ผู้รักษาสุดแกร่ง - บทที่ 319 นายกรัฐมนตรีปูเฟิง
การแข่งขันที่ดุร้ายแบบนี้ มันหมายถึงการทำร้ายศัตรูจนตายกันไปข้างหนึ่ง เหอเนี่ยนอิงเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรเลย
“คุณเหมยเอ๋อ อย่าทำแบบนี้เลย!”
เหมยเอ๋อก็เยาะเย้ยขึ้นมา “ประธานเหอ ลองมองดูสถานการณ์ปัจจุบันให้มันดีๆ คุณไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะมาต่อรองกับฉันได้ ฉันแค่มาแจ้งให้คุนทราบ หากคุณจะไม่ร่วมมือกับเรา ฉันจะทำให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์เหอกรุ๊ปของคุณเจ้งอย่างไม่น่าเชื่อเลย!”
หลังจากที่เหมยเอ๋อพูดจบ จู่ๆเสียงของฉินจุนก็ดังขึ้นมาจากที่ด้านหลังของเค้า
“ไม่เชื่อ”
หลังจากนั้น ฉินจุนก็ผลักประตูเข้ามา สายตาของทุกคนก็จ้องมองไปที่เค้า
เหอเนี่ยนอิงดูดีใจมาก “ศิษย์พี่!”
เดิมทีเค้าก็ได้ยินว่าฉินจุนถูกฆ่าตายไปแล้ว เหอเนี่ยนอิงก็แค่ต้องรับผลที่ตามมา แต่บริษัทก็ยุ่งเหยิงเกินกว่าจะจัดการได้ คิดไม่ถึงเลยว่าศิษย์พี่จะไม่เป็นไร!
มันมีเด็กสาวพร้อมกับชายต่างชาติที่เข้ามาพร้อมกับศิษย์พี่
ทันทีที่เหล่าปูเฟิงเข้ามา สีหน้าของเค้าก็ดูไม่ได้เลย เค้ามองไปที่เหมยเอ๋อแล้วพูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า
“เหมยเอ๋อ! ใครให้สิทธิคุณใช้เงินของราชวงศ์เพื่อกดขี่คนอื่นแบบนี้?”
เมื่อเห็นเหล่าปูเฟิงที่เดินเข้ามา เหมยเอ๋อก็ตกใจมาก เค้าลุกยืนขึ้นมาพร้อมกับเหงื่อเต็มตัว
“คุณปูเฟิง เจ้าหญิงซาซ่า พวกคุณมาที่นี่ได้ยังไงกัน!”
เหมยเอ๋อคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องเล็กน้อยแบบนี้จะทำให้นายกรัฐมนตรีและเจ้าหญิงแห่งอิรักต้องมาที่นี่ด้วยตัวเอง!
เหล่าปูเฟิงถอนหายใจออกมาอย่างเย็นชา เค้ายกมือขึ้นแล้วตบเข้าไปที่หน้าเหมยเอ๋ออย่างแรง
“บัดซบ! ถ้าเราไม่มา แกจะทำอะไรลงไป?”
เหมยเอ๋อหน้าแดง ขาทั้งสองสั่นด้วยความกลัว เค้าถูกตบหน้า เค้าไม่กล้าแม้แต่จะพูดอะไรออกมาเลย
“คุณปูเฟิง มันเป็นความผิดของฉัน ฉันฟังคำของตระกูลซูกับตระกูลหัวมาแล้วรู้สึกว่ามันมีประโยชน์…”
“หือ! ฉันจะให้โอกาสคุณชดเชยมันซะแล้วชดใช้ทั้งหมดให้กับบริษัทอสังหาริมทรัพย์เหอกรุ๊ป เมิ่งกรุ๊ปและซวนหยวนกรุ๊ปแทนตระกูลซูและตระกูล หัว หากคุณไม่ทำ นั่นก็ได้ หลังจากที่กลับไป ก็ไปเข้าคุกซะ!”
เหมยเอ๋อตัวสั่นไปทั้งตัว เค้าคุกเข่าลงกับพื้นอย่างรวดเร็ว “คุณปูเฟิง เจ้าหญิงซาช่า ฉันผิดไปแล้ว ฉันจะชดใช้ให้ทันที ฉันจะทำให้คุณพอใจอย่างแน่นอน!”
หลังจากพูดจบ เหมยเอ๋อก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดโทรออกทันที
“กระจายคำสั่งของฉันออกไป งานทั้งหมดเกี่ยวกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์เหอกรุปต้องหยุดลง แล้วจัดส่งวัสดุที่เราผูกขาดเอาไว้ทั้งหมดไปให้พวกเค้าโดยไม่ต้องคิดค่าใช้จ่าย!”
หลังจากที่พูดแล้ว เหมยเอ๋อก็กดหมายเลขอื่นแล้วโทรออก “ใช้เงินที่เหลือของเราจัดการกับตระกูลซูและตระกูลหัว ขัดขวางการค้าระหว่างสองมณฑลทั้งในและนอก ใช้วิธีการเดียวกันเพื่อจัดการกับพวกเค้า ลงมือเดี๋ยวนี้!”
แม้ว่าตระกูลคริสในอิรักจะเป็นกองกำลังภายนอก แต่พวกเค้าก็ร่ำรวยและพร้อมที่จะใช้จ่ายเงินและมีความสัมพันธ์กันมากมาย ทั้งหมดนี่มันก็เพราะน้ำมัน ส่วนการจัดการกับตระกูลซูกับตระกูลหัวนี่มันก็เป็นเรื่องง่ายมาก
หลังจากที่โทรออกไปหาสองสายนี้ เหมยเอ๋อก็มีเหงื่อออกเต็มหลังไปหมด
เมื่อมองไปที่เหล่าปูเฟิงและเจ้าหญิงซาช่า เค้าก็ก้มหัวลงและพูดอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนมาก
“คุณปูเฟิง เจ้าหญิงซาซ่า ครั้งนี้มันเป็นความผิดของฉันเอง ได้โปรดยกโทษให้ฉันด้วย!”
เหล่าปูเฟิงไม่สนใจเค้าเลย แต่กลับเข้ามาและจับมือกับเหอเนี่ยนอิง
“ประธานเหอ ฉันเคยได้ยินเรื่องของคุณในอิรักเหมือนกัน ฉันเป็นนายกรัฐมนตรีของอิรัก ฉันหวังว่าในอนาคตเราจะได้ไปมาหาสู่กันบ่อยๆ หากว่าต้องการความช่วยเหลืออะไร บอกผมได้ทุกเมื่อเลยนะครับ”
เหอเนี่ยนอิงรู้สึกปลื้มปิติและลุกขึ้นมาจับมืออย่างรวดเร็ว ผู้บริหารของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เหอกรุ๊ปก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูปเพื่อเป็นสักขีพยานในฉากประวัติศาสตร์นี้ทันที
แม้ว่าเหอเนี่ยนอิงจะเก่งมาก แต่เธอก็เก่งแค่ในประเทศจีนเท่านั้น
เนื่องจากอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด มีเพียงจีนเท่านั้นที่มีการพัฒนาไวมาก
เธอเพิ่งได้เป็นชายที่ร่ำรวยที่สุดของจีนในตอนที่อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์อยู่ในจุดสูงสุด เมื่อเทียบกับหลิ่วชิงชิงแล้ว เธอก็ยังแย่กว่าเค้าเล็กน้อย
ท้ายที่สุดแล้ว ผลิตภัณฑ์เสริมความงามของหลิ่วชิงชิงก็สามารถส่งออกได้ทั่วโลก ส่วนธุรกิจของเธอมันมีแค่ตลาดในประเทศก็เท่านั้น ตลาดในต่างประเทศมันก็กว้างขวางกว่ามาก
ดังนั้นเหอเนี่ยนอิงเองก็อยากที่จะผลักดันธุรกิจของเธอเข้าสู่แวววงระหว่างประเทศ แต่เธอก็ยังไม่พบโอกาสเลย
ตอนนี้มันต่างออกไป ด้วยการสนับสนุนจากอิรัก เหอเนี่ยนอิงจะสามารถสร้างตลาดการค้าของเธอในอิรักได้อย่างแน่นอน
เหอเนี่ยนอิงเหลือบมองไปที่ฉินจุนด้วยความประหลาดใจ ในใจเธอก็ชื่นชมเค้ามาก
ศิษย์พี่ของเธอลงมือด้วยตัวเอง เธออยู่ที่นี่มาแล้วหลายปี ปัญหาที่ยุ่งเหยิงแบบนี้เธอเองก็ยังไม่สามารถแก้ไขมันได้เลย ถ้าหากไม่มีใครมาช่วย อาจจะต้องเป็นเหอเนี่ยนอิงที่ยอมประนีประนอมและสละธุรกิจของเธอในมณฑลฮั่นตง
แต่ทันทีที่ศิษย์พี่ลงมือเอง เค้าก็แก้ไขปัญหาได้ในทันที ไม่เพียงแต่เค้าสามารถแก้ปัญหาวิกฤติแบบนี้ได้เท่านั้น เค้ายังส่งเสริมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของเค้าเข้าสู่ตลาดต่างประเทศอีกด้วย
ตระกูลซูกับตระกูลหัวเองก็ถูกปราบปรามเหมือนกันเช่นกัน จากนี้ไปเมืองตงไห่จะกลายเป็นผู้นำอสังหาริมทรัพย์โดยตระกูลเหอเพียงตระกูลเดียวเท่านั้น นี่มันน่าทึ่งจริงๆ
เหอเนี่ยนอิงยุ่งแทบตาย ฉินจุนเองก็ไม่รบกวนเธอเหมือนกัน
“เธอยุ่งกับธุระของเธอไปเถอะ อีกไม่กี่วันรุ่นพี่จะนัดรวมตัวกันและอาจารย์ก็จะมาด้วย”
เหอเนี่ยนอิงก็ดูท่าจะตื่นเต้นขึ้นมา “อาจารย์ อาจารย์เค้ามาที่นี่ด้วยเหรอ? นี่มันเยี่ยมไปเลย!”
ในความคิดของเหอเนี่ยนอิง มันไม่มีเรื่องอะไรสำคัญมากไปกว่าการได้เจออาจารย์เลย ต่อให้ต้องสูญเสียมรดกของตระกูลเหอไป มันก็คุ้มค่าที่จะได้เจออาจารย์
หลังจากออกจากมาบริษัทอสังหาริมทรัพย์เหอกรุ๊ปแล้ว ฉินจุนก็โทรหาจู้หลินหลิน
เค้าโทรไปสองสายก็ไม่มีใครรับสายเลย ฉินจุนขมวดคิ้วของเค้าขึ้นมา จู้หลินหลินคงจะไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นใช่ไหม
ฉินจุนขึ้นรถและตรงไปที่บ้านตระกูลจู้ในทันที
ในตอนนี้เอง ประตูบ้านตระกูลจู้ก็ถูกปิดและสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือห้องของจู้หลินหลินก็ถูกล็อคไว้อย่างแน่นหนา มันล็อคจากด้านนอก มันไม่สามารถเปิดจากด้านในได้เลย
ใช้แล้ว จู้หลินหลินถูกกักบริเวณในบ้าน
เธอถูกขังอยู่ในห้องนอนของเธอ ทุกวันจะมีข้าวและน้ำมาส่ง เธอมีแค่ทีวีอยู่ในห้องกับแผ่นเสียงนิดหน่อย มันไม่มีอะไรอย่างอื่นเลย
จู้หลินหลินพยายามเปิดประตูอีกครั้ง แต่มันถูกล็อคจากด้านนอก เธอไม่สามารถเขย่ามันได้ด้วยกำลังของเธอ
“เฮ้! เหลาจาง เปิดประตูให้ฉันเถอะ ฉันอยากออกไปอาบน้ำ!”
ชายที่ชื่อเหล่าจาง เค้าเป็นสุนัขรับใช้ของจู้หมอง เขาอายุ 30 ปีและทำงานเป็นทหารรับจ้าง การกักบริเวณเด็กผู้หญิงมันก็ไม่ใช่เรื่องที่เค้าคุ้นเคยเลย
เหล่าจางดูเฉยเมยและพูดว่า
“คุณจู้ คุณมีห้องน้ำส่วนตัวกับเครื่องใช้ทั้งหมดในห้องของคุณแล้ว คุณสามารถอาบน้ำในห้องของคุณเองได้หนิครับ”
จู้หลินหลินก็พูดขึ้นมาว่า “ห้องของฉันมีแค่ฝักบัวก็เท่านั้น ฉันอยากอาบน้ำ!”
เหลาจางก็หัวเราะขึ้นมาอย่างเย็นชา “คุณจู้ ดูแลตัวเองดีนะครับ อย่าเรียกร้องอะไรมาก”
จู้หลินหลินโกรธมาก เธอพูดขึ้นมาว่า “แก… ฉันป่วย ฉันปวดท้อง ฉันต้องกินยา!”
เหล่าจางก็ขมวดคิ้วขึ้นมา แม้ว่าเขาจะรู้ว่าจู้หลินหลินหลอกเค้า แต่เค้าก็ยังต้องการที่จะตอบสนองคำขอของเธอ
จู้หมิงเองก็ไม่สนใจอะไร เค้าสามารถทำยังไงกันจู้หลินหลินก็ได้ แต่ที่บ้านก็ยังมีนายท่านกับคุณผู้หญิงอยู่ ดังนั้นจู้หลินหลินเป็นอะไรไปไม่ได้เลย
เหล่าจางก็พูดขึ้นมาว่า “เดี๋ยวผมจะเอายามาให้”
“ไม่ได้ แกไม่ใช่หมอ ฉันไม่กล้ากินยาที่แกให้หรอก แกก็เอาฉันออกไปหาหมอสิ!”
เมื่อเหล่าจางได้ยินแบบนั้น เค้าก็หัวเราะขึ้นมา “คุณจู คุณยังคิดว่าไอ่คนที่นามสกุลฉินนั่นจะมาช่วยคุณได้เหรอ? อย่าโง่เลยครับ เค้าตายไปแล้ว เค้ากลายเป็นศพไปแล้ว”