ผู้รักษาสุดแกร่ง - บทที่ 328 ตายแล้ว
จู่ๆ ฉินจุนก็พุ่งไปข้างหน้าสองสามก้าว และเห็นเพียงว่าเห็นเขาเอียงศีรษะภายใต้การเคลื่อนไหวที่เร็ว เขาก็หลบวิถีของกระสุนปืนได้อย่างง่ายดาย
ร่างของฉินจุนเคลื่อนไหวราวกับสายลม และเขาก็รีบวิ่งไปเข้าหาเกาเฉินอย่างรวดเร็ว เขายื่นมือออกมาและบีบคอของเกาเฉินโดยตรง เขาออกแรงนิ้วมือทั้งห้านิ้วของเขา เสียงแกรกดังขึ้นและเกาเฉินก็ถูกฆ่าตายในทันที
ก่อนที่บอดี้การ์ดทั้งสองคนจะตอบโต้ ฉินจุนก็กระโดดลงไปที่หน้าต่างแล้ว
จากนั้นผู้หญิงบนเตียงก็ตอบสนองและกรีดร้องทั้งที่หลับตา
……
ในไม่ช้าฉินจุนก็กลับมาที่ต้วนเป่าตง
เมื่อเห็นฉินจุนกลับมาต้วนเป่าตงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “คุณฉินเป็นอย่างไรบ้าง คุณไม่เจอเกาเฉินใช่ไหม?ผมบอกแล้ว ผู้ชายคนนั้นระมัดระวังตัวมาก คิดที่จะจับเขาละก็ …… ”
ก่อนที่ต้วนเป่าตงจะพูดจบฉินจุนก็หยิบผ้าขาวออกมาแล้วพูดขณะเช็ดมือว่า
“ตายแล้ว”
ต้วนเป่าตงผงะไปครู่หนึ่ง “ตายแล้ว อะไรตายแล้ว?”
ฉินจุนกล่าวว่า “เกาเฉินตายแล้ว”
“หือ? คุณฉิน ล้อเล่นหรือเปล่า?”
ฉินจุนพูดเบา ๆ “คุณมองฉัน ฉันเหมือนคนกำลังพูดเล่นเหรอ?”
ใบหน้าของต้วนเป่าตงค่อยๆเปลี่ยนไปจากรอยยิ้มในตอนแรกเป็นความตกใจและจากนั้นก็กลายเป็นความภูมิใจ
ถ้าเป็นคนอื่นยพูด เขาคงไม่เชื่ออย่างแน่นอน ถ้าเกาเฉินตายอย่างง่ายดายเช่นนี้แล้ว เขาจะไม่กลายเป็นหัวหน้าของเมืองหลวงได้อย่างไรกัน
แต่คำพูดของคุณฉิน ไม่ผิดแน่ คุณฉินฆ่าเกาเฉินแล้วจริงๆ!
ไม่กี่นาทีต่อมาต้วนเป่าตงและเพ่ยเหลียงได้รับโทรศัพท์พร้อมกัน
“ฮัลโหล พ่อแม่! ออกมาแล้วเหรอ? พวกคุณหนีออกมาได้ยังไงกัน?
“น้อง! เธอออกมาแล้วงั้นเหรอ?”
เมื่อเกาเฉินตาย จินหลงไม่มีผู้นำ และพี่น้องเหล่านั้นต่างก็มองหาทางออกสำหรับตัวเอง จะมีใครสนใจครอบครัวของต้วนเป่าตงและเพ่ยเหลียงกัน?
ในเวลานี้เมืองหลวงของจังหวัดเกิดความยุ่งเหยิงขึ้นและญาติของพวกเขาก็หนีออกมาได้หมดแล้ว
ทั้งสองดีใจมาก “สุดยอดไปเลย คุณชายฉิน คุณคือพระเจ้า!
ฉินจุนกลายเป็นพระเจ้าในหัวใจของพวกเขาอีกครั้ง
ที่แท้มันก็เป็นเกมของมนุษย์ เมื่อคุณชายฉินกลับมาแก้ไข ปัญหาทั้งหมดก็ได้รับการแก้ไขโดยทันที
ทั้งสองคนตื่นเต้นมากจนเริ่มโทรสั่งและติดต่อกับผู้มีอำนาจคนก่อน ติดต่อคนที่เคยทำงานกับพวกเขา
ในไม่ช้าพระอาทิตย์ก็ขึ้น และขอทานก็ออกมา “ทำงาน”
หลิวเค่อขับรถบีเอ็มหยุดรถ และลงจากรถ เขาสวมเสื้อผ้าขอทานที่ขาดรุ่งริ่ง และเตรียมที่จะขอทานต่อไป
เมื่อเห็นต้วนเป่าตงและคนอื่นๆ ยืนอยู่ที่นี่ เขาก็ตกใจ
“ฮะ? นี่ขาของแกยืนได้แล้วเหรอ? นี่พวกแกแกล้งทำเป็นหือกับฉันใช่ไหม? พวกแกสามคนนี่มันยอดเยี่ยมจริงๆ แสร้งทำได้เหมือนกว่าฉันซะอีก! ”
หลังจากนั้นหลิวเค่อก็เตะต้วนเป่าตงเข้าไป
แกนี่แม่ง รนหาที่ตายจริงๆ!
ก่อนที่ต้วนเป่าตงจะลงมือ หลงอี้ฮุยก็พุ่งไปข้างหน้าคว้าแขนของหลิวเค่อ แล้วกดไหล่ของเขาไปที่พื้น จากนั้นคว้าแขนของเขาพันขา จับไขว้เพื่อล็อกแขน และดันเอวให้ตั้งตรง
เพียงคลิกเดียว แขนของหลิวเค่อก็หักทันที
“อ๊ะ! แกกล้าดียังไงกล้าลงมือกับฉัน เชื่อไหมฉันจะให้พี่เฉินฆ่าครอบครัวของพวกแกทิ้งซะ!”
ต้วนเป่าตงเยาะเย้ย “พี่เฉินงั้นเหรอ? แกไปขุดหลุมฝั่งศพให้มันเถอะ!!”
หลังจากพูดเสร็จต้วนเป่าตงก็ถอดเสื้อผ้า รัดคอของหลิวเค่อแล้วดึงเขาเข้ามาใกล้ๆ
ภายในเวลาสิบวินาทีหลิวเค่อตาเหลือกและสุดท้ายก็ขาดอากาศหายใจตาย
ต้วนเป่าตงไม่กล้าลงมือตอนนั้นก็เพราะสมาชิกในครอบครัวของเขาถูกคุกคาม ไม่เช่นนั้นต้วนเป่าตงก็จะเป็นหมาป่าดีๆนี่เอง ใครจะกล้ามายั่วโมโหเขาได้?
ขอทานหลายคนรอบๆ เห็นฉากนี้ พวกเขาตกใจมากจนไม่กล้าขยับ ต่างคนต่างถอยออกมา บางคนก็รีบวิ่งหนีไป
ต้วนเป่าตงโยนร่างของหลิวเค่อและพูดอย่างเย็นชา
“อะไรที่เป็นของเรา ได้เวลาเอาคืนแล้ว!”
ฉินจินเห็นมือของต้วนเป่าตงกำหมัดแน่น และรู้ว่าผู้ชายคนนี้กำลังจะเล่นอย่างหนักแน่ในครั้งนี้
ต้วนเป่าตงเดิมเป็นนักเลงอยู่แล้ว แต่เมื่อเปรียบเทียบกับนักเลงข้างถนนของเพ่ยเหลียง เขาถือว่ามีอิโก้มากกว่า
แต่การมีอิโก้ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่โหดเหี้ยม
เมื่อต้วนเป่าตงรัดคอหลิวเค่อในเวลานั้น เขาก็ไม่ได้กะพริบตาเลยแม้แต่น้อง หลังจากที่ไม่ได้เคลื่อนไหวมาหลายปี ดูเหมือนว่ามีบางคนจะคิดว่าเขาอ่อนแอเกินไปแล้ว
ช่วยต้วนเปาตงและคนอื่นๆ คลายความกังวล พวกเขาก็สามารถปล่อยวางได้ไปอีเปาะหนึ่ง
ฉินจุนพยักหน้า และเขาไม่ก็ไม่จำเป็นสนใจส่วนที่เหลือแล้ว
หลังจากที่ฉินจุนกลับไปที่คฤหาสน์ เขาก็โทรหาหวังตงเสวี่ย เพราะเขาไม่ได้ติดต่อเธอมาสองสามวันแล้ว หวังตงเสวี่ยก็เป็นห่วงเขามากเช่นกัน แต่หวังตงเสวี่ยเป็นคนนอกและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แค่คิดว่าที่ฉินจุนไม่ได้ติดต่อเธอมาหลายวันแล้ว น่าจะเป็นเพราะว่าเขาจะเดินทางไปทำธุรกิจหรืออยู่ต่างประเทศ
เมื่อได้รับสายของฉินจุน หวังตงเสวี่ยก็คร่ำครวญเล็กน้อย
ฉันคิดว่าพี่จะไม่ติดต่อฉันแล้ว…”
หวังตงเสวี่ยคิดอย่างนี้จริงๆ โดยคิดว่าฉินจุนเบื่อเธอและความสัมพันธ์ของพวกเธอก็จะจบลงก่อนที่จะได้เริ่มต้นซะอีก
ฉินจุนยิ้ม “พี่มาต่างจังหวัดเพื่อพบอาจารย์ แต่ไม่มีสัญญาณ เลยติดต่อเธอไม่ได้และทำให้เธอต้องกังวลแล้ว”
“ฮ่าฮ่า ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว พรุ่งนี้มีงานคาร์นิวัลประจำปี ฉันตื่นเต้นมาก ถ้าพี่ไปกับฉันก็คงจะดี ”
ฉินจุนตกใจไปครู่หนึ่ง เขาลืมเรื่องนี้ไปสนิท เขาคิดไม่ถึงว่าพรุ่งนี้จะเป็นงานคาร์นิวัลประจำปี
“เธออยากให้พี่ไปด้วยไหม?”
“ใช่แล้ว แต่ฉันถามผู้จัดงานแล้ว บล็อกเกอร์สามารถเข้าร่วมงานได้เพียงคนเดียว ไม่สามารถควงผู้ชายไปได้ เห้อ”
ฉินจุนยิ้ม “ฉันจะลองคิดหาวิธีอื่นที่จะไปกับเธอในวันพรุ่งนี้”
“จริงเหรอคะ เยี่ยมไปเลย!”
หลังจากคุยกันอีกสองสามคำ ทั้งสองก็วางสาย ฉินจุนถามน้าเฝิงและน้าเฝิงก็หยิบโทรศัพท์ออกมาและเปิดข้อความให้ฉินจุนดู
แน่นอนว่าเป็นคำเชิญจากแพลตฟอร์ม Tigerfishส่งคำเชิญให้เขา เนื่องจากเฝิงจวนแห่งตะกูลฉินเป็นผู้ประกอบการอันดับหนึ่งในท้องถิ่นในปีนี้ เขาจึงได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานคาร์นิวัลประจำปี
และเนื่องจากหมายเลขไอดีของเฝิงจวนแห่งตะกูลฉิน ถูกผูกไว้กับโทรศัพท์มือถือของน้าเฝิง ดังนั้นข้อมูลจึงถูกส่งไปยังโทรศัพท์มือถือของเธอ
“นายน้อย โทรศัพท์เครื่องนี้ฉันให้คุณยืมใช้ก่อน ฉันยังมีอีกเครื่อง”
“โอเคครับ”
ฉินจุนก็ไม่ได้เห็นน้าเฝิงเป็นคนอื่นคนไกล แค่โทรศัพท์มือถือเครื่องเดียว ที่บ้านก็มีอยู่เยอะแยะ
เมื่อได้โทรศัพท์มือถือของน้าเฝิงแล้ว ฉินจุนติดต่อทีมผู้จัดให้ส่งจดหมายเชิญมาให้ที่ฉินจุน
ฉินจุนคิดว่า ในเมื่อเป็นหวังตงเสวี่ยที่จะเข้าร่วมการงานจำปีนี้ ส่วนเขาก็จะได้เจอกับอาจารย์และศิษย์พี่ศิษย์น้องของเขาอยู่ที่นั่นด้วยเช่นกันและเป็นการให้การสนับสนุนหวังตงเสวี่ยที่นั่นด้วย
ฉินจุนกดหมายเลขโทรศัพท์ของศิษย์น้องสองสามคนและแจ้งพวกเขา ทันทีที่พวกเขาได้ยินว่าพวกเขาจะพบกับอาจารย์ในวันพรุ่งนี้ ทุกคนก็ตอบรับทันที
ถึงแม้ว่าจะมีงานสำคัญอยู่ในมือ ทุกคนก็ต่างทิ้งมันไว้ก่อนเพราะการพบอาจารย์นั้นใหญ่กว่าท้องฟ้านี่เสียอีก
เมื่อเย่ซวนหยวนได้ยินเรื่องนี้ เขาก็ไม่ได้พูดอะไร แต่เขาขมวดคิ้ว และเพียงถามบางอย่างจากฉินจุนเมื่อรู้สึกถึงกลิ่นไอเลือด
“ฆ่าคนมางั้นเหรอ?”
ฉินจุนพยักหน้าและเล่าเรื่องที่เขาฆ่าเกาเฉินวันนี้
หลังจากฟัง เย่ซวนหยวนก็ถอนหายใจอย่างเย็นชา
“นายนี่โง่จริงๆเลย ทำไมต้องเตะกำแพง แค่ขว้างเข็มไปมันก็ตายแล้ว ยังต้องวิ่งเข้าไปบีบคอให้ตาย โง่จริงๆ”
ฉินจุนถึงกับพูดไม่ออก
เย่ซวนหยวนน่าจะเป็นคนเดียวบนโลกที่สามารถพูดได้ว่าฉินจุนโง่
“คำสอนของอาจารย์ถูกต้องที่สุดครับ”