ผู้รักษาสุดแกร่ง - บทที่ 320 ก็แค่หมาตัวนึง
จู้หลินหลินพูดด้วยสีหน้ามืดมน “ไอ่บ้า! พี่จุ้นเค้าไม่มีวันตายหรอก ไปตามคุณย่ามา ฉันมีเรื่องจะคุยกับย่า!”
เหล่าจางส่ายหัว แต่เค้าก็ยังเข้าไปในห้องแล้วตามนายหญิงมา
นายหญิงอยู่ที่ประตูพร้อมไม้เท้าและถอนหายใจ
“หลินหลิน”
จู้หลินหลินรีบตะโกนขึ้นมาว่า “คุณย่า ปล่อยหนูเถอะ หนูเป็นหลานย่านะคะ!”
นายหญิงพูดอย่างหมดหนทางว่า “หลินหลิน ไม่ใช่ว่าย่าไม่อยากปล่อยให้หนูออกไป หนูเองก็จ้องใจเย็นๆ อย่าโทษย่าที่ใจร้าย แม้ว่าจะเป็นนามสกุลจู้ แต่ไม่ช้าก็เร็วจะต้องแต่งงาน คุณลุงของหนูเอง เค้าก็มีลูกชายที่เก่งมาก เค้าจะเป็นคนที่มาสืบทอดตระกูลของเรา”
จู้หลินหลินไม่ได้พูดอะไร เธอรู้สึกหงุดหงิด
เธอคิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าคุณย่าของเธอจะพูดแบบนี้
แม้ว่าจู้หลินหลินจะเป็นผู้หญิง แต่เธอก็สนับสนุนตระกูลจู้อย่างสุดใจมาเสมอ
ในตอนแรกจู้หมิงก็รังแกเธอตลอด หลังจากที่ย่าของเธอกลับมา เธอยังคงเพิกเฉยต่อเรื่องก่อนหน้านี้และรวมทั้งสามบริษัทเข้าด้วยกัน
แม้แต่ถังเสินหมายเลข 2 เองเธอก็มอบมันให้กับตระกูลอย่างไม่เห็นแก่ตัว
แต่สิ่งที่ได้กลับมามันคืออะไร มันคือความโลภ!
จู้หมิงต้องการครอบครองหุ้นทั้งหมดของเธอและควบคุมบริษัททั้งหมด คุณย่าของเธอเองก็สนับสนุนเค้า
แม้ว่าจู้หลินหลินจะถูกขังไว้ แต่คุณย่าของเธอก็ไม่สนใจเรื่องนี้เลย
จู้หลินหลินผิดหวังกับตระกูลนี้จริงๆ
“คุณย่า ย่าจำเรื่องที่ย่าทำกับหนูในวันนี้เอาไว้เลย ถ้าหนูออกไปได้ หนูจะไม่ใช่คนของตระกูลจู้อีกต่อไป”
นายหญิงก็อ้าปากของเธอขึ้นมา เธอต้องการที่จะพูด แต่ในที่สุดเธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
จู้หลิงหลิงเองก็เป็นผู้หญิง แม้ว่าจะไม่มีเรื่องอะไรแบบนั้น เธอก็ยังต้องการที่จะแต่งงาน
ตอนนี้ธุรกิจอันรุ่งโรจน์ของตระกูลจู้ มันจะต้องไม่ตกไปอยู่ในมือของคนอื่น
เมื่อเหล่าจางเห็นว่านายหญิงไม่พูดอะไร สีหน้าของเค้าก็มีรอยยิ้มเยาะเย้ยขึ้นมา “คุณหนูจู้ ใจดำเกินไปแล้วนะครับ ถ้าท่านประธานจู้ไม่สั่ง มันก็ไม่มีใครเอาตัวคุณหนูออกไปจากที่นี่ได้นะครับ ถ้าไม่เชื่อก็ลองดูสิครับ”
หลังจากที่เหล่าจางพูดจบ ที่ประตูทางเข้ามันก็มีเสียงของผู้ชายที่ดังขึ้นมา
“ลอง งั้นก็ลอง”
เมื่อได้ยินแบบนี้ พวกเค้าต่างก็ตกตะลึงแล้วมองไปตามเสียง มันมีเพียงแค่ฉินจุนเท่านั้นที่ยืนอยู่ที่ประตู!
สีหน้าของนายหญิงกับเหล่าจางก็เปลี่ยนไป “ทำไมแกถึงยังมีชีวิตอยู่!”
การปรากฏตัวของฉินจุน มันทำให้พวกเค้าประหลาดใจจริงๆ
จูหลินหลินที่อยู่ในห้องเองก็ได้ยินเสียง แต่เธอไม่สามารถมองเห็นฉากข้างนอกนี้ได้เลย
“พี่เสี่ยวจุน! พี่เสี่ยวจุน พี่ใช่ไหม!”
“ฉันเอง หลินหลิน ฉันมาช่วยเธอแล้ว”
เพราะแบบนี้เอง ฉินจุ้นที่กำลังจะเดินเข้ามาข้างใน เหล่าจางก็ลุกขึ้นขวางและพูดอย่างเย็นชาว่า
“คุณเข้าไปไม่ได้! ที่นี่คือบ้านของตระกูลจู้ มันไม่ใช่ว่าใครจะบุกเข้ามาก็ได้!”
“บุก?” ฉินจุนก็ล็อคมือและคอของเหล่าจางด้วยนิ้วทั้งห้าของเค้า เหล่าจางหายใจไม่ออก สีหน้าของเค้ามันดูไม่ได้เลย มือทั้งสองข้างของเค้ามันจับข้อมือของฉินจุนจนแน่น ไม่ว่าเค้าจะพยายามมากแค่ไหนก็ตาม เค้าก็ดิ้นไม่หลุด
ฉินจุ้นก็พูดขึ้นมาอย่างเย็นชา
“แกมันเป็นก็แค่หมาของจู้หมิง แกกล้าที่จะมาดูถูกฉัน? ก่อนหน้านี้ตอนที่ตระกูลจู้ให้ฉันเป็นหมา ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแกไปขอทานอยู่ที่ไหน! หมาน้อยเอร้ย แกกล้าที่จะทำแบบนี้กับหลินหลิน แกนี่ไม่กลัวตายเลยจริงๆ! ”
หลังจากพูดจบ ฉินจุนก็บีบนิ้วทั้งห้าของเค้าดังคลิก จากนั้นเหล่าจางก็ถูกฆ่าตายในทันที!
ทันใดนั้นเองสีหน้าของหญิงชาก็ดูไม่ได้เลย เธอโกรธมาก
“แกกล้าดียังไง! แกกล้าที่จะฆ่าคนที่บ้านของตระกูลหลินของฉัน! นี่มันมากเกินไปแล้วนะ!”
หญิงชราโวยวายราวกับหมาบ้า ฉินจุนสูดลมหายใจแล้วหันมาตบเธอ!
ผั๊วะ!
เค้าตบเข้าไปที่หน้าของหญิงชรา
ใบหน้าของหญิงชราจู้ ดูเหมือนว่ามันจะนูนขึ้นในทันใดและรอยนิ้วมือทั้งห้าสีแดงสดปรากฏบนใบหน้าของเธออย่างชัดเจน
หญิงชราตกตะลึง เธอไม่เคยคิดเลยว่าฉินจุนจะกล้าตบเธอแบบนี้!
หญิงชรายื่นมือออกและชี้ไปที่ฉินจุนอย่างสั่นเทา
“ไอ่ฉิน! แกกล้าตบฉันเหรอ!?”
ฉินจุนพูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า “นี่แค่ตบเบาๆนะ! อย่าคิดว่าแกจะอ้างว่าตัวเองแกแล้วฉันจะทำอะไรไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะความเมตตา แกคิดว่าแกจะมีชีวิตอยู่ตรงหน้าของฉันในตอนนี้ได้อย่างงั้นเหรอ?!”
ฉินจุนพูดสองสามคำ แต่หญิงชราไม่พูดอะไรเลย เธอไม่กล้าพูดอะไรสักคำ
ความแข็งแกร่งและออร่าของเค้ามันทำให้หญิงชรารู้สึกว่าเค้าไม่ใช้แค่เด็กน้อย แต่เป็นภูเขา เค้าเป็นภูเขาที่เธอไม่สามารถข้ามผ่านไปได้!
เมื่อเห็นแววตาที่เย็นชาของฉินจุน หญิงชราก็กลัวขึ้นมาจริงๆ
มันเป็นเวลานานมากแล้วที่เธอไม่เคยมองฉินจุนอยู่ในสายตาของเธอ ในความคิดของเธอ ฉินจุนเพียงแค่อาศัยเพียงตระกูลจูของเธอเพื่อพักพิงก็เท่านั้น
ไม่อย่างนั้นความเกี่ยวโยงของมัน มันน่าจะต้องถูกสามตระกูลใหญ่ฆ่าไปตั้งนานแล้ว
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะไม่เป็นแบบนั้น ฉินจุนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลจู้ แม้แต่ตระกูลจู้เองก็ยังไม่อยู่ในสายตาของเค้าเลย?
ฉินจุนเดินไปที่ประตูห้องและกระแทกมัน ฉินจุนใช้มือดึงประตูกันขโมยที่แข็งแรงให้เปิดออก เค้าไม่ได้ใช้ทักษะอะไรเลย เค้าเพียงแค่ออกแรงดึงมันและทำลายที่ล็อคประตู
หญิงชรามองเค้าด้วยสายตาที่ตกตะลึงและตกใจมาก ไอ่เด็กคนนี้มันมีพละกำลังมหาศาลขนาดนี้ได้ยังไงกัน!
เมื่อเปิดประตูแล้ว จู้หลินหลินก็รีบวิ่งเข้าไปในอ้อมแขนของฉินจุน
กลิ่นหอมอ่อนๆจากอ้อมกอด มันราวกับหยกอุ่นๆที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ
ฉินจุนลูบผมของเธอเบาๆและพูดขึ้นมา เค้าโอบกอดร่างกายที่อ่อนนุ่มของเธอเอาไว้ในอ้อมแขนของเค้า
“หลายวันมานี้ลำบากแย่เลยนะ”
จู้หลินหลินส่ายหัวขึ้นมา “ฉันไม่ได้ลำบากอะไรมาก ฉันถูกกักบริเวณอยู่ที่บ้าน นายไม่เป็นไรใช่ไหม?”
ฉินจุนส่ายหัว “ไม่เป็นไร ไปเถอะ ไปเอาของๆเธอคืนมา”
จู้หลินหลินดูเคร่งขรึมขึ้นมา เธอพูดว่า “พี่เสี่ยวจุน มีผู้ถือหุ้นจำนวนมากที่สนับสนุนจู้หมิง ฉันกลัวว่าฉันจะเอาหุ้นของฉันกลับคืนมาไม่ได้”
ฉินจุนหัวเราะขึ้นมา “อะไรที่มันเป็นของเธอ มันก็เป็นของเธอเสมอมา ถ้าเราเอาคืนมาไม่ได้ ก็ทำลายมันซะแล้วมาสร้างบริษัทใหม่กัน”
จู้หลินหลินผงะไปครู่หนึ่ง เธอไม่ค่อยเข้าใจว่าฉินจุนกำลังหมายถึงอะไร แต่เธอก็พยักหน้าและตัดสินใจที่จะไปกับฉินจุน
หญิงชรายืนอยู่กับที่พร้อมกับสีหน้าที่ดูไม่ได้เลย แม้จะไม่มีใครเห็นฉากที่ฉินจุนตบเธอ แต่ในตอนนี้เธอก็รู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก
ด้วยอายุของฉินจุน การที่เค้าตบหน้าเธอแบบนี้ มันทำให้เธอรู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก
“จู้หลินหลิน! เธอจะไปทำอะไร! เธอยังเป็นคนตระกูลจู้อยู่ไหม เธอจะไปกับมันอย่างงั้นเหรอ!”
จู้หลินหลินหันหน้ามา เธอมองไปที่หญิงชราอย่างเฉยเมย จากนั้นก็คุกเข่าลงที่พื้นและคำนับให้กับหญิงชราสามครั้ง
จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นมาแล้วพูดอย่างเฉยเมยว่า
“คุณย่า นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะไม่กลับมาตระกูลจู้อีก ฉันไม่ต้องการมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลจู้ ฉันไม่อยากได้ทรัพย์สินของตระกูลจู้ ฉินจะออกจากตระกูลไปโดยที่จะไม่เอาอะไรไปเลย ต่อไปก็อย่าติดต่อกันอีก”
หญิงชรามองตาค้าง “จู้หลินหลิน! เธอจะต้องเสียใจภายหลัง!”