รอจนความจริงถูกเปิดเผยแล้ว ใต้เท้าย่อมรู้เอง”

เขาประสานมือคารวะ จากนั้นก็เดินก้าวยาวๆ จากไป

เจ้ากรมจางเจอกับการปฏิเสธอย่างอ้อมค้อม ก็ไม่ได้มีท่าทีโกรธเคือง กล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแล้วกล่าวว่า “เว่ยกงค่อยๆ เดิน”

หลังจากที่เว่ยเยวียนจากไปแล้ว บรรดาขุนนางชั้นสูงที่รออยู่ที่ห้องทรงพระอักษรก็ค่อยๆ เดินเข้ามา “หลิวกงกง เว่ยเยวียนพูดอะไรกับฝ่าบาท”

“ใต้เท้าทุกท่านอย่าทำให้ข้าต้องลำบากใจเลย” หลิวกงกงโบกมือไปมา

“หลิวกงกงเลือกเรื่องที่พูดได้ก็ได้” น้ำเสียงก้องกังวานดังขึ้น นั่นคือเสียงของโสวฝู่

หลิวกงกงลังเลเล็กน้อย แล้วพยักหน้า มองขุนนางทุกท่านที่อยู่รอบๆ พูดเสียงเบาว่า “คดีนี้ สวี่ชีอันฆ้องทองแดงแห่งหน่วยลาดตระเวนยามวิกาลกำลังดำเนินการอยู่ สิ่งที่เว่ยกงพูดตอนอยู่ข้างใน ล้วนมาจากเขา”

สวี่ชีอัน?

บรรดาขุนนางต่างมองหน้ากัน

…

สวี่ชีอันที่ออกจากอารามรัตนะ ในสมองของเขามีแต่ใบหน้างามของราชครูผ่านเข้ามาตลอดเวลา คิดในใจว่าผู้หญิงที่บำเพ็ญตบะมักจะมีความแตกต่าง งดงามราวกับหยกแกะสลัก มองไม่ออกเลยว่าใบหน้านั้นมีมลทินอะไร

อย่างไรก็น่าจะต้องมีสิวสักสองสามเม็ด

ผู้นำเต๋านิกายปฐพีอยู่ในระดับสอง ผู้นำเต๋านิกายมนุษย์คงจะไม่ด้อยไปกว่า…หากเป็นระดับสอง ถ้าจะพูดว่าเป็นเทพก็คงจะไม่เป็นการกล่าวเกินจริง

ม้าตัวเมียตัวน้อยเดินต๊อกแต๊กๆ ผ่านคลังอาวุธ สวี่ชีอันขอตำแหน่งที่ตั้งของจวนอวี้อ๋องจากทหารยาม

“แนวคิดในการสืบสวนคดีทะเลสาบซังผอต้องเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย หยุดการตรวจสอบอ๋องสยบแดนเหนือไปก่อน ข้ามีลางสังหรณ์ว่า ขอเพียงตรวจสอบเรื่องของเหิงฮุ่ยกับท่านหญิงผิงหยางให้แน่ชัด ตรวจสอบความรักความแค้นระหว่างคู่รักทรหดคู่นี้กับผิงหย่วนป๋อ บางทีอาจจะสามารถคลี่คลายคดีทะเลสาบซังผอได้”

“ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งเดือน ข้ารู้สึกว่าอีกไม่กี่วันนี้แล้ว…บางทีอาจจะเร็วกว่านั้น คืนนี้นักบวชเต๋าจินเหลียนจะมาหาข้า ข้าต้องจำไว้ว่าต้องถามเรื่องผู้นำเต๋านิกายมนุษย์ เป็นนักพรตหญิงแท้ๆ แต่กลับมีเสน่ห์เหมือนปีศาจ”

สวี่ชีอันกระทุ้งท้องม้า กระตุ้นให้ม้าวิ่งเร็วขึ้น

จวนอวี้อ๋อง

สวี่ชีอันดึงบังเหียนม้า แล้วก็แสดงตราทองคำ แสดงฐานะของตัวเอง ท่ามกลางสายตาเฝ้าระวังของทหารยาม “ข้าได้รับพระบัญชาจากฝ่าบาทให้เป็นผู้รับผิดชอบคดีทะเลสาบซังผอ มีธุระขอเข้าเฝ้าอวี้อ๋อง รบกวนทูลเรียนแทนข้าด้วย”

ทหารรักษาพระองค์เห็นตราคาดเอว ก็เลิกแสดงท่าทีไม่ให้เกียรติ และรีบเข้าไปในจวน

ผ่านไปไม่นาน ทหารรักษาพระองค์ก็กลับมา พูดเสียงดังว่า “ใต้เท้าท่านนี้ตามข้ามา ท่านอ๋องของเราต้องการพบท่าน”

จวนอวี้อ๋องครอบคลุมพื้นที่กว้างมาก จากประตูไปยังห้องโถงด้านหน้า ต้องใช้เวลาเดินถึงห้านาที

สวี่ชีอันเห็นพระอนุชาจักรพรรดิหยวนจิ่งที่ห้องโถงด้านหน้า ชินอ๋องคนปัจจุบัน

นี่คือบุรุษที่อายุยังไม่มาก แต่ผมกลับหงอกเร็ว หน้าซีด ดูท่าทางอ่อนเพลีย ริ้วรอยแนวตั้งตรงหว่างคิ้วลึก อายุแค่สี่สิบต้นๆ แท้ๆ แต่กลับดูแก่กว่าจักรพรรดิหยวนจิ่ง

สวมชุดหรูหราสีม่วง หน้าตาดีมาก

“ฆ้องทองแดงเหรอ” ในมือของอวี้อ๋อง ถือถ้วยชาอยู่ ทรงจิบชาหนึ่งอึก น้ำเสียงไม่แจ่มใส

พระองค์วางถ้วยน้ำชาลงทรงตรัสด้วยความประหลาดใจว่า “ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่เสด็จพี่จึงได้ทรงอนุมัติให้ฆ้องทองแดงเป็นผู้รับผิดชอบเป็นพิเศษ”

“กระหม่อมสวี่ชีอัน อวี้อ๋องไม่ทรงเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับกระหม่อมเหรอพ่ะย่ะค่ะ” สวี่ชีอันกำลังคิด ว่าคดีทะเลสาบซังผอเป็นข่าวเด่นที่ผู้คนค้นหาเป็นอันดับต้นๆ ของเมืองหลวงในเวลานี้ ตั้งแต่ระดับขุนนางชั้นสูงจนถึงเจ้าพนักงานเล็กๆ น่าจะให้ความสนใจกันทุกคน

ตัวเองในฐานะผู้รับผิดชอบคนหนึ่ง บรรดาลูกน้องโจรผู้ร้ายไม่รู้จักข้า แม้แต่อวี้อ๋องในฐานะเชื้อพระวงศ์ก็ไม่รู้จักข้าอย่างนั้นเหรอ

อวี้อ๋องทรงพยักหน้าทันที “นึกออกแล้ว เคยได้ยินเหมือนกัน แต่ข้าไม่สนใจเรื่องงานของราชสำนักมาเป็นเวลานาน จึงนึกไม่ออกชั่วขณะ”

ดูเหมือนว่าการหายตัวไปของท่านหญิงผิงหยางจะกระทบกระเทือนพระองค์เป็นอย่างมาก…สวี่ชีอันถอนหายใจ

“เจ้ามาหาข้ามีเรื่องอะไร” อวี้อ๋องทรงโบกพระหัตถ์ รับสั่งให้คนยกน้ำชามา

……………………………….

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 137 อวี้อ๋อง"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์