ผู้รักษาสุดแกร่ง - บทที่ 369 เทพธิดาเถียนเดือดแล้ว
เถียนลู่ขมวดคิ้วและระมัดระวังมากขึ้นกว่าเดิม ถ้าหากเจอแฟน ๆของเธอบนท้องถนน จริงๆ แล้วมันก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีและสามารถตอบสนองสิ่งที่เธอพยายามไขว่คว้ามาตลอด
แต่ใน KTV นี้ แฟนคลับกลับเป็นพวกขี้เมา ทำหน้าเหม่อๆ เถียนลู่ไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับพวกเขามากเกินไป
“ขอโทษด้วยนะคะ ฉันมีธุระค่ะ”
หลังจากที่เถียนลู่บอกว่าเธอขอตัวก่อนนั้น พี่เป้าก็คว้าแขนเธอไว้ “นี่ อย่าเพิ่งไปสิ ฉันยังพูดไม่จบ”
เมื่อเถียนลู่เห็นว่าเขากำลังเคลื่อนไหว สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที และเธอก็ตบเขาเข้าไปอย่างจัง
เสียงเพี้ยะดังขึ้นทันทีเธอตบเข้าอย่างจังบนใบหน้าของชายอ้วน และเธอก็ใช้แรงมากด้วยเช่นกัน และนี่ก็ทิ้งลายนิ้วมือห้าสีแดงสดบนใบหน้าของพี่เป้า
ทันใดนั้นเถียนลู่ก็เตะเข้าไปอีกที เตะตรงเป้าของพี่เป้า ซึ่งเธอได้เรียนรู้เทคนิคการป้องกันตัวและวันนี้เธอก็ได้ใช้มัน
และพี่เป้าก็ดื่มมามากแล้ว และเขาเองก็ไม่ทันป้องกันตัว ลูกเตะนี้กระทบเข้าหัวใจสีแดงอย่างจัง พี่เป้าถึงกับคุกเข่าลงกับพื้นทันที
เถียนลู่รีบกลับไปที่ห้องส่วนตัว และเขาก็โล่งใจที่เห็นทุกคนที่นั่น
“เทพธิดาเถียน คุณเป็นอะไรไป ทำไมสีหน้าคุณดูไม่ค่อยดีเลย?”
เถียนลู่กัดฟันและยิ้มออกมาพรางพูดว่า “หึหึ ไม่มีอะไรหรอก”
ตอนนี้มีคนจ่ายบิลแล้วเหรอ? ทุกคนดูกระตือรือร้นขึ้นมาอีกครั้ง
เถียนลู่เหลือบไปที่ฉินจุน และรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเขาไม่สนใจเธอ
ยังจะแสร้งอยู่อีก
เมื่อก่อนที่คุณยังเป็นคุณชายฉิน เถียนลู่ต้องการประจบประแจงคุณ
ตอนนี้ล่ะ เถียนลู่เป็นดาราแล้ว และคุณก็แค่คนธรรมดาที่ ทำไมถึงยังแสร้งทำเป็นเย็นชาอยู่อีก
เถียนลู่ตั้งใจนั่งลงข้างๆฉินจุน ยกแก้วไวน์ขึ้น และพูดด้วยน้ำเสียงเฉยเมย
“นี่ก็ผ่านไปหลายปีแล้ว คุณมีแฟนหรือยัง?”
ฉินจุนเหลือบมองเธอเล็กน้อย “ไม่มี”
เถียนลู่ยิ้ม “ทำไม คุณถึงมาตรฐานสูงแต่ความสามารถต่ำแบบนี้ล่ะ?”
ในสายตาของเถียนลู่คำว่า “มาตรฐานสูงแต่ความสามารถต่ำ” เหมาะสมที่สุดในการอธิบายฉินจุน
เมื่อก่อนเขาเคยเป็นคุณชายที่รวยมาก และเคยชินกับชีวิตที่มีเสื้อผ้าและของกินที่ที่แพง เจอผู้หญิงมากหน้าหลายตา และต้องมีมาตรฐานที่สูงพอสมควร
แต่ตอนนี้ล่ะ สถานะของเขาไม่ได้เหมือนเมื่อก่อนแล้ว สาวสวยเหล่านั้นต่างก็ไม่แยแสเขาแล้วตอนนี้ ส่วนผู้หญิงธรรมดาๆ เขาเองก็ไม่แย่แสพวกเธอเหมือนกัน
คนประเภทนี้มีมาตรฐานสูงแต่ความสามารถต่ำ มาตรฐานมักจะสูงกว่าชาวบ้าน แต่ไม่มีคุณสมบัตินั้น ไม่แน่ว่าท้ายที่สุดแล้วอาจจะขึ้นคานตลอดชีวิตก็ได
ฉินจุนยิ้มอย่างช่วยไม่ได้
“เอ่ออันนี้ไม่รบกวนคุณดีกว่านะ”
ถ้าให้เถียนลู่รู้ว่าแฟนที่มีข่าวลือของซูเหวินฉีคือฉินจุนละก็ เธอจะต้องแปลกใจมากแน่ๆ
เถียนลู่ยิ้มเยาะ “อย่ามาตรฐานสูงไปหน่อยเลย ตอนนี้ผู้หญิงพวกนั้นรู้ความจริงหมดแล้ว คุณไม่ได้เป็นเหมือนที่เคยเป็นแล้ว คุณคิดว่าผู้หญิงอย่างฉันจะยังมองคุณได้อีกอย่างนั้นเหรอ?”
หลังจากพูดจบ เถียนลู่ก็ชี้ไปที่ไวน์นำเข้าจากต่างประเทศบนโต๊ะ
“เอาง่ายๆแค่พูดถึงไวน์นำเข้าต่างประเทศพวกนี้ วันนี้มีเรื่องน่าอายแบบนี้ ยวี่เฉียงก็หนีไปแล้ว คุณดูพวกผู้หญิงที่อยุ่ที่นี่สิ มีใครสามารถจ่ายมันได้บ้าง”
“มีคนบอกว่าเราเป็นผู้หญิงคือวัตถุ ดูสังคมตอนนี้สิ พวกเราไม่ใช่วัตถุโอเค๊?”
“ถ้ามีแฟนเป็นเหมือนคุณนะ โทรหาคุณเพื่อขอความช่วยเหลือ คุณก็คงทำได้แค่ รูดบัตรเครดิต ใช้สินเชื่อ และคุณอาจจะได้วงเงินไม่เกิน 100,000 หยวน คุณคิดว่าสาว ๆพวกนี้จะมองเห็นความเป็นจริงนี้ไหม?”
“เป็นไงบ้าง ความรู้สึกของคุณถูกฉันพูดออกมาหมดแล้วใช่หรือเปล่า?”
“ผู้ชายน่ะ เพียงแค่มีเงิน มีฐานะทางสังคม หรือความกล้าหาญ ต้องทำให้ผู้หญิงรู้สึกปลอดภัยได้ แต่ฉันคิดว่าคุณไม่มีสิ่งเหล่านี้”
หลังจากที่เถียนลู่พูดจบ ห้องส่วนตัวทั้งหมดก็เงียบลงทันที
อย่างที่พูดไปก่อนหน้านี้ ความขัดแย้งระหว่างเถียนลู่และฉินจุนจะแตกออกในไม่ช้าก็เร็ว
เถียนลู่คงยังครุ่นคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นอยู่ แต่คิดไม่ถึงว่าเธอไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ แต่พอพูดออกมามันช่างรุ่นแรงเหลือเกิน!
ฉินจุนขมวดคิ้ว เดิมทีเขาไม่ได้ต้องการคุยกับเถียนลู่และเรื่องในอดีตฉินจุนเองก็ไม่ได้สนใจอะไร
มีผู้หญิงหลายคนที่เขาปฎิเสธไป และไม่ได้รู้สึกผิดอะไร ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ ดีกว่าทิ้งคุณเมื่อเบื่อแล้วซะอีก?
แต่คิดไม่ถึงว่าเถียนลู่จะไม่ยอมและเป็นฝ่ายหาเรื่องก่อน?
ฉินจุนยิ้มเย้ย “เถียนลู่ คุณจะมั่นใจในตัวเองไปแล้วรึเปล่า”
เถียนลู่ถอนหายใจอย่างเย็นชา “ฉันมันใจเกินไปงั้นเหรอ? คุณคิดว่าคุณเป็นใคร!”
เถียนลู่ลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นตระหนก จริงๆแล้วเธอโกรธตั้งแต่เกิดเรื่องข้างนอกแล้ว พอกลับจึงอยากหาเรื่องทะเละกับฉินจุนเพื่อระบายความโกรธ
ถ้าฉินจุนฟังเธอด่าทออยู่เฉยๆนั่นก็คงดี แต่สุดท้ายผู้ชายคนนี้จะกล้าที่จะพูดตอบกลับ?
เถียนลู่เพิ่งยืนขึ้น ตาของเธอก็เบิกกว้างพร้อมกับอ้าปากกำลังจะสาปแช่งเขา แต่ทันใดนั้นประตูห้องส่วนตัวก็ถูกเปิดออก
ชายร่างใหญ่บางคนที่มีแขนใหญ่และเอวกลมเดินเข้ามา
คนที่อยู่ข้างหน้าคือพี่เป้า ที่เพิ่งจะถูกเถียนลู่เตะเมื่อครู่นี้
“พี่เป้า! ผู้หญิงคนไหนที่บังอาจมาเตะพี่?”
พี่เป้ากำลังจับขาของเขา เพราะยังคงเจ็บปวดอยู่เล็กน้อย ดวงตาของเขากวาดออกไป และเขาก็บังเอิญเห็นเถียนลู่พอดี เขาจึงกัดฟันาและพูดว่า
“ผู้หญิงคนนั้น!”
พี่เป้าจ้องเขม็ง มีคนหลายคนรุมล้อมเขาทันที
“สาวน้อย คิดว่าตัวเองเป็นคนที่แตะต้องไม่ได้ใช่มั้ย พี่เป้าแค่ขอให้คุณไปดื่มไวน์ด้วยกันสักแก้วเพื่อสรรญเสริญคุณ แต่คุณกล้าทำอย่างนี้กับพี่เป้าได้ยังไงกัน?”
สีหน้าของเถียนลู่เปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอไม่คิดว่าคนกลุ่มนี้จะมาที่นี่ และพี่เป้าคนนี้ก็ดูเหมือนจะไม่ธรรมดาเลย!
สีหน้าของเถียนลู่ดูจะกังวลเล็กน้อย เธอเตรียมควักโทรศัพท์ออกมาเตรียมที่จะแจ้งตำรวจ
แต่ทันทีที่เธอเอาโทรศัพท์ออกมา อันธพาลตัวเล็ก ๆคนหนึ่งก็เตะมันออกจากมือของเถียนลู่ทันที
“อ๊ะ!”
เถียนลู่รู้สึกเจ็บปวด และโทรศัพท์ก็บินออกไปและตกลงกับพื้น
เพื่อนร่วมชั้นชายสองสามคนทนมองต่อไปไม่ได้ “พวกแกทำอะไร! พวกแกจะเอาอะไร!”
“แม่ง ซัดเลย!”
พี่เป้าออกคำสั่ง คนเหล่านี้รีบวิ่งเข้าไปต่อยและเตะเพื่อนร่วมชั้นชายสองสามคนนั้น ทำให้พวกเขาล้มลงไปกองกับพื้น
เดิมทีคนเหล่านี้เป็นพวกอันธพาลและแน่นอนว่าพวกเขาสามารถต่อสู้ได้ดีกว่าคนธรรมดา ๆ เหล่านี้ เมื่อรวมกับข้อได้เปรียบทางกายภาพของพี่เป้า และคนอื่น ๆ พวกเขาทั้งหมดดูเหมือนหมีและพวกเขาทั้งหมดถูกซัดโดยไม่ยากเย็นอะไร
สาวๆตื่นตระหนกและรีบถอยออกไปทันที
สีหน้าของเถียนลู่เปลี่ยนไปอย่างมาก เมื่อมองดูฉินจุนและเหรินลู่ยังคงนั่งอยู่ที่นั่น เธอกัดฟันด้วยความโกรธ
“ฉินจุน! คุณยังเป็นผู้ชายอยู่รึเปล่า!?”
เด็กหญิงเหล่านั้นไม่ได้พูดอะไรเลย ในสถานการณ์ตอนนี้ แม้ว่าฉินจุนและเหรินลู่จะช่วยกัน พวกเขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฝ่ายตรงข้ามอย่างแน่นอน อีกฝ่ายแข็งแกร่งเกินไปจริงๆ
ฉินจุนยิ้มเยาะ “คุณทำมันคุณก็ต้องรับมันสิ”
ผู้หญิงประเภทนี้พอดังหน่อย พอได้เจอคนรวยๆ ก็ผยอง รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนสำคัญแล้ว ผู้หญิงแบบนี้ควรได้รับบทเรียนซะบ้าง
พี่เป้ายิ้มเยาะ ผู้หญิงที่เหลือ ก็ดูดีอยู่ไม่น้อยนะ พวกเธอล้วนแต่เป็นสาวงามในเมืองที่แต่งตัวดูดีทุกคนเลย
พี่เป้ายิ้มและพูดว่า “เถียนลู่เป็นของฉัน คนที่เหลือพวกแกเลือกเองแล้วกัน!”
“โอเคครับ พี่เป้า!”
พวกอันธพาลหลายคนก็เบื่อกับพวกแฟน ๆ ที่เป็นผู้หญิงไร้วัฒนธรรมใน KTV และเมื่อเห็นความงามของสาวชาวเมืองที่แปลกใหม่และอ่อนโยนเหล่านี้ ทุกคนต่างก็เกิดความกระหายขึ้นมาทันที
เมื่อพี่เป้าพูดคำพูดเหล่านี้ออกมา พวกเขาก็แสดงกิริยาที่ไม่ให้เกียรติออกมา
ฉินจุนขมวดคิ้ว ลุกขึ้นยืนทันที และหยุดอยู่ตรงหน้าคนสองสามคนตรงนั้น
“ใครทำผิดกับคุณ คุณก็ไปเคลียร์กับเขาเองสิ คนอื่น อย่ายุ่งกับพวกเขา”