ผู้รักษาสุดแกร่ง - บทที่ 363 เคยกินอาหารตะวันตกใช่ไหม
ยวี่เฉียงก็พูดว่า “พวกเราทุกคนกินบุฟเฟ่ต์”
“ครับคุณผู้ชาย”
คนเยอะขนาดนี้ การกินบุฟเฟ่มันก็จะสามารถที่จะสั่งได้ตามต้องการ บริกรก็จะมีการจัดเตรียม โดยปกติแล้วอาหารจะเสิร์ฟทุกจาน ถ้ากินหมดแล้วก็สั่งเพิ่มได้ตลอด
อาหารถูกเสิร์ฟทีละจาน ยวี่เฉียงก็แนะนำพวกเค้าเหมือนกับว่าตัวเองเป็นเจ้าของร้าน
“นี่คือแซลมอนซาซิมิ นี่คือหอยอาร์กติกและนี่คือกุ้งหวาน”
“ถ้าจะกินปลาทะเลน้ำลึกดิบพวกนี้ ต้องแน่ใจว่ามันสด ทั้งหมดนี้เป็นอาหารที่ส่งตรงมาจากประเทศญี่ปุ่น พวกมันไม่สามารถหาซื้อได้ตามตลาดปลาแถวบ้าน
ลองชิมดู”
หลายคนก็แทบทนรอไม่ไหวที่จะจับตะเกียบ
“แซลม่อนนี่ฉันเคยซื้อนะ แต่ฉันไม่กล้ากินที่ซื้อมาจากตลาด ทุกครั้งต้องทำให้มันสุกก่อนแล้วค่อยกิน นี่มันหรูหรามาก”
“ใช่แล้ว อันที่ขายในตลาดมันราคาแปดสิบหรือเก้าสิบหยวนต่อชิ้น แบบนี้มันแพงกว่า คนธรรมดาอย่างเราหาซื้อไม่ได้เลย”
“ประธานยวี่เยี่ยมมากเลย เค้ามองแวบเดียวเค้าก็รู้ทุกอย่างเลย เค้าต้องไปสถานที่ระดับไฮเอนด์บ่อยแน่ก็เลยรู้ทุกอย่าง”
ยวี่เฉียงยิ้มจาง ๆ “ไม่บ่อยนักหรอก ถ้ากินอาหารอะไรแบบนี้สองสามครั้งมันก็เอียนแล้ว ปกติก็ไม่ได้ดินอะไรหรอก ได้กินซักครั้งก็น่าจะพอแล้ว จริงไหมคุณฉิน?”
ฉินจุนกำลังพูดคับอยู่กับเหรินลู่ เมื่อยวี่เฉียงเรียกเค้า เค้าก็ขมวดคิ้วขึ้นมา
“ของกินเต็มปากยังหยุดการพูดของนายไม่ได้เลยอย่างงั้นเหรอ?”
ฉินจุนไม่สนใจเค้า แต่นั่นมันก็ไม่ได้หมายความเค้าว่าจะมีทัศนคติที่ดีต่อกัน
ตั้งแต่ตอนแรก ทันทีที่เค้าเดินเข้ามา ยวี่เฉียงก็ให้เหรินลู่เอารถของเค้าไปจอด นี่มันก็ทำให้ฉินจุนรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย
ยวี่เฉียงก็ขมวดคิ้วขึ้นมา สีหน้าของเค้าดูไม่ชอบใจซะเท่าไหร่ ลูกหมาพวกนี้มันไม่รู้จักบุญคุณคนซะจริง!
อ้ายหลิงก็หัวเราะเยาะขึ้นมาและตั้งแต่ที่ขับรถมาที่งานเลี้ยงรวมเพื่อนนี่เธอก็แสดงท่าที่หยิ่งยโสมาตลอด!
ยวี่เฉียงก็ถอนหายใจออกมา “อย่าเพิ่งคุยกันสิ กินให้มันเยอะหน่อย ถ้ากินไม่เป็น ฉันจะสอนให้”
“เหรินลู่! กระจุกสีเขียวนั่นมันวาซาบินะ มันต้องผสมกับโชยุที่อยู่ข้างๆ
เหรินลู่ยิ้มอย่างขมขื่นและรีบใช้เครื่องปรุงตามที่ยวี่เฉียงบอก นี่เป็นครั้งแรกที่เค้ามากินอาหารญี่ปุ่นแท้ๆ เค้าไม่รู้อะไรเลย
“ประธานยวี่ เยี่ยมยอดมาก”
แม้ว่าจะเป็นการหารกันจ่าย แต่ยวี่เฉี่ยงก็ดูดีที่สุดในหมู่เพื่อนของเค้า เค้าเองก็ทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ต่อไปถ้าจะชื้อรถไม่แน่ก็อาจจะต้องพึ่งพาเค้า ให้เค้าช่วยรถราคาให้ ดังนั้นทุกคนก็เลยพยายามที่จะเข้าหาเค้า
หลังจากที่ผ่านไปได้ซักพัก พนักงานเสิร์ฟก็ยกหนวดปลาหมึกสดขึ้นมาหนึ่งชาม พร้อมกับราดน้ำมันรสเผ็ด มันดูน่ารับประทานมาก ทุกคนเองก็เตรียมที่จะกินมัน
จากนั้นพนักงานเสิร์ฟก็เสิร์ฟขนมปังให้ทุกคนแล้ววางลงบนจาน
หลังจากที่พนักงานเสิร์ฟออกไป ก็มีคนคนถามขึ้นมาว่า “ประธานหยู่ ขนมปังนี่มันกินยังไงเหรอ?”
ยวี่เฉียงคิดอยู่ซักพัก “ฉันเคยกินอาหารตะวันตกมา ปกติแล้วเค้าจะเสิร์ฟขนมปังเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย นี่มันก็น่าจะเหมือนกัน”
“อ่อ แบบนี้นี่เอง”
ยวี่เฉียงก็หยิบขนมปังขึ้นมาแล้วเริ่มกินมัน เมื่อเค้ากินขนมปังเข้าไปแล้ว เค้าก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ขนมปังนี่มันแข็งและก็ไม่อร่อย ไม่รู้เลยว่านี่เป็นธรรมเนียมอะไรกัน ขนมปังที่กินก่อนอาหารค่ำในร้านอาหารตะวันตกอื่นๆมันทั้งนุ่มและนิ่ม
เหรินลู่ก็หยิบขนมปังขึ้นมา เค้าเรียนรู้ที่จะกินตามยวี่เฉียง ทันใดนั้นฉินจุนก็ตบหัวเค้าแล้วส่ายหัว
ต่อหน้าทุกคน เค้าใส่ปลาหมึกยักษ์เข้าไป เค้าวางปลาหมึกลงบนขนมปัง
จากนั้นก็เอาขนมปังจุ่มลงไปในน้ำมันสีแดงแล้วแช่ให้หมาด จากนั้นก็นำปลาหมึกสดนั่นเข้าปาก
ในตอนนี้เอง ทุกคนเริ่มรู้ว่าขนมปังชิ้นนี้มันไม่ใช่อาหาร แต่เป็นมัน!
น้ำมันสีแดงนี่มันก็หนืดไปและมีกลิ่นไม่ดีเมื่อเอาเข้าปาก
สีหน้าของยวี่เฉียงดูอายมาก
ท่าทีของยวี่เฉียงนี่มันตลกจริงๆ เค้าทำเป็นอวดว่าตัวเองเคยกินมันและรู้มันทุกอย่าง สุดท้ายแล้วเค้าไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าขนมปังนี่มันเอาไว้ใช้ดูดซับน้ำมันเฉยๆ นี่เค้ากินมันบ่อยจริงๆเหรอ?
เห็นได้ชัดว่าขนมปังมีความหยาบ มันไม่ใช่สำหรับกิน แต่มันมีไว้สำหรับดูดซับน้ำมัน ดูจากสีหน้าของยวี่เฉียง กินเข้าไปแล้วมันต้องไม่อร่อยอย่างแน่นอน
ทุกคนเงียบ ตรงกันข้ามไม่มีใครกันมันตามยวี่เฉียง บรรยากาศมันน่ากระอักกระอ่วม
อ้ายหลิงที่ถือว่ามี EQ ค่อนข้างสูง เธอก็หัวเราะขึ้นมาเพื่อกันเสียหน้า
“ที่ไหนได้ขนมปังก่อนอาหารเย็นนี่มันมีฟังก์ชั่นนี้ด้วยเหรอ ที่รักลองทำดูสิ”
สีหน้าของยวี่เฉียงก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย เค้าลองกินเหมือนฉินจุนด้วยขนมปังที่เหลืออีกครึ่งหนึ่ง
พูดตามตรง คนส่วนมาก พวกเค้าก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดา ถึงแม้ว่าพวกเค้าจะรวย แต่ยวี่เฉียงก็ยังเป็นคนที่รวยที่สุดอยู่ดี
ส่วนฉินจุน เค้าเป็นคนที่ร่ำรวยและเป็นคุณชาย เค้าเป็นคนชนชั้นสูงที่แท้จริง ยวี่เฉียงไม่คิดอะไร เค้าต้องการดูถูกฉินจุนในเรื่องของความเข้าใจกับสิ่งเหล่านี้ เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่าตัวเองเหนือกว่า
ระหว่างกินข้าวฉินจุนกับเหรินลู่ก็คุยกันเยอะมาก แม้จะไม่ได้เจอหน้ากันมาเป็นสิบปี แต่สมัยเรียนพวกเค้าก็เก่งกันมาก ตอนนี้พวกเค้าก็คุยกันได้เข้าขาดีมาก มันดูราวกับว่าพวกเค้าย้อนกลับไปเมื่อสิบปีที่แล้วยังไงยังงั้นเลย
“ฉันจำได้ว่าเมื่อก่อนครอบครัวของนายมันก็ไม่เลวเลยหนิ ตอนนี้นายขายของเป็นยังไงบ้าง”
เหรินลู่เคยเป็นลูกคนรวย แม้ว่าเค้าจะรวยไม่เท่ากับมหาเศรษฐีอย่างฉินจุน แต่พวกเค้าก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นที่ดีต่อกัน
เหรินลู่ก็ถอนหายใจออกมา “อย่าพูดถึงมันเลย พ่อของฉันตอนเข้าไปซื้อขายหุ้นเค้าก็ใจร้อนและเค้าเอาทรัพย์สินทั้งหมดไปลงทุน แบบนี้เอง พวกเราก็เลยหมดตัวจนแทบจะไม่มีอะไรเลย”
เมื่อได้ยินเรื่องแบบนี้ เค้าก็ส่ายหัวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ แม้ว่าหุ้นมันจะทำให้คนรวยได้ แต่มันก็มีความเสี่ยงสูงมากเช่นกัน
หากคุณทุ่มเทกับมันไปทั้งหมด แม้แต่ตระกูลที่ร่ำรวยอย่างเหรินลู่ ก็ยังต้องหมดตัวได้เลย
“งั้นตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?”
เหรินลู่ก็เหลือบมองยวี่เฉียงแล้วพูดว่า “ฉันทำงานขายไม่ใช่เหรอ ยวี่เฉียงเป็นผู้จัดการร้าน 4s ของเรา ฉันได้งานเพราะความช่วยเหลือของเค้า เค้ายังให้ค่าคอมมิชชั่นอีกเยอะแยะมากมาย”
เหรินลู่ก็กระซิบว่า “ทุกวันยวี่เฉียงเค้าชอบเสแสร้ง เค้าชื้อรถ BMW มือสองมาเพื่ออวดคนอื่น แต่ว่าเค้าก็เสแสร้งจริงแหละ การมีผู้นำที่โง่เขลาแบบนี้มันก็ไม่ได้สร้างปัญหาอะไรกับฉันมาก งานที่ฉันทำมันก็เลยสบายมาก”
ฉินจุนยิ้ม เหรินลู่คนนี้ยังคงเหมือนเดิม เค้าเป็นคนที่ละเอียดถี่ถ้วนกับทุกอย่าง
เค้าทำงานเป็นลูกน้องของยวี่เฉียง แม้ว่ามันจะน่ารำคาญที่เห็นยวี่เฉียงอวดของทุกวันและก็ยังต้องอคอยเจอเข้ากับการที่เค้าคอยแต่ที่จะโชว์ว่าตัวเองเหนือกว่าต่อหน้าคนอื่น แต่ผลประโยชน์ที่ยวี่เฉียงมอบให้กับเหรินลู่มันก็บอกได้เลยว่าเค้าก็พอมีความเอื้อเฟื้ออยู่บ้าง
อย่างเช่น วันนี้เค้าต้องการที่จะอวดสถานะของตัวเองต่อหน้าเพื่อนร่วมชั้นเรียนคนอื่นๆ เค้าก็เลยให้เหรินลู่ทำงานหนัก แต่เค้าก็ยังจ่ายค่าอาหารให้
ในร้านก็เหมือนกัน ในตอนที่เหรินลู่ทำยอดขายไม่ได้ ยวี่เฉียงก็แสร้งทำเป็นมองไม่เห็นแล้วก็ไม่ได้หักเงินเดือนเค้า
เค้าใช้เหรินลู่เหมือนลูกน้อง เหรินลู่เองก็มองว่าเค้าเป็นคนโง่ นี่มันก็ไม่มีใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบ
เมื่อเห็นการสนทนาอันร้อนแรงระหว่างพวกเค้าทั้งสอง เพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆก็อยากรู้อยากเห็นขึ้นมา
“ประธานยวี่ เพื่อนร่วมชั้นของพวกเราทุกคนก็อยู่ที่นี่แล้ว นายเองก็เชิญคุณชายฉินมาได้แล้วทำไมท่านไม่เชิญเถียน ดาวโรงเรียนมาด้วยหละ?”
เถียน ดาวโรงเรียน เธอชื่อเถียนลู่ เธอเป็นคนพิเศษมากสำหรับพวกเค้า เธอเป็นผู้หญิงที่ได้เข้าไปสู่วงการบันเทิง