ผู้รักษาสุดแกร่ง - บทที่ 383 ฉันทนกับเธอมานานแล้ว
สีหน้าของเจียงนานาเปลี่ยนไปทันที เธอรีบเข้าไปพยุงหยวนเซี่ยวเฉียงขึ้นมา
“ประธานหยวน คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
“ไสหัวไป!”
หยวนเซี่ยวเฉียงผลักเจียงนานาออกมาอย่างรุนแรงทำให้เจียงนานาล้มลงไปกับพื้น
เจียงนานาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แต่เธอก็ลุกขึ้นมายืน เธอเดินไปหาหยวนเซี่ยวเฉียงอย่างประจบสอพลอและตรวจสอบอาการบาดเจ็บของเขา
หลังจากนั้นเจียงนานาก็เดินมาหยุดตรงหน้าของฉินจุนและชี้หน้าด่าออกมาว่า
“บ้าไปแล้วหรือไง! นายกล้าลงมือกับประธานหยวน ถ้านายไม่ได้บ้าก็แปลว่าคงไม่มีใครสั่งสอนมา…..”
พูดจบเจียงนานาก็ตบไปที่หน้าของฉินจุน
แต่ในตอนที่เจียงนานายกมือขึ้นมา ฉินจุนก็ยกมือและตบไปที่หน้าของเจียงนานา
ปัง!
เสียงดังชัดเจน จากนั้นก็มีเลือดไหลออกมาเล็กน้อยตรงมุมปากของเธอ
“ฉันอดทนกับเธอมานานแล้ว”
ด้วยการตบในครั้งนี้ของฉินจุนเกือบจะทำให้เจียงนานาเป็นลม
หยวนเซี่ยวเฉียงรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรไปเรียกลูกน้อง
“ฮัลโหล! ฉันคือหยวนเซี่ยวเฉียง ตอนนี้ฉันอยู่ที่ร้านคาราโอเกะตี้หาว พาคนมาที่นี่ที!”
ฉินจุนไม่ได้ขัดขวางเขา คนประเภทนี้มักจะคิดว่าตัวเองแน่ สามารถจัดการกับปัญหาทุกอย่างได้ เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาขึ้นอีกในอนาคต ฉินจุนจึงไม่ได้ห้ามเขา
เจียงนานานั่งลงกับพื้น ไม่กล้าตะโกนออกมาเสียงดัง ฝ่ามือของฉินจุนทำให้เธอได้รับบาดเจ็บ ถ้าหากเขาออกแรงมากกว่านี้อีกหน่อย รับรองว่าเธอจะต้องเสียโฉมแน่
แต่ว่าเจียงนานาก็ส่งเสียงออกมา “ประธานหยวนเป็นคนที่มีอิทธิพลในเมืองหลวง นายกล้าทำร้ายประธานหยวน ไม่เพียงแต่จะทำให้ตัวเองเดือดร้อนเท่านั้น แต่นายยังทำให้หลินหลินต้องเดือดร้อนด้วย!”
จู้หลินหลินขมวดคิ้ว เธอเองก็คิดว่าเรื่องนี้มันคงไม่จบง่ายๆแน่ แต่ว่าเธอก็ยังคงยืนอยู่ข้างฉินจุนไม่เปลี่ยนแปลง
“มันก็คงไม่มากไปกว่าการชดใช้เงิน”
ที่ฉินจุนลงมือก็เป็นเพราะเธอ จู้หลินหลินเองก็รู้เรื่องนี้ดี
เจียงนานาหัวเราะออกมาอย่างเยือกเย็น “ชดใช้? เธอคิดว่าคนอย่างประธานหยวนต้องการเงิน? หลินหลิน เธออย่าโง่ไปหน่อยเลย เธอรีบตอบตกลงนอนกับประธานหยวนไปสักสองสามคืน ไม่แน่ว่าเขาอาจจะให้อภัยเธอก็ได้ ถ้าหากประธานหยวนเขาสนใจฉันแบบเธอ ป่านนี้ฉันยอมเขาไปตั้งนานแล้ว….”
จู้หลินหลินหมดคำจะพูด “เธอหุบปากไป! จู้หลินหลิน ต่อจากนี้ไปฉันไม่มีเพื่อนอย่างเธอ!”
เจียงนานาตกใจ เธอโกรธจนพูดอะไรแทบไม่ออก
“ได้! จู้หลินหลิน ในเมื่อฉันหวังดีกับเธอแล้วเธอไม่เห็นคุณค่า! ดี งั้นฉันจะรอดูว่ามันจะจบลงอย่างไง!”
ครั้งนี้เจียงนานาเดินเข้าไปยืนอยู่ทางด้านของหยวนเซี่ยวเฉียง พยุงหยวนเซี่ยวเฉียงขึ้นมา ทั้งสองคนนั่งอยู่บนโซฟาและรอให้คนมาหา
แต่คนของหยวนเซี่ยวเฉียงยังไม่ทันมาถึง จู่ๆประตูของห้องก็ถูกเปิดออก
ชายวัยกลางคนสวมแว่นสีดำเดินเข้ามา ขมวดคิ้วและถามว่า
“เกิดอะไรขึ้น?”
น้ำเสียงของชายคนนี้ไม่ได้ดูจะตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น มองดูก็รู้ว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา
เมื่อเห็นหน้าของชายคนนี้ สีหน้าของเจียงนานาก็ตกใจขึ้นมาทันที
“เฉินตี้หาว! ประธานเฉิน!”
คนคนนี้คือประธานเฉิน เป็นเจ้าของร้านคาราโอเกะตี้หาว
ร้านคาราโอเกะตี้หาวมีสาขามากมายไปทั่ว และนี่ก็เป็นสาขาที่ตั้งอยู่ที่ตงไห่ และก็เป็นที่ที่ใหญ่ที่สุดในทั้งหมด
การที่เขาจะเปิดร้านคาราโอเกะได้มากมายขนาดนี้เขาจะต้องมีคนหนุนหลังอย่างแน่นอน
เฉินตี้หาวคนนี้เป็นผู้มีอิทธิพลอันดับต้นๆของเมืองหลวง แค่เขาพูดออกมาไม่กี่คำก็สามารถทำให้เมืองหลวงสั่นสะเทือนได้
เจียงนานายืนอย่างตื่นตระหนก ชี้ไปที่ฉินจุนและพูดว่า
“ประธานเฉิน เขส เขาเป็นคนทำ เขาทำร้ายประธานหยวน!”
เฉินตี้หาวขมวดคิ้ว มองไปที่ฉินจุนอย่างเยือกเย็น “กลางมาก่อนเรื่องที่ร้านคาราโอเกะตี้หาวของฉัน นายไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วเหรอ?”
โดยปกติแล้วเฉินตี้หาวจะไม่ได้อยู่ที่ร้านคาราโอเกะ ปกติเขาจะอยู่ที่เมืองหลวง
ต่อให้เป็นพนักงานที่เก่าแก่หรือสถานะสูงแค่ไหนก็ไม่ได้เห็นหน้าเขาบ่อยๆ
คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้จะได้เจอกับเฉินตี้หาว แถมยังมาเจอที่ร้านของเขา โชคดีจริงๆ
กล้ามาก่อเรื่องที่ร้านของเฉินตี้หาว จบแล้วฉินจุน ไม่ต้องให้หยวนเซี่ยวเฉียงลงมือ ตอนนี้เขาก็ตายแล้ว!
ฉินจุนเหลือบมองเฉินตี้หาวอย่างเย็นชาโดยไม่พูดอะไรด้วยสายตาที่ดูถูกเหยียดหยาม
สีหน้าของเฉินตี้หาวเคร่งขรึมขึ้นมาทันที พูดออกมาอย่างเยือกเย็นว่า
“ฉันพูดกับนาย นายไม่ได้ยินหรือไง! กล้ามาก่อเรื่องวุ่นวายที่ร้านของฉันอย่างนั้นหรอ? ตัดแขนข้างหนึ่งของตัวเองซะ แล้วฉันจะไว้ชีวิตนาย!”
ถึงแม้ว่าเฉินตี้หาวจะเป็นนักธุรกิจ แต่เขาก็เกิดมาจากที่ที่ไม่ได้สวยหรู ดังนั้นเขาเองก็ไม่ค่อยเครงใจใครเหมือนกัน
เมื่อเฉินตี้หาวพูดจบ ฉินจุนก็ยิ้มออกมาและพูดว่า
“ตัดแขนข้างหนึ่ง? นายมีความสามารถอย่างนั้นเหรอ?”
เฉินตี้หาวหรี่ตาลง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม “เจ้าหนุ่มเอ้ย ไม่รู้จักดูบ้างเลยว่านี่มันถิ่นของใคร กล้ามาพูดแบบนี้กับคนอย่างฉัน ในตงไห่ก็นายนี่แหละเป็นคนแรก!”
ฉินจุนหัวเราะออกมาอย่างเยือกเย็น “ปากดีไม่เบา ในตงไห่ นายคิดว่านายเป็นใคร?”
คำพูดของฉินจุน ทำให้ทุกคนต่างตื่นตกใจ
เจียงนานาก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที ชี้ไปที่ฉินจุนและพูดออกมาว่า
“นายนี่มันสมควรตายจริงๆ มีเรื่องกับประธานหยวนคนเดียวไม่พอ แต่ยังกล้าไปมีเรื่องกับประธานเฉินอีก! แค่ประธานเฉินเขากระดิกนิ้วก็สามารถฆ่านายได้แล้ว นายคิดว่านายเป็นใคร!”
เฉินตี้หาวหยิบมีดออกมาเล่มหนึ่งจากกระเป๋าของเขา โดยปกติแล้วเฉินตี้หาวไม่ได้พกปืนเนื่องจากมีคนไม่กี่คนที่กล้ามาทำกับเขาแบบนี้
แต่ถึงแม้ว่าเขสจะมีแค่มีด มันก็ไม่มีใครกล้ามาดูถูกเขาอยู่แล้ว
มีดที่อยู่ในมือเขาเล่มนี้มันได้ผ่านอะไรต่อมิอะไรกับเขามาไม่น้อย เนื่องจากกว่าจะมาเป็นเฉินตี้หาวในทุกวันนี้เขาต้องประสบกับอะไรที่ยากลำบากมามากมาย
และเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนที่มีเรื่องด้วย เขาก็ไม่เคยลังเลที่จะลงมือ
เฉินตี้หาวถือมีดพุ่งเข้ามาหาฉินจุนทันที เขาเป็นคนที่มีฝีมือ บุกเข้ามาเพื่อที่จะฆ่าฉินจุน
แต่ในสายตาของฉินจุน ท่าทางของเฉินตี้หาวนั้นมันก็เหมือนกับหมอรักษาเด็ก
การโจมตีของเฉินตี้หาวทำให้ฉินจุนรู้สึกเบื่อเล็กน้อย พูดกันไม่กี่คำก็จะฆ่ากันเสียแล้ว ไม่ถามเหตุผลสักคำ แบบนี้มันไม่เอาแต่ใจไปหน่อยเหรอ
คิดว่าตัวเองเป็นคนใหญ่คนโตแล้วจะทำอะไรก็ได้อย่างนั้นเหรอ?
ในตอนที่มือของเฉินตี้หาวกำลังพุ่งเข้ามา ฉินจุนก็ยื่นมืออกไปจับเอาไว้อย่างรวดเร็ว บิดข้อมือของเฉินตี้หาวและบีบมันอย่างรุนแรง
“อ้า!”
ความเจ็บปวดที่รุนแรงทำให้เฉินตี้หาวปล่อยมีดที่อยู่ในมือออกมา
ฉินจุนก็รับมันเอาไว้ จากนั้นนำแขนของเฉินตี้หาวไปกดไว้กับโต๊ะ จากนั้นก็ใช้มีดนั้นแทงลงไป
“เชือก!”
เฉินตี้หาวร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด มืดนั้นปักไปที่หลังมือของเฉินตี้หาวทะลุไปถึงโต๊ะที่อยู่ด้านล่าง
เนื่องจากความเร็วที่ใช้มันเร็วเกินไปบวกกับความรุนแรงของมัน มีดที่ปักลงไปบนโต๊ะกระจกก็ปักอยู่อย่างนั้น และกระจกก็ไม่มีรอยแตกเลยแม้แต่น้อย
เฉินตี้หาวคุกเข่าลงกับพื้น ใบหน้าซีดขาว ร่างกายสั่นเท่า
กัดฟันพูดอย่างชั่วร้าย
“นายมันรนหาที่ตาย”
เมื่อมองเห็นว่าเฉินตี้หาวกำลังถูกฉินจุนทำร้าย ทุกคนต่างงงวย ดวงตาของจู้หลินหลินเบิกว้างแสดงออกถึงความไม่เชื่อในสิ่งที่กำลังเห็น
“เจ้าคนแซ่ฉิน! แกตายแน่ แกจะต้องตาย!”
หลังจากที่เฉินตี้หาวส่งเสียงออกไป คนด้านนอกก็วิ่งเข้ามาด้านในอีกไม่น้อย
“ประธานเฉิน!”