ผู้รักษาสุดแกร่ง - บทที่ 371 เถียนลู่โดนแบน
เถียนลู่ก็แค่นักร้องโนเนมตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง ไม่ได้มีแฟนคลับอะไรมากมาย แต่ว่าการโพสต์เปิดตัวแฟนอย่างเป็นทางการในWeiboแบบนี้กลับได้รับความสนใจจากคนจำนวนมาก มีคนมาคอนเมนต์ที่ด้านล่างโพสต์จำนวนไม่น้อย
“อมก นางฟ้าเถียนมีเจ้าของแล้ว!”
“ผู้ชายก็หล่อส่วนผู้หญิงก็ส๊วยสวย เหมาะสมกันมาก ยินดีด้วยจ้าา”
“ไม่นะ นางฟ้าของผม ทำไมถึงมีแฟนแล้วล่ะ……แต่ว่าก็ยินดีด้วยนะครับ”
“……”
ทันใดนั้นก็มีคนรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้หน้าคุ้น ๆ จึงแท็กซูเหวินฉี
“พวกเธอดูนี่สิ เหมือนปรมาจารย์ฉินไหม?”
เวลาที่ฉินจุนออกรายการจะสวมหน้ากาก แล้วก็สวมเสื้อกาวน์สีขาวตัวใหญ่ ๆ เพราะฉะนั้นจึงมองรูปลักษณ์ที่ชัดเจนไม่ออก แต่ว่าก่อนหน้านี้ตอนที่ซูเหวินฉีเป็นข่าว ก็มีภาพเบลอ ๆ หลุดออกมาหลายรูป
เสื้อผ้าที่สวมใส่ในรูปเหล่านั้น ค่อนข้างคล้ายกับเสื้อผ้าของฉินจุน เพราะฉะนั้นพอดู ๆ แล้วก็เหมือนกันเป็นคนคนเดียวกันเลย
ซูเหวินฉีเพิ่งจะอัดรายการเสร็จ เธอดูโทรศัพท์ก็พบว่ามีคนแท็กเธอในคอมเมนต์และก็มีส่งข้อความมาหาส่วนตัวด้วย
พอเห็นรูปภาพเหล่านั้นของเถียนลู่ ซูเหวินฉีก็ขมวดคิ้ว
นี่มันอะไรกัน?
พี่เถียนผู้จัดการส่วนตัวเองก็ชะงัก “เหวินฉี นี่มันอะไรกัน นี่แฟนไม่ใช่เธอเหรอ?เป็นอะไรกับเถียนลู่?”
ซูเหวินฉีขมวดคิ้วเข้าหากัน สีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ “สืบดูหน่อย”
ไม่นานก็เจอข้อมูล
“เถียนลู่คนนี้เหมือนจะเป็นเพื่อนเพื่อนสมัยม.ต้นของฉินจุน วันนี้พวกเขามีงานเลี้ยงรุ่นกันน่ะ”
ซูเหวินฉีส่งเสียงไม่พอใจในลำคอ ดูเหมือนยัยเถียนลู่คนนี้จะจงใจสร้างข่าว
ต่อให้ฉินจุนจะหาแฟน ก็คงไม่เอาคนอย่างเถียนลู่เป็นแฟนหรอกมั้ง?
แม้ว่าภาพลักษณ์ภายนอกของเถียนลู่จะดูไร้เดียงสาไม่มีพิษไม่มีภัย แต่ความเป็นจริงแล้วในวงการชื่อเสียงของเธอค่อนข้างแย่ เธอเป็นพวกชอบหาเสี่ยกระเป๋าหนักแต่ว่าหาไม่ได้ เพราะฉะนั้นจึงเป็นพวกที่ไม่ดังสักที
ถ้าเป็นเวลาปกติซูเหวินฉีก็จะไม่สนใจคนแบบนี้ แต่ว่าเรื่องนี้มันดันเกี่ยวข้องกับฉินจุน ซูเหวินฉีจึงอดไม่ได้
“แบนเธอซะ”
พี่เถียนพยักหน้า “ได้ เดี๋ยวพี่ไปจัดการ”
ซูเหวินฉีเองก็เป็นศิลปิน เธอไม่ได้เก่งกาจถึงขนาดที่จะอยากบล็อกใครก็บล็อกได้เลย
แต่ว่าซูเหวินฉีนั้นโด่งดังมีหน้ามีตาใคร ๆ ก็ต้องไว้หน้า ส่วนเถียนลู่ก็เป็นแค่ศิลปินต๊อกต๋อย ไม่มีใครเห็นในสายตาอยู่แล้ว เถียนลู่นั้นแม้ได้สังกัดยังไม่มีเลย เพราะฉะนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ไม่มีใครมาช่วยประชาสัมพันธ์แทนเธอ
หลังจากซูเหวินฉีโทรศัพท์ไปไม่กี่สาย ทางด้านของเถียนลู่ก็ระเบิดลงทันที
“แย่แล้ว ทำไมอยู่ ๆ Weiboของฉันโดยบล็อกล่ะเนี่ย?”
บัญชีWeiboของเธอถูกระงับ ทำเอาเถียนลู่กังวลมาก ๆ เธอรีบหยิบโทรศัพท์เพื่อติดต่อผู้จัดการส่วนตัว แต่พอจะส่งข้อความกลับพบว่าเธอถูกบล็อกแล้ว!
เถียนลู่งงไปหมด ผู้จัดการส่วนตัวบล็อกเธออย่างนั้นเหรอ?
เถียนลู่เป็นศิลปินประเภท ‘นักแสดงอิสระ’ มีเพียงผู้จัดการ แต่ไม่มีสังกัดค่าย งานแสดงต่าง ๆ ที่เธอทุกวันนี้มาจากการที่ผู้จัดการจัดหางาน ตอนนี้ผู้จัดการมาบล็อกเธอแบบนี้ ก็ทำเอาเถียนลู่งงตาแตกไปเลย
เธอรีบโทรศัพท์หาคนอื่น ๆ เธอโทรหาเพื่อน ๆ ในวงการ แต่ปรากฏว่า ถ้าไม่โดนบล็อก ก็ไม่รับสาย หรือไม่บางคนก็ปิดเครื่องหนีไปเลย
มีที่ยิ่งกว่านั้นอีก พวกเขาไม่ได้เมมเบอร์เถียนลู่เอาไว้ แต่พอฟังเสียงว่าเป็นเถียนลู่ ก็ตัดสายทันที
เถียนลู่ตะลึงตาค้าง นี่มันอะไรกัน?เกิดเรื่องอะไรขึ้น?
มีใครอธิบายให้เธอได้บ้างไหม?
เถียนลู่ลองเสิร์ชในเน็ต แม้แต่ชื่อของเธอเองก็เสิร์ชหาไม่เจอ
ในที่สุดหลังจากผ่านมาระยะเวลานาน ก็มีเพื่อนสนิทส่งข้อความมาหาเธอในวีแชท
“เถียนลู่เอ๊ย แกไปทำให้คนอื่นไม่พอใจเข้าแล้วล่ะ แกโดนแบนแล้ว เห้อ อย่าบอกใครนะว่าฉันบอกแก ฉันเองก็ต้องบล็อกแกแล้วล่ะ”
เถียนลู่งงไปหมด พอจะส่งข้อความกลับไปอีก ก็พบว่าโดนบล็อกไปแล้ว
แถมโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับรูปพวกนั้นบนWeiboทั้งหมดก็โดนบล็อก แม้กระทั่งที่แฟนกลับแชร์ต่อก็โดนลบ
การเล่นงานของWeiboครั้งนี้ค่อนข้างแรง ภายในพริบตาเดียวรูปภาพพวกนั้นก็หายไปจากกระแสในอินเทอร์เน็ตทันที ใครก็หาไม่เจอ
แม้ว่าในโทรศัพท์ของเถียนลู่ยังมีภาพอยู่ แต่เธอไม่กล้าโพสต์มั่วๆแล้ว ครั้งนี้เธอทำให้คนอื่นไม่พอใจจริง ๆ แต่ว่าทำให้ใครไม่พอใจกัน?
ฉินจุน?
ฉินจุนก็ยอมตกลงถ่ายรูปคู่ด้วย ตามหลักเหตุผลแล้วก็ไม่น่าจะคิดเล็กคิดน้อยขนาดนี้นะ?
อีกอย่างตอนนี้ฉินจุนก็ควรจะอยู่ระหว่างทาง และเขาก็ไม่ใช่คนในวงการ จะไปมีอำนาจที่จะแบนเธอได้ในระยะเวลาสั้น ๆ ขนาดนี้ได้ยังไง?
ลองคิดย้อนกลับมา ต่อให้เป็นฉินจุนจริง ถ้าเขาไม่พอใจ ก็เดินมาตบหน้าเถียนลู่ได้เลยนี่ ไม่เห็นจำเป็นต้องทำแบบนี้เลยถูกไหม?
เถียนลู่ลองถามทุกทาง เธอไม่กล้าบอกว่าตัวเองเป็นคนถาม เธอเสียเงินกว่าห้าหมื่นเพื่อจ้างให้คนอื่นไปสืบตามช่องทางมีเดียต่าง ๆ
ในที่สุดก็สอบถามมาได้ว่า เป็นซูเหวินฉีที่เป็นคนแบนเถียนลู่
พอเถียนลู่ได้ยินข่าวคราวนี้เธอก็งงมาก
รุ่นพี่ซูจะแบนเธองั้นเหรอ?
พวกเธอสองคนไม่ใช่ระดับเดียวกันเลยด้วยซ้ำ ซูเหวินฉีเป็นถึงราชินีแห่งวงการ เถียนลู่เป็นแค่ดาราโนเนม
แม้ว่าจะเป็นนักร้องทั้งคู่ แต่ว่าทั้งสองคนก็ไม่ได้โด่งดังอยู่ระดับเดียวกัน
เถียนลู่ไม่แม้แต่จะคู่ควรพอที่จะเป็นลูกศิษย์ของซูเหวินฉีเลย ซูเหวินฉีไม่ควรจะเคยได้ยินชื่อของเธอเลยด้วยซ้ำ ทั้งสองคนไม่ได้รู้จักกันอยู่แล้ว
ทำไมจู่ๆรุ่นพี่ซูก็แบนเธออย่างงง ๆ แบบนี้?
หรือว่าเป็นเพราะฉินจุน?
พอคิดมาถึงตรงนี้ หนังศีรษะของเถียนลู่ก็ชาวาบ ความรู้สึกช็อกก็โผล่เข้ามาในหัว เธอรีบเข้าไปหาข่าวซุบซิบของซูเหวินฉีในWeiboทันที
ตอนแรกที่ไม่ได้ดูก็ยังดี ๆ หรอก แต่พอเห็นข่าวปุ๊ปเธอก็ตกใจทันที!
นี่มันฉินจุนไม่ใช่เหรอ!
ก่อนหน้านี้เธอก็เคยเห็นข่าวนี้ แต่เป็นเพราะว่าเป็นคนในวงการบันเทิงกันทั้งนั้น เธอจึงคิดว่าอาจจะแค่ปล่อยข่าว บางทีอาจจะเป็นพนักงานหรือแค่บอดี้การ์ดที่อยู่กับซูเหวินฉี
แต่พอตอนนี้มาดูรูป ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่ด้านหลัง แต่ก็สามารถดูออกได้ว่า คนที่ไปตลาดนัดกลางคืนกับซูเหวินฉีคือฉินจุน!
เถียนลู่รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาทันที
แฟนของฉินจุน……ที่แท้ก็คือซูเหวินฉี!
เอ้ะ แบบนี้มันไม่ถูกต้องสิ?
ทันใดนั้นเถียนลู่ก็นึกเรื่องอะไรบางอย่างออก ก่อนหน้านี้มีข่าวคราวเรื่องความรักของซูเหวินฉีที่โด่งดังมาก ๆ นี่ แฟนของซูเหวินฉีไม่ใช่แพทย์แผนจีนอะไรนั่นเหรอ?
เถียนลู่รีบเสิร์ชหาอีกครั้ง
แฟนหนุ่มของซูเหวินฉี วิทยากรหลักการประชุมใหญ่การแพทย์แผนจีน ปรมาจารย์ฉิน!
ฉินจุนก็คือปรมาจารย์ฉิน!
ต่อให้เถียนลู่โง่กว่านี้ก็สามารถทายออกว่า ฉินจุนก็คือปรมาจารย์แพทย์แผนจีนที่โด่งดังคนนั้น !
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมตอนนี้เขาถึงได้เก่งกาจขนาดนี้ ได้ออกรายการช่องCCTV กลายเป็นบุคคลที่สุดยอดที่สุดในสายอาชีพ มีใครจะเก่งกว่านี้อีกเหรอ!
เถียนลู่รู้สึกผิดขึ้นมาทันที รู้งี้เธอไม่ถ้าพูดกับฉินจุนไปแบบนั้นเลย ตอนนี้จบกัน นอกจากจะทำให้ฉินจุนไม่พอใจแล้ว ซูเหวินฉีเองก็ไม่พอใจเหมือนกัน
เธอเสียงาน ต่อไปก็คงอยู่ในวงการไม่ได้แล้ว
……
หลังเกิดเรื่องซูเหวินฉีก็ส่งรูปภาพพวกนั้นไปให้ฉินจุนดู แล้วก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ
“ท่านปรมาจารย์ฉินโรแมนติกจังเลยอ่าาา ?”
ฉินจุนพูดไม่ออก “เธอมีรูปภาพพวกนี้ได้ยังไง?”
พอเห็นรูปภาพพวกนี้ ฉินจุนก็ค่อนข้างหงุดหงิด ยัยเถียนลู่นี่น่ารำคาญจริง ๆ ถ่ายรูปก็ถ่านไป ทำไมต้องเอาไปโพสต์มั่ว ๆ ไปทั่ว ?
ซูเหวินฉีจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฉินจุนฟัง พอฉินจุนฟังจบก็หัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้
“สมน้ำหน้า ทำอะไรไว้ก็รับผลที่ทำซะ”