CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ผู้พิทักษ์รัติกาลแห่งต้าฟง - บทที่ 276 ประกาศผลสอบ

  1. Home
  2. ผู้พิทักษ์รัติกาลแห่งต้าฟง
  3. บทที่ 276 ประกาศผลสอบ
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บทที่ 276 ประกาศผลสอบ

โดยปกติ ตราบใดที่สวี่ชีอันไม่เอ่ยขอ ‘คืนนี้นอนกับข้า’ หรือ ‘คลอดลูกชายให้ข้าสิ’ เหล่านี้ จงหลีก็พร้อมจะสนองความต้องการของสวี่ชีอัน

แน่นอน ถ้าหากท่านโหราจารย์บอกว่า ‘จงหลีเอ๋ย เจ้าจงบำเพ็ญคู่กับเจ้าหนุ่มนี่ แล้วเจ้าจะแคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง’

หากเป็นเช่นนี้ จงหลีก็สามารถตอบสนองความต้องการของเขาได้เช่นกัน

สวี่ชีอันไม่ใช่คนต่ำช้าที่ฉวยโอกาสจากวิกฤตของผู้อื่น หากจงหลีเสนอให้บำเพ็ญคู่ร่วมกัน เขาจะต้องปฏิเสธอย่างแน่นอน เพราะอย่างไรเสียนางก็เป็นถึงศิษย์พี่ของฉู่ไฉ่เวย

จงหลีนั่งที่โต๊ะอย่างเชื่อฟัง และกางกระดาษที่ใช้เขียนหนังสือโดยเฉพาะตามคำขอของสวี่ชีอัน ฝนหมึก หยิบพู่กันขึ้นมาแล้วเอ่ย “ว่ามาสิ”

“อย่ารีบสิ ข้ากำลังกลั่นกรองอยู่…” สวี่ชีอันที่นั่งอยู่อีกด้าน ถือถ้วยน้ำชาร้อนๆ ทำท่าครุ่นคิด

เพื่อป้องกันไม่ให้หลินอันและฮว๋ายชิ่งขัดแย้งกันอีก ข้าสามเจ้าบ่าวสามนายอย่างเขาจึงตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก สวี่ชีอันคิดหนักอยู่นาน ในที่สุดก็หาวิธีรับมือได้เสียที

หลินอันชอบฟังเรื่องเล่าไม่ใช่หรือ เช่นนั้นสวี่ชีอันก็จะเล่าเรื่องของนางให้ฟังเอง

ตามท้องตลาดมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับบัณฑิตหนุ่มกับสาวงาม[1]อยู่กลาดเกลื่อน แม้แต่เสี่ยวหลิวเป้ย [2]ล้วนแต่ทำให้หลินอันพอใจได้ แต่สวี่ชีอันรู้สึกว่าในฐานะราชาแห่งท้องทะเลเต็มตัว เขาควรจะคว้าทุกโอกาสและไม่ปล่อยให้ปลาหลุดมือไปจากเขา

“ชื่อหนังสือเขียนว่า มหากาพย์รักแห่งสวรรค์ ความรักนะศิษย์พี่จง อย่าเขียนผิดเล่า”

เมื่อเห็นว่านางไม่ได้เริ่มเขียนสวี่ชีอันจึงเอ่ยถาม “ศิษย์พี่จง? เป็นเพราะผมยาวเกินไปจนมองเห็นไม่ชัดหรือ ให้ข้าช่วยรวบผมขึ้นหรือไม่”

จงหลีส่ายหัวเบาๆ “ช่างเป็นชื่อหนังสือที่แปลกเสียจริง”

เรื่องแต่งและนวนิยายในยุคสมัยนี้มักจะใช้คำว่า ‘บันทึก’ ‘ตำนาน’ หรือ ‘เรื่องเล่า’ ในการตั้งชื่อ คล้ายกับชื่อมาตรฐาน ที่ตั้งกันมาเป็นธรรมเนียม

“เจ้าไม่ต้องสนใจ เขียนตามที่บอกก็พอ” สวี่ชีอันโบกมือและเล่าเรื่องของเขา

มหากาพย์รักแห่งสวรรค์เป็นเรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นบนสวรรค์ นางเอกเป็นพระธิดาของจักรพรรดิแห่งสวรรค์ มีนามว่าเทพธิดาจื่อเสีย ส่วนพระเอกเป็นองครักษ์ประจำตำหนักสวรรค์ และเป็นเผ่าพันธุ์ปีศาจ

มีนามว่าหลงเอ้าเทียน

เผ่าพันธุ์ปีศาจเป็นเผ่าพันธุ์ที่ต่ำต้อยที่สุดในสรวงสวรรค์ ถูกเลือกปฏิบัติจากเหล่าเทพเซียน สามารถทำหน้าที่เป็นองครักษ์หรือแรงงานต่ำต้อยเท่านั้น งานอดิเรกของพวกเขาคือการร้องรำทำเพลง

“ตรงนี้มีปัญหานะ…”

จงหลีกล่าว “ชื่อของหลงเอ้าเทียนเป็นข้อห้าม ตามบริบทแล้วในหนังสือสวรรค์ควรเป็นที่เคารพนับถือ ไม่ควรปรากฏชื่อเช่นนี้”

สวี่ชีอันครุ่นคิด แล้วจึงได้แต่เอ่ยว่า “เราอย่าไปสนใจรายละเอียดพวกนี้เลยน่า”

เรื่องราวดำเนินต่อไป

ทว่าชายหญิงสองคนผู้มีฐานะต่างกันลิบลับ กลับตกหลุมรักกันโดยไม่คาดคิด คนหนึ่งเป็นดั่งดอกฟ้าหลางหยวน[3] ส่วนอีกคนเป็นดั่งหยกงามไร้ที่ติ

“เดี๋ยวก่อน” จงหลีขัดจังหวะชั่วคราวและขมวดคิ้ว “ดอกฟ้าหลางหยวนหมายถึงเทพธิดาจื่อเสีย ส่วนหยกงามไร้ที่ติคือหลงเอ้าเทียนหรือ…แต่เขาเป็นเพียงเผ่าพันธุ์ปีศาจต่ำต้อย ดูจากภูมิหลังของเขาไม่คู่ควรกับคำว่าหยกไร้ที่ติ ข้าคิดว่าควรเปลี่ยนนะ”

เจ้าเป็นพวกเกรียนคีย์บอร์ด[4]หรือไง…สวี่ชีอันโมโหขึ้นมาทันใด มุมปากของเขากระตุก “เจ้าสอนข้าเขียนหนังสือหรือ”

เมื่อสังเกตเห็นว่า ‘เครื่องราง’ ของตนอารมณ์ไม่ดี จงหลีจึงไม่พูดอะไรอีก

เรื่องราวดำเนินต่อไป

ทั้งสองนัดพบกันที่ตำหนักสวรรค์ ตั้งแต่จับมือกันดูพระอาทิตย์ตกดิน ไปจนถึงกอดจูบแล้วเกลือกกลิ้งใต้ผ้าปูที่นอนในห้องลับ สวี่ชีอันก็พรรณนาตั้งแต่ต้นจนจบ รายละเอียดครบถ้วนไม่มีตกหล่น

ในยุคนี้ หนังสือต้องห้ามมีลักษณะคล้ายคลึงกันตรงที่มักจะมีบทพรรณนาโดยละเอียด ทั้งยังสอดแทรกบทกวีประกอบอยู่ด้วย สวี่ชีอันสามารถคัดลอกบทกวีได้ แต่ไม่อาจแต่งบทกวีขึ้นด้วยตัวเอง ดังนั้นจึงไม่คิดจะอวดเก่ง ทำขวานหน้าบ้านหลู่ปาน[5]

ทว่าความรักระหว่างเทพธิดาจื่อเสียและหลงเอ้าเทียนก็ถูกค้นพบโดยเทพผู้สูงศักดิ์ที่หลงใหลในความงามของเทพธิดาจื่อเสีย จึงเปิดเผยเรื่องราวของทั้งคู่

จักรพรรดิแห่งสวรรค์โกรธจัด จึงถลกหนังเลาะกระดูกของหลงเอ้าเทียน แล้วขับไล่ลงไปยังโลกมนุษย์ ให้เกิดใหม่เป็นสัตว์เดรัจฉาน ส่วนเทพธิดาจื่อเสียก็ถูกคุมขังในตำหนักกว่างหาน[6]ไปชั่วกัปชั่วกัลป์ ถูกทอดทิ้งอยู่กับความหนาวเหน็บและอ้างว้าง

และเรื่องราวก็ถูกตัดจบลงเช่นนี้

“กี่คำแล้ว” สวี่ชีอันจิบชาให้ชุ่มคอ

จงหลีคำนวณอยู่ครู่หนึ่ง “ประมาณแปดหมื่นคำ”

จงหลีเขียนได้เร็วมาก ใช้เวลาเขียนสองชั่วยามโดยไม่หยุดพัก บ่อยครั้งหลังจากที่สวี่ชีอันพูดจบประโยค นางก็เขียนเสร็จแล้ว คนธรรมดาไม่มีทางทำได้เช่นนี้

สมแล้วที่เป็นถึงโหรระดับห้า…สวี่ชีอันพูดไม่ออก รู้สึกพอใจอย่างมาก

เรื่องราวนี้แสนจะธรรมดา หรืออย่างน้อยก็ธรรมดาในความเห็นของสวี่ชีอัน แต่ในยุคนี้ที่ยังไม่มีนวนิยายเชิงพาณิชย์ แม้ว่าจะเป็นโครงเรื่องคร่าวๆ สวี่ชีอันที่ร่างไว้ ก็น่าสนใจกว่านวนิยายส่วนใหญ่ในยุคเดียวกัน

ถ้าได้เจอจงหลีเร็วกว่านี้สักครึ่งปีก็คงดี ข้าเป็นคนเล่าให้นางเป็นคนเขียน นางคือระบบจดจำเสียงของข้า ข้าจะได้เปิดร้านหนังสือและขายหนังสือเลี้ยงชีพ…

สวี่ชีอันปัดตกความคิดนี้ทันที ประการแรก สถานะของเขาในทุกวันนี้ ไม่จำเป็นต้องทำธุรกิจก็อยู่ได้ ประการที่สอง รายได้จากการขายผงปรุงรสไก่และเงินปันผลประจำปีก็เพียงพอให้เขาใช้ชีวิตเอื่อยเฉื่อยไปวันๆ ท่ามกลางภรรยาหลวงและเหล่าอนุ

สุดท้ายแล้ว เรื่องเล่าเช่นนี้หากเล่าในชาติก่อนก็ไม่เป็นปัญหาอะไร แต่เล่าในยุคนี้ จะต้องโดนโทษตัดหัวเป็นแน่แท้

ได้ไม่คุ้มเสี่ยง

“เอาล่ะ เรื่องนี้พอแค่นี้ก่อน เนื้อเรื่องครึ่งหลังไว้ข้าจะลองคิดอีกที มาเขียนเรื่องต่อไปกันเลยดีกว่า”

นิ้วของจงหลีสั่นไหว…

เรื่องเล่าเรื่องที่สองเป็นเรื่องราวความรักระหว่างราชินีปีศาจและนักปราชญ์เผ่าพันธุ์มนุษย์ สวี่ชีอันยกลักษณะตัวละครท่านประธานจอมเผด็จการในชาติที่แล้วมาใช้ทั้งดุ้น แต่สลับบทบาทของชายและหญิงแทน

ราชินีปีศาจผู้บ้าอำนาจ แข็งแกร่ง เฉลียวฉลาดและเยือกเย็น กับนักปราชญ์เผ่าพันธุ์มนุษย์ ผู้เปี่ยมความรู้ มีจิตใจดี อ่อนโยน และสุภาพนอบน้อม

ราชินีสาวจอมเผด็จการ ปะทะ บัณฑิตหนุ่มผู้ไร้เดียงสา

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหนังสือเล่มนี้เขียนขึ้นเพื่อให้ฮว๋ายชิ่งอ่าน

ในหนังสือของหลินอัน ตัวเอกทั้งชายและหญิงคือเทพธิดาแห่งสรวงสวรรค์และองครักษ์ผู้ต่ำต้อย สวี่ชีอันมีเจตนาร้ายที่จะบิดเบือนมุมมองความรักของหลินอัน

เวลาที่นางใจจดใจจ่อกับนิยาย นางก็จะเห็นภาพ ‘องครักษ์’ ผู้หล่อเหลา เก่งกาจ พูดจาน่าฟังขึ้นมาในหัว

แล้วหลินอันก็จะพบว่า อ๊ะ นี่มันเจ้าสุนัขรับใช้ชัดๆ เลยไม่ใช่หรืออย่างไร ที่แท้เทพบุตรก็อยู่เคียงข้างข้าเสมอมานี่เอง

มีความเป็นไปได้สูงมากทีเดียว หญิงสาวที่เติบโตมาอย่างไข่ในหินย่อมเคลิบเคลิ้มไปกับนิยายรักของชายหนุ่มกับสาวงาม และใฝ่ฝันที่จะได้ครองรักกับชายหนุ่มเช่นเดียวกับในนิยาย…เป็นสถานการณ์ที่ดีที่สุดเลยไม่ใช่หรืออย่างไร

สำหรับฮว๋ายชิ่ง นางเป็นหญิงที่หัวแข็ง ทั้งฉลาด เยือกเย็น และแน่วแน่ ผู้หญิงแบบนี้ยากที่จะชักจูง

สวี่ชีอันยังเคยสงสัยว่านางคงไม่มีทางอ่านนิยายน้ำเน่าแน่นอน ทว่าโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน ฮว๋ายชิ่งเป็นเจ้าหญิงที่มีบุคลิกที่เหมือนผู้บริหารสาวผู้มีอำนาจล้นเหลือ และในโลกที่ผู้ชายเหนือกว่าผู้หญิงแห่งนี้ แทบจะไม่มีทางได้เห็นนวนิยายอย่าง ‘ราชินีจอมเผด็จการตกหลุมรักข้า’ อย่างแน่นอน

สวี่ชีอันเชื่อว่าสิ่งนี้จะกระตุ้นความอยากอ่านขององค์หญิงฮว๋ายชิ่งได้อย่างไม่ต้องสงสัย

…

หลังตะวันลับฟ้า ที่โต๊ะอาหาร

สวี่เอ้อร์หลางพบว่าพี่ชายคนโตของเขาทำตัวพิลึก เอาแต่จ้องมองเขาโดยไม่พูดไม่จา ดวงตาของเขาจดจ่อและเปี่ยมความหมายล้ำลึกราวกับว่ากำลังมองดูสมบัติล้ำค่า

“พี่ใหญ่ เอาแต่มองข้าอยู่ได้ มีอะไรหรือ” สวี่เอ้อร์หลางทนต่อไปไม่ไหว จึงเอ่ยถามเสียงขรึม

“ช่วงนี้ข้าชื่นชอบการวาดภาพ จึงอยากวาดภาพเหมือนเอ้อร์หลางสักรูป” สวี่ชีอันอธิบายเรื่อยเปื่อย ตายังคงจ้องมองสวี่เอ้อร์หลาง

ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เอง…สวี่เอ้อร์หลางเชิดคางขึ้นเล็กน้อย พยักหน้าและกล่าวว่า “หากพี่ใหญ่สามารถวาดความหล่อเหลาของข้าได้สักหนึ่งหรือสองในสิบส่วน ก็ถือว่าใช้ได้สำหรับมือใหม่”

อารองสวี่ทนฟังไม่ไหว จึงใช้นิ้วเคาะบนโต๊ะอาหารและเปลี่ยนเรื่อง “เมื่อวานข้าได้ยินมาว่าเจ้าฟันนักรบระดับหกในดาบเดียวหรือ”

สวี่ชีอันกล่าวอย่างสงวนท่าที “ก็แค่คนธรรมดาเท่านั้น”

อารองสวี่เหลือบมองลูกชายแล้วหันไปมองหลานชายของตน คิดในใจว่าความเย่อหยิ่งจองหองนี้ไม่ได้สืบทอดกันทางสายเลือดสกุลสวี่อย่างแน่นอน

“พรุ่งนี้เป็นวันประกาศผลสอบสินะ” อาสะใภ้มองไปที่สวี่เอ้อร์หลาง

“ขอรับ” สวี่เอ้อร์หลางพยักหน้า

“เหนียนเอ้อร์ต้องได้เป็นฮุ่ยหยวน[7]แน่นอน” อาสะใภ้คีบผักให้ลูกชายอย่างมีความสุข

อารองสวี่เหลือบมองภรรยาผู้อวบอัดงดงามของเขา และทันใดนั้นก็ตระหนักว่าผู้หญิงคนนี้นี่เองที่ทำลายประเพณีของตระกูลเขาจนสิ้น

“หลังจากซิ่งป่างออกมาแล้ว พวกเราไปดูกันทั้งบ้านดีกว่า” สวี่ชีอันกล่าว

ได้ยินคำว่า ‘ซิ่งป่าง[8]’ สวี่หลิงอินเงยหน้าขึ้นทันที

“ไม่ใช่ของกิน” สวี่หลิงเยวี่ยลูบหัวนางป้อยๆ

สวี่หลิงอินก้มศีรษะและกินต่อ

หลังจากทานอาหารเย็น สวี่ชีอันอาบน้ำเสร็จก็เปิดจุกไม้ของขวดลายครามออก ผสมกับน้ำเปล่าและล้างหน้า แช่ใบหน้าในน้ำชั่วยามแช่ใบชา ผิวหนังจึงเริ่มร้อนผ่าว เครื่องหน้าปรากฏกระบวนการ ‘ละลาย’ ขึ้น

เขารีบปรี่มาหยุดหน้ากระจกทองแดง ใช้วิธีการขับเคลื่อนลมปราณที่ไม่ค่อยคุ้นชิน เพื่อลองปรับเปลี่ยนลักษณะใบหน้าของตน

“ริมฝีปากต้องบางลงอีกนิด จมูกต้องแคบลงหน่อย…กระดูกใบหน้าต้องหดลง…ดวงตาต้องกลมอีก…”

ครึ่งชั่วโมงต่อมา สวี่เอ้อร์หลางตัวปลอมก็ปรากฏตัวขึ้น หรือพูดให้ถูกก็คือน้องชายที่หายสาบสูญไปนานของสวี่เอ้อร์หลางนั่นเอง

“เหมือนประมาณห้าส่วน” สวี่ชีอันจ้องมองกระจกทองแดง และมองดูตัวเองด้วยความสังเวช

สภาพของข้าเช่นนี้ ถ้าเรียกอาสะใภ้ว่าแม่ มีหวังได้หลงเชื่อกันทั้งบ้าน…ไม่ ไม่ ไม่ ทิ้งความคิดสุดอันตรายนี้ไปเสีย หากอารองกับอาสะใภ้หย่ากันคงไม่ดีแน่…คิดไปคิดมา มุมปากของสวี่ชีอันก็ยกขึ้น ความคิดชั่วร้ายต่างๆ นานาต่างผุดเข้ามาในหัวของเขา

แน่นอนว่าในอนาคตเขาสามารถเปลี่ยนรูปร่างเป็นเอ้อร์หลางได้อย่างง่ายดาย และไปพบปะสมาชิกกลุ่มหนังสือปฐพีแบบตัวต่อตัวได้ แบบนี้ก็สนุกล่ะสิ

เขาไม่ได้ทำไปเพราะกลัวการตายตกทางสังคม แต่ทำเพื่อความสนุกเท่านั้น

“ชีวิตช่างจืดชืด ต้องรู้จักแสวงหาความสนุกให้ตนเองบ้าง…ไม่ได้ไปฟังเพลงที่หอคณิกานานแล้วสิ”

…

การประกาศผลสอบคัดเลือกช่วงวสันต์หรือที่เรียกกันว่า ‘ซิ่งป่าง’ เป็นเพราะช่วงนี้เป็นฤดูที่ดอกซิ่ง ผลิดอกพอดี

วันที่ยี่สิบเจ็ด เดือนสอง ท้องฟ้าแจ่มใส

คืนนี้ไม่มีการห้ามออกนอกเคหสถานยามวิกาล ประตูเมืองเปิดกว้าง บนท้องถนนจึงเต็มไปด้วยเหล่าทหารที่เดินตรวจตรากันขวักไขว่ บรรดาฆ้องทองแดงก็ยกโขยงออกมาจนแทบจะหมดที่ทำการหน่วยลาดตระเวนยามวิกาล

บัณฑิตจำนวนนับไม่ถ้วนหลั่งไหลเข้ามาในเมืองชั้นใน และรวมตัวกันที่ประตูสนามสอบเพื่อรอผลประกาศ

การประกาศผลสอบคัดเลือกช่วงวสันต์ปีนี้คึกคักเป็นพิเศษ ไม่เพียงแต่บัณฑิตที่ตั้งตารอผลสอบอย่างใจจดใจจ่อเท่านั้น แต่ยังมีชาวยุทธ์แห่แหนกันมาติดตามการต่อสู้ระหว่างนิกายสวรรค์และนิกายมนุษย์ของลัทธิเต๋าอีกด้วย

ชาวยุทธ์มีลักษณะเด่นอยู่ข้อหนึ่ง คือเป็นพวกชอบ ‘กินแตง[9]’ !

ที่ใดมีเรื่องสนุกๆ ที่นั่นจะคึกคักเป็นพิเศษ

ซึ่งก็สร้างความกดดันให้กับห้ากองกำลังพิทักษ์เมืองหลวง ที่ว่าการเมืองและหน่วยลาดตระเวนยามวิกาลอย่างยิ่ง

จนแล้วจนรอดสวี่ผิงจื้อก็ไม่สามารถพาลูกชายของเขาไปดูซิ่งป่างได้ เนื่องจากพื้นที่ที่เขารับผิดชอบนั้นอยู่ค่อนข้างไกลจากสนามสอบ เช่นเดียวกับสวี่ชีอันที่ต้องไปรักษาความปลอดภัยในพื้นที่อื่น

ชาวยุทธ์ทั้งดีเลวปะปนกันไป หากในบรรดาชาวยุทธ์มีสายลับหรือพวกต่อต้านสังคมแฝงตัวอยู่ เหล่าบัณฑิตก็จะตกอยู่ในอันตราย

อาสะใภ้ สวี่หลิงเยวี่ย และสวี่หลิงอินก็อยากมาร่วมงานประกาศผลด้วย ดังนั้นอารองจึงต้องจัดแจงให้บ่าวรับใช้ในจวนติดตามคุ้มกัน สวี่ชีอันเองก็คิดว่าพื้นที่ที่เขาลาดตระเวนอยู่ไม่ไกลจากสนามสอบนัก เขาสามารถคอยสอดส่องดูแลได้อีกแรง

ไม่น่าใช่ปัญหาใหญ่อะไร

“วันประกาศผลการสอบคัดเลือกช่วงวสันต์เมื่อก่อนก็คึกคักเช่นนี้ ราชสำนักฝึกฝนทหารมาหลายปี ก็เพื่อวันนี้นี่แหละ”

มือดาบวัยกลางคนพาคุณชายหลิ่วและลูกศิษย์หนุ่มสาวทั้งหลายเดินบนถนนที่พลุกพล่าน ปากก็พูดจาเจื้อยแจ้ว “เมื่อครั้งที่ติดตามอาจารย์ของข้ามายังเมืองหลวง บังเอิญเป็นช่วงสอบคัดเลือกช่วงวสันต์พอดี จึงได้เห็นฉากนี้อยู่หนหนึ่ง”

“ฮุ่ยหยวนสมัยนั้นดูเหมือนจะมีนามว่าฉู่หยวนเจิ่น ต่อมาก็ได้เป็นจอหงวนด้วย ครั้งนี้ที่ข้ากลับมาเมืองหลวงก็ได้สอบถามดู แต่จอหงวนท่านนั้นก็ออกจากราชการเสียแล้ว”

“เฮ้อ เวลาสิบปีผ่านไปไวเหลือเกิน”

“โอ้ ลาออกจากราชการเลยหรือ” หัตถ์รื่นรมย์หรงหรงถามด้วยความสงสัย

“เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้นเล่า ข้าได้ยินมาว่าบัณฑิตผู้สอบได้อันดับหนึ่ง และได้เข้าสู่สำนักบัณฑิตฮั่นหลิน จะได้เป็นอัครเสนาบดี อนาคตกำลังรุ่งโรจน์ เหตุใดจึงถอดใจไปเสีย”

มือดาบวัยกลางคนส่ายหน้า

ทางข้างหน้าแทบจะไม่มีทางเดิน เพราะมีแต่เหล่าบัณฑิตในชุดขงจื๊อปะปนกับชาวยุทธ์ไปทั่วบริเวณ

เหล่าทหารยามพยายามรักษาความสงบเรียบร้อยอย่างยากลำบาก ต่างตะโกนโหวกเหวกเสียงดัง

“อาจารย์ พวกเรากระโดดขึ้นไปดูจากบนหลังคาดีหรือไม่” คุณชายหลิ่วออกความเห็น

“เจ้าอยากถูกหน่วยลาดตระเวนยามวิกาลลงดาบตกลงมา หรืออยากถูกกองดาบแทงทะลุหัวใจล่ะ” มือดาบวัยกลางคนกล่าวอย่างหัวเสีย

บริเวณลานโล่งไม่ไกลจากสนามสอบมีเกี้ยวจอดอยู่ ประดับด้วยผ้าไหมสีแดง ห้อมล้อมด้วยกลุ่มองครักษ์พร้อมมีด และสาวใช้แสนสวยสองคน

“ชุนเอ๋อร์ อีกนานไหมกว่าผลประกาศจะออกมา”

เสียงหญิงสาวแสนไพเราะอ่อนหวานแว่วมาจากในเกี้ยว

“คุณหนู รออีกสองเค่อนะเจ้าคะ”

สาวใช้ทางซ้ายชื่อชุนเอ๋อร์เขย่งปลายเท้า เพื่อมองดูนาฬิกาแดดที่อยู่ไกลออกไป

หญิงสาวที่นั่งในเกี้ยวคือบุตรสาวของหวางเจินเหวิน สมุหราชเลขาธิการประจำราชสำนัก นางชื่นชอบเข้าร่วมการประชุมบทกวีและวรรณกรรมที่จัดโดยเหล่าปัญญาชน เนื่องจากนิสัยรักความครื้นเครง จึงไม่พลาดงานรื่นเริงอย่างการประกาศผลการสอบคัดเลือกช่วงวสันต์อย่างแน่นอน

หญิงสาวผู้นี้มีพรสวรรค์ไม่น้อย แม้ว่านางจะไม่งดงามและมากความสามารถเทียบเท่าองค์หญิงฮว๋ายชิ่ง แต่หากนางเป็นชายคงจะสอบเป็นจวี่เหรินได้ไม่ยากนัก

“ไม่ทราบว่าฮุ่ยหยวนในปีนี้จะเป็นใครนะเจ้าคะ” ชุนเอ๋อร์เอ่ยเสียงอ่อนหวาน

คุณหนูหวางยิ้มพลางส่ายหน้าเล็กน้อย

การฉ้อโกงในการสอบคัดเลือกช่วงวสันต์ปราบปรามอย่างไรก็ไม่หมดไม่สิ้น แม้ว่าจะไม่ได้กระทำอย่างโจ่งแจ้ง แต่ก็มีโกงภายในอยู่มาก ชื่อเสียงของฮุ่ยหยวนจึงเป็นที่น่าขบขันในสายตาของคนธรรมดา แต่ในสายตาของคนที่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังจริงๆ ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า

‘มีแต่พรรคพวกกันเองทั้งนั้น!’

แน่นอนว่าในบางครั้งอาจมีนกฟีนิกซ์สีทองบินเข้ามาในเล้าไก่ เป็นคนที่มีพรสวรรค์คู่ควรกับตำแหน่งอย่างแท้จริง

ตอนนั้นเอง สาวใช้อีกนางไม่พูดไม่จาพลางชี้นิ้วไปไกลๆ แล้วเอ่ยอย่างชื่นชม “บัณฑิตผู้นั้นหล่อเหลาเอาการเชียวเจ้าค่ะ”

คุณหนูหวางเลิกม่านขึ้นพอให้มีช่องว่างเล็กน้อยและมองออกไป

นางรู้ได้ทันทีว่าใครคือบัณฑิตรูปหล่อที่สาวใช้พูดถึง เพราะคนผู้นั้นโดดเด่นสะดุดตาอย่างยิ่ง แม้ว่าเขาจะถูกฝูงชนผลักจนคิ้วขมวด แต่ก็ไม่สามารถซ่อนความงามของเขาได้แม้แต่น้อย

คิ้วละเอียดเป็นเส้นเรียว ดวงตาเปล่งประกายราวกับดวงดารา ริมฝีปากสีแดง ฟันขาว ผิวขาวผ่อง เนียนละเอียดเสียยิ่งกว่าสตรีส่วนใหญ่

ข้างหลังเขาคือสาวสวยผู้มีใบหน้าดั่งเมล็ดแตงโม สวมชุดหรูหรา เรือนผมถูกเกล้ามวยไว้สูง ยามเยื้องย่างนวยนาดน่ามอง

ชายผู้มีรูปลักษณ์งามหมดจด เคียงข้างมากับสาวน้อยผู้งดงามอ่อนหวาน แม้จะเป็นหญิงสาวที่ภาคภูมิใจในความงามของตนอย่างคุณหนูหวางก็ยังอดแปลกใจไม่ได้

…

อาสะใภ้ผู้มีองครักษ์คุ้มกันรอบด้านไม่ได้ถูกฝูงชนเบียดเสียด แต่นางก็นึกเสียใจที่ออกมาชมงานรื่นเริงเช่นนี้

นอกจากพวกบัณฑิตที่โหวกเหวกโวยวายแล้ว ยังมีชาวยุทธ์หน้าเหี้ยมใจโหดอีกคับคั่ง สิ่งนี้ทำให้อาสะใภ้ที่เก่งแต่รังแกหลานชายและสามีในบ้านรู้สึกหวาดกลัวอยู่ในใจ

ปกติเวลาที่นางออกไปข้างนอก นางมักจะเผชิญสายตาจากพวกผู้ชายตัวเหม็นโฉ่ แต่พวกนั้นยังสงวนท่าทีอยู่บ้าง ในขณะที่ชาวยุทธ์แสนกักขฬะเหล่านั้นส่งสายตาแทะโลมโดยไม่มีปิดบัง

อาสะใภ้ขมวดคิ้วพร้อมทอดถอนใจด้วยเหนื่อยหน่ายในความสะสวยที่ติดตัวมาแต่เกิดของนาง

“อยู่ที่นี่กันเถิด”

สวี่เอ้อร์หลางหยุดเดินและอธิบายว่า “อีกประเดี๋ยวติดประกาศแล้วก็จะมีคนอ่านประกาศ พวกเรายืนฟังอยู่ตรงนี้เถิด”

อาสะใภ้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก จับมือเอ้อร์หลางแล้วพูดว่า “แม่เองก็ทุ่มเทกายใจเพื่อชื่อเสียงของเจ้านะ”

“ขอบพระคุณท่านแม่ขอรับ” สวี่เอ้อร์หลางกล่าว

ซิ่งป่างถูกติดไว้บนกำแพงด้านตะวันออกของสนามสอบหรือที่เรียกว่า ‘กำแพงแห่งเกียรติยศ’ เวลาผ่านไป ในที่สุดก็ถึงเวลาเปิดเผยรายชื่อเสียที

ผลการสอบจำพวกแรกที่ประกาศคือฟู่ป่าง[10]

เพียงแค่รายชื่อฟู่ป่าง ก็ทำให้บัณฑิตหลายคนตื่นเต้น บางคนดีใจยกใหญ่ บางคนถึงกับร่ำไห้ เผยสีหน้าอารมณ์อันหลากหลายแก่ผู้พบเห็นทั่วไป

“ประกาศผลแล้ว ต่อไปจะประกาศผลซิ่งป่างแล้ว”

เหล่าบัณฑิตตะโกนเสียงดังลั่น ต่างคนต่างตื่นเต้นยกใหญ่

…………………………………………………

[1] เรื่องเล่าเกี่ยวกับความรักของบัณฑิตหนุ่มและสาวงาม เป็นที่นิยมในสมัยจีนโบราณ

[2] หรือเล่าปี่น้อย เป็นชื่อตัวละครในนวนิยายของหลัวกวั้นจง นักประพันธ์จีนยุคปลายราชวงศ์หยวน ภายหลังเสี่ยวหลิวเป้ยถูกขนานนามว่า 小皇叔 ซึ่งพ้องรูปกับคำว่า 小黄书 ที่แปลว่าหนังสือลามก ดังนั้นเสี่ยวหลิวเป้ยจึงมีอีกความหมายหนึ่งสื่อถึงหนังสือลามก

[3] บทกลอนที่ปรากฏในวรรณกรรมเรื่อง ความฝันหอแดง

[4] 杠精 แปลตรงตัว จะแปลว่า‘นักงัด’ เป็นแสลงภาษาแชตในประเทศจีน ใช้เรียกแทนบุคคลที่ชอบการถกเถียง จ้องจับผิดเพื่อหาช่องทางคัดค้านค้าพูดหรือความคิดของผู้อื่นจนกลายเป็นนิสัย โดยไม่สนใจว่าข้อมูลที่ตนได้รับรู้มาจริงเท็จประการใด ขอเพียงแค่ได้พูดยั่วยุ หาเรื่องให้เกิดการทะเลาะหรือโจมตีเป็นพอ

[5] 班门弄斧 สำนวนที่แปลว่าอวดภูมิต่อหน้าผู้รู้ หลู่ปานเป็นชื่อของช่างไม้ฝีมือชั้นยอดในยุคชุนชิว ได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาแห่งช่างไม้ของจีนโบราณ สำนวนทำชวานหน้าบ้านหลู่ปานจึงมีความหมายเดียวกับสอนจระเข้ว่ายน้ำ

[6] 广寒宫ตำหนักบนดวงจันทร์

[7] 会元 ผู้ที่สอบได้อันดับหนึ่งในการสอบคัดเลือกขุนนางรอบระดับประเทศ

[8] 杏榜 บอร์ดประกาศผลสอบคัดเลือกจอหงวน คำว่า 杏มีอีกความหมายแปลว่าผลซิ่ง หรือแอปริคอด ที่เรียกการประกาศผลว่าซิ่งป่างเพราะว่าช่วงที่ประกาศผลสอบเป็นฤดูผลิดอกของดอกซิ่งพอดี

[9] 吃瓜 กินแตง เป็นแสลง ความหมายเดียวกับกินเผือกของไทย หมายถึงพวกที่สนใจเรื่องชาวบ้าน

[10] รายชื่อตัวสำรอง

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 276 ประกาศผลสอบ"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์